Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จับมือพีเอ็มไฮเทค รับมอบสัญญางานติดตั้งระบบควบคุมสถานีไฟฟ้าแบบอัตโนมัติรองรับเทคโนโลยี IEC 61850 จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

บริษัท พี.เอ็ม.ไฮเทค จำกัด จับมือชไนเดอร์ อิเล็คทริค ร่วมงานลงนามข้อตกลงกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในโครงการปรับปรุงระบบควบคุมสถานีไฟฟ้าแบบอัตโนมัติเพื่อให้สามารถรองรับเทคโนโลยี IEC 61850 ทั้งหมดจำนวน 2 สัญญา ซึ่งระบบควบคุมสถานีไฟฟ้าแบบอัตโนมัตินี้เป็นมาตรฐานสากลที่ออกแบบมาเพื่อรองรับระบบไฟฟ้าในสถานีไฟฟ้าย่อย เพื่อทำให้การติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้งานกับศูนย์สั่งการ ทำงานแบบมีประสิทธิภาพสูงสุดและป้องกันความผิดพลาดในระบบไฟฟ้าซึ่งเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่อาจทำให้การจ่ายกระแสไฟฟ้าขัดข้องได้ โดยมี นางวัลลภา วัฒนกุญชร กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.เอ็ม. ไฮเทค จำกัด และตัวแทนจากชไนเดอร์ อิเล็คทริค ลงนามข้อตกลงกับนายปราโมทย์ สุดทรัพย์ รองผู้ว่าการปฏิบัติการและบำรุงรักษา การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชันสำหรับบริษัทไฟฟ้า https://www.se.com/th/th/work/solutions/for-business/electric-utilities/


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

เมื่อผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ต้องเผชิญกับความผันผวนรุนแรงในตลาด การเร่งสู่ระบบดิจิทัลเป็นเรื่องจำเป็นยิ่ง

โดย ไมเคิล จามีสัน ประธานฝ่ายอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค ชไนเดอร์ อิเล็คทริค

ความปลอดภัยของผู้คนถือเป็นสิ่งสำคัญสุดสำหรับบริษัทด้านการผลิต การแพร่ระบาดผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านสถานที่ทำงาน เช่น การสร้างระยะห่างทางสังคมในส่วนบรรจุภัณฑ์ และการจำกัดการเข้าถึงเพื่อติดตั้งหรือดำเนินการซ่อมบำรุง คนทำงานลดน้อยลง เนื่องจากกฎระเบียบข้อบังคับในการกักตัว และอีกหลายปัญหาที่ต้องอาศัยการตอบสนองด้วยนวัตกรรมจากผู้มีส่วนร่วมในภาคการผลิต ตัวอย่างเช่น ในเดือนมีนาคม สถาบันด้านการจัดการซัพพลาย หรือ ISM (Institute of Supply Management) รายงานว่าเกือบ 75 เปอร์เซ็นต์ของบริษัทที่เข้ารับการสำรวจได้รายงานถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในซัพพลายเชนเรื่องกำลังการผลิตบางส่วน เนื่องจากข้อจำกัดด้านการขนส่งอันเนื่องมาจากไวรัสโคโรนา

เมื่อองค์ประกอบจากปัจจัยภายนอกร่วมกันบีบบังคับให้อุตสาหกรรมต้องเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงไม่มีเวลา (หรือเงินทุน)มาคาดหวังว่าเงินลงทุนจะช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ ในทางกลับกัน โซลูชันที่ช่วยปรับปรุงเรื่องความยืดหยุ่น ความคล่องตัว และความสามารถในการมองเห็นทั่วซัพพลายเชนการผลิตคือสิ่งจำเป็น ความสามารถในการก้าวข้ามช่วงเวลาที่ยากลำบากเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการดำเนินการได้มากขึ้นด้วยจำนวนคนเท่าที่มีอยู่ โดยใช้อุปกรณ์ต่างๆ ที่มีอยู่แล้ว

แนวทางใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการปรับกระบวนการดำเนินงานสู่ระบบดิจิทัล ช่วยให้พนักงานสามารถเพิ่มทักษะและการฝึกอบรมได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ทำงานได้จากระยะไกล และเพิ่มประสิทธิภาพของสินทรัพย์ที่มีอยู่ในโรงงานผลิต

การปรับกระบวนการสู่ดิจิทัล ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสินทรัพย์ และเพิ่มความยืดหยุ่นได้อย่างไร

หลายองค์กรกำลังตระหนักว่าการปรับกระบวนการดำเนินงานสู่ดิจิทัลสามารถให้วิธีการในการสร้างกระบวนการใหม่ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งช่วยให้กระบวนการเดิมมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ตัวอย่างต่อไปนี้ แสดงให้เห็นว่าบรรดาบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภค อาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงอุตสาหกรรมชีววิทยาศาสตร์ ได้นำโซลูชันดิจิทัลซอฟต์แวร์มาใช้ เพื่อปรับตัวรับมือกับความท้าทายจากการแพร่ระบาดทั่วโลก

  • ติดตั้งระบบซ่อมบำรุงแบบคาดการณ์ล่วงหน้าได้ ในอุตสาหกรรมที่จำเป็นอย่าง อาหารและเครื่องดื่ม ที่มีความต้องการพุ่งสูงทำให้ผู้ผลิตอยู่ในสถานะที่ไม่สามารถปล่อยให้การดำเนินการต้องชะลอตัวหรือหยุดชะงักได้ ตัวอย่างเช่น ในการผลิตผลิตภัณฑ์จำพวกนมวัว ยังคงผลิตนมอยู่อย่างต่อเนื่อง และหากโรงงานโดนบังคับให้ต้องหยุดการดำเนินงาน นมที่ได้ก็จะถูกทิ้ง ส่งผลให้เกิดการสูญเสียสำคัญที่เป็นอาหารเหลือทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย รวมถึงส่งผลกระทบต่อผลกำไร ด้วยเหตุนี้ สินทรัพย์เครื่องจักรจึงถูกเรียกเก็บภาษีเกินขีดจำกัดปกติ และต้องมีการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าเพื่อลดการเกิดดาวน์ไทม์ แม้ว่าอุปกรณ์จะเกิดความเสียหายและล้มเหลวก็ตาม โดยในกรณีดังกล่าว โซลูชันระบบดิจิทัลจะให้ความสามารถในการคาดการณ์การซ่อมบำรุงล่วงหน้า ซึ่งช่วยให้พนักงานที่มีอยู่จำกัดมุ่งเน้นที่สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากที่สุด และสามารถวางแผนการซ่อมได้ ก่อนที่จะทำให้การดำเนินงานต้องหยุดชะงัก  บริษัทต่างๆ สามารถขยายอายุการใช้งานของอุปกรณ์ได้ด้วยการใช้ IIoT เซ็นเซอร์วัดเงื่อนไขการทำงาน หากไม่มีเหตุอันควรให้ต้องซ่อมบำรุง บริษัทก็สามารถเลื่อนการซ่อมบำรุงออกไปได้ไกลกว่าช่วงเวลาปกติที่เป็นมาตรฐาน สอดคล้องตามข้อมูลจาก McKinsey การตรวจสอบเงื่อนไขการซ่อมบำรุงได้ดียิ่งขึ้น โดยปกติแล้วจะช่วยลดค่าใช้จ่ายการซ่อมบำรุงได้ 10-15 เปอร์เซ็นต์
  • การเพิ่มศักยภาพให้กับคนทำงาน บรรดาองค์กรที่เผชิญกับความท้าทายในการที่ต้องลดคนทำงาน ต้องใช้คนทำงานที่เหลืออยู่ในการผลิตได้เต็มประสิทธิภาพ ตัวอย่างหนึ่งที่การปรับกระบวนการสู่ดิจิทัลช่วยได้คือ การมีผู้เชี่ยวชาญจากระยะไกล (เช่นผู้จัดการที่ดูแลพื้นที่ผลิต) ใช้แท็ปเล็ตในการช่วยชี้แนวทางให้กับพนักงานที่มีประสบการณ์น้อยและยังต้องทิ้งระยะห่างทางสังคม โดยอุปกรณ์ดังกล่าวจะใช้แอปพลิเคชัน AR ในการอธิบายกระบวนการในการใช้เครื่องจักรและบริหารจัดการด้านการทำงานให้เห็นเป็นภาพ

ในสถานการณ์ที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และโรงงานส่วนใหญ่ต้องอาศัยการดำเนินการด้วยตัวเอง พนักงานต้องห่างจากเครื่องจักรเพื่อเข้ารับการฝึกอบรมด้านกระบวนการดำเนินงาน เมื่อต้องเผชิญกับปัญหาในพื้นที่การผลิต พนักงานเหล่านี้ต้องดูหน้าจอหลากหลายของเครื่องจักรแต่ละตัว เพื่อประเมินถึงต้นเหตุของปัญหาที่เจอ หากสายการผลิตหยุดทำงาน ก็ต้องโทรเข้าไปที่ฝ่ายสนับสนุนด้านเทคนิค ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ทั้งหมดกินเวลามากและทำให้มีเวลาไม่พอ

ในทางกลับกัน หากผู้ดำเนินงานเข้าถึงเครื่องมือ AR ในระบบดิจิทัลผ่านอุปกรณ์พกพา ตัวอย่างเช่น พนักงานสามารถระบุจากภาพที่เห็นได้อย่างรวดเร็วว่าเกิดปัญหาที่ไหนโดยที่ไม่ต้องทำการฝึกอบรมต่อ อีกทั้งยังได้รับคำแนะนำโดยทันที พร้อมเอกสารที่อัพเดตเกี่ยวกับการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง และเมื่อกระบวนการในระบบดิจิทัลทำให้งานของผู้ดูแลง่ายขึ้น บริษัทก็มีความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ที่ยุ่งยากและผันผวนได้ดียิ่งขึ้น

  • ปรับสู่ระบบอัตโนมัติเพื่อให้สามารถเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ทางเลือกได้รวดเร็ว องค์กรธุรกิจที่ลงทุนในเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว จะไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากวิกฤติปัจจุบัน เนื่องจากความยืดหยุ่นที่เพิ่มเข้ามา ช่วยให้ปรับตัวตามเงื่อนไขตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ ตัวอย่างเช่น ในการดำเนินการด้านการกลั่นและบรรจุขวดที่ออกแบบเพื่อการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากมีระบบออโตเมชั่นที่เหมาะสมอยู่แล้ว ก็จะช่วยให้ปรับเปลี่ยนและออกเป็นสูตรใหม่สำหรับเจลทำความสะอาดมือได้ ซึ่งความคล่องตัวในการตอบสนองอย่างรวดเร็วนั้นช่วยให้บริษัทต่างๆ รองรับความต้องการของตลาดในปัจจุบันได้ โดยใช้สินทรัพย์ขององค์กรได้อย่างเต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และช่วยรักษางานไว้ได้

ประโยชน์ของการปรับกระบวนการสู่ระบบดิจิทัล ที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤติ

ก้าวต่อไปก็คือ หลายองค์กรด้านการผลิตจะนำพาธุรกิจไปในแนวทางใหม่ สำหรับบางรายการจะมุ่งเน้นที่ความพอเพียงในองค์กรมากกว่า แต่สำหรับอีกหลายรายจะเน้นไปที่ช่องทางจัดหาและจัดจำหน่ายเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นกรณีไหนก็ตาม การปรับกระบวนการด้านการทำงานหลักสู่ระบบดิจิทัลและความสามารถในการเข้าถึงสินทรัพย์ต่างๆ ในโรงงานได้จากระยะไกลอย่างปลอดภัย จะกลายเป็นศักยภาพหลักที่จำเป็นต่อการให้บริการในตลาดที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ยิ่งขึ้น


เกี่ยวกับชไนเดอร์ อิเล็คทริค

เป้าหมายของชไนเดอร์ อิเล็คทริค คือการช่วยให้ทุกคนใช้พลังงานและทรัพยากรได้เกิดประโยชน์สูงสุด เชื่อมโยงความก้าวหน้าและความยั่งยืนเพื่อประโยชน์ของทุกคน เราเรียกสิ่งนี้ว่า Life Is On

ภารกิจของเราคือการเป็นพันธมิตรด้านดิจิทัลกับคุณ เพื่อสร้างประสิทธิภาพและความยั่งยืน

เราขับเคลื่อนการปฏิรูปสู่ดิจิทัล ด้วยการผสานรวมเทคโนโลยีชั้นนำของโลกด้านพลังงานและกระบวนการจัดการ เข้ากับผลิตภัณฑ์ตั้งแต่จุดเชื่อมต่อปลายทางไปยังคลาวด์ ระบบควบคุม รวมถึงซอฟต์แวร์และการบริการครอบคลุมตลอดวงจรชีวิตการทำงานทั้งหมด เพื่อสร้างศักยภาพในการบริหารจัดการองค์กรแบบบูรณาการ ทั้งสำหรับบ้าน อาคาร ดาต้าเซ็นเตอร์ ระบบโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรม

เราคือบริษัทระดับโลกที่มีการดำเนินงานในระดับท้องถิ่นมากที่สุด เราสนับสนุนมาตรฐานระบบเปิดและระบบนิเวศของคู่ค้าที่มีความมุ่งมั่นแรงกล้าในการทำตามวัตถุประสงค์อย่างมีเป้าหมายร่วมกัน และคุณค่าในการรวมกันเป็นหนึ่งเดียวพร้อมขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยกัน


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค สร้างประสบการณ์ดิจิทัลเฉพาะบุคคล ให้แก่ลูกค้าและคู่ค้าผ่าน mySchneider Portal

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นด้านการจัดการพลังงานและระบบออโตเมชั่น พร้อมมอบประสบการณ์เฉพาะบุคคลให้กับลูกค้าและคู่ค้าที่ล็อคอินเข้ามาที่ se.com/th  ด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งช่วยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ

การออกแบบพอร์ทัลรูปแบบใหม่นี้ เริ่มขึ้นในปี 2563 พร้อมช่วยสร้างความแตกต่างในตลาดให้กับลูกค้าและคู่ค้าของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค อีกทั้งช่วยให้ดำเนินงานในแต่ละวันได้อย่างง่ายด้วยองค์ประกอบต่อไปนี้

  • เข้าใช้งานด้วย single sign on และสามารถบริหารจัดการข้อมูลทั้งหมดได้
  • เข้าถึงได้ตรงกับบริการทางธุรกิจผ่านพอร์ทัลที่ปรับให้ตรงต่อการใช้งานเฉพาะบุคคล
  • รวบรวมเครื่องมือและบริการทางธุรกิจที่หลากหลายและสามารถเข้าถึงได้จากจุดเดียว
  • จัดระบบใหม่ในส่วนเครื่องมือออนไลน์ของชไนเดอร์ เพื่อลดจำนวนแพลตฟอร์มที่ลูกค้าต้องเข้าไปดู

“เราให้ความสำคัญอันดับแรกกับการมอบประสบการณ์ออนไลน์ที่ให้ประสิทธิภาพในแบบ 24×7 เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าเรา” ปีเตอร์ เว็กเคสเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายดิจิทัล ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าว “ประสบการณ์ที่ได้จากพอร์ทัล mySchneider คือกลยุทธ์ในการปฏิรูปสู่ดิจิทัลที่มุ่งเน้นความสำคัญไปยังความต้องการของลูกค้าเป็นอันดับแรก และช่วยให้เรามอบศักยภาพและเครื่องมือในระบบดิจิทัลที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าของเรา”

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค พร้อมช่วยให้ลูกค้าประหยัดเวลาในการเข้าถึงข้อมูล และช่วยให้ทำงานร่วมกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อีกทั้งติดตามข้อมูลสำคัญได้จากจุดเดียว  ทำให้ปัจจุบันลูกค้าของชไนเดอร์สามารถจัดการเนื้อหาที่ชื่นชอบในรูปแบบที่เหมาะกับตัวเองที่สุด รวมถึงความต้องการว่าจะให้แสดงอะไรก่อนหรือหลังตามลำดับ ทั้งนี้ พอร์ทัล mySchneider ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงทรัพยากรทั้งหมดที่จำเป็นต่อการบริหารจัดการธุรกิจได้โดยตรง พร้อมทั้งสามารถติดตามเนื้อหาได้ตามความชื่นชอบเฉพาะบุคคลเพื่อให้ตรงต่อความคาดหวังของลูกค้า

นอกจากนี้ พอร์ทัล mySchneider ยังช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงแดชบอร์ดที่ให้มุมมองเฉพาะสำหรับผู้ใช้งาน สามารถกำหนดการแจ้งเตือนเพื่อให้ทราบเมื่อมีผลิตภัณฑ์ออกใหม่ ซอฟต์แวร์ใหม่ รวมถึง กิจกรรมสัมมนาออนไลน์ และเอกสารการวิจัยที่ออกมาใหม่ โดยปัจจุบันทั้งคู่ค้าและตัวแทนจำหน่ายสามารถเข้าถึงข้อมูลได้จากจุดเดียว และสามารถเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดที่เตรียมไว้เฉพาะเพื่อช่วยสนับสนุนการทำธุรกิจ เช่น โอกาสทางธุรกิจ ข้อมูลผลิตภัณฑ์ ใบเสนอราคา การสั่งซื้อ การติดตามการสั่งซื้อ การเงิน การฝึกอบรม และโปรแกรมต่างๆ เช่น หากเป็นผู้จัดการโรงงาน ก็จะเห็นข้อมูลเกี่ยวกับโรงงานได้ในแบบที่ต้องการ ด้วยการมองเห็นภาพเสมือนจริง รวมถึงสัญญา และการบริการต่างๆ ตามที่ได้วางแผนไว้ นอกจากนี้ มีหน้าหลักที่ให้มุมมองเฉพาะสำหรับผู้ใช้ พร้อมไฮไลต์เนื้อหาที่ต้องใช้ในทุกวัน ตั้งแต่เครื่องมือ ทรัพยากรต่างๆ ตลอดจนผลิตภัณฑ์และแอปพลิเคชัน รวมถึงบริการเสริมต่างๆ ตามโปรไฟล์ของผู้ใช้รายนั้นๆ

เกี่ยวกับชไนเดอร์ อิเล็คทริค

เป้าหมายของชไนเดอร์ อิเล็คทริค คือการช่วยให้ทุกคนใช้พลังงานและทรัพยากรได้เกิดประโยชน์สูงสุด เชื่อมโยงความก้าวหน้าและความยั่งยืนเพื่อประโยชน์ของทุกคน เราเรียกสิ่งนี้ว่า Life Is On

ภารกิจของเราคือการเป็นพันธมิตรด้านดิจิทัลกับคุณ เพื่อสร้างประสิทธิภาพและความยั่งยืน

เราขับเคลื่อนการปฏิรูปสู่ดิจิทัล ด้วยการผสานรวมเทคโนโลยีชั้นนำของโลกด้านพลังงานและกระบวนการจัดการ เข้ากับผลิตภัณฑ์ตั้งแต่จุดเชื่อมต่อปลายทางไปยังคลาวด์ ระบบควบคุม รวมถึงซอฟต์แวร์และการบริการครอบคลุมตลอดวงจรชีวิตการทำงานทั้งหมด เพื่อสร้างศักยภาพในการบริหารจัดการองค์กรแบบบูรณาการ ทั้งสำหรับบ้าน อาคาร ดาต้าเซ็นเตอร์ ระบบโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรม

เราคือบริษัทระดับโลกที่มีการดำเนินงานในระดับท้องถิ่นมากที่สุด เราสนับสนุนมาตรฐานระบบเปิดและระบบนิเวศของคู่ค้าที่มีความมุ่งมั่นแรงกล้าในการทำตามวัตถุประสงค์อย่างมีเป้าหมายร่วมกัน และคุณค่าในการรวมกันเป็นหนึ่งเดียวพร้อมขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยกัน


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

การผสานรวมเทคโนโลยีสารสนเทศ เข้ากับเทคโนโลยีเชิงปฏิบัติการ คือโลกใบใหม่ของอุตสาหกรรมดิจิทัล

โดยโซฟี บอร์กเน่ รองประธานอาวุโส ฝ่ายธุรกิจระบบดิจิทัลสำหรับโรงงาน ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric)

ปีที่แล้ว เราพูดถึงการให้ความสำคัญมากขึ้นกับเอดจ์สำหรับอุตสาหกรรม ว่าเป็นปัจจัยเร่งการปรับกระบวนการสู่ดิจิทัลและเป็นสิ่งจำเป็นในการเพิ่มการประมวลผลแบบเรียลไทม์  การผสานรวมของโลกเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) และเทคโนโลยีเชิงปฏิบัติการ (OT) เป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยในเรื่องนี้ และเป็นความท้าทายสำหรับบริษัทด้านอุตสาหกรรมอีกหลายแห่งเช่นกัน

โลกไอทีถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ในขณะที่โลกโอทีถูกขับเคลื่อนด้วยการผลิต ซึ่งเป็นการผลิตต่อหน่วยต่อชั่วโมง ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ความปลอดภัยของบุคลากร ฯลฯ  ในปัจจุบัน ถ้าจะมีการบริหารจัดการการผลิต ก็เพื่อดูแลค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างกำไรเพิ่ม และสร้างความยั่งยืน ฯลฯ ซึ่งก็ต้องอาศัยข้อมูลจากระบบธุรกิจ แล้วบรรดาคนไอทีเหล่านั้นล่ะ?  คนไอทีมักจะรู้แค่เรื่องสองเรื่องเกี่ยวกับประสิทธิภาพของเครือข่าย และการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ ซึ่งเป็นรากฐานที่ช่วยให้ระบบเหล่านี้แข็งแกร่ง ซึ่งจะสำเร็จได้นั้น ก็คือทั้งไอทีและโอทีจำเป็นต้องทำงานร่วมกัน

นั่นคือเหตุผลที่เราได้ทำงานร่วมกับซิสโก้ โดยดึงเอาประสบการณ์ด้านไอที/โอที รวมกันกว่า 85 ปีมาช่วยลูกค้าของเราเชื่อมความแบ่งแยกทางเทคโนโลยีและวัฒนธรรมการทำงานเข้าหากัน  เราได้ทบทวนแนวทางด้านระบบออโตเมชันเพื่อนำประโยชน์ที่ดีที่สุดของไอทีมาใช้ได้ง่ายขึ้นและเร็วขึ้น เพื่อช่วยลูกค้าตอบโจทย์ความต้องการเรื่องความคล่องตัวได้ในศตวรรษที่ 21 และเราก็ได้เห็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจในหลายประการด้วยกัน

การผนึกกำลังระหว่างไอทีและโอที ช่วยแก้ปัญหาความท้าทายของอุตสาหกรรมปัจจุบัน

เมื่อเร็วๆ นี้ ซิสโก้และชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) ได้ช่วยบริษัททำเหมืองแห่งใหญ่ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสามของโลก เปลี่ยนวิสัยทัศน์แห่งอนาคตสู่ความเป็นจริงได้ เพื่อปรับปรุงเรื่องการดำเนินการของเหมืองได้อย่างยั่งยืน พร้อมกับดึงดูดคนทำงานใหม่ๆ บริษัทฯ จึงตัดสินใจเพิ่มระบบออโตเมชั่นด้านการดำเนินงานและเพื่อให้ควบคุมเหมืองต่างๆ ได้จากระยะไกล

การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการภูมิภาคส่วนกลางสำหรับเหมืองแร่เหล็กในประเทศออสเตรเลีย ช่วยให้สามารถดำเนินการในส่วนของเหมืองทั้งหมด รวมถึงระบบรางและท่าเรือได้จากที่เดียว  ระบบออโตเมชันที่มีการเชื่อมโยงกับระบบตั้งตารางเวลา (scheduling systems) ช่วยลดการสูญเสียพลังงานในระหว่างการขนส่ง ในขณะที่ศูนย์ควบคุมจากส่วนกลางซึ่งอยู่ใกล้กับศูนย์กลางประชากรหลักๆ ยังช่วยลดความจำเป็นโดยที่พนักงานไม่ต้องทำงานในสถานที่ห่างไกล

องค์ประกอบหลักบางประการของโครงการ ได้แก่

  1. ระบบรถบรรทุกเหมืองที่ทำงานได้แบบอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้ขนย้ายสิ่งต่างๆ ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มผลิตผล รถบรรทุกต่างๆ ถูกบริหารจัดการด้วยระบบควบคุมดูแลจากส่วนกลาง แทนการใช้คนขับรถแต่ละคนดำเนินการ
  2. ใช้สว่านแบบอัตโนมัติ เพื่อให้ผู้ดำเนินการคนเดียวสามารถดำเนินการหลายแท่นเจาะโดยใช้คอนโซลควบคุมจากระยะไกลได้
  3. ติดตั้งระบบรถไฟพร้อมคนขับที่ทำหน้าที่ควบคุมดูแลเพียงอย่างเดียว โดยช่วยเพิ่มความเร็วทั่วเครือข่ายและลดเวลาโดยเฉลี่ยในแต่ละรอบ

ซิสโก้ และชไนเดอร์ อิเล็คทริค  ได้ประสานความร่วมมือในการจัดหาเครือข่ายและอุปกรณ์ที่เป็นระบบออโตเมชั่นสำหรับระบบไอทีเหมืองและส่วนที่เป็นโอที เพื่อช่วยให้ลูกค้าตระหนักถึงการประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนของทีมงานโอทีในแต่ละปีได้มากถึง 1 ล้านยูโร หรือเกือบ 38 ล้านบาท

ประสานความร่วมมือเพื่อพัฒนาสถาปัตยกรรมระบบงาน IT/OT ในระดับเวิลด์คลาส

ซิสโก้ และชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้ทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาสถาปัตยกรรมอ้างอิงด้านระบบออโตเมชั่น OT/IT สำหรับอุตสาหกรรม (OT/IT Industrial Automation Reference Architecture) ซึ่งให้ศักยภาพเชิงระบบนิเวศด้านการผลิตที่สอดประสานระหว่างไอทีและโอที ให้ความปลอดภัย และช่วยให้ลูกค้าผสานรวมทั้งธุรกิจและข้อมูลจากกระบวนการทำงานได้อย่างปลอดภัย ให้มุมมองเชิงลึก ซึ่งนำไปสู่การยกระดับใหม่ด้านประสิทธิภาพของอุตสาหรรม

สถาปัตยกรรมดังกล่าว เพิ่มศักยภาพให้อุตสาหกรรมในการปฏิรูปสู่ดิจิทัล ด้วยแนวทางที่มุ่งเน้นให้เครือข่ายเป็นศูนย์กลางในการควบรวมการทำงาน รองรับการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมที่จำเป็นต่อการสนับสนุนกระบวนการและเทคโนโลยีใหม่ๆ ประโยชน์ที่ได้รับบางประการได้แก่

  • ช่วยให้ฝ่ายไอทีและโอทีทำงานร่วมกัน เพื่อลดพื้นที่การโจมตีบนไซเบอร์ อีกทั้งตอบสนองต่อภัยคุกคามได้อย่างรวดเร็ว และดำเนินการได้สอดคล้องตามกฏระเบียบข้อบังคับ
  • ช่วยให้มั่นใจเรื่องของการผสานรวมด้านการผลิตเป็นหนึ่งเดียวและให้ความปลอดภัย โดยมีการฝังระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ไว้ในสภาพแวดล้อมด้านโอที
  • ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานให้ดีขึ้น ขยายช่วงเวลาในการผลิตได้สูงสุด และให้ความยั่งยืนด้วยการประยุกต์ใช้ระบบวิเคราะห์ มีการประมวลผลที่แม่นยำ รวมถึงการสนับสนุนการตัดสินใจได้แบบเรียลไทม์

โลกโอทีที่ช่วยผสานการทำงานร่วมกันระหว่าง IT/OT และการปฏิรูปสู่ดิจิทัลมีอะไรใหม่บ้าง?

หลายอย่างเปลี่ยนไปตั้งแต่ที่เราได้คิดค้นระบบควบคุมด้วยการตั้งโปรแกรมทำงานได้เป็นเวลากว่า 50 ปีมาแล้ว การตอบรับอุตสาหกรรม 4.0 ต้องอาศัยข้อมูลที่นำมาใช้งานได้อย่างอิสระและปลอดภัย ทั้งจากผลิตภัณฑ์ประเภทสมาร์ททั้งหลายจนถึงคลาวด์  ความก้าวหน้าของการปฏิรูปอุตสาหกรรมไปเร็วและจะเร็วขึ้นเรื่อยๆ เราต้องมอบระบบออโตเมชั่นที่สามารถรองรับความก้าวหน้าในอัตรารวดเร็วเช่นปัจจุบันได้ อีกทั้งต้องมอบความคล่องตัวซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับอนาคตให้กับลูกค้า โดยในการช่วยให้ลูกค้าอุตสาหกรรมผสานรวม IT/OT เข้าด้วยกัน ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้ทำงานอย่างหนักเพื่อนำความคล่องตัวมาไว้ในระบบออโตเมชั่นของเราเช่น EcoStruxure Automation Expert ได้มากยิ่งขึ้น เป้าหมายก็คือการรวมข้อมูลทางธุรกิจเพื่อการตัดสินใจด้านการดำเนินงาน และข้อมูลส่วนปฏิบัติการเพื่อการตัดสินใจทางธุรกิจ เรื่องนี้ ต้องอาศัยเทคโนโลยี แนวทางปฏิบัติ และทักษะที่ดีที่สุดทั้ง IT และ OT เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการผสานรวม IT/OT จะทำงานได้เป็นอย่างดี

เข้าถึงเทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมในอนาคตเพียงคลิ๊ก https://www.se.com/th/th/work/campaign/industries-of-the-future/


เกี่ยวกับชไนเดอร์ อิเล็คทริค

เป้าหมายของชไนเดอร์ อิเล็คทริค คือการช่วยให้ทุกคนใช้พลังงานและทรัพยากรได้เกิดประโยชน์สูงสุด เชื่อมโยงความก้าวหน้าและความยั่งยืนเพื่อประโยชน์ของทุกคน เราเรียกสิ่งนี้ว่า Life Is On

ภารกิจของเราคือการเป็นพันธมิตรด้านดิจิทัลกับคุณ เพื่อสร้างประสิทธิภาพและความยั่งยืน

เราขับเคลื่อนการปฏิรูปสู่ดิจิทัล ด้วยการผสานรวมเทคโนโลยีชั้นนำของโลกด้านพลังงานและกระบวนการจัดการ เข้ากับผลิตภัณฑ์ตั้งแต่จุดเชื่อมต่อปลายทางไปยังคลาวด์ ระบบควบคุม รวมถึงซอฟต์แวร์และการบริการครอบคลุมตลอดวงจรชีวิตการทำงานทั้งหมด เพื่อสร้างศักยภาพในการบริหารจัดการองค์กรแบบบูรณาการ ทั้งสำหรับบ้าน อาคาร ดาต้าเซ็นเตอร์ ระบบโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรม

เราคือบริษัทระดับโลกที่มีการดำเนินงานในระดับท้องถิ่นมากที่สุด เราสนับสนุนมาตรฐานระบบเปิดและระบบนิเวศของคู่ค้าที่มีความมุ่งมั่นแรงกล้าในการทำตามวัตถุประสงค์อย่างมีเป้าหมายร่วมกัน และคุณค่าในการรวมกันเป็นหนึ่งเดียวพร้อมขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยกัน


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

การสร้างความยั่งยืนให้ดาต้าเซ็นเตอร์ คือสิ่งจำเป็น

โดย มาร์ค การ์เนอร์ รองประธานฝ่าย Secure Power สหราชอาณาจักร และไอร์แลนด์

เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าเราต่างยืนอยู่บนทางแยก เพราะสิ่งที่เราตัดสินใจในปัจจุบัน นอกจากจะส่งผลถึงอนาคตคนรุ่นใหม่แล้ว ยังส่งผลต่อโลกทั้งใบ เรื่องนี้กลายเป็นความชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั่วโลก และเนื่องจากความยั่งยืนไต่ระดับสู่การเป็นวาระสำคัญขององค์กรและผู้บริโภค เราจึงได้เห็นว่าองค์กรหลายแห่งกำลังใช้ความริเริ่มที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกเพื่อมอบประโยชน์แก่โลกที่เราอาศัยอยู่

ในขณะที่ความต้องการในการปฏิรูปสู่ระบบดิจิทัลเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ภาคส่วนต่างๆ ที่มีบทบาทสำคัญมากที่สุดในโลกไม่ว่าจะเป็นภาคเกษตรกรรม อาคาร และการก่อสร้าง ตลอดจนดาต้าเซ็นเตอร์ ไอที พลังงานและสาธารณูปโภคด้านต่างๆ ล้วนตัดสินใจไปในแนวทางเดียวกัน คือการนำเรื่องความยั่งยืนมาใช้เป็นด่านหน้าของกลยุทธ์ในองค์กร

เทคโนโลยีจึงกลายเป็นปัจจัยหลักที่สร้างศักยภาพให้แก่ภาคธุรกิจ รวมถึงผู้บริโภค ซึ่งตลอดปีที่ผ่านมา มีการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล โดยชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเมินว่าภายในปี พ.ศ. 2578 ภาคไอทีทั่วโลก จะมีการใช้ไฟฟ้า สูงขึ้นถึง 8.5% เมื่อเทียบกับอัตราการเพิ่ม 5% ในปี พ.ศ.2564 นอกจากนี้ อุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ ก็จะกลายเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องรับหน้าที่หลักในการขับเคลื่อนการดำเนินงานที่สร้างความยั่งยืน ในการมีส่วนร่วมโดยตรงต่อเป้าหมายการพัฒนาความยั่งยืนของสหประชาชาติ  5 ประการ  (SDGs)

ความยั่งยืนและภาคอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์

ผู้ประกอบการดาต้าเซ็นเตอร์หลายแห่งในปัจจุบัน ตั้งแต่ไฮเปอร์สเกลเลอร์ ไปจนถึงผู้ให้บริการคลาวด์และโคโลเคชั่น ได้นำร่องตลาดไปก่อนแล้ว ด้วยการทำเป็นแบบอย่างพร้อมประกาศเจตนารมย์อันแรงกล้าต่อสาธารณชนเกี่ยวกับความมุ่งมั่นในเรื่อง Net Zero โดยนำแนวทางที่ให้ความยั่งยืนมากขึ้นมาใช้ในธุรกิจดิจิทัล

ตัวอย่างเช่น Microsoft ได้เริ่มหันไปใช้พลังงานลมแบบหมุนเวียน ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะใช้กันมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการที่ทั้งภาครัฐบาลและประชาชนต่างให้ความสนใจและมีความต้องการใช้พลังงานหมุนเวียนกันมากขึ้น

เรื่องนี้ คือความจริงที่กำลังเป็นที่สนใจอย่างมากในภาคโคโลเคชั่น และในการสำรวจที่จัดทำขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ โดยชไนเดอร์ อิเล็คทริคและ 451 Research โดยมีผู้ประกอบการดาต้าเซ็นเตอร์ระดับโลกกว่า 800 รายเข้าร่วมการสำรวจครั้งนี้ ผลสำรวจพบว่า 97% ของลูกค้าของผู้ให้บริการต่างขอให้มีเรื่องความยั่งยืนอยู่ในข้อผูกพันตามสัญญา และความต้องการเหล่านี้นับเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนให้เกิดความยั่งยืนในราว 50%

อย่างไรก็ตาม การตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในเรื่องแนวทางปฏิบัติด้านความยั่งยืน ด้วยเป้าหมายด้านสภาพแวดล้อมที่สามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างกว้างขวางนั้น ภาคส่วนของเราจะต้องทำงานร่วมกัน ซึ่งองค์กรธุรกิจต่างๆ จะไม่สามารถทำงานแบบไซโลได้อีกต่อไป

สำหรับหลายองค์กร การรวมความยั่งยืนไว้ในแนวทางปฏิบัตินั้นเป็นเรื่องที่พูดง่ายมากกว่าการทำ แต่หากผลักดันให้เกิดการรับรู้ สร้างกลยุทธ์และใช้สิ่งจูงใจที่เหมาะสม เราจะสามารถสนับสนุนให้อุตสาหกรรมสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีประสิทธิภาพพร้อมปลูกฝังเรื่องความยั่งยืนที่ถูกต้องได้ตั้งแต่แรกเริ่ม บางสิ่งเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับผู้ให้บริการโคโลเคชั่น เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ เนื่องจากลูกค้าจำนวนมากอาศัยฐานการตัดสินใจจากการทำงานร่วมกับองค์กรที่ใส่ใจเรื่องความเป็นสีเขียว

แผนงานใน ขั้นตอนเพื่อเอาชนะความท้าทายด้านสภาพอากาศ

ความยั่งยืนที่แท้จริงของดาต้าเซ็นเตอร์ในอุดมคติ ไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด และในหลายแง่มุม การสร้างกลยุทธ์ที่ครอบคลุมต้องให้ผู้ดำเนินการมุ่งเน้นความสำคัญในหลายแง่มุมด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบดาต้าเซ็นเตอร์ พื้นที่ สาธารณูปโภคด้านพลังงาน รวมถึงกลยุทธ์ในการดำเนินงาน และบริหารจัดการด้านพลังงาน

แนวคิดดังกล่าวเป็นเรื่องที่ผมได้รับเชิญไปอภิปรายช่วง keynote ในการเปิดงาน DCD Europe Virtual เมื่อเร็วๆ นี้ และในช่วงเริ่มต้น จะมีองค์ประกอบพื้นฐานสามประการที่ต้องพิจารณา

ประการแรก เราต้องระบุหาพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อช่วยในการดำเนินการได้อย่างยั่งยืน ประการที่สอง ควรประเมินสินทรัพย์สินขององค์กรเพื่อตัดสินใจว่าจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ทั้งหมดได้อย่างไร และประการที่สาม ควรพิจารณาการออกแบบดาต้าเซ็นเตอร์ใหม่หรือแนวคิดที่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายด้านประสิทธิภาพและความยั่งยืน ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถนำมาใช้กับโครงการใหม่ หรือใช้ในการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกเดิมที่มีอยู่ได้

สำหรับหลายองค์กร แนวคิดทั้งสามประการนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ หรือเป็นแนวคิดที่ล้ำหน้า แต่เป็นหลักการสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนและช่วยสร้างแผนความยั่งยืนสี่ขั้นตอนได้อย่างครอบคลุม ซึ่งสามารถช่วยให้ผู้ประกอบการเอาชนะความท้าทายด้านสภาพอากาศได้ ขั้นตอนสำคัญคือ:

  1. กำหนดความสำเร็จให้กับองค์กรของคุณ และสร้างศักยภาพให้กับทีมงานเพื่อช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้
  2. กำหนดเป้าหมายไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายที่ใหญ่หรือเล็กก็ตาม และพยายามให้ได้ผลลัพธ์แม้เพียงเล็กน้อยก็ตามในจุดที่สามารถทำได้ – 1% ต่อปี ถ้าทำได้ตลอดระยะเวลา 25 ปี ก็จะสร้างผลกระทบที่มีนัยสำคัญในองค์กรระดับโลกได้
  3. ปรับใช้โปรแกรมทั่วทั้งธุรกิจของคุณ และวิเคราะห์ในจุดที่สามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ในแต่ละเดือน แต่ละไตรมาส หรือในแต่ละปี
  4. รักษาผลลัพธ์เอาไว้ ด้วยการดูแลสอดส่อง บริหารจัดการ และแบ่งปันบทเรียนที่ได้เรียนรู้

ปัจจัยขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อให้เกิดความยั่งยืน

ทุกวันนี้ มีหลายองค์กรที่ปรับปรุงโครงการด้านความยั่งยืนได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นพร้อมกับได้รับผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาว ด้วยความช่วยเหลือของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ตัวอย่างเช่น ฝ่ายจัดหาพลังงานหมุนเวียนทั่วโลกของ Equinix ได้จัดหาพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นจาก 30% เป็น 82% ภายในระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา ขณะที่การจัดหาพลังงานหมุนเวียน 100% ในทวีปอเมริกาเหนือช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มากถึง 23.2 ล้านเหรียญสหรัฐ

ในทวีปยุโรป 75% ของกระแสไฟฟ้าของ Iron Mountain ถูกแปลงเป็นพลังงานสีเขียว ในขณะที่นำพลังงานหมุนเวียนทั้ง 100% ไปให้บริการสำหรับการดำเนินงานในสหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ และเบเนลักซ์ เรื่องนี้ นอกจากจะช่วยประหยัดเงินและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แล้ว ยังเป็นการผลิตพลังงานสะอาดในปริมาณที่เพียงพอต่อการจ่ายพลังงานเทียบเท่าการใช้สำหรับบ้าน 56,000 หลัง ซึ่งเป็นการเอารถยนต์ออกจากถนนมากกว่า 10,000 คันในแต่ละปี

การมุ่งเน้นที่ Net Zero และความยั่งยืนยังเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับเราที่ชไนเดอร์ อิเล็คทริคอย่างยิ่ง เราได้ประกาศแนวทางในการยกระดับความมุ่งมั่นขึ้นไปอีกขั้นเพื่อให้บรรลุความเป็นกลางด้านคาร์บอน รวมถึงการเร่งไปสู่เป้าหมายปี 2573 ของเราในการสร้างความเป็นกลางด้านคาร์บอนภายในเวลาห้าปีจนถึงปี 2568 เพื่อให้บรรลุการปล่อยมลพิษจากการปฏิบัติงานเป็นศูนย์ภายในปี 2573 โดยเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมาย SBT เพื่อให้ผลที่สมบรูณ์ และบรรลุ net-zero ในห่วงโซ่อุปทานภายในปี 2593 นอกจากนี้ เรามุ่ยังงมั่นที่จะลดการใช้ SF6 ภายในสิ้นปี 2568 ซึ่งรวมถึงในสวิตช์เกียร์ในดาต้าเซ็นเตอร์ของเราด้วย

ขณะนี้มีหลายประเทศที่ลงนามในข้อตกลงปารีส มีหลายอย่างที่ต้องทำและมีเวลาไม่มาก แต่สิ่งหนึ่งที่เราได้เห็นคือธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะในภาคของดาต้าเซ็นเตอร์ ต้องดำเนินการและต้องการที่จะทำเรื่องดังกล่าวโดยพร้อมเพรียง ด้วยการปรับกระบวนการสู่ระบบดิจิทัล การใช้พลังงานไฟฟ้า และประสานการทำงานร่วมกันเพื่อช่วยผู้คนในโลก และเพื่อผลักดันไปสู่การประหยัดค่าใช้จ่าย สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เป้าหมายที่เกินจริง และสามารถบรรลุได้ด้วยสูตรสำเร็จที่เรียบง่าย นั่นคือ พลังงานหมุนเวียน + การใช้พลังงานไฟฟ้า x ประสิทธิภาพ = ความยั่งยืน

ปัจจุบัน การพิจารณาผลกระทบด้านพลังงานของเราไม่ได้เป็นแค่เพียงองค์ประกอบเดียวที่ผู้ประกอบการดาต้าเซ็นเตอร์ต้องคำนึงถึง และก็ไม่ใช่แค่เรื่องการปรับใช้เทคโนโลยีเท่านั้น แต่จำเป็นต้องมีมุมมองแบบองค์รวมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและผลกระทบด้านพลังงานของเรา ซึ่งโดยทั่วไป ในขณะที่ผู้ประกอบการต่างขับเคลื่อนความริเริ่มที่ยั่งยืน คนเหล่านี้ ต่างพยายามอย่างมากในการรักษาประสิทธิภาพและคงความยืดหยุ่นเอาไว้ ซึ่งเป็นชิ้นส่วนของปริศนาที่หายไป ในการทำให้เป้าหมายดังกล่าวคงอยู่ได้ยาวนาน

ในแง่ของอุตสาหกรรม เราต้องให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้น ช่วยลดผลกระทบด้านสภาพอากาศให้กับคนรุ่นหลัง ถึงเวลาสำหรับการเปลี่ยนแปลงแล้วเพื่อให้อุตสาหกรรมยืนหยัดต่อไปได้อีกยาวนาน

เกี่ยวกับชไนเดอร์ อิเล็คทริค

เป้าหมายของชไนเดอร์ อิเล็คทริค คือการช่วยให้ทุกคนใช้พลังงานและทรัพยากรได้เกิดประโยชน์สูงสุด เชื่อมโยงความก้าวหน้าและความยั่งยืนเพื่อประโยชน์ของทุกคน เราเรียกสิ่งนี้ว่า Life Is On

ภารกิจของเราคือการเป็นพันธมิตรด้านดิจิทัลกับคุณ เพื่อสร้างประสิทธิภาพและความยั่งยืน

เราขับเคลื่อนการปฏิรูปสู่ดิจิทัล ด้วยการผสานรวมเทคโนโลยีชั้นนำของโลกด้านพลังงานและกระบวนการจัดการ เข้ากับผลิตภัณฑ์ตั้งแต่จุดเชื่อมต่อปลายทางไปยังคลาวด์ ระบบควบคุม รวมถึงซอฟต์แวร์และการบริการครอบคลุมตลอดวงจรชีวิตการทำงานทั้งหมด เพื่อสร้างศักยภาพในการบริหารจัดการองค์กรแบบบูรณาการ ทั้งสำหรับบ้าน อาคาร ดาต้าเซ็นเตอร์ ระบบโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรม

เราคือบริษัทระดับโลกที่มีการดำเนินงานในระดับท้องถิ่นมากที่สุด เราสนับสนุนมาตรฐานระบบเปิดและระบบนิเวศของคู่ค้าที่มีความมุ่งมั่นแรงกล้าในการทำตามวัตถุประสงค์อย่างมีเป้าหมายร่วมกัน และคุณค่าในการรวมกันเป็นหนึ่งเดียวพร้อมขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยกัน


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ชไนเดอร์ เปิดตัวยูพีเอสสำหรับธุรกิจหลากหลาย ชูความโดดเด่นด้านประสิทธิภาพ และราคา ช่วยประหยัดพลังงาน พร้อมการบริการ เสียเปลี่ยนฟรีถึงบ้าน

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดตัว APC UPS สำหรับธุรกิจ ชูความแข็งแกร่งที่โดดเด่น “3 การปกป้อง” ได้แก่ 1.ปกป้องให้ธุรกิจกับอุปกรณ์ต่อพ่วง ด้วย เทคโนโลยี Sine wave ให้ความต่อเนื่องของพลังงานสำหรับอุปกรณ์ที่ละเอียดอ่อนต่อไฟฟ้า 2.ปกป้องค่าไฟด้วย Green Mode Efficiency ที่ให้ประสิทธิภาพพลังงานสูงถึง 98 เปอร์เซ็นต์ ช่วยในการประหยัดพลังงาน  3.ปกป้องเวลาอันมีค่า เพราะเมื่อเครื่องเสียเปลี่ยนฟรีถึงบ้าน หรือสำนักงานทันที เล็งเจาะกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี คลินิก ร้านสะดวกซื้อ สาขาธุรกิจ ห้องไอทีขนาดเล็ก ตั้งเป้ากระจายทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

นายรังสิมันตุ์ มีสวัสดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและช่องทางการจัดจำหน่าย กลุ่มธุรกิจ Secure Power ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เผยว่า “เครื่องสำรองไฟฟ้าเอพีซี นับเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ในพอร์ตฟอริโอ ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ที่มีผู้ใช้งานและให้การยอมรับ เชื่อมั่นด้านประสิทธิภาพและมาตรฐานระดับสากล ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ครอบคลุมทุกเซกเม้นต์ ซึ่งนวัตกรรมของ เครื่องสำรองไฟฟ้าเอพีซี เราออกแบบฟีเจอร์ให้ตรงต่อการใช้งานของผู้ใช้เป็นหลัก ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ เช่น ผู้ใช้งานตามบ้าน สำนักงานเราจะมีฟีเจอร์ที่จำเป็นเช่น ขนาดเล็ก กะทัดรัด แขวนผนังได้ ประหยัดพื้นที่ใช้สอย สะดวกและติดตั้งง่าย บางรุ่นสามารถชาร์จมือถือพร้อมๆ กับการสำรองไฟได้ด้วย หรือถ้าเป็นธุรกิจ เอสเอ็มอี เราจะมีฟีเจอร์ที่จำเป็น เช่น การสำรองไฟได้นานกว่า หรือการจ่ายพลังงานได้มากกว่า เพื่อรองรับอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานมาก สำหรับห้องไอที หรือดาต้าเซ็นเตอร์ เราก็มีรุ่นที่เหมาะสมตามสภาพแวดล้อมไอทีรูปแบบต่างๆ มีฟีเจอร์ที่จำเป็นมากขึ้น เช่นการมอนิเตอร์แบบเรียลไทม์ การวิเคราะห์เชิงลึกด้านพลังงาน รวมไปถึงการสั่งงานเปิด/ปิด ช่วยควบคุมค่าไฟ เป็นต้น โดยลูกค้าสามารถเลือกเครื่องสำรองไฟ ที่มีความสามารถด้านฟีเจอร์ที่คุ้มค่าเหมาะกับตนเอง หรือธุรกิจ ได้ไม่ยาก ในแบรนด์ APC แบรนด์เดียว ที่มีคนทั่วโลกให้ความไว้วางใจ”

จากการที่ธุรกิจไทยเริ่มมีการฟื้นตัว การเริ่มต้นทางธุรกิจหรือการปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจ อุปกรณ์ที่จะเข้ามาช่วยรองรับนั่นคือเทคโนโลยี โดยเฉพาะเทคโนโลยีใหม่ๆ หรืออุปกรณ์ต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ไอที เน็ตเวิร์ค สตอเรจ กล้องวงจรปิด มาพร้อมกับวงจร และชิพภายในที่มีความละเอียดอ่อน  และแบตเตอรี่คุณภาพสูง ปลอดภัย

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย พัฒนาเครื่องสำรองไฟ เปิดตัวใหม่ในปีนี้ หลายรุ่น หลายซีร์รี่ ที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องราคา และให้ประสิทธิภาพสูง มาพร้อมกับสเปกที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานในหลากหลายเซกเม้นต์ เพื่อให้ธุรกิจไทยเติบโตอย่างมีเสถียรภาพด้วยต้นทุนที่คุ้มค่า และมั่นใจการใช้งาน และบริการหลังการขาย

วันนี้ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดตัวเครื่องสำรองไฟรุ่นใหม่ 3 รุ่น ประกอบด้วย

APC Easy UPS Line-interactive SMV เครื่องสำรองไฟที่ทุกธุรกิจต้องมี ใช้เทคโนโลยี แบบ Line Interactive with AVR (Auto Voltage Regulation) ที่มาพร้อมรูปคลื่น Pure Sinewave Output ทำหน้าที่ปกป้องอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีกำลังไฟสูง และต้องการใช้งานต่อเนื่องยาวๆ พร้อมให้ความเสถียรมีเหมาะสม สามารถทำงานได้ต่อเนื่องไม่สะดุด เหมาะสำหรับอุปกรณ์หลากหลาย  ด้วยเอาต์เล็ตเชื่อมต่อแบบ universal ทำให้เชื่อมต่อกับทุกอุปกรณ์ได้ง่าย และรุ่นนี้มีรูปคลื่นแบบ Pure Sinewave Output ทำให้สามารถรองรับอุปกรณ์ได้ทุกประเภท โดยเฉพาะอุปกรณ์ IT ที่ใช้เทคโนโลยี Active PFC Rectifier รวมถึงกลุ่มเป้าหมาย ที่เริ่มตั้งแต่องค์กรขนาดเล็ก ร้านค้า SME Start-Up จบไปถึงองค์กรขนาดกลาง ใช้คู่กับคอมพิวเตอร์ทั่วไป หรือคอมพิวเตอร์สำนักงาน Wifi router จอมอนิเตอร์ อุปกรณ์ IT Gadget อื่นๆ เครื่องสำรองไฟจะทำหน้าที่ จ่ายไฟ ป้องกันไฟดับขณะทำงาน ผู้ใช้จะสามารถทำงานต่อได้ช่วงระยะเวลาหนึ่ง และสามารถปิด window ต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อไฟดับกะทันหัน โดยที่ไม่ทำให้เอกสารเสียหาย และยังป้องกันไฟตก ไฟเกิน ไฟกระชาก เพื่อช่วยถนอมและยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ห้าง ร้านค้า Retail ทั่วไป ทั้งขนาดเล็ก จนถึงขนาดใหญ่ จำเป็นต้องใช้เครื่องสำรองไฟฟ้าเช่นกัน เพื่อช่วยธุรกิจดำเนินได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงความปลอดภัยของบริษัท เช่น เครื่องสำรองใช้คู่กับเครื่องคิดเงิน (POS) กล้องวงจรปิด (CCTV) คอมพิวเตอร์หรือเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็ก ไม่ว่าจะเป็นธุรกรรมออน์ไลน์ หรือออนกราวนด์ เครื่องสำรองไฟที่ดี มีคุณภาพ สำรองไฟได้จริงๆ วัตต์เต็ม ป้องกันกัน ไฟตก ไฟกระชาก จะช่วยให้ธุรกิจของท่านดำเนินต่อเนื่องไม่สะดุด สำหรับความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกบ้าน ทุกร้านค้าต้องมี เปรียบเหมือนเป็นหูเป็นตา บันทึกเหตุการณ์ที่สำคัญ และเพิ่มความปลอดภัยให้ธุรกิจ ห้าง ร้าน และบ้านของท่าน

APC Easy UPS Line-interactive SMV มีให้เลือก 3 รุ่น 3 ขนาด รุ่นเริ่มต้น คือ รุ่น SMV1000I-MS ให้กำลังไฟอยู่ที่ 1000VA/700Watt มีพอร์ตเชื่อมต่ออุปกรณ์ 4 ช่อง และ รุ่น SMV2000AI-MS ให้กำลังไฟ 2000VA/1400Watt และ SMV3000AI-MS ให้กำลังไฟ3000VA/2100Watt ทั้ง 2 รุ่นนี้ มีพอร์ตเชื่อมต่ออุปกรณ์ ถึง 6 ช่อง ซึ่งสามารถเลือกใช้งานได้ตามความต้องการ ตามขนาดของโหลดอุปกรณ์ได้อย่างครอบคลุม

APC Easy UPS On-Line SRV เครื่องสำรองไฟระบบ True Online สุดคุ้ม  เป็นเครื่องสำรองไฟฟ้า ที่ใช้เทคโนโลยี True Online Double Conversion ที่ออกแบบมาให้ใช้งานแบบบึกบึน แข็งแรง ทนทาน ยังมาพร้อมกับรูปคลื่นแบบ Pure Sinewave Output เช่นกัน จึงสามารถใช้ได้กับอุปกรณ์ทุกประเภท รวมถึงอุปกรณ์ IT ที่ใช้เทคโนโลยี Active PFC Rectifier ด้วย ระบบเทคโนโลยีแบบ True Online จ่ายไฟอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการกระพริบของกระแสไฟระหว่างที่ระบบสลับมาใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ หรือเรียกว่า transfer time เท่ากับ 0 (zero) อุปกรณ์ของท่านจะทำงานได้ต่อเนื่อง ไม่สะดุด นิ่ง เรียบ และมีเสถียรภาพสูง จึงเหมาะกับโหลดที่มีความ sensitive สูง

พิเศษรุ่นนี้สามารถต่อขยายแบตเตอรี่ภายนอกได้ เพื่อเพิ่มระยะเวลาสำรองไฟตามความต้องการของท่าน แนะนำให้ใช้คู่กับอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น คอมพิวเตอร์สำหรับการแพทย์ โคมไฟผ่าตัด อุปกรณ์ทางทันตกรรม เครื่องปั่นตัวอย่างเลือด เครื่องให้ออกซิเจน อุปกรณ์ในโรงงานเช่นระบบ PLC เป็นต้น ด้วยการสำรองและการจ่ายพลังงานที่สูงตามต้องการ แบตเตอรี่ทำงานตลอดเวลา ทำให้มั่นใจและรองรับได้ทุกสถานการณ์ ถึงแม้ระบบไฟฟ้าภายนอกจะไม่เสถียร True Online สามารถช่วยให้ทำงานได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ สำหรับ APC Easy UPS On-Line SRV มีให้เลือกหลายรุ่นและหลายรูปแบบ เริ่มต้นตั้งแต่  1,000VA จนถึง 10,000VA  ทั้งรูปแบบตั้งพื้น หรือแบบแร็ค รองรับตามการใช้งานในแต่ละอุปกรณ์ ทั้ง Non-IT หรือ IT Application ที่ต้องการติดตั้งเข้าในระบบหรือเข้าตู้แร็ค สำหรับรองรับ Server หรือ Network และสามารถเลือกรุ่นที่ให้ ระยะเวลาสำรองไฟเพิ่มขึ้น คือ รุ่น Long Battery Up time มากับราคาที่พิเศษสุด รุ่นเริ่มต้น เพียง หมื่นต้นๆ สุดคุ้มจริงๆ

Smart-UPS SRTG On-Line เครื่องสำรองไฟรุ่นล่าสุดรหัสชื่อรุ่น SRTG เปิดตัว 6 ขนาด 5kVA, 6kVA, 8kVA, 10kVA, 15kVA และ 20kVA ด้วยเทคโนโลยี High density, True Online Double Conversion ให้พลังไฟเต็ม (power factor = 1) ตั้งแต่ 5,000 วัตต์ ไปจนถึง 20,000 วัตต์สำหรับสำรองไฟให้อุปกรณ์ไอที และเฉพาะรุ่นขนาด 15kVA และรุ่น 20kVA มีให้เลือกใช้งานกับระบบไฟฟ้าทางด้านขาเข้าทั้งแบบ 1 เฟส และ 3 เฟส

ด้วยการออกแบบที่กะทัดรัด Smart-UPS SRTG On-Line จึงช่วยประหยัดพื้นที่และติดตั้งง่าย ทั้งในรูปแบบตั้งพื้น หรือเข้าตู้แร็ค จึงเหมาะสำหรับห้องไอที ห้อง Edge network และห้อง telecom VOIP เรียกได้ว่าครอบคลุมตู้แร็ค และสภาพแวดล้อมไอทีได้ทุกขนาด ให้ความเสถียรในการใช้งาน ช่วยปกป้องอุปกรณ์ไอทีราคาแพง เช่น เซิร์ฟเวอร์ สตอเรจ นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มเติมแบตเตอรี่ได้อีกด้วย เพื่อการทำงานที่ต่อเนื่องของอุปกรณ์ในตู้แร็ค

Smart-UPS SRTG On-Line มาพร้อมอินเตอร์เฟสที่ใช้งานง่ายแบบ Multi-Color LCD ให้รายละเอียด เช่น กระแสขาออก (Output voltage) กระแสขาเข้า (Input voltage) โหลด และสภาพของแบตเตอรี่ (Battery Health) ซึ่งให้ข้อมูลที่แม่นยำ พร้อมความสามารถในการตั้งค่าการทำงาน เช่น กระแสออกและความถี่ ภาษา และการแจ้งเตือน นอกจากนี้ยังมี APC Smart-Slot รองรับการ์ดอุปกรณ์เสริมในการทำงาน

นอกจากนี้ที่สำคัญ Smart-UPS SRTG On-Line ช่วยให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุนด้วย Green Mode Efficiency ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ UPS ได้ถึง 98 เปอร์เซ็นต์ ประหยัดค่าไฟฟ้าและการทำความเย็นโดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ

Smart-UPS SRTG On-Line ยังสามารถใช้งานร่วมกับ EcoStruxure IT Expert ช่วยในการมอนิเตอร์ข้อมูลเชิงลึกต่างๆ และช่วยให้การเหลือปกป้องอุปกรณ์ไอที โดยสามารถการมองเห็นได้ 24/7 แบบเรียลไทม์ และเชื่อมต่อโดยตรงไปยังสมาร์ทโฟนหรือแท็ปเล็ตได้ และเมื่ออัพเกรดเป็น EcoStruxure™ Asset จะมีที่ปรึกษา คอยแก้ไขปัญหาระยะไกลให้ 24×7 เช่นกัน

รวมไปถึงสามารถใช้งาน PowerChute Network Shutdown โดยจะเชื่อมต่อกับ Network Management Card ที่ติดตั้งอยู่กับ UPS ผ่านระบบ Network จะช่วยให้สามารถติดตามและบริหารการทำงานของเครื่องจากระยะไกลได้ซึ่งรวมถึงการควบคุมการ shutdown และ load segment ได้

 นางสาวปวีณา เตชะมงคลศิริ ผู้จัดการช่องทางจัดจำหน่ายค้าปลีก ผลิตภัณฑ์ APC ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จาก ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เผยว่า “เป้าหมายของชไนเดอร์ อิเล็คทริค คือการเข้าใจความต้องการของลูกค้าและพาร์เนอร์ของเรา ดังนั้นผลิตภัณฑ์จึงถูกพัฒนา และออกแบบตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานในปัจจุบันจริง  พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับราคา และความคุ้มค่า เราออกแบบเครื่องสำรองไฟ ให้ตรงตามความต้องการในการใช้งานในปัจจุบันเป็นหลัก ครอบคลุมทุกเซกเม้นต์ ทั้งผู้ใช้ตามบ้าน สำนักงาน เกมส์มิ่ง เอนเตอร์เทนเมนต์ องค์กร ภาคธุรกิจ ทั้งเอสเอ็มอี เฮลธ์แคร์ ห้องไอที ดาต้าเซ็นเตอร์ โรงงาน เรียกได้ว่าครบ จบที่เดียว นอกจากนี้เราให้ความสำคัญ คือคุณภาพของแบตเตอรี่ ที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย และสำรองได้ตรงตามสเปก ซึ่ง Signature ของเอพีซี ที่ไม่เหมือนใคร คือความใส่ใจให้เรื่องแบตเตอรี่ เรามี Batter Connector อยู่ภายนอก (ตัวต่อขั่วแบตเตอรี่ที่ผู้ใช้ต้องเชื่อมต่อขั่วนี้เมื่อเริ่มใช้งาน ทำให้มั่นใจได้ว่า แบตเตอรี่จะใหม่ทุกเครื่อง และปลอดภัยเมื่อขนย้าย และอีกส่วนที่เราให้ความสำคัญเช่นกัน คือการให้บริการทั้งก่อน และหลังการขาย เรามี Customer Care Center ที่ใช้บริการสอบถาม ทั้งเรื่องการขายหรือเทคนิคคอล สำหรับบริการหลังการขาย เอพีซีเป็นที่แรกในเงื่อนไขการให้บริการ สำหรับ สินค้าในตระกูล Back UPS และ Easy SMV ที่เมื่อเครื่องเสียในประกัน เราเปลี่ยนเครื่องใหม่ Refurbish ให้ฟรีถึงบ้าน Pick Up Service โดยผู้ใช้งาน เพียงโทรมาแจ้งที่ Schneider Customer Care Center วันและเวลาทำการ เพียงแจ้ง serial no หรือใบกำกับภาษีทีซื้อ เอพีซีเริ่มนับประกัน จากวันที่ท่านซื้อ รับประกัน 2-3 ปี แล้วแต่รุ่น รับประกันทั้งตัวเครื่องและแบตเตอรี่ สำหรับ Smart UPS เรารับประกัน แบบ Online Service ถึงบ้านท่านเช่นกัน


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ดิจิทัลและไฟฟ้า ช่วยฟื้นฟูโลกสู่ความเป็นสีเขียวได้เร็วที่สุด

โดย ฟิลิปป์ เดอลอร์ม รองประธานกรรมการบริหาร ด้านการบริหารจัดการพลังงาน

เรากำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญยิ่ง เพราะปัจจุบันสิ่งที่คนบนโลกส่วนใหญ่ล้วนเห็นชัดเจนเหมือนกันคือ โลกเรากำลังเสื่อมถอยลงซึ่งเป็นผลโดยตรงจากการดำเนินกิจกรรมของมนุษย์ ซึ่งหากเราไม่รีบดำเนินการอย่างรวดเร็วในตอนนี้ เพื่อฟื้นฟูความเป็นสีเขียวให้กลับคืนมา โลกและชีวิตทั้งหลายบนโลกใบนี้ก็จะถูกทำลายลงอย่างกู่ไม่กลับด้วยอุณหภูมิที่สูงขึ้นเรื่อยๆ

แม้ว่าจะมีความคืบหน้าให้เห็นอยู่บ้าง แต่เราก็ยังห่างไกลจากแนวทางในการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น การทำลายล้างทั้งสภาพความเป็นอยู่และชีวิตต่างๆ กำลังเกิดขึ้นด้วยเหตุการณ์ด้านสภาพอากาศที่เลวร้ายที่เกิดถี่ขึ้นเรื่อยๆ ทั้งน้ำท่วม อากาศหนาวจัด คลื่นความร้อนและพายุ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศคือภัยคุกคามครั้งใหญ่ที่สุดที่มนุษย์เคยพบเห็นมา ซึ่งหากปราศจากการดำเนินการแก้ไขอย่างทันท่วงที โลกก็จะร้อนขึ้น 4.1 – 4.8 องศาเซลเซียสภายในสิ้นศตวรรษนี้

ความเป็นจริงที่โหดร้ายคือเราไม่เหลือเวลาแล้ว เราจำเป็นจะต้องดำเนินการตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ปีที่ผ่าน ทศวรรษที่ผ่านมา เพื่อเปลี่ยนแปลง ฉะนั้นเรากำลังเผชิญกับโอกาสที่เลือนหายไปอย่างรวดเร็วในการที่จะหลีกเลี่ยงภัยพิบัติและหยุดความเสียหาย ซึ่งเราจะต้องดำเนินการโดยเร็ว  ความหวังที่ริบหรี่คือ ท้ายที่สุดแล้วเรากำลังได้เห็นความตั้งใจที่จะรับมือและลงทุนเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในการฟื้นฟูความเป็นสีเขียวให้กลับคืนมาสู่โลก

มอบผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงในเวลาที่กำหนด

ด้วยเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เราจำต้องให้ความสำคัญกับการดำเนินการและโซลูชันที่สร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ได้ ในเวลาที่สั้นที่สุด อีกทั้งสร้างศักยภาพในระบบเศรษฐกิจเพื่อฟื้นฟูและก้าวต่อไปได้ การดำเนินการที่ว่าคือ

  • กำจัดของเสียตลอดวงจรชีวิต
  • เร่งนำระบบไฟฟ้ามาใช้เนื่องจากเป็นแหล่งพลังงานที่ช่วยกำจัดก๊าซเรือนกระจก
  • ลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัลและทักษะต่างๆ ที่ช่วยขับเคลื่อนให้เกิดประสิทธิภาพ
  • ส่งเสริมความร่วมมือกับทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อดำเนินตามแผนฟื้นฟูหลังโควิด

การกำจัดของเสียตลอดวงจรชีวิตเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรก

การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศคือปัญหาด้านพลังงานที่สำคัญสุดเป็นอันดับหนึ่ง เพราะ พลังงานมีส่วนในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโลกถึง 80 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเราพยายามที่จะเปลี่ยนโลกไปสู่การขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีที่เร็วที่สุดในการหยุดปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยการกำจัดของเสีย

มีเพียงหนึ่งในสามของพลังงานที่ผลิตได้ทั้งหมด ที่จะถูกแปลงเป็นพลังงานที่มีประโยชน์ไว้ใช้ในภาคขนส่ง อุตสาหกรรม อาคาร และอุปกรณ์ต่างๆ ส่วนที่เหลือคือพลังงานที่สูญหายไปหรือเสียไปกับกระบวนการผลิตและการส่งต่อ เมื่อพูดถึงอาหารและแฟชั่นเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเราของเสีย ขยะพลาสติก ของเสียมักจะถูกมองข้ามและถูกด้อยค่าในส่วนของแผนงานและการลงทุนเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะลดลงไปได้ครึ่งหนึ่งหากสามารถกำจัดพลังงานที่สูญหายและของเสียได้

เทคโนโลยีมีอยู่แล้ว ที่จะช่วยแก้ปัญหาท้าทายต่างๆ และเพื่อให้ก้าวหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว

การกำจัดของเสีย อย่างแรกคือเราต้องรู้ว่าทำไมจึงเกิดของเสีย เกิดที่จุดไหนและเกิดขึ้นได้อย่างไร เราสามารถวัดการใช้พลังงานได้อย่างแม่นยำด้วยเซนเซอร์ มิเตอร์ และการมอนิเตอร์  โดยสามารถนำซอฟต์แวร์มาใช้ในการออกแบบ บริหารจัดการและช่วยให้ใช้พลังงานได้อย่างอัตโนมัติ… เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะมีแสงสว่าง ความร้อนและพลังงานในที่ๆ ต้องการและในเวลาที่ต้องการ รวมถึงประหยัดพลังงานได้ในเวลาที่ไม่ได้ใช้งาน ไม่ว่าสัดส่วนการผสมผสานพลังงานสะอาดจะเป็นอย่างไรก็ตาม ไฟฟ้าก็ยังคงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับการกำจัดก๊าซเรือนกระจก ในขณะที่ระบบดิจิทัลจะช่วยให้เราติดตามและตรวจสอบการใช้พลังงานเพื่อกำจัดของเสีย

การใช้แนวทางแบบองค์รวมทำให้เราเห็นถึงโอกาสมหาศาลในการรับมือและช่วยไม่ให้เกิดของเสียตลอดทั่วทั้งวงจรชิวิตของอาคารต่างๆ ระบบโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงอุตสาหกรรมทั้งหลาย การออกแบบที่ฉลาดยิ่งขึ้นตั้งแต่แรกเริ่มด้วยการใช้เครื่องมือจำลองสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงการใช้วิธีการก่อสร้างที่มีประสิทธิภาพและการจัดหาวัสดุในพื้นที่หรือวัสดุแบบที่นำกลับมาใช้ซ้ำให้มากขึ้น ดำเนินการในไซต์งานได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อีกทั้งบังคับใช้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียนเป็นแนวทางปฏิบัติที่ใช้ได้เห็นผลในปัจจุบันและควรนำมาใช้งานอย่างครอบคลุม

ซอฟต์แวร์และพลังงานสีเขียวแบบกระจายศูนย์ช่วยสร้างประสิทธิภาพ

การปล่อยของเสียที่เป็นมลพิษจากการผลิตไฟฟ้าจากถ่านฟอสซิลและการเดินทางระยะไกลของพลังงานที่มาจากกริดจนถูกนำไปใช้นับเป็นสัดส่วนใหญ่ของพลังงานที่สูญหาย ดังนั้นพลังงานหมุนเวียนไม่ใช่แค่เป็นแหล่งพลังงานสะอาดเท่านั้น แต่การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนจะให้ประสิทธิภาพได้มากกว่า และสามารถอยู่ใกล้กับจุดที่มีการใช้งานได้มากขึ้น ช่วยลดการสูญหายของพลังงานเพราะอยู่ใกล้แหล่งใช้งาน

กริดพลังงานอัจฉริยะที่กระจายศูนย์และไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก และจะกลายเป็นหัวใจของการปฏิรูปสู่ net zero ผนวกกับการใช้ซอฟต์แวร์มาช่วยสร้างศักยภาพและทำให้มีความเสถียร ซึ่งจะทำให้มีการผลิตและใช้พลังงานในพื้นที่ได้ในราคาที่ย่อมเยามากขึ้น ประเด็นนี้เป็นเรื่องสำคัญโดยอย่างยิ่งสำหรับอาคารต่างๆ ซึ่งเป็นแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ใหญ่ที่สุด และจะกลายเป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากเราเห็นว่ามีการติดตั้งไมโครกริดที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานลมและแสงอาทิตย์มากขึ้น การนำยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EVs มาใช้ ล้วนเป็นการขับเคลื่อนไปสู่บ้านและสำนักงาน net zero ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ดังนั้นดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักของเศรษฐกิจดิจิทัล ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าช่วยกำจัดก๊าซเรือนกระจกในทันทีได้อย่างไร เราจำต้องลงทุนในโซลูชันที่มีอยู่แล้วเพื่อฟื้นฟูความเขียวให้กลับมาในขณะที่เรายังคงดำเนินรอยตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง

ทำไมไฟฟ้าถึงเป็นแหล่งพลังงานที่ดีที่สุดสำหรับอนาคตที่สะอาด?

ในการแข่งกับเวลา ไฟฟ้าคือแนวทางที่ให้ความคุ้มค่ามากที่สุด ปลอดภัยที่สุด และเร็วที่สุดในการกำจัดก๊าซเรือนกระจกออกจากสังคมที่เราอยู่ จากมุมมองที่นำมาปฏิบัติได้จริงของโลกที่พัฒนาแล้ว หมายความว่าการกระจายไฟฟ้านั้นมีอยู่แล้ว การนำพลังงานเชื้อเพลิงที่เป็นทางเลือกมาใช้ตามบ้านเรือน สำนักงานและพื้นที่สาธารณะต่างๆ ได้อย่างครอบคลุมนั้นต้องอาศัยเวลานานนับทศวรรษ เป็นเวลาหลายปีที่เราจะยังไม่เห็นว่ามีการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากพลังงานถ่านหินที่เรายังต้องพึ่งพาในการให้ความร้อนและป้อนให้กับประชาชน

ในขณะที่ไฟฟ้าอาจจะยังไม่ใช่คำตอบของทุกความท้าทาย (อุตสาหกรรมหนัก การเดินทางระยะไกล) แต่ก็เป็นแหล่งพลังงานที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าถูกผลิตมาอย่างสะอาด ในราคาถูก พร้อมกับการลงทุนอย่างต่อเนื่องในพลังงานหมุนเวียนอย่างพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานไฮโดรเจน

  • แสงอาทิตย์และลมที่เป็นขุมพลังของพลังงานหมุนเวียนมีราคาถูกว่าไฟฟ้าที่ได้จากพลังงานถ่านหินถึง 50 เปอร์เซ็นต์
  • การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้ประสิทธิภาพเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ โดยเกิดการสูญหายระหว่างส่งผ่านแค่เพียง 5-10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับการสูญหาย/สูญเสียของพลังงานที่ผลิตจากถ่านหินที่60 เปอร์เซ็นต์ ในขณะเดียวกันการผลิตแหล่งพลังงานใหม่ที่มีศักยภาพอย่างพลังงานไฮโดรเจนสีเขียวก็ทำให้เสียประสิทธิภาพอย่างมหาศาลถึง 70 เปอร์เซ็นต์ทั้งขาไปและกลับ

เทคโนโลยีที่ให้ความยั่งยืนทางดิจิทัลและไฟฟ้า มอบสิ่งสำคัญได้อย่างครบถ้วนทั้งประสิทธิภาพ ความปลอดภัย ผลลัพธ์ที่วัดได้ รวมถึงความเร็วในการนำโซลูชันดังกล่าวมาใช้งานและขยายขอบเขตได้อย่างครอบคลุม สิ่งสำคัญที่สุดคือ ช่วยให้เรานำพาองค์กรธุรกิจน้อยใหญ่ รวมถึงผู้บริโภคไปสู่การเดินทางที่ช่วยให้คนเหล่านี้มีทางเลือกมากขึ้นและควบคุมในเรื่องของความยั่งยืนในครัวเรือน สำนักงานและเมืองทั้งหมดได้

ปัจจุบัน ยังมีเรื่องที่พูดกันอยู่เยอะเกี่ยวกับความต้องการที่จะหา “โซลูชันที่ตอบโจทย์ได้ทุกอย่าง” เพื่อมาแก้โจทย์ท้าทายเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และเปลี่ยนความเสียหายที่เราเผชิญกันอยู่ให้กลับสู่สภาพที่ดีดังเดิม ในขณะที่ผู้คนตั้งความหวังไว้ที่ไทม์แมชชีน ผมเชื่อว่าโซลูชันที่ตอบโจทย์ได้ทุกสิ่งจริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่เสียเวลาและควรเลิกคิด ไฟฟ้าซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาดสามารถตอบโจทย์การใช้งานส่วนใหญ่ได้ นั่นคือสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญกันในตอนนี้

ความร่วมมือกับทั้งภาครัฐและภาคเอกชนคือใบเบิกทาง

หน่วยงานรัฐบาลทั่วโลกต้องมั่นใจว่าได้ทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อช่วยองค์กรธุรกิจและผู้บริโภคเปลี่ยนไปใช้ทางเลือกสีเขียว และเมื่อหน่วยงานเหล่านี้ดำเนินการเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจหลังวิกฤติโควิด เราก็จะมีโอกาสที่นานทีจะเกิดสักครั้งในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศไปพร้อมกับการสร้างศักยภาพในฟื้นฟูความเป็นสีเขียวให้กลับคืนมาได้ อย่างไรก็ตาม เราต้องดำเนินการอย่างรับผิดชอบด้วยความรวดเร็ว ลงทุนในโซลูชันด้านสิ่งแวดล้อมที่จะช่วยปรับปรุงวิถีการใช้ชีวิตได้ดีขึ้น ช่วยให้ทุกคนเข้าถึงพลังงานได้และยกระดับไปสู่การมีบทบาทในสนามเมื่อมีโอกาส

การพิจารณาถือเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับบริษัทที่มีเงินทุนไม่มากในการลงทุนแหล่งพลังงานหมุนเวียน ตัวอย่างเช่น เจ้าของอาคารควรมีบทบาทในการรับผิดชอบเรื่องการสร้างประสิทธิภาพให้กับผู้เช่า เรื่องนี้จะช่วยขับเคลื่อนการดำเนินการและประสิทธิภาพสำหรับทั้งอาคารที่สร้างใหม่และที่ปรับปรุงใหม่ ซึ่งเป็นการแข่งขันด้านคาร์บอนที่ผู้เป็นเจ้าของอาคารจะต้องมองหากันมากยิ่งขึ้นเพื่อทำให้บ้านหรือที่ทำงานมีความดึงดูดใจมากขึ้น

การนำดิจิทัลมาช่วยสร้างศักยภาพ จะทำให้องค์กรธุรกิจสามารถเริ่มดำเนินการตอบสนองหนึ่งในแนวคิด ESG ที่ท้าทายที่สุด นั่งคือการติดตามและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมที่เป็น Scope 3 เช่นการขนส่งและการกระจายสินค้า  บรรดาองค์กรอย่าง Walmart ได้สร้างพลังงานหมุนเวียนที่ช่วยให้ซัพพลายเออร์เข้าถึงได้มากขึ้น ช่วยเร่งการกำจัดก๊าซเรือนกระจกในระบบนิเวศได้ครอบคลุมมากขึ้น ความเคลื่อนไหวนี้คือส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นพยายามใน Project Gigaton ของผู้ประกอบการค้าปลีกเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในซัพพลายเชนให้ได้หนึ่งพันล้านเมตริกตันภายในปี 2030

เรื่องทักษะต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูความเป็นสีเขียว

มีการพูดถึงการฟื้นฟูความเป็นสีเขียวและการสร้างงานกันอยู่มาก จากการใช้จ่ายเงินทั้งหมดในการกระตุ้นเศรษฐกิจรวม 14.9 ล้านล้านเหรียญ ที่ได้มีการประกาศทั่วโลกนับตั้งแต่เริ่มเกิดการแพร่ระบาด จวบจนปัจจุบันมีการใช้เงินไป 1.8 ล้านล้านเหรียญเพื่อบรรเทาผลกระทบของภาคส่วนที่ปล่อยมลพิษ เช่นภาคพลังงาน การขนส่ง อุตสาหกรรม กสิกรรมและของเสีย

หากเราต้องตอบโจทย์เป้าหมายด้านสภาพอากาศ การเข้าถึงทักษะที่จำเป็นต่อการดำเนินการและบริหารจัดการในการปฏิรูปไปสู่เศรษฐกิจแบบ net zero ก็จะกลายเป็นปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญ การตระหนักว่าทักษะด้านใดที่จำเป็นคือกุญแจสำคัญ

หากเรายอมรับว่าเรื่องของไฟฟ้าและดิจิทัล คือแนวทางที่เร็วที่สุดในการก้าวสู่ net-zero ที่ก่อให้เกิดการหยุดชะงักน้อยที่สุด ฉะนั้นสิ่งที่จะตามมาก็คือเรื่องเหล่านี้จะช่วยสร้างงานได้ เพราะต้องอาศัยช่างไฟ ผู้ประกอบโรงตู้ คนออกแบบ วิศวกร และผู้พัฒนาซอฟต์แวร์มากขึ้น รวมถึงผู้ที่มีบทบาทด้านไฮเทคจะเป็นที่ต้องการ เพื่อช่วยในการนำเทคโนโลยีระบบดิจิทัลและไฟฟ้ามาใช้งานในวงกว้างได้อย่างครอบคลุม

การปรับปรุงอาคาร บ้าน และโรงงานใหม่ จะทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและเร็วขึ้นถึง 10 เท่า พร้อมทั้งเป็นการปฏิวัติวิถีทางในการใช้ชีวิต ผลิตสินค้า และการเดินทาง ทั้งนี้ IEA ได้ประเมินว่าจะมีการสร้างงานใหม่ในทั่วโลกถึง 9 ล้านตำแหน่งงานในปีที่จะถึงนี้หากบรรดาประเทศต่างๆ เดินรอยตามแนวทางการฟื้นฟูความเป็นสีเขียว ซึ่งโดยธรรมชาติ งานเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นงานในพื้นที่ ไม่สามารถจ้างคนจากนอกประเทศมาทำได้ เพราะจะต้องดูเกี่ยวกับบริบทของการให้บริการในพื้นที่ รวมถึงองค์ความรู้และความคุ้นเคยกับลูกค้า

แม้ว่าไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานหมุนเวียนและใช้ศักยภาพของเทคโนโลยีดิจิทัล จะไม่สามารถแก้ปัญหาท้าทายด้านสภาพอากาศได้ทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็สามารถพาเราไปยังจุดหมายได้อย่างมีนัยสำคัญ ลองมุ่งเน้นความสำคัญที่เทคโนโลยีและแหล่งพลังงานที่เรารู้ว่าจะให้ผลลัพธ์ที่ดีได้ในตอนนี้ ซึ่งมีพร้อมอยู่แล้วและนำมาใช้ได้อย่างปลอดภัย เราไม่สามารถนั่งรอให้เกิดปาฏิหารย์ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศได้

ทุกคนมีบทบาทที่ต้องดำเนิน ทั้งนักวิทยาศาสตร์ วิศวกร นวัตกร นักการเมือง เจ้าของธุรกิจ พนักงาน พ่อและแม่ที่ต้องการให้โลกเป็นที่อยู่อาศัยที่ดียิ่งขึ้นสำหรับลูกๆ

                                                                                          # # #

เกี่ยวกับชไนเดอร์ อิเล็คทริค

เป้าหมายของชไนเดอร์ อิเล็คทริค คือการช่วยให้ทุกคนใช้พลังงานและทรัพยากรได้เกิดประโยชน์สูงสุด เชื่อมโยงความก้าวหน้าและความยั่งยืนเพื่อประโยชน์ของทุกคน เราเรียกสิ่งนี้ว่า Life Is On

ภารกิจของเราคือการเป็นพันธมิตรด้านดิจิทัลกับคุณ เพื่อสร้างประสิทธิภาพและความยั่งยืน

เราขับเคลื่อนการปฏิรูปสู่ดิจิทัล ด้วยการผสานรวมเทคโนโลยีชั้นนำของโลกด้านพลังงานและกระบวนการจัดการ เข้ากับผลิตภัณฑ์ตั้งแต่จุดเชื่อมต่อปลายทางไปยังคลาวด์ ระบบควบคุม รวมถึงซอฟต์แวร์และการบริการครอบคลุมตลอดวงจรชีวิตการทำงานทั้งหมด เพื่อสร้างศักยภาพในการบริหารจัดการองค์กรแบบบูรณาการ ทั้งสำหรับบ้าน อาคาร ดาต้าเซ็นเตอร์ ระบบโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรม

เราคือบริษัทระดับโลกที่มีการดำเนินงานในระดับท้องถิ่นมากที่สุด เราสนับสนุนมาตรฐานระบบเปิดและระบบนิเวศของคู่ค้าที่มีความมุ่งมั่นแรงกล้าในการทำตามวัตถุประสงค์อย่างมีเป้าหมายร่วมกัน และคุณค่าในการรวมกันเป็นหนึ่งเดียวพร้อมขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยกัน


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จัดโปร 12.12 หนาวสะท้านทุกวงการกับส่วนลดสูงสุด 1,500 บาท พร้อมจับมือคู่ค้าลดกระหน่ำสูงสุด 70 เปอร์เซ็นต์

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยกทัพสินค้าสำหรับบ้านท้าลมหนาว จัดโปรคูลสุดทะท้าน ใน Lazada และ Shopee มอบส่วนลดสูงสุด 1,500 บาท ส่งฟรีทุกรายการ ไม่มีขั้นต่ำ พร้อมจับมือคู่ค้า 6 ราย UcanbuysPlugOnElectric 2UElectrical 4UThianthongBigjump, มอบส่วนลดสูงสุด 70 เปอร์เซ็นต์ พร้อมรับคูปองส่วนลดสูงสุดอีก 900 บาท

การลดราคาครั้งใหญ่ประจำปีของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ในครั้งนี้ เป็นการลดราคาในกลุ่มผลิตภัณฑ์สุดฮิต ที่ทุกบ้านจำเป็นต้องมี อาทิ …

สวิตช์ เต้ารับ AvatarOn A ไร้กรอบตอบโจทย์ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานของแผงสวิตช์ เต้ารับ ในแบบฉบับความต้องการของตัวเองได้ง่ายๆ

ตู้ไฟ 4.0 ที่มีคิวอาร์โค้ด บอกประวัติการซ่อมบำรุงและการติดตั้ง ที่มีการพลิกโฉมตู้ไฟแบบเดิมๆ ให้คูลยิ่งขึ้น

เครื่องสำรองไฟ (UPS) ที่เอาไว้ใช้เพื่อรองรับอุปกรณ์ไฮเทคในบ้านเพื่อการใช้งานที่ต่อเนื่องเวลาไฟตก หรือไฟดับ

เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าอัตโนมัติ(AVR) ช่วยถนอมอุปกรณ์ไฟฟ้าจากไฟตกและไฟกระพริบ ช่วยให้กกระแสไฟนุ่มนวลขึ้น

โดยผลิตภัณฑ์ที่นำมาจัดโปรโมชั่นในครั้งนี้เป็นผลิตภัณฑ์ขายดีของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ในหมวดผลิตภัณฑ์สำหรับบ้านและจำเป็นสำหรับบ้านในยุคปัจจุบัน ที่ชไนเดอร์ อิเล็คทริค มุ่งพัฒนามาเพื่อตอบโจทย์ที่พักอาศัยในยุค 4.0 เพียบพร้อมทั้งดีไซน์ และฟีเจอร์ในการใช้งาน เตรียมช้อปได้แล้ว เริ่มวันที่ 12 เดือน 12 นี้ ยาวไปถึงสิ้นเดือน!!!


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดตัว ตู้เสริมสำหรับโหลดเซ็นเตอร์จากชไนเดอร์ อิเล็คทริค รองรับชีวิตอนาคต

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดตัว  Extension Box หรือตู้เสริมสำหรับโหลดเซ็นเตอร์ และตู้ไฟ เพื่อต่อขยายอุปกรณ์ เบรกเกอร์ และกันดูด รวมไปถึงอุปกรณ์รางดิน (Din rail) เพื่อการรองรับการเพิ่มเติมอุปกรณ์ไฟฟ้าไฮเทคในบ้านที่ต้องการความปลอดภัยในระดับสูงสุด เมื่อมีการปรับแต่งบ้านหรือเพิ่มเติมเทคโนโลยียุคใหม่ในบ้าน เช่น อีวีชาร์จเจอร์ สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจะต้องติดตั้ง อุปกรณ์กันไฟดูด Type B EV หรือ หากมีการติดตั้งเครื่องน้ำอุ่น 3 เฟส ต้องติดตั้งกันดูด 3 เฟสด้วย ซึ่งเป็นกฎข้อบังคับของทางการไฟฟ้า เพื่อความปลอดภัยของประชาชน หรือแม้แต่การแต่งบ้านจากโครงการบ้านจัดสรรที่ทางโครงการไม่ได้เผื่อพื้นที่ในตู้โหลดเซ็นเตอร์ หรือตู้ไฟ สำหรับเบรกเกอร์ และกันดูดไว้สำหรับเพื่อติดตั้งอุปกรณ์อื่นๆ ในอนาคต หรือการเพิ่มความปลอดภัยด้วยอุปกรณ์กันไฟกระชาก ป้องกันแรงดันส่วนเกินจากฟ้าผ่า (Surge Protection) ฯลฯ Extension box ยังช่วยให้สามารถติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันต่างๆ ได้ง่ายขึ้นในอนาคต รวมไปถึงการติดตั้งพาวเวอร์มิเตอร์ ที่ช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถเช็คสถานะการเปิด/ปิดไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ที่ไหนก็ได้ผ่านสมาร์ทโฟน ซึ่ง Extension box นับเป็นตู้เสริมสำหรับการรองรับอนาคต 4.0 เลยทีเดียว

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เล็งเห็นความต้องการของผู้พักอาศัยในแบบต่างๆ จึงคิดค้นและพัฒนา Extension Box เป็นตู้เสริมในการขยายความสามารถของตู้โหลดเซ็นเตอร์และตู้คอนซูมเมอร์ยูนิต หรือที่เราเรียกติดปากว่าตู้ไฟ เพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้นให้แก่สมาชิกภายในบ้าน ด้วยดีไซน์ของตู้เสริมที่มีความแข็งแกร่ง ทนทาน ปลอดภัย มีความกลมกลืนกับตู้โหลดเซ็นเตอร์เดิมได้อย่างลงตัว ให้ความสบายตามากว่าการเลือกใช้ตู้เสริมทั่วไป ตัวตู้ประกอบมาจากโรงงาน ให้ความมั่นใจด้วยมาตรฐานยุโรปจากชไนเดอร์ อิเล็คทริค รองรับระบบทุกความปลอดภัยได้อย่างสมบูรณ์

ในปัจจุบัน Extension Box มีให้เลือกทั้งแบบ 1 เฟสและ 3 เฟส ทั้งแบบเสริมต่อจากตู้โหลดเซ็นเตอร์ และตู้ไฟ ช่วยประหยัดต้นทุนในการซื้อตู้โหลดเซ็นเตอร์ หรือตู้ไฟเพิ่มอีก 1 ตัว ซึ่งมีราคาสูงเกินความจำเป็นเมื่อไม่ได้ใช้งาน และประหยัดพื้นที่ใช้สอยอีกด้วย


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

AvatarOn A จากชไนเดอร์ อิเล็คทริค คว้ารางวัลแบรนด์ยอดเยี่ยมแห่งปี

ผลิตภัณฑ์ AvatarOn A จากชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย คว้ารางวัลแบรนด์ยอดเยี่ยมแห่งปี ในสาขา Best Home Solution Influencer Campaign จากงาน Thailand Influencer Awards 2021 ที่จัดขึ้นโดยบริษัท เทลสกอร์ จำกัด (Tellscore) โดยการจับมือกับ Influencer ในการพลิกโฉมวงการสวิตช์ไฟ สำหรับบ้าน และที่พักอาศัยยุคใหม่ ด้วยสวิตช์ เต้ารับ AvatarOn A ที่ไร้กรอบ ตอบโจทย์ทุกดีไซน์ อย่างแท้จริง ด้วยนวัตกรรมของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ที่ออกแบบให้ AvatarOn A กลายเป็นสวิตช์ไฟ ที่ให้ผู้บริโภคมีอิสระในการดีไซน์สไตล์การใช้งานเองได้ในแบบฉบับของตน ทำให้กวาดกระแสความนิยมในโลกโซเชี่ยลไปได้อย่างท่วมท้น

นายกุศล กุศลส่ง รองประธานกลุ่มธุรกิจ Home and Distributions ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประเทศไทย  กล่าวว่า รางวัลแบรนด์ยอดเยี่ยมแห่งปี ในสาขา Best Home Solution Influencer Campaign นับเป็นความภาคภูมิใจของเราในการนำเสนอนวัตกรรมที่ฉีกกรอบสวิตช์ไฟและเต้ารับแบบเดิมๆ แต่สิ่งที่เราภูมิใจยิ่งกว่าการได้รับรางวัลนี้คือ การทำให้ผู้บริโภคสามารถมีทางเลือกในการออกแบบสวิตช์ไฟ และเต้ารับ ได้ด้วยตัวเอง ตามสไตล์ที่ตัวเองชื่นชอบ ด้วยความง่ายแบบ plug and play ในราคาที่จับต้องได้ หาซื้อง่ายได้ตามร้านไฟฟ้าทั่วประเทศและช่องทางออนไลน์ทั้ง Shopee และ Lazada ซึ่งมีการจัดแคมเปญและโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในแบบของตนอีกเช่นกัน

เกี่ยวกับชไนเดอร์ อิเล็คทริค

เป้าหมายของชไนเดอร์ อิเล็คทริค คือการช่วยให้ทุกคนใช้พลังงานและทรัพยากรได้เกิดประโยชน์สูงสุด เชื่อมโยงความก้าวหน้าและความยั่งยืนเพื่อประโยชน์ของทุกคน เราเรียกสิ่งนี้ว่า Life Is On

ภารกิจของเราคือการเป็นพันธมิตรด้านดิจิทัลกับคุณ เพื่อสร้างประสิทธิภาพและความยั่งยืน

เราขับเคลื่อนการปฏิรูปสู่ดิจิทัล ด้วยการผสานรวมเทคโนโลยีชั้นนำของโลกด้านพลังงานและกระบวนการจัดการ เข้ากับผลิตภัณฑ์ตั้งแต่จุดเชื่อมต่อปลายทางไปยังคลาวด์ ระบบควบคุม รวมถึงซอฟต์แวร์และการบริการครอบคลุมตลอดวงจรชีวิตการทำงานทั้งหมด เพื่อสร้างศักยภาพในการบริหารจัดการองค์กรแบบบูรณาการ ทั้งสำหรับบ้าน อาคาร ดาต้าเซ็นเตอร์ ระบบโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรม

เราคือบริษัทระดับโลกที่มีการดำเนินงานในระดับท้องถิ่นมากที่สุด เราสนับสนุนมาตรฐานระบบเปิดและระบบนิเวศของคู่ค้าที่มีความมุ่งมั่นแรงกล้าในการทำตามวัตถุประสงค์อย่างมีเป้าหมายร่วมกัน และคุณค่าในการรวมกันเป็นหนึ่งเดียวพร้อมขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยกัน


Exit mobile version