Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

TOA มอบเงิน 1 ล้าน สมทบทุนจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ให้แก่ รพ.หัวเฉียว

คุณประจักษ์ ตั้งคารวคุณ (กลาง) ประธานกรรมการ บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มอบเงินบริจาคจำนวน 1,000,000 บาท เพื่อสมทบทุนจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ให้แก่ โรงพยาบาลหัวเฉียว โรงพยาบาลเอกชนเพื่อสังคม ในสังกัดมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดยมี คุณกอบชัย ซอโสตถิกุล (ที่ 5 จากขวา) ประธานกรรมการบริหาร ดร.วิเชียร เตชะไพบูลย์ (ที่ 4 จากขวา) ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหาร พร้อมคณะกรรมการบริหารและคณะผู้บริหาร โรงพยาบาลหัวเฉียว เป็นผู้รับมอบและให้การต้อนรับ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ โรงพยาบาลหัวเฉียว


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

มจพ. รับมอบเจลแอลกอฮอล์ จากบริษัท ซีพี ออลล์

ศ.ดร.สุชาติ เซี่ยงฉิน อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) รับมอบเจลแอลกอฮอล์ พร้อมด้วย ผศ.ดร.กฤษชัย ศรีบุญมา ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนาสิ่งแวดล้อมและกายภาพ อาจารย์ ดร.รักนรินทร์ แสนราช ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายการคลังและกิจการทั่วไป และนางจารุวรรณ ศรีพงษ์พันธุ์กุล ผู้อำนวยการกองกลาง ร่วมกับ คุณจิร แก้วยา ผู้จัดการทั่วไป คุณสุปราณี สีนวลน้อย รองผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นเจลแอลกอฮอล์ 70% ขนาด 500 ml. ที่ผสมมอยเจอร์ไรเซอร์ช่วยถนอมมือ จำนวน 600 ขวด เพื่อมอบให้ นักศึกษา บุคลากรทางการศึกษา มีความปลอดภัย ป้องกันการแพร่ระบาด และนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป

สืบเนื่องจากทางบริษัทฯ ได้มีกิจกรรมร่วมกับมหาวิทยาลัยเพื่อสังคมมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่สมัยแรกๆ ที่เน้นในโครงการลดถุงพลาสติก การคัดแยกขยะ รวมถึงลดการใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง โดยมีผู้บริหาร มจพ. และ ผู้บริหารของบริษัทซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นสักขีพยาน เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2563 ณ ห้องประชุม 215 อาคารอเนกประสงค์ มจพ.

ขวัญฤทัย ข่าว/สมเกษ ถ่ายภาพ


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

มจพ. วิทยาเขตระยอง จับมือ บ.ออกแบบเอกชนชั้นนำ เปิดหลักสูตรวิศวกรรมกระบวนการเคมี (CPET) พร้อมทุนบัณฑิตพันธุ์ใหม่ 4.0

รศ ดร. ปิยะพงศ์ หรรษ์ภิญโญ ประธานหลักสูตรสาขาวิชาวิศวกรรมกระบวนการเคมี (CPET) ภาควิชาวิศวกรรมกระบวนการเคมี คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ วิทยาเขตระยอง เปิดเผยว่า การเปิดรับสมัครเข้าศึกษาในหลักสูตรสาขาวิชาวิศวกรรมกระบวนการเคมี (CPET) พร้อมสนับสนุนทุนบัณฑิตพันธุ์ใหม่ 4.0 ให้กับนักศึกษาที่เข้ามาศึกษาต่อในคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี หรือเรียกสั้น ๆ ว่าหลักสูตร CPet และเปิดรับสมัครนักศึกษามาตั้งแต่ปี 2557 โดยล่าสุดได้ปรับปรุงหลักสูตรให้สามารถเรียนร่วมกับโรงงานได้แล้วเสร็จเมื่อ ปี 2562 เป็นหลักสูตรในระดับปริญญาตรี เรียนจบแล้วจะได้รับวุฒิการศึกษาเป็นหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (วศ.บ.) ได้รับทุนสนับสนุนจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ภายใต้โครงการผลิตบัณฑิตพันธุ์ใหม่แบบ Degree และสร้างกำลังคนที่มีสมรรถนะสูงสำหรับอุตสาหกรรม (New Growth Engine) ตามนโยบาย Thailand 4.0 และการปฏิรูปอุดมศึกษาไทย เพื่อผลิตบัณฑิตพันธุ์ใหม่ สนับสนุนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC (Eastern Economic Corridor) ครอบคลุมจนกระทั่งปีงบประมาณ 2562-2565 (4 ปี) หลักสูตรดังกล่าวเน้นการผลิตวิศวกรรมศาสตรบัณฑิตเฉพาะทางสาขาวิศวกรรมควบคุมให้กับภาคอุตสาหกรรมและภาคสังคมในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยเป็นสาขาวิชาที่ตอบสนองความต้องการของภาคอุตสาหกรรมแถบนั้นเป็นอย่างดี ทั้งนี้นักศึกษาในชั้นปีที่ 3 ฝึกงานแบบสหกิจกับภาคอุตสาหกรรม 4 เดือน โดยจัดการเรียนการสอนที่บูรณาการกับการทำงาน (Work-integrated Learning : WIL) และนำโจทย์จากภาคอุตสาหกรรม มาให้นักศึกษาฝึกฝนในการแก้ปัญหาเป็นส่วนหนึ่งของปริญญานิพนธ์ (4 เดือน) ก่อนจบการศึกษา ระหว่างเรียนได้ทำงานจริง ปฏิบัติร่วมกับบริษัทชั้นนำ และยังได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทชั้นนำ หลักสูตร CPet นี้ตอบโจทย์ทุกอุตสาหกรรมดิจิทัลในยุคนี้จริง ๆ

ความโดดเด่นของหลักสูตร CPet ) ที่แตกต่างจากที่อื่นนั้นคือ

(1) เน้นความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายอุตสาหกรรมภาคตะวันออก จัดการเรียนการสอนแบบเชิงบูรณาการกับการทำงานจริงในการคาดหวังกับสมรรถนะและทักษะที่ภาคอุตสาหกรรมต้องการ (Outcome-Based. Education (OBE) on workplace requirement) ผ่านโครงการสหกิจศึกษา (Co-operative internship) สำหรับนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ภาคการศึกษาที่ 1 (ระยะเวลา 4 เดือน ในการออกภาคสนาม) กับหน่วยงานภาคอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ (Biofuels and Biochemicals) และอุตสาหกรรมธุรกิจพลังงานทดแทน (Renewable energy) และเครือข่ายโรงไฟฟ้า (Power Plant groups) ควบคู่กับการประยุกต์ใช้ความรู้ทางทฤษฎีที่ได้จากการเรียน บูรณาการเข้ากับประสบการณ์การฝึกปฏิบัติลงมือทำจริงในโครงการสหกิจศึกษา โดยซึบซับเทคนิควิธีการแก้ไขปัญหา/ศึกษารูปแบบการทำงาน/เรียนรู้วัฒนธรรมองค์กร/รับการถ่ายทอดองค์ความรู้จากวิศวกรพี่เลี้ยงจากภาคอุตสาหกรรมที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เพื่อนำไปสู่การผลิตวิศวกรควบคุมที่พร้อมทำงานในภาคอุตสาหกรรม

(2) เน้นต่อยอดกระบวนการเรียนรู้ หลังจบโครงการสหกิจศึกษา เพื่อเชื่อมไปสู่โครงการปริญญานิพนธ์ร่วม (The mutual student project) นำข้อมูลปัญหาหรือโจทย์จากภาคอุตสาหกรรมมาพัฒนาต่อยอดให้เกิดงานวิจัยและพัฒนา ก่อให้เกิดองค์ความรู้ที่ตอบสนองต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง ภายใต้รูปแบบการเรียนร่วมกับการทำงาน (Work-integrated Learning, WiL) ผ่านการลงนามสัญญาการเก็บรักษาความลับ (Non-Disclosure Agreement, NDA) โดยจัดตารางเรียนสลับการทำงาน (Sandwich course)

(3) เชิญวิทยากรพิเศษ/วิศวกรอาวุโส/ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งในและต่างประเทศ ที่มีประสบการณ์ 10-15 ปี ขึ้นไป จากบริษัทเอกชนชั้นนำ และหรือบริษัทในภาคอุตสาหกรรมในเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ร่วมสอนให้ความรู้ เพิ่มพูนทักษะ ชี้นำวิธีการแก้ไขปัญหา จากประสบการณ์การทำงานจริง ในสายงานด้านการออกแบบทางวิศวกรรม (Engineering design) การจัดการ/จัดหา/จัดซื้อ (Procurement and purchasing) ควบคุมโครงการและดำเนินการก่อสร้าง (Constructive management) หรือเรียกชื่อย่อว่าทักษะด้านงาน EPC – Engineering, Procurement and Construction รวมถึงการอบรมเสริมทักษะภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมสอบ TOEIC เพื่อให้นักศึกษามีพื้นฐานแน่น ๆ การตะลุยโจทย์ TOEIC ทำให้ผู้เรียนสามารถฝึกฝนและเตรียมตัวก่อนลงสนามจริง อัพคะแนนถึงตามมาตรฐานสากล ก่อนจบการศึกษา

(4) มีการนำเทคโนโลยีประเภทโปรแกรมช่วยออกแบบ หรือซอฟต์แวร์ด้านงานออกแบบ และจำลองกระบวนการแบบถูกลิขสิทธิ์ อาทิ MATLAB & Simulink, ASPEN Plus process simulation for chemicals, ANSYS Fluent, Applied Flow Technology (AFT), Intergraph SmartPlant 4 packages (P&ID, 3D, Electrical and Instrumentation), SolidWork and SolidPlant P&ID and 3D พร้อมอัพเดทฐานข้อมูลจำเพาะที่ทันสมัย ถูกบรรจุใช้งานในหลักสูตร เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอน และสมรรถนะการเรียนรู้ของผู้เรียน นําความรู้ไปใช้ต่อยอดในการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์และผลิตนวัตกรรมใหม่ ๆ โดยร่วมมือกับ 3 บริษัทชั้นนำด้านการออกแบบและจำลอง

(5) อบรมเสริมสมรรถนะ ภายใต้ทุนสนับสนุนจาก กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สำหรับโครงการผลิตบัณฑิตพันธุ์ใหม่ 4.0 แบบ Degree ด้าน Advanced knowledge of ASME codes ด้าน Hazard and Operability Study (HAZOP) ด้าน Energy Optimization & Management ด้านผู้ควบคุมหม้อน้ำ, มลพิษอากาศ, มลพิษน้ำเสีย และกากมลพิษ ด้าน Online Marketing หรือ Digital Marketing และด้าน 3D visualization and virtual reality (VR) และ

(6) มุ่งยกระดับมาตรฐานคุณภาพหลักสูตร ให้เป็นที่ยอมรับ การรับรองมาตรฐานคุณภาพการศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ (Thailand Accreditation Body for Engineering Education: TABEE) หลักสูตร CPet ตอบโจทย์บัณฑิตพันธุ์ใหม่ 4.0 อย่างแท้จริง ทั้งในด้านกระบวนการเรียนรู้และเทคโนโลยีจาการฝึกงานสหกิจภาคสนาม รวมถึงการฝึกปฏิบัติลงมือทำจริงในโครงการสหกิจศึกษา

ส่วนการเปิดรับสมัครหลักสูตร CPet จะเป็นกลุ่มนักศึกษาที่เปิดรับสมัคร ผู้มีวุฒิ ม.6 (สายสามัญ หรือมีผลงานนวัตกรรม) และสำหรับผู้มีวุฒิ ปวช. และ ปวส. (สาขาเคมี) โดยจะเปิดรับสมัครรอบที่ 1 (TCAS#1) ถึงรอบที่ 5 (TCAS#5) ของทุกปี

รศ. ดร. ปิยะพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจบการศึกษาในหลักสูตร CPet บัณฑิตสามารถต่อยอดลักษณะงาน EPC และลักษณะงานที่เกี่ยวกับงานควบคุมการผลิต งานพิจารณาตรวจสอบ และการอำนวยการใช้ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องปฏิกรณ์ในเครือข่ายโรงไฟฟ้า (Power Plant) เช่น โรงไฟฟ้าชีวมวล โรงไฟฟ้าถ่านหิน โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากขยะชุมชน และโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ เป็นต้น ผ่านการใช้ระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าและความร้อนร่วม (Combined heat and power หรือ CHP) งานพิจารณาตรวจสอบคุณภาพน้ำป้อนที่จะนำไปใช้ในหม้อไอน้ำ (Boiler feed water) อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ (Biofuels and Biochemicals) อุตสาหกรรมในโรงงานต้นแบบ (เช่น โรงงานแบตเตอรี่ จำพวกเซลล์อิเลคโทรไลต์) และพลังงานทดแทน เช่น โซลาร์เซลล์ ไบโอดีเซล ไบโอเอทานอล เป็นต้น เพื่อควบคุมกระบวนการผลิตให้มีความปลอดภัย ลดการปล่อยมลพิษ และเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ตามลำดับ

นอกจากนี้ยังมีคอร์สอบรมเสริมทักษะ online Marketing หรือ Digital Marketing สอนแบบเจาะลึก ชี้ช่องทางเทคนิคการตลาดที่ใช้จริง จากประสบการณ์การทำตลาดออนไลน์จริงโดยทีมวิทยากรมืออาชีพ เสริมทัพด้วยการอบรมเสริมทักษะ 3D visualization and virtual reality (VR) ที่สามารถนำความรู้ทางด้านเทคโนโลยีดิจิตอลเข้าไปใช้ในกระบวนการภาคอุตสาหกรรมได้ การเข้ามาเรียนในหลักสูตร CPet อนาคตสดใสแน่นอน มีตลาดแรงงานภาคอุตสาหกรรมอีกมากที่รองรับสาขาด้านนี้ เมื่อจบไปสามารถเข้าไปปฏิบัติงานในภาคอุตสาหกรรม สามารถควบคุมและพิจารณาตรวจสอบข้อกำหนดตามมาตรฐานสากลต่าง ๆ ลดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปรับปรุงเทคนิคกระบวนการผลิต รวมถึงประเมินความเป็นไปได้ในการลงทุนทั้งด้านเทคนิคและเศรษฐศาสตร์ และปฏิบัติหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้อง โอกาสความก้าวหน้าในสายอาชีพนั้นมีแนวโน้มค่อนข้างสูง เพราะปัจจุบันงานสำหรับวิศวกรรมกระบวนการเคมีส่วนใหญ่ สามารถรองรับกับอุตสาหกรรมเคมีต้นน้ำ (Upstream) และปลายน้ำ (Downstream processing) ที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทาน (Supply-chain) ของโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

สอบถามได้ที่ สาขาวิชาเทคโนโลยีวิศวกรรมกระบวนการเคมี ภาควิชาวิศวกรรมกระบวนการเคมี คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ วิทยาเขตระยอง หรือที่เฟสบุ๊ก https://www.facebook.com/CPet.Kmutnb.Rayong/ หรือ โทรศัพท์ 080-044-9344 (ในเวลาราชการ)

ขวัญฤทัย ข่าว-ภาพ


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

อุตสาหกรรมฟอกหนังพร้อมหนุนเอสเอ็มอีไทยเข้าถึงสินเชื่อ

นายสุวัชชัย วงษ์เจริญสิน ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมหนังและผลิตภัณฑ์หนัง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมอุตสาหกรรมฟอกหนังไทย (ซ้ายสุด) ร่วมงานแถลงข่าว โครงการเติมพลัง SMEs ไทย ก้าวไปด้วยกัน (SME D Services) ณ เทศบาลตําบลแพรกษา จังหวัดสมุทรปราการ ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม, หอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ, สภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ และเทศบาลตําบลแพรกษา โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน

งานดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจังหวัดสมุทรปราการและใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีแบงก์ ได้สะดวกครบถ้วนในจุดเดียว เพื่อให้มีเงินทุนไปใช้หมุนเวียน เสริมสภาพคล่อง และฟื้นฟูธุรกิจ


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

เติมความรู้กับสัมมนาฟรี “โครงการน้ำมันเพื่อการเกษตร”

ด้วยอุตสาหกรรมภาคเกษตรมีบทบาทอย่างมากต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย และเด่นชัดยิ่งขึ้นในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีผู้ได้รับผลกระทบจากการทำงานจำนวนมากที่ต้องทยอยกลับไปยังชุมชนท้องถิ่น กับครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อประกอบอาชิพดั้งเดิมอาทิ การทำฟาร์มเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ ทำสวน ไร่ นา

บริษัท ออสซี่ออยล์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจพลังงานมายาวนานกว่า 14 ปี มองเห็นโอกาสในการขับเคลื่อนธุรกิจ ไปพร้อมกับการสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจชุมชน โดยพุ่งเป้าไปที่การลดต้นทุนภาคธุรกิจเกษตร และกลุ่มผู้ใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตร จึงคิดโมเดลธุรกิจ ‘แฟรนไชส์คลังน้ำมันเพื่อการเกษตร และแฟรนไชส์น้ำมันเพื่อการเกษตร’ ขึ้น โดยมีการจัดสัมมนาให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง ภายหลังผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มาเป็นต้นมา เพื่อเป็นหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่กำลังมองหาโอกาสในการลงทุน โดยล่าสุดจัดงานสัมมนา ‘โครงการน้ำมันเพื่อการเกษตร โมเดลธุรกิจเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน ทางเลือกใหม่ของนักลงทุน ฝ่าวิกฤติโควิด’ โดยวิทยากร คุณสมโชค เดชะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ออสซี่ออยล์ จำกัด ในวันศุกร์ ที่ 17 กรกฎาคม 2563 ณ อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ ห้องประชุม ชั้น 1 (ติดสกายวอล์กช่องนนทรี)

สำหรับผู้สนใจสามารถลงทะเบียนออนไลน์เพื่อเข้าร่วมสัมมนาฟรีได้ที่ www.smartsme.club/super-power-business-14/ หรือโทรศัพท์ 081-316-5095 , 086-344-5358


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

สัมมนาความก้าวหน้างานวิจัย รับวิถีชีวิตใหม่-NEW NORMAL ในงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2563”

สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กำหนดจัดงาน มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ2563 – Thailand Research Expo 2020 ภายในงานจัดแสดงผลงานวิจัยจากหน่วยงานในระบบวิจัยทั่วประเทศที่พร้อมนำเสนอผลงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่มีคุณภาพ เพื่อเชื่อมโยงองค์ความรู้ไปสู่การใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ จำนวนมากกว่า 500 ผลงาน โดยมี Theme หลักของงาน คือ “วิจัยเพื่อพัฒนาประเทศ สู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” การจัดงานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 2-6 สิงหาคม 2563 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร

นอกจากนี้ภายในงานจัดให้มีการประชุมสัมมนาในหัวข้อต่างๆกว่า 100 เรื่อง อาทิ พลิกวิกฤตโควิด – 19 ด้วยนวัตกรรมการแพทย์, เครื่องมือเปิดเมืองปลอดภัย Thai stop covid, โรคอุบัติใหม่ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, New Normal ชีวิตวิถีใหม่กับความท้าทายทางสังคม ฯลฯ

ขอเชิญผู้สนใจทั่วไปร่วมลงทะเบียนได้ที่ www.thailandresearchexpo2020.com ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 สอบถามรายละเอียดได้ที่ 0 2561 2445 ต่อ 515 – 519 email: researchexpo@nrct.go.th

** เนื่องด้วยสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในปัจจุบัน ทำคณะผู้จัดงานจัดให้มีมาตรการในการคัดกรองผู้เข้าร่วมงานสัมมนาและชมนิทรรศการในงานปีนี้ อย่างเข้มงวดเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข จึงจัดให้มีการเข้าร่วมงานสัมมนาและการชมนิทรรศการ แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ
1. รูปแบบ Online คือ การเข้าร่วมสัมมนาและชมนิทรรศการในรูปแบบออนไลน์ผ่าน ช่องทางต่างๆ ที่ผู้จัดงานจัดทำขึ้นเพื่อรองรับการรับชมจากสถานที่ต่างๆ
2. รูปแบบ Onsite คือ การเข้าร่วมสัมมนาและชมนิทรรศการ ณ สถานที่จัดงาน โดยการเข้าชมนิทรรศการ จะแบ่งเป็นรอบและจำกัดจำนวน ในการเข้าชม 3 รอบ ดังนี้

รอบที่ 1 เวลา 09.00 น. – 11.00 น. / รอบที่ 2 เวลา 12.00 น. – 14.00 น. / รอบที่ 3 เวลา 15.00 น. – 17.00 น.


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ขอเชิญเหล่าผู้บริหารและผู้ประกอบการเข้าฟังงานเสวนาออนไลน์เรื่อง “The New Normal: Tools for Ecommerce Success in 2020 & Beyond”

ขอเชิญเหล่าผู้บริหารและผู้ประกอบการเข้าฟังงานเสวนาออนไลน์เรื่อง “The New Normal: Tools for Ecommerce Success in 2020 & Beyond” โดยคุณอภิษฎา เดมีย์กุล CEO ของบริษัทเติบโต และคุณชัชพรรษ แสงสุข System Integration Backbone Director / Living Solution Business จาก SCG Cement-Building Material Co., Ltd ซึ่งจะมาแชร์ประเด็นการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจ e-Commerce รวมถึงเคล็ดลับความสำเร็จของการบริหาร NocNoc.com ในช่วงของวิกฤตโลก COVID-19 ที่ผ่านมา ในวันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม 2020 เวลา 14:00 น. ผ่านทาง Live Webinar

รายละเอียดการบรรยาย
หัวข้อ: The New Normal: Tools for Ecommerce Success in 2020 & Beyond
ผู้บรรยาย: คุณอภิษฎา เดมีย์กุล CEO จากบริษัทเติบโต และคุณชัชพรรษ แสงสุข System Integration Backbone Director / Living Solution Business จาก SCG Cement-Building Material Co., Ltd
วันเวลา: วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม 2020 เวลา 14:00 – 15:30 น.
ช่องทางการบรรยาย: Online Web Conference
จำนวนผู้เข้าร่วมสูงสุด: 500 คน
ภาษา: ไทย
ลิงค์ลงทะเบียน: https://zoom.us/webinar/register/WN_diH5KBAfR1aJO_KPy9OCsw


 

Categories
Home & Garden คุณทำเองได้ (DIY)

การต่อระบบท่อน้ำทิ้งเครื่องกรองน้ำ RO แบบสองระบบให้สามารถเอาน้ำกลับมาใช้ประโยชน์ได้

หากคุณเป็นอีกคนที่กำลังใช้ หรือกำลังอยากได้เครื่องกรองน้ำ RO แต่ยังหวั่นใจกับเสียงล่ำลือถึงความสิ้นเปลืองน้ำ ที่ต้องมีน้ำทิ้งออกไปมากกว่าน้ำที่ดื่มได้ เรามีแนวทางแก้ไขมาแนะนำครับ

สำหรับการแก้ไขที่กล่าวไปข้างต้นก็คือการกักน้ำทิ้งของเครื่องกรองน้ำไว้ในถัง จากนั้นใส่ปั๊มน้ำลงไปในถังเก็บน้ำเพื่อสูบน้ำออกมาใช้นั่นเอง โดยการน้ำที่เป็นน้ำคัดทิ้งนี้ ไม่แนะนำให้นำมาล้างผักหรืออาหารที่เราใช้บริโภคนะครับ แต่สามารถนำไปใช้ล้างภาชนะ(ในกรณีคัดทิ้งจากน้ำประปา) รดน้ำต้นไม้ บ้างพื้นได้

แต่ช้าก่อน! หากทำเพียงแค่นั้นมันก็จะยุ่งยากคนใช้งานเกินไป เราจึงขอแนะนำ การต่อท่อแบบ 2 ระบบ นั่นก็คือ การเชื่อมต่อทั้งปั๊มน้ำจากถังเก็บน้ำและน้ำจากท่อประปาเข้าด้วยกัน โดยมีหัวก๊อกจากอ่างล้างจานเป็นตัวจ่ายน้ำหลักดังภาพด้านล่าง

อุปกรณ์ที่ต้องจัดเตรียม

ปั้มน้ำ 220 โวลต์ 80 วัตต์ หรือกำลังวัตต์ตามต้องการ (ขึ้นกับความเหมาะสมของระยะทางระหว่างถังน้ำกับก๊อกน้ำ) ลิงก์สั่งซื้อตามต้นแบบ

วาล์วไฟฟ้า หรือโซลินอยด์ วาล์ว 4 หุน (1/2 นิ้ว) ขนาดขดลวด 12 โวลต์ ชนิด NO (Normal Open) หรือแบบจ่ายไฟแล้ววาล์วปิดนั่นเอง ลิงก์สั่งซื้อวาล์

เช็ควาล์วสปริง ทองเหลือง 4 หุน (1/2 นิ้ว) ลิงก์สั่งซื้อ

ฟุตสวิตช์ หรือสวิตช์เท้า สำหรับสั่งงานปั้มน้ำและวาล์วไฟฟ้า ลิ้งก์สั่งซื้อ

ท่อและข้อต่อ PVC 4 หุน (1/2 นิ้ว) ใช้แบบไหน เท่าไหร่ตามแต่หน้างาน

การเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้าด้วยกันและการทำงาน

ภาพด้านล่างจะรวมการเชื่อมต่อสายไฟและแนวการติดตั้งวาล์วต่างๆ

ภาพด้านล่างแสดงการทำงานเมื่อยังไม่เหยียบสวิตช์

ภาพแสดงการทำงานเมื่อเหยียบสวิตช์


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

Teibto (เติบโต) ลุยตลาดเวียดนาม หลังปลดล็อค โควิด 19 เฟส 5

พร้อมเดินหน้าเต็มกำลังกับสาวเก่งอีกหนึ่งคนในแวดวงซอฟท์แวร์ สำหรับคุณอภิษฎา เดมีย์กุล หรือคุณเดมี่ CEO บริษัท “Teibto” https://teibto.com ผู้ให้บริการ Solution Provider จำหน่ายซอฟต์แวร์ ออราเคิล เนทสวีท (Oracle NetSuite, Best First World Class Cloud ERP) ได้เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ไปเปิดตลาดที่เวียดนามมาประมาณ 2 ปีแล้ว ถือว่า “Teibto” ได้รับผลตอบรับดีเกินคาด เพราะเป็นบริษัทไทยที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากที่ประเทศเวียดนามในธุรกิจซอฟท์แวร์ อีกทั้งเจ้าตัวยังเปิดเผยว่าหลังจากที่ประเทศไทยมีการปลดล็อค เฟส 5 โควิด 19

ตอนนี้บริษัทก็พร้อมที่จะเดินแผนรุกตลาดเวียดนามอีกรอบ เพื่อรองรับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในเวียดนาม และกลุ่มลูกค้าจากไทยที่ต้องการขยายตลาดไปยังประเทศเวียดนาม โดยเฉพาะจุดขายของซอฟท์แวร์เพื่อพัฒนาธุรกิจ ออราเคิล เนทสวีท (Oracle NetSuite) ซึ่งเหมาะกับการทำธุรกิจในยุค New Normal เป็นอย่างมาก และ“Teibto” ยังได้พัฒนาฟังก์ชั่นที่รองรับงานด้านภาษี (Tax Localization) ที่ประเทศเวียดนามอีกด้วย ถือเป็นนักธุรกิจหญิงไทย ที่น่าจับตาอีกคนในยุคนี้


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ไอคอน เฟรมเวิร์ค เปิดตัว ICON DIGITAL MORTGAGE ระบบขอสินเชื่อออนไลน์อัตโนมัติ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดกระบวนการขอสินเชื่อเพื่ออสังหาฯให้กับผู้บริโภค

บริษัท ไอคอน เฟรมเวิร์ค จำกัด ผู้พัฒนาระบบ Real Estate Management Platform ที่ก่อตั้งมานานกว่า 12 ปี และอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของยักษ์ใหญ่อสังหาฯ เมืองไทย พัฒนาระบบ ICON Digital Mortgage ซึ่งเป็นระบบบริการการขอสินเชื่อเพื่อการซื้ออสังหาริมทรัพย์แบบออนไลน์ด้วยระบบอัตโนมัติ เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภค ลดขั้นตอนการยุ่งยากด้านเอกสาร (Lean System) ซึ่งเป็นระบบแรกที่สามารถเชื่อมต่อกับหลายธนาคาร หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ และตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน

นายวรรณเทพ หรูวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอคอน เฟรมเวิร์ค จำกัด ผู้พัฒนาระบบ Real Estate Management Platform เพื่อให้รองรับการทำงานของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะ ภายใต้ชื่อ ICON REM (Real Estate Management) เปิดเผยว่า “จากที่บริษัทนับว่าเป็นคนไทยที่เป็นผู้พัฒนาระบบ และเขียนระบบ CRM เพื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายแรกของประเทศไทย และลองผิด ลองถูก พัฒนาอย่างต่อเนื่องจนมาถึงปัจจุบัน เป็นปีที่ 12 แล้ว และมีผู้ใช้งานระบบของเรากว่า 60 บริษัท ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของเมืองไทย โดย ICON REM เป็นระบบบริหารจัดการงานขายสำหรับลูกค้าระดับ Enterprise อาทิ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน), บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน), บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน), บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) รวมไปถึง ICON REM CLOUD (ระบบบริหารจัดการงานขายสำหรับลูกค้าขนาดกลางและขนาดเล็ก), ICON with SAP Business One (ระบบบริหารงานก่อสร้างและERP) และอื่น ๆ ที่ครอบคลุมตั้งแต่งานขาย งานโอน งานก่อสร้าง และงานด้านบัญชี ทำให้มั่นใจได้ว่า ระบบ ICON เหมาะสมกับอสังหาริมทรัพย์ของเมืองไทยและเข้าใจถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคมากที่สุด นอกจากนั้นเมื่อลองวิเคราะห์ตลาดและความต้องการของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เราพบว่า การขอสินเชื่อแบบออนไลน์ด้วยระบบอัตโนมัติเป็นระบบที่ช่วย Lean Process หรือลดขั้นตอนการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและคาดว่าจะตอบโจทย์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างมากในปัจจุบัน”

จากการที่ ICON ได้ทำระบบบริหารการขายให้กับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ทำให้ทางบริษัทฯ เห็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการการยื่นขอสินเชื่อที่ต้องใช้เวลา มีความซับซ้อนด้านเอกสารที่ผู้บริโภคต้องจัดส่งให้กับธนาคารต่างๆ หรือไม่รู้ว่าจะยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารไหนดี และระหว่างการดำเนินการขอสินเชื่อทางโครงการจะทราบความคืบหน้าหรือไม่ จากจุดนี้ ทำให้ทาง ICON พัฒนาระบบ ICON Digital Mortgage หรือ สินเชื่อบ้านอัตโนมัติ ขึ้นซึ่งเป็นกระบวนการขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย โดยการเชื่อมต่อระบบระหว่างธนาคารกับเจ้าของโครงการอสังหาฯ ผ่าน Platform กลางเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการสมัครสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและแจ้งสถานะการพิจารณาสินเชื่อจากทางธนาคารโดยตรง ทำให้เกิดความรวดเร็วในการทำงาน ลดข้อผิดพลาด ป้องกันการทุจริต อีกทั้งผู้บริโภคยังสามารถยื่นขอสินเชื่อพร้อมๆ กันได้หลายธนาคาร (เฉพาะธนาคารที่เข้าร่วมการใช้ระบบนี้) สามารถให้ข้อมูลในการขอสินเชื่อเพียงครั้งเดียว ก็เชื่อมต่อกับทางโครงการและธนาคารต่างๆ ได้อย่างทันที เจ้าของโครงการฯ และผู้บริโภคสามารถรับทราบความคืบหน้าได้แบบ Real Time นับว่าเป็นการ Lean System ในธุรกิจอสังหาฯ ได้อย่างแท้จริง

นายพจนารถ แสงพฤกษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคาร กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงระบบ ICON Digital Mortgage ว่า “จากการวิเคราะห์ข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรเมื่อเดือนที่ผ่านมา จะเห็นว่าทิศทางการซื้อขายที่อยู่อาศัยมในช่วงที่เหลือของปี 2563 น่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าในช่วงครึ่งปีแรก จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศที่คาดว่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเป้าหมายสินเชื่อบ้านในปีนี้ตั้งเป้าอยู่ประมาณ 81,000 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกปล่อยสินเชื่อไปแล้วประมาณ 44,964 ล้านบาท ถ้าเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2019 อัตราการเติบโต 14.08% ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุที่ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมกับบริษัท ไอคอน เฟรมเวิร์ค จำกัด เพื่อพัฒนาระบบร่วมกัน โดยหยิบเครื่องมือสำคัญอย่างการบริหารประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience Management) มาใช้ในการวางระบบร่วมกันและเข้าใจทุก Touch Point ของลูกค้า สร้าง User Experience Design ให้ตอบโจทย์กับผู้ใช้มากที่สุด เพื่อให้ระบบนี้สามารถรับมือกับ Digital Transformation ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน” นายพจนารถ กล่าว

ทางด้านธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในธนาคารที่เข้าร่วมการใช้ระบบ ICON Digital Mortgage นี้ กล่าวว่า “ความเข้าใจในความต้องการ และการให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของลูกค้า เป็นหัวใจหลักในการทำงานของธนาคารยูโอบี (ไทย) สิ่งสำคัญในฐานะธนาคารผู้ให้บริการทางการเงิน คือการช่วยสนับสนุนลูกค้าให้สามารถออกแบบชีวิตในแบบที่ตนเองต้องการได้ ดังนั้นการให้บริการที่รวดเร็วและข้อมูลที่ครบถ้วนสำหรับการตัดสินใจ เป็นสิ่งที่จะสร้างความประทับใจแก่ลูกค้า เราเชื่อมั่นว่าด้วยความร่วมมือกันระหว่าง ICON Digital Mortgage และธนาคารยูโอบี (ไทย) ซึ่งมีความเชื่อและแนวคิดที่เริ่มต้นมาจากการให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าเช่นเดียวกัน จะทำให้ธนาคารสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น รวดเร็วขึ้นแก่ลูกค้าสินเชื่อบ้านของธนาคารยูโอบี” นายนาคร วรกานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจสินเชื่อบ้าน ธนาคาร ยูโอบี (ไทย) กล่าว

ปัจจุบัน มีธนาคารที่เข้าร่วมใช้ระบบ ICON Digital Mortgage แล้วทั้งสิ้น 3 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นธนาคารแรกที่ให้ความร่วมมือและพัฒนาระบบในการเชื่อมต่อกับทางไอคอน, ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคาร ยูโอบี จำกัด (มหาชน) โดยคาดว่าสิ้นปี 2563 นี้ จะมีธนาคารที่เข้าร่วมเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของผู้ยื่นขอสินเชื่อมากที่สุด

ในด้านของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้ระบบ ICON REM (Real Estate Management) เดิมอยู่แล้ว สามารถเข้าใช้ระบบ ICON Digital Mortgage ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยระบบนี้ช่วยให้สามารถลดระยะเวลาการขอสินเชื่อ สามารถติดตามสถานะการพิจารณาการขอสินเชื่อได้แบบ Real Time โดยระบบจะแสดงผลการอนุมัติ ทั้งการอนุมัติเบื้องต้น และการอนุมัติจริง ส่งผลให้สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้เร็วขึ้น ปิดโครงการฯ ได้เร็วและง่ายขึ้น โดยงานนี้ได้รับเกียรติจาก คุณณวารุณี ลภิธนานุวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ สายการเงินและบริหารงานทั่วไป บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) และ คุณณพน เจนธรรมนุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) หนึ่งในบริษัทที่ได้มีการใช้ระบบ ICON Digital Mortgage และร่วมพัฒนาระบบร่วมกันมาอย่างต่อเนื่องให้เหมาะสมกับผู้บริโภคมากที่สุดมาร่วมพูดคุยในงานแถลงข่าวนี้ด้วย

ทั้งนี้นายวรรณเทพ ยังได้สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคอีกว่า “บริษัทฯ ยึดถือเรื่องความถูกต้องและปลอดภัยของข้อมูลมาเป็นอันดับหนึ่ง จึงทำให้เราได้รับความไว้วางใจจากบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในเมืองไทยมาอย่างยาวนานกว่า 12 ปี ซึ่ง ICON Digital Mortgage เองก็เช่นกัน ที่เราออกแบบระบบมาเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลทั้งในส่วนของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ส่วนของแต่ละธนาคารที่ใช้ระบบ และส่วนของผู้บริโภคทุกท่าน จึงอยากให้ผู้ใช้ระบบ ICON Digital Mortgage มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยของข้อมูลต่างๆ ที่ส่งเข้าระบบของเรา ว่าจะได้รับความคุ้มครองและปกปิดข้อมูลได้อย่างแน่นอน”

ธนาคารที่สนใจเชื่อมต่อระบบ ICON Digital Mortgage นั้น จะมีขั้นตอนในการเชื่อมระบบร่วมกับทาง บริษัทฯ และต้องลงนามในสัญญาที่จะไม่เปิดเผยข้อมูล (NDA: Non-disclosure Agreement), ลงนามในหนังสือบันทึกข้อตกลงการบริการ (MOU: Memorandum of Understanding) และเอกสารเงื่อนไขอื่นๆ ตามที่บริษัทกำหนด โดยสามารถสอบถามเกี่ยวกับระบบ ICON digital mortgage ได้ที่ โทร. 094-454-9791


 

Exit mobile version