Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

MSC คว้า 3 รางวัลใหญ่จากงาน IBM Executive Partner Connect 2023

บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MSC คว้า 3 รางวัลใหญ่ ได้แก่ รางวัล “2022 Software Partner of the Year”, “2022 Top Automation Solution Partner” และ “2022 Top Data & AI Solution Partner” ในงาน “IBM Executive Partner Connect 2023” ภายใต้ธีม “Plus is More” ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ณ สามย่าน มิตรทาวน์ ฮอลล์

โดย คุณสุรเดช เลิศธรรมจักร์ กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจซอฟต์แวร์โซลูชั่น ขึ้นรับรางวัล 2022 Software Partner of the Year” จาก คุณสุรฤทธิ์ วูวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มเทคโนโลยี บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด คุณอาทิตย์ แตงตาด รองกรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจซอฟต์แวร์โซลูชั่น ขึ้นรับรางวัล 2022 Top Automation Solution Partner” และ คุณสุชาดา ปิ่นทองพันธ์ รองกรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจซอฟต์แวร์โซลูชั่น ขึ้นรับรางวัล 2022 Top Data & AI Solution Partner” จาก คุณภาวศุทธิ ศรีวิโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจไอบีเอ็ม ซอฟต์แวร์ บริษัท ไอบีเอ็มประเทศไทย จำกัด

บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2529 เป็นเวลากว่า 3 ทศวรรษ บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจด้วยการเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “ไอบีเอ็ม” และเป็นคู่ค้ารายแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ “เราจะให้บริการอย่างเป็นเลิศแก่ลูกค้าด้วยโซลูชั่นไอทีที่ดีที่สุด” พร้อมมุ่งมั่นร่วมมือนำเทคโนโลยี และความเชี่ยวชาญ เข้าสนับสนุนก้าวย่าง Digital Transformation และ Modernization ขององค์กรไทยที่เป็นรากฐานสำคัญของวันนี้ และอนาคต เพื่อความเติบโตทางธุรกิจของลูกค้าต่อไป


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ออฟฟิศเมท MEGA GRAND SALE คุ้มยืน 1 เพื่อทุกธุรกิจ

ออฟฟิศเมท และ ออฟฟิศเมท พลัส ในเครือเซ็นทรัล รีเทล พร้อมแบ่งเบาค่าใช้จ่ายให้จัดซื้อองค์กรและผู้ประกอบการ SME ประหยัดจัดเต็ม กับแคมเปญ “OfficeMate MEGA GRAND SALE คุ้มยืน 1 เพื่อทุกธุรกิจ” ตอกย้ำความคุ้มกว่าครั้งไหนๆ ด้วยกองทัพสินค้าลดราคาสุดพิเศษ ทั้งอุปกรณ์สำนักงาน กระดาษ ไอที อิเล็กทรอนิกส์ เฟอร์นิเจอร์ และของใช้ในธุรกิจต่างๆ พร้อมบริการจัดส่งฟรีเมื่อช้อปตามกำหนด ตลอดเดือนพฤษภาคม 2566

ลดต้นทุนคุมค่าใช้จ่ายได้เต็มที่…อุปกรณ์และเครื่องใช้สำนักงานแบรนด์ดังราคาสุดคุ้ม เลือกช้อปได้ทั้งสินค้าราคาพิเศษ ลดสูงสุด 68%, สินค้าซื้อ 1 แถม 1, กรอกรหัสรับส่วนลดเพิ่ม และรับฟรีของแถมเมื่อช้อปสินค้าที่กำหนด และสำหรับผู้ประกอบการ SME ที่เน้นความประหยัดขั้นสุด พลาดไม่ได้กับ “สินค้า Save Pack ซื้อยกแพ็คประหยัดกว่า” รวมสินค้าขวัญใจ SME ราคาต่อหน่วยสุดคุ้ม! มากกว่า 150 รายการ ทั้งเครื่องเขียน อุปกรณ์สำนักงาน ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เพียงมองหาสัญลักษณ์ “Save Pack” ก็มั่นใจได้กับความคุ้มค่า

สำหรับลูกค้านิติบุคคล ออฟฟิศเมทยินดีมอบเครดิตเทอมนาน 30 วัน  ให้คุณช้อปสินค้าไปใช้ก่อน จ่ายเงินทีหลัง…ช้อปสบายๆ ได้ทุกช่องทางการขาย ทั้งที่ร้านออฟฟิศเมท และออฟฟิศเมท พลัส ทุกสาขา หรือช้อปออนไลน์ได้ง่ายๆ ที่ OFM Mobile App เว็บไซต์ www.ofm.co.th หรือ Chat & Shop ที่ Line: @OfficeMate และ Contact Center 1281 ออฟฟิศเมทบริการจัดส่งฟรีเมื่อช้อป 499.- ตามกำหนด


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

“อาหารโฮลมีลเพียวเร่” วิจัยเทคโนฯ มข.คว้ารางวัล Silver Medal บนเวทีระดับโลก

นักวิจัยคณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำนวัตกรรม “อาหารโฮลมีลเพียวเร่พร้อมทาน” คว้ารางวัล Silver Medal บน เวทีระดับโลก หวังเดินหน้าพัฒนาบุกตลาดอาหารทางการแพทย์ระดับ Worldwide

ในปัจจุบันทั่วโลกกำลังเข้าสู่ภาวะผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ที่มีภาวะเคี้ยวกลืนลำบาก เช่น ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยมะเร็งศีรษะและลำคอ ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน และผู้สูงอายุทั่วไป พญ.ภัทรา วัฒนพันธุ์ สาขาวิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงได้เล็งเห็นถึงปัญหาที่ทำให้ผู้ป่วยต้องเผชิญความยากลำบากในการใช้ชีวิต นำมาสู่การทำวิจัยร่วมกันกับ ดร.พิมพ์นิภา หิรัณย์สร คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยขอนแก่น และทีมวิจัยประกอบด้วย นางสาวนหทัย ตั้งภัทรนันท์ และนางสาวปาณิสรา พลดี จนเกิดเป็นนวัตกรรม “อาหารโฮลมีลเพียวเร่” พร้อมทาน สำหรับผู้ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ

ดร.พิมพ์นิภา ระบุว่า นวัตกรรม  “อาหารโฮลมีลเพียวเร่พร้อมทาน สำหรับผู้ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ” ได้รับการคัดเลือกจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เพื่อไปนำเสนอผลงานวิจัยบนเวที The 48th International Exhibition of Inventions Geneva ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-30 เมษายน 2566 เป็นการจัดแสดงผลงานนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์กว่า 1,000 ผลงาน จากมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก และสามารถคว้ารางวัล Silver Medal มาครอง

โฮลมีลเพียวเร่เป็นอาหารสุขภาพที่ออกแบบมาเพื่อผู้ป่วยและผู้ต้องการฟื้นฟูร่างกาย โดยใช้วัตถุดิบ Plant-Based 100 % ไม่มีส่วนผสมจากสัตว์ มีพรีไบโอติก ให้คุณค่าทางโภชการและพลังงานสูง ทานน้อยแต่ได้สารอาหารครบถ้วน

ขณะเดียวกัน โฮลมีลเพียวเร่ ได้รับการรับรองจากแพทย์ว่ามีเนื้อสัมผัสที่เหมาะสำหรับการฝึกกลืนในระดับ และยังมีการออกแบบรสชาติที่ช่วยกระตุ้นน้ำลายให้กลืนง่ายขึ้น ซึ่งจะเป็นตัวช่วยสำคัญให้ผู้ดูแลผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุเตรียมอาหารได้โดยง่ายและสะดวกเพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มาในรูปแบบพร้อมรับประทาน เก็บได้นานโดยไม่ต้องแช่เย็น

ทั้งนี้ ปัจจุบัน โฮลมีลเพียวเร่ ได้จดเครื่องหมายการค้า “SAMADUL” นับเป็นก้าวสำคัญของการขยายผลงานวิจัย สู่นวัตกรรมเชิงพาณิชย์ ซึ่งการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาผลงานวิจัยสู่นวัตกรรมเชิงพาณิชย์นี้นับเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของยุทธศาสตร์ว่าด้วยการปรับเปลี่ยนงานวิจัยที่คณะเทคโนโลยีนำโดย ผศ.ดร.อารยา เชาว์เรืองฤทธิ์ คณบดี และการผลักดัน ภายใต้การสนับสนุนของฝ่ายนวัตกรรม โดย ศ.ดร.ธิดารัตน์ บุญมาศ รองอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและวิสาหกิจ มข. และคุณจิราภรณ์ เหลืองไพรินทร์ ผู้อำนวยการศูนย์ทรัพย์สินทางปัญญา มข. ร่วมสนับสนุนให้เกิดการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยเชิงประจักษ์ ส่งมอบคุณค่าสู่สังคมดังปณิธานของมหาวิทยาลัยขอนแก่น 


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

มจพ.จัดแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศลสนับสนุนทีมหุ่นยนต์กู้ภัยแข่งขัน World Robocup Rescue 2023

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ( มจพ.)  ร่วมกับสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยี

พระจอมเกล้าพระนครเหนือในพระบรมราชูปถัมภ์ กำหนดจัดแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศล ในวันอาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคม  2566   blu-O-RHYTHM & BOWL  ชั้น 4 เอสพลานาด งามวงศ์วานแคราย โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อจัดหารายได้สนับสนุนทีมหุ่นยนต์กู้ภัยของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ( มจพ.)  โดยเข้าร่วมการแข่งขัน World Robocup Rescue 2023 ระหว่างวันที่ 4-10 กรกฎาคม 2566 ณเมืองบอร์โดสาธารณรัฐฝรั่งเศส

เปิดรับสมัครประเภททีมต่างๆเข้าร่วมการแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศลตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 หรือสมัครในวันแข่งขัน  ค่าสมัคร ทีมกิตติมศักดิ์ ทีมละ 30,000 บาท / ทีมทั่วไป ทีมละ 10,000 บาท (สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า)   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครได้ที่  นางสาววิไลวรรณ หาดี  โทร. 081-136-9999  นางสาวจตุพร  คีมนารักษ์ โทร. 087-054-4579  นางสาวเบญจมาศ  จงรักษ์  โทร. 089-212-4335   หรือที่เว็บไซต์ www.kmutnb.ac.th  และกลุ่มงานการเงิน กองคลัง สำนักงานอธิการบดี มจพ.  โทร. 0-2555-2000 ต่อ 1602-1605 โทรสาร 0-2555-2094

ขวัญฤทัย ข่าว


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ซิสโก้เปิดตัวโซลูชันใหม่ ตรวจจับภัยคุกคามทางไซเบอร์ขั้นสูงอย่างรวดเร็วและตอบสนองอัตโนมัติ

กรุงเทพฯ – 26 เมษายน 2566 — ซิสโก้ (NASDAQ: CSCO) ผู้นำด้านระบบเครือข่ายและการรักษาความปลอดภัยระดับองค์กร เผยความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของ Cisco Security Cloud ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มรักษาความปลอดภัยแบบ cross-domain ที่ขับเคลื่อนด้วย AI  โดยซิสโก้ได้เปิดตัวโซลูชันใหม่ XDR รวมถึงฟีเจอร์ขั้นสูงสำหรับ Duo MFA ที่จะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถปกป้องความสมบูรณ์ของอีโคซิสเต็มส์ทางไอทีทั้งหมดได้ดียิ่งขึ้น

การตรวจจับภัยคุกคามและการตอบสนอง

กลยุทธ์ XDR ของซิสโก้ผสานรวมความเชี่ยวชาญที่ลึกล้ำ และความสามารถในการตรวจสอบทั่วทั้งเครือข่ายรวมถึงอุปกรณ์ปลายทางเข้าไว้ในโซลูชันครบวงจรแบบ risk-based เพียงหนึ่งเดียว ด้วยขณะนี้ Cisco XDR อยู่ในรุ่นเบต้า และมีแผนที่จะวางจำหน่ายทั่วไปในเดือนกรกฎาคม 2566 โดยโซลูชันนี้จะช่วยให้การตรวจสอบเหตุการณ์ง่ายขึ้น และช่วยให้ศูนย์ปฏิบัติการด้านความปลอดภัย (SOC) สามารถแก้ไขปัญหาภัยคุกคามได้ทันที  โซลูชันที่ทำงานบนระบบคลาวด์เป็นหลักนี้ใช้ระบบวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อจัดลำดับความสำคัญในการตรวจจับ และเปลี่ยนย้ายจุดสนใจจากเดิมที่มุ่งเน้นการตรวจสอบอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ไปสู่การแก้ไขเหตุการณ์ที่มีความสำคัญสูงสุดโดยใช้ระบบอัตโนมัติที่มีหลักฐานสนับสนุน (evidence-backed automation)

จีทู พาเทล รองประธานบริหารและผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายระบบรักษาความปลอดภัยและการทำงานร่วมกันของซิสโก้ กล่าวว่า “สถานการณ์ด้านภัยคุกคามมีความซับซ้อนและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง  การตรวจจับโดยไม่มีการตอบสนองถือเป็นมาตรการที่ไม่เพียงพอ ขณะที่การตอบสนองโดยปราศจากการตรวจจับเป็นสิ่งที่ไม่อาจทำได้  โซลูชัน Cisco XDR จะช่วยให้ทีมงานฝ่ายปฏิบัติการด้านความปลอดภัยสามารถตอบสนองและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงที ก่อนที่จะลุกลามจนก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง  ซิสโก้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับการปกป้องคุ้มครองทุกการเชื่อมต่อ  ด้วยโซลูชันแบบครบวงจรที่ไม่เหมือนใครเพื่อช่วยลดความยุ่งยากซับซ้อนในการรักษาความปลอดภัยให้กับสภาพแวดล้อมไอทีแบบไฮบริดในปัจจุบันที่มีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่ลดทอนประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้”

ขณะที่เทคโนโลยี Security Information and Event Management (SIEM) แบบดั้งเดิมให้การจัดการข้อมูลที่เน้นไปที่การบันทึกข้อมูลและการวัดผลในเวลาหลายวัน Cisco XDR จะมุ่งเน้นไปที่ข้อมูลด้านการตรวจจับระยะไกลอัตโนมัติ (telemetry-centric) โดยให้ผลลัพธ์ในเวลาไม่กี่นาที เทคโนโลยีนี้สามารถวิเคราะห์และเชื่อมโยงแหล่งข้อมูล telemetry 6 แห่งที่ศูนย์ปฏิบัติการด้านความปลอดภัย (SOC) แจ้งว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับโซลูชัน XDR นั่นคือ อุปกรณ์ปลายทาง, เครือข่าย, ไฟร์วอลล์, อีเมล, การตรวจสอบตัวตน และชื่อโดเมน โดยเฉพาะอุปกรณ์ปลายทาง  Cisco XDR ใช้ประโยชน์จากอินไซต์ของอุปกรณ์ปลายทางกว่า 200 ล้านเครื่องด้วย Cisco Secure Client (ก่อนหน้านี้เรียกว่า AnyConnect) เพื่อสามารถมองเห็นการเชื่อมต่อได้อย่างชัดเจนในระดับ process-level ระหว่างอุปกรณ์ปลายทางและเครือข่าย

แฟรงค์ ดิ๊กสัน รองประธานกลุ่ม Security & Trust ของไอดีซี กล่าวว่า “คุณประโยชน์ที่แท้จริงของ XDR คือความสามารถในการส่งมอบผลลัพธ์ด้านความปลอดภัยที่เป็นรูปธรรม และสามารถวัดผลได้สำหรับองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการตรวจจับภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงที การจัดลำดับความสำคัญของผลกระทบ หรือการตอบสนองที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง  ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมจะต้องสามารถวัดผลได้ในเชิงปริมาณในรูปแบบของตัวเลข ไม่ใช่แค่การอธิบายเชิงคุณภาพด้วยถ้อยคำที่กล่าวลอยๆ  โซลูชัน Cisco XDR นำเสนอเฟรมเวิร์กที่ชัดเจน ซึ่งจะช่วยให้องค์กรสามารถบรรลุผลลัพธ์ที่จับต้องได้อย่างแท้จริง”

นอกเหนือจากการตรวจจับระยะไกลแบบเนทีฟของซิสโก้แล้ว Cisco XDR ยังผสานรวมกับบริษัทชั้นนำ (third-party vendors) เพื่อแบ่งปัน telemetry เพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกัน และส่งมอบผลลัพธ์ที่สอดคล้องกันโดยไม่ขึ้นกับเวนเดอร์หรือเทคโนโลยี ในเบื้องต้นการผสานรวมแบบ out-of-the-box ที่พร้อมใช้งานทั่วไปประกอบด้วย:

  • การตรวจจับและตอบสนองบนอุปกรณ์ปลายทาง (EDR): CrowdStrike Falcon Insight XDR, Cybereason Endpoint Detection and Response, Microsoft Defender for Endpoint, Palo Alto Networks Cortex XDR, SentinelOne Singularity, Trend Vision One
  • การป้องกันภัยคุกคามทางอีเมลMicrosoft Defender for Office, Proofpoint Email Protection
  • Next-Generation Firewall (NGFW): Check Point Quantum, Palo Alto Networks Next-Generation Firewall
  • การตรวจจับและตอบสนองบนเครือข่าย (NDR): Darktrace DETECT™ and Darktrace RESPOND™, ExtraHop Reveal(x)
  • ข้อมูลความปลอดภัยและการจัดการเหตุการณ์ (SIEM): Microsoft Sentinel

แบรด ดาเวนพอร์ท, รองประธานฝ่ายสถาปัตยกรรมทางเทคนิคของ Logicalis กล่าวว่า “ตลอดการเดินทางของ Logicalis ในการเป็น Integrator ระดับโลกนั้น เราตระหนักถึงผลกระทบที่เป็นไปได้และประสิทธิภาพของทุกโซลูชัน ด้วยการเปิดตัว Cisco XDR เราสามารถทำให้ลูกค้าของเราได้รับ XDR outcomes ในรูปแบบของโซลูชันหรือการบริการจัดการที่เป็นความก้าวหน้าในอีกระดับของ security maturity journey ทาง Logicalis หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะนำความเชี่ยวชาญของเราทำงานให้กับลูกค้า และให้ Cisco XDR ช่วยให้พวกเขาบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ”

Zero Trust และการจัดการการเข้าถึง

เนื่องจากผู้โจมตีมุ่งเป้าไปที่ช่องว่างในการใช้งานระบบยืนยันตัวตนแบบ Multi-Factor Authentication – MFA ซิสโก้ได้กำหนดนิยามใหม่ให้กับสิ่งที่จำเป็นในการจัดการการเข้าถึง ทุกธุรกิจต้องการเสาหลักสามประการสำหรับกลยุทธ์การจัดการการเข้าถึงนั่นคือ: การบังคับใช้การพิสูจน์ตัวตนที่รัดกุม, การยืนยันอุปกรณ์ และลดจำนวนรหัสผ่านที่ใช้งาน ด้วยเหตุนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ซิสโก้จึงเพิ่ม Trusted Endpoints ให้กับ Duo Editions แบบชำระเงินทั้งหมด ซึ่งก่อนหน้านี้มีเพียงระดับสูงสุดของ Duo เท่านั้น Trusted Endpoints อนุญาตให้เฉพาะอุปกรณ์ที่ลงทะเบียนหรืออุปกรณ์ที่มีการจัดการเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงทรัพยากรได้ ด้วยการส่งมอบ Trusted Endpoints ร่วมกับ Single Sign On, MFA, Passwordless และ Verified Push ในรุ่นเริ่มต้น Duo Essentials ทำให้ซิสโก้สามารถมอบโซลูชันการจัดการการเข้าถึงที่คุ้มค่า ปลอดภัยมากที่สุด และเป็นโซลูชัน access management ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Cisco.com/go/security


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

AMD เปิดตัวโปรเซสเซอร์ใหม่ Ryzen Z1 และ Ryzen Z1 Extreme เกมมิ่งโปรเซสเซอร์ประสิทธิภาพสูงสำหรับเครื่องเกมคอนโซล PC แบบพกพา

ด้วยคอร์ประมวลผล 8 คอร์ 16 เธรด และแคชขนาด 24MB ทำให้โปรเซสเซอร์ Ryzen Z1 Series มอบประสบการณ์การเล่นเกมในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมได้อย่างยอดเยี่ยม รวมไปถึงอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน ด้วยเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมการผลิต “Zen 4” ที่มาพร้อมสถาปัตยกรรมด้านกราฟิก AMD RDNA 3 ภายใน เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการประสิทธิภาพด้านการเล่นเกมระดับสูง ด้วยอัตราเฟรมเรตที่เหนือระดับพร้อมภาพการแสดงผลที่คมชัด

โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen Z1 จะวางจำหน่ายผ่านผลิตภัณฑ์เครื่องเกมพกพา Asus ROG Ally เป็นเครื่องแรก ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความพร้อมในการวางจำหน่ายและราคาจะประกาศโดย Asus ในวันที่ 11 พฤษภาคม ศกนี้ หรือสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรเซสเซอร์ Ryzen Z1 ได้ที่เว็บไซต์


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

พานาโซนิคเปิดบูธโชว์ผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นส์ เพื่อการใช้ชีวิตแบบครบวงจรในงานสถาปนิก’66

เมื่อเร็วๆ นี้ มร.ฮิเดคาสึ อิโตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พานาโซนิค โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมด้วย มร.เรียวอิจิ ทาคิซากิ รองกรรมการผู้จัดการฯ และ มร.ฮิซาคาสึ มาเอดะ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด คอนเนค มาร์เก็ตติ้ง นำผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นส์ที่พร้อมตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนในยุคปัจจุบันมาร่วมจัดแสดงในงาน สถาปนิก’66 (architect expo 2023) งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน

โดยในครั้งนี้ ที่บูธพานาโซนิค ได้มีการนำผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นส์เพื่อให้ผู้คนได้ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยและมีคุณภาพมากขึ้นมานำเสนอ ถึง 3 โซน อาทิ Wiring Zone ผลิตภัณฑ์กลุ่มปลั๊กและสวิตช์ ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานด้านความปลอดภัย, Housing Zone ผลิตภัณฑ์ด้านสุขภัณฑ์ A-La-Uno และพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ที่มีนวัตกรรมเพื่อยกระดับด้านสุขอนามัยของผู้คนโดยเฉพาะ และ HVAC ZONE ผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศและพัดลมระบายอากาศ ที่มีเทคโนโลยี nanoe, nanoeX และล่าสุดกับ Ziaino เครื่องยับยั้งเชื้อโรคในอากาศด้วยไฮโปคลอรัส พร้อมจัดการด้านอากาศที่เหมาะสมและปลอดภัยให้กับอาคาร สำนักงาน รวมถึงที่อยู่อาศัยได้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังมีทีมผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำข้อมูลผลิตภัณฑ์ได้อย่างครบถ้วน ที่สำคัญภายในงานยังพบกับโปรโมชั่นพิเศษจากผลิตภัณฑ์ปลั๊กพ่วงและผลิตภัณฑ์ด้านสุขภัณฑ์-พื้นไม้ที่คัดสรรมาเพื่อผู้เข้าชมในงานโดยเฉพาะ

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นส์ของพานาโซนิคได้ตั้งแต่ วันที่ 25-30 เมษายน 2566 ที่ บูธ เลขที่ L102 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ซีเมนส์และไมโครซอฟท์ ร่วมขับเคลื่อนศักยภาพภาคอุตสาหกรรมผ่านเทคโนโลยี Generative AI

กรุงเทพฯ ประเทศไทย | 24 เมษายน 2566 — ซีเมนส์และไมโครซอฟท์ร่วมมือดึงศักยภาพเทคโนโลยี Generative AI มาช่วยธุรกิจในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ให้สามารถนำเทคโนโลยีไปใช้ขับเคลื่อนนวัตกรรมและเพิ่มประสิทธิภาพ ตั้งแต่การออกแบบ กระบวนการด้านวิศวกรรม การผลิต รวมถึงการดำเนินงานในวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ เพื่อยกระดับการทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ

โดยหลายบริษัทกำลังนำซอฟต์แวร์ Teamcenter® ของซีเมนส์ซึ่งเป็นโซลูชันทางด้านการจัดการวงจรผลิตภัณฑ์ (Product Lifecycle Management หรือ PLM) ไปทำงานร่วมกับ Teams ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการทำงานร่วมกันของไมโครซอฟท์ และใช้โมเดลภาษาใน Azure OpenAI Service รวมไปถึงความสามารถทางด้านอื่น ๆ ของ Azure AI

ที่งานแสดงสินค้าทางเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก – Hannover Messe ที่เพิ่งเสร็จสิ้นไป ซีเมนส์และไมโครซอฟท์แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยี Generative AI สามารถช่วยยกระดับระบบอัตโนมัติและการดำเนินงานภายในโรงงาน ผ่านการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ การรายงานปัญหาและการตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์จากการประมวลผลข้อมูลรูปภาพ

สก็อตต์ กูทรี รองประธานบริหารด้านเทคโนโลยีคลาวด์และ AI ของไมโครซอฟท์ กล่าวว่า “การผสานรวมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เข้ากับแพลตฟอร์มทางเทคโนโลยีต่าง ๆ จะเปลี่ยนวิถีการทำงานและวิธีดำเนินงานของทุกธุรกิจไปอย่างสิ้นเชิง การร่วมมือกับซีเมนส์ทำให้เราสามารถนำศักยภาพของ AI ไปใช้ในองค์กรอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งช่วยลดขั้นตอนที่ซับซ้อนของกระบวนการดำเนินงาน ทำลายกำแพงการทำงานแบบไซโล เพิ่มการทำงานร่วมกันอย่างเปิดกว้างมากขึ้น เพื่อเร่งพัฒนานวัตกรรมที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง”

แอปพลิเคชั่นสำหรับการทำงานร่วมกันที่ขับเคลื่อนด้วย AI เชื่อมต่อการทำงานระหว่างพนักงานในส่วนการผลิตกับส่วนอื่น ๆ

ด้วยศักยภาพของแอปฯ ใหม่ใน Teamcenter สำหรับ Microsoft Teams ที่คาดว่าจะเปิดตัวในปีนี้ จะช่วยให้วิศวกรด้านการออกแบบ พนักงานส่วนหน้างาน และทีมอื่น ๆ ในองค์กรสามารถทำงานและแก้ปัญหาร่วมกันได้อย่างราบรื่นขึ้น ตัวอย่างเช่น วิศวกรฝ่ายบริการหรือฝ่ายผลิตสามารถใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่จดบันทึกและรายงานเกี่ยวกับการออกแบบผลิตภัณฑ์หรือข้อกังวลด้านคุณภาพโดยใช้ภาษาพูด ด้วยความสามารถของ Azure OpenAI Service แอปฯ สามารถวิเคราะห์ข้อมูลคำพูดที่ไม่เป็นทางการ สร้างรายงานสรุปโดยอัตโนมัติและบันทึกเข้าสู่ระบบ Teamcenter เพื่อแจ้งไปยังผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบทางด้านวิศวกรรมหรือทางด้านการผลิตได้อย่างเหมาะสม เพื่อสนับสนุนให้การมีส่วนร่วมเป็นไปได้อย่างง่ายดายขึ้น พนักงานจะสามารถบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ ในภาษาพูด ที่จะได้รับการแปลเป็นภาษาทางการที่ใช้ภายในบริษัทด้วย Microsoft Azure AI โดย Microsoft Teams

นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติอื่น ๆ ที่ใช้งานง่าย อาทิ การแจ้งเตือนเพื่อลดความซับซ้อนของการอนุมัติในกระบวนการทำงาน ลดเวลาที่ใช้ในการร้องขอการเปลี่ยนแปลงด้านการออกแบบ และเพิ่มความเร็วของวงจรนวัตกรรม แอปฯ Teamcenter สำหรับ Microsoft Teams สามารถช่วยให้พนักงานหลายล้านคนที่ไม่สามารถเข้าถึงเครื่องมือ PLM ในปัจจุบัน สามารถส่งข้อมูลผลกระทบด้านการออกแบบและกระบวนการผลิตได้ง่ายขึ้นโดยจะเป็นส่วนหนึ่งของเวิร์กโฟลว์การทำงานที่มีอยู่

วิศวกรรมซอฟต์แวร์อัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยให้โรงงานดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง

ซีเมนส์และไมโครซอฟท์ยังร่วมมือกันเพื่อช่วยนักพัฒนาซอฟต์แวร์และวิศวกรระบบอัตโนมัติเพิ่มความเร็วในการพัฒนาโค้ดสำหรับ Programmable Logic Controllers (PLC) ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ในระดับอุตสาหกรรมที่ควบคุมเครื่องจักรส่วนใหญ่ในโรงงานทั่วโลก โดยได้สาธิตให้เห็นแนวคิดว่า ChatGPT ของ OpenAI และ Azure AI Service อื่น ๆ จะสามารถส่งเสริมโซลูชันวิศวกรรมระบบอัตโนมัติในทางอุตสาหกรรมของซีเมนส์ได้อย่างไร ซึ่งการสาธิตแสดงให้เห็นว่าทีมวิศวกรสามารถลดเวลาและความน่าจะเป็นของข้อผิดพลาดได้อย่างมาก โดยการสร้างรหัส PLC ผ่านการป้อนข้อมูลด้วยภาษาที่ใช้สื่อสารโดยทั่วไป (Natural Language) ซึ่งความสามารถเหล่านี้ยังช่วยให้ทีมบำรุงรักษาสามารถระบุข้อผิดพลาดและสร้างโซลูชันของแต่ละขั้นตอนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

เซดริค ไนเค กรรมการบริหาร ซีเมนส์ เอจี (Siemens AG) และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจ Digital Industries กล่าวว่า  “เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงและทรงพลังที่กำลังเกิดขึ้นเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุดสำหรับการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน ซีเมนส์และไมโครซอฟท์ร่วมมือกันเพื่อปรับใช้เครื่องมืออย่าง ChatGPT เพื่อให้เราสามารถสนับสนุนพนักงานในองค์กรทุกขนาดให้ใช้วิธีใหม่ในการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ”

ค้นหาและป้องกันการเกิดข้อบกพร่องในผลิตภัณฑ์ด้วย Industrial AI

การตรวจพบข้อบกพร่องในการผลิตได้ตั้งแต่แรกเริ่ม เป็นเรื่องสำคัญเพื่อป้องกันการปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายสูงและใช้เวลามากขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เชิงอุตสาหกรรม (หรือ Industrial AI) ตัวอย่างเช่น คอมพิวเตอร์วิทัศน์ (Computer Vision) เป็นปัญญาประดิษฐ์ที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลภาพ ช่วยให้ทีมงานควบคุมคุณภาพทำงานได้เร็วขึ้น ระบุความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น และปรับเปลี่ยนได้แบบเรียลไทม์ได้เร็วยิ่งขึ้น ที่งาน Hannover Messe ทีมงานได้สาธิตถึงวิธีการใช้ Microsoft Azure Machine Learning และ Siemens’ Industrial Edge วิเคราะห์ภาพที่ถ่ายด้วยกล้องและวิดีโอ เพื่อนำมาสร้าง ปรับใช้ ทำงาน และตรวจสอบโมเดลการมองเห็นของเทคโนโลยีเอไอ (AI Vision Model) ในพื้นที่การผลิต

ความร่วมมือนี้เป็นส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์ที่ยาวนานกว่า 35 ปีระหว่างซีเมนส์และไมโครซอฟท์ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมกับลูกค้าหลายพันราย และทั้งสองบริษัทยังมีความร่วมมือกันในด้านอื่น ๆ อาทิ การพัฒนาโซลูชัน Senseye on Azure ที่ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถดำเนินงานด้านการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ (Predictive Maintenance) ในระดับองค์กร พร้อมสนับสนุนลูกค้าที่ต้องการโฮสต์แอปพลิเคชันทางธุรกิจของตนไว้ใน Microsoft Cloud เพื่อใช้โซลูชันต่าง ๆ จาก Siemens Xcelerator ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มธุรกิจดิจิทัลแบบเปิดของซีเมนส์ รวมถึงแอปฯ Teamcenter บน Azure นอกจากนี้ซีเมนส์ยังร่วมมือกับไมโครซอฟท์ในการเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ด้าน Zero Trust


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

แพทย์ มข.เตือนเฝ้าระวังโควิด XBB.1.16 แนะกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีน Bivalent

แพทย์ มข.ชี้โควิด-19 สายพันธุ์ XBB.1.16 เป็นสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอน เบื้องต้นพบว่า ติดเชื้อง่ายขึ้น แต่ความรุนแรงไม่ได้เพิ่มขึ้นจากสายพันธุ์เดิม แนะเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง ส่วนกลุ่มเสี่ยงขอให้ประเมินตนเองแล้วฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น Bivalent โดยเร็ว หรือ Walk in มารับวัคซีนได้ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ 19-30 เม.ย.นี้

หลังการเฉลิมฉลองและความสนุกสนานช่วงเทศกาลสงกรานต์ ข่าวโรคระบาดอย่างโควิด-19 ก็กลับมาอีกครั้ง หนึ่งในผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ จ.ขอนแก่น ระบุว่า หลังเทศกาลสงกรานต์คนสนิทติดเชื้อโควิด-19 จึงได้เฝ้าระวังและตรวจหาเชื้อวันแรกก็ยังไม่พบ ก่อนที่วันที่ 2 จะเริ่มมีอาการอ่อนเพลียเล็กน้อย และวันที่ 3 อาการเริ่มชัดเจน อ่อนเพลียมากขึ้น มีไข้สูง 38.5 องศาเซลเซียส จึงตรวจ ATK อีกครั้งแล้วพบว่าติดเชื้อโควิด-19

“หลังจากตรวจพบก็มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย และไข้สูงต่อเนื่อง จึงกินยาลดไข้ตามอาการ โดยซื้อยาเอง และโทรศัพท์ปรึกษาแพทย์ที่โรงพยาบาล”

ผู้ติดเชื้อคนดังกล่าว ระบุอีกว่า แม้จะฉีดวัคซีนซิโนแวคแล้ว 2 เข็ม แอสตร้าเซนเนก้า 1 เข็มแล้ว แต่ครั้งนี้ก็ยังติดเชื้อ โดยเป็นการติดครั้งแรก ซึ่งส่วนตัวก็กังวลกับสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะเมื่อคนใกล้ชิดติด แล้วตัวเองติดด้วย ขณะเดียวกันยังมีรายงานข่าวเกี่ยวกับโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่อีก และคาดว่าหลังเทศกาลสงกรานต์เชื้ออาจจะแพร่กระจายจนทำให้ผู้ติดเชื้อมีปริมาณเพิ่มขึ้น

ขณะที่ ผศ.นพ.วันทิน ศรีเบญจลักษณ์ อายุรแพทย์ด้านโรคติดเชื้อ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า โควิด-19 ที่มีกระแสข่าวว่าเป็นสายพันธุ์ใหม่นั้น ยังเป็นสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอน โดยสายพันธุ์ที่ถูกพูดถึงมาก คือ สายพันธุ์ XBB.1.16 เป็นการกลายพันธุ์เล็ก ๆ น้อย ๆ บริเวณตำแหน่งที่เรียกว่าโปรตีนหนาม ซึ่งอาจทำให้เชื้อมีคุณสมบัติแพร่กระจายได้เร็วขึ้น แต่เบื้องต้น ยังไม่มีข้อมูลว่าก่อให้เกิดโรครุนแรงกว่าสายพันธุ์อื่น

อย่างไรก็ตาม หลังสงกรานต์มีรายงานว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นถึง 158 เท่าในประเทศไทย แต่ต้องย้ำว่า ก่อนสงกรานต์เป็นช่วงที่โรคเงียบสงบ ดังนั้น 158 เท่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ยังเป็นจำนวนหลักร้อยคน

“ข้อมูลเบื้องต้นพบว่า โควิดสายพันธุ์ใหม่ติดเชื้อง่ายขึ้น แต่ความรุนแรงไม่ได้เพิ่มขึ้นจากสายพันธุ์เดิม หากถามว่าต้องกังวลไหม อาจตอบว่า ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ไปก่อน”

ผศ.นพ.วันทิน ระบุอีกว่า อาการของโควิด-19 นั้น อาจจะแยกความแตกต่างกับอาการไข้หวัดใหญ่ได้ยาก เนื่องจากมีอาการใกล้เคียงกัน คือ มีทั้งไข้ มีน้ำมูก เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามตัว และล่าสุดสำหรับสายพันธุ์ XBB.1.16  มีรายงานว่า ผู้ติดเชื้อมีอาการตาแดงด้วย แต่อาการนี้อาจไม่เกิดขึ้นกับทุกคน ซึ่งการตรวจหาเชื้อด้วย ATK ก็ยังสามารถยืนยันการติดเชื้อได้ไม่ว่าจะสายพันธุ์ใด

เช็ก! ใครควรฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น Bivalent  

สำหรับผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 ภายใน 3 เดือน หรือฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกัน จนทำให้ระดับภูมิคุ้มกันสูงมากแล้ว ก็มีโอกาสน้อยที่จะติดเชื้อใหม่ เพราะแม้ว่าเชื้อจะกลายพันธุ์แต่การหลบภูมิคุ้มกันยังไม่โดดเด่น แต่หากติดเชื้อและฉีดวัคซีนนานแล้ว ก็มีโอกาสติดเชื้อซ้ำหรือติดเชื้อใหม่ได้

การป้องกันการติดเชื้อกลายพันธุ์อาจต้องฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นชนิดใหม่ คือ วัคซีน Bivalent  ซึ่งเป็นวัคซีนชนิดผสมกันระหว่างสายพันธุ์อู่ฮั่นและโอมิครอน โดยมีผลข้างเคียงไม่ได้แตกต่างจากวัคซีนชนิดเดิม ซึ่งจะเป็นตัวช่วยลดการติดเชื้อรุนแรงได้

ผศ.นพ.วันทิน  ย้ำว่า หากใครยังมีภูมิคุ้มกันดีก็ให้พิจารณาแล้วแต่บุคคล แต่กลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หรือมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมถึงบุคลากรการแพทย์หน้าด่านที่ต้องดูแลผู้ป่วย และผู้ดูแลผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยติดเตียงที่บ้าน ก็จำเป็นต้องประเมินความเสี่ยงของตัวเองแล้วฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้  หากมีแนวโน้มการระบาดระลอกใหม่ ประชาชนก็ต้องปรับพฤติกรรมเพื่อป้องกันการติดเชื้อโดยสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ ล้างมือบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงที่ชุมชน หรือแออัด ซึ่งมาตรการต่าง ๆ ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในเวลานั้น ๆ

อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพิจารณาแล้วว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง ก็สามารถเดินทางมาฉีดวัคซีนชนิดใหม่ Bivalent ของไฟเซอร์ ที่งานเวชกรรมสังคม ชั้น 2 อาคารเรียนรวม โรงพยาบาลศรีนครินทร์ได้โดยไม่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า ตั้งแต่วันที่ 19-30 เมษายน 2566 ช่วงบ่ายของทุกวัน ยกเว้น วันหยุดราชการ

ข่าว  : ผานิต ฆาตนาค


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

Metro Connect ร่วมมือ IBM จัดงาน Metro Connect & IBM Software Solutions Day

บริษัท เมโทรคอนเนค จำกัด ร่วมกับ บริษัท ไอบีเอ็ม (ประเทศไทย) จำกัด จัดงาน Metro Connect & IBM Software Solutions Day” ในวันที่ 22 มีนาคม 2566 ณ.โรงแรม Nikko Bangkok โดย คุณวรัชญ์ รัตนธรรมมา (คนตรงกลาง),  Assistant Vice President  บริษัท เมโทรคอนเนค จำกัด ให้เกียรติกล่าวเปิดงาน และมีผู้เชี่ยวชาญบรรยายโซลูชั่นต่างๆ ดังต่อไปนี้

คุณธนัช การไว (คนที่สองจากซ้าย), Data and AI Portfolio Brand Technical Specialist จาก บริษัท ไอบีเอ็ม บรรยายในห้วข้อ Data and Al – Data Observability Monitoring Data Pipelines in Databand. Operationalize the immediate detection and resolution of data incidents.Catch issues before they create costly impacts to your business. โดยแสดงถึงความสามารถในการสังเกตข้อมูลเชิงรุกและการจัดการเหตุการณ์ ดําเนินการตรวจจับและแก้ไขเหตุความผิดปกติของข้อมูลต่างๆได้ แบบ Near Real time และ Visualized ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย ทำให้สามารถตรวจจับปัญหาก่อนที่ปัญหาจะสร้างความเสียหายและส่งผลกระทบและก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายสูงต่อกับธุรกิจของลูกค้า

คุณสุพจน์ สมบัติโพธิอุดม (คนที่สามจากขวา), Client Technical Specialist, IBM Software Group, จาก บริษัท ไอบีเอ็ม  บรรยายในห้วข้อ Automation – Discover intelligent solutions from IBM to automate business workflows, seamlessly integrate business systems ซึ่งจะช่วยให้องค์กรสามารถดำเนินธุรกิจสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงอย่างชาญฉลาดและทำงานอย่างต่อเนื่องโดยอัตโนมัติ

คุณพัชร ศรีนิ่มนวล (คนที่หนึ่งจากขวา), Technical Solutions Specialist IBM Security จาก บริษัท ไอบีเอ็ม บรรยายในห้วข้อ Security – Provides enterprise cybersecurity solutions to help you thrive in the face of uncertainty  โดย Security Solution จาก IBM เหล่านี้จะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถบริหารจัดการความเสี่ยงและใช้การรักษาความปลอดภัยแบบบูรณาการสำหรับ Sensitive data, Cloud, End point และข้อมูลที่มีค่าอื่นๆ ขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คุณนพกิตติ์ นวลิขิต (คนที่สองจากขวา), Partner Technology Specialist จาก บริษัท ไอบีเอ็ม บรรยายในห้วข้อ Sustainability – Accelerate sustainability by managing all your environmental, social and governance (ESG) indicators in a single platform ในการมุ่งเน้นที่ความยั่งยืนเป็นเรื่องยากสำหรับธุรกิจส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่ทางเลือกในการนำเป้าหมายความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมไปสู่การปฏิบัติ โดย IBM มีกลยุทธ์และโซลูชันที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะการหาพันธมิตรที่เหมาะสมเพื่อช่วยลูกค้าสร้างแผนงานเชิงกลยุทธ์ที่จะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างผลกำไรได้มากขึ้น

ทั้งนี้ บริษัท เมโทรคอนเนค  เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ IBM Software ได้รับความไว้วางใจให้เป็นส่วนหนึ่งในการขยายตลาดสู่บริษัทคู่ค้า เพื่อตอบสนองความต้องการทางด้านเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงการช่วยเหลือและส่งต่อความรู้ความชำนาญให้แก่บริษัทคู่ค้า เพื่อพัฒนาและต่อยอดโซลูชันที่ตอบโจทย์กับความต้องการของตลาดในปัจจุบัน

สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมติดต่อฝ่ายการตลาด โทร.02-0894880 อีเมล์: mktmcc@metroconnect.co.th Website: https://www.metroconnect.co.th/


Exit mobile version