Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

มจพ. ร่วมงานสัมมนา “AUTOMATION : ทางรอดของอุตสาหกรรมไทย ในยุค 4.0 จริงหรือ?

รศ.ดร. เชษฐวุฒิ ภูมิพิพัฒน์พงศ์ หัวหน้าภาควิชาเทคโนโลยีวิศวกรรมเครื่องต้นกำลัง วิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ได้รับเกียรติให้บรรยาย ในหัวข้อ “AUTOMATION : ทางรอดของอุตสาหกรรมไทย ในยุค 4.0 จริงหรือ?”

เมื่อวัที่ 26 พฤศจิกายน 2562 ณ SME Bank Tower (สถานีรถไฟฟ้าอารีย์) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจให้ทุกๆภาคส่วนเห็นความสำคัญระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์มีส่วนเข้ามาเสริมศักยภาพและสร้างประโยชน์ให้กับอุตสาหกรรม และเมื่อมีความต้องการใช้งานหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเพิ่มมากขึ้น กลุ่มอุตสาหกรรมระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์จะสามารถเกิดขึ้นในประเทศไทยได้ กลุ่มเป้าหมายในการสัมนา เป็นผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมทุกประเภทอุตสาหกรรม

ทั้งนี้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ร่วมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จัดงานดังกล่าว ซึ่งได้รับความสนใจเป็นจำนวนมากจากผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

หัวเว่ยกร้าวไม่ง้อ ให้อเมริกาใส่ชื่อในบัญชีดำตลอดไปก็ได้

ผู้ก่อตั้งหัวเว่ย:

“เราไม่สนเรื่องสหรัฐฯ แบนเราอีกแล้ว”
“ให้อเมริกาใส่ชื่อหัวเว่ยในบัญชีดำตลอดไปก็ได้ เพราะเราอยู่ได้สบาย ๆ อยู่แล้ว”

มร. เหริน เจิ้งเฟย กล่าว

กรุงเทพฯ/ 29 พฤศจิกายน 2562 – หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุด และผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับสองของโลก ประกาศกร้าวว่าบริษัทเลิกสนใจการโจมตีอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลทรัมป์ไปนานแล้ว “เราไม่คาดหวังว่าสหรัฐอเมริกาจะถอนชื่อหัวเว่ยออกจากบัญชีดำ” มร. เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของหัวเว่ย ประกาศระหว่างการให้สัมภาษณ์เมื่อเร็ว ๆ นี้ กับหนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล “ให้อเมริกาใส่ชื่อหัวเว่ยในบัญชีดำตลอดไปก็ได้ เพราะเราอยู่ได้สบาย ๆ อยู่แล้ว” มร. เหริน กล่าวเสริม

เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หัวเว่ยถูกรวมเข้าไปอยู่ในบัญชี Entity List ของสหรัฐอเมริกา มีผลบังคับไม่ให้หัวเว่ยทำธุรกิจใด ๆ กับบริษัทสัญชาติอเมริกัน นับเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่หัวเว่ยมองว่ามีผลกระทบเพียงเล็กน้อยกับธุรกิจของบริษัท ภายหลังจากการขึ้นบัญชีดำ มร. เหริน เองได้คาดการณ์ไว้ว่า หัวเว่ยอาจต้องสูญเสียรายได้ราว 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่การประเมินของเขากลับไม่ถูกต้อง เพราะบริษัทประกาศว่ารายได้ในช่วง 9 เดือนแรกของปีเติบโตสูงขึ้นถึง 24% ในเดือนกันยายน มร. แอนดี้ เพอร์ดี้ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยของหัวเว่ย เทคโนโลยี่ สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า บริษัทซื้อชิ้นส่วนจากบริษัทอเมริกาไปเป็นมูลค่ากว่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2018 ซึ่งหากขาดรายได้จากการสั่งซื้อของหัวเว่ย บริษัทสหรัฐฯ จะต้องขาดทุนมหาศาล

แม้ว่าจะโดนแบน มร. เหริน กล่าวย้ำว่า เขาไม่เคยเกลียดสหรัฐฯ และหัวเว่ยก็จะไม่ปิดประตูใส่ประเทศใด ๆ เพื่อประโยชน์ด้านความก้าวหน้าและการพัฒนาด้านดิจิทัลอย่างรวดเร็วของโลก ซีอีโอของหัวเว่ยกล่าวย้ำมาโดยตลอดว่าตนยึดถือหลัก “ความร่วมมือที่เปิดกว้างเพื่อความสำเร็จร่วมกัน” และต้องการที่จะทำงานกับทุกประเทศทั่วโลกเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาโลกยุคดิจิทัล เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา มร. เหริน ได้ประกาศขายเทคโนโลยี 5G ของหัวเว่ย รวมถึงองค์ความรู้และลิขสิทธ์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวให้แก่บริษัทสหรัฐฯ

ในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ เขาย้ำว่าข้อเสนอของเขานั้นเป็นเรื่องจริง และยังเปิดรับอยู่ แต่จนขณะนี้ก็ยังไม่มีบริษัทใดติดต่อเข้ามา

เมื่อนักข่าวถามเรื่องข้อกล่าวหาที่ปราศจากหลักฐานของสหรัฐฯ ที่ว่า หัวเว่ยอาจต้องปฏิบัติตามกฎหมายในการส่งข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าให้แก่รัฐบาลจีน หากมีการร้องขอ มร. เหริน กำชับว่า เขาและพนักงานเกือบ 200,000 คนทั่วโลกจะปฏิเสธคำร้องขอนั้น พร้อมยืนยันว่า บริษัทมีมาตรการที่เข้มงวดต่อการทำผิดกฎระเบียบของพนักงาน และบุคคลใดก็ตามที่ทำความผิด จะได้รับการลงโทษอย่างรุนแรง

มร. เหริน รวมถึงผู้บริหารระดับสูงทุกคน ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของรัฐบาลสหรัฐฯ เรื่องการสอดแนมมาหลายต่อหลายครั้งว่า มันไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด นี่เป็นเพียงการโจมตีโดยมีเหตุจูงใจทางการเมืองของสหรัฐฯ ซึ่งหวังทำลายการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี 5G ของหัวเว่ย ถึงกระนั้นก็ตาม บริษัทก็ยังนำโด่งในฐานะผู้ให้บริการโซลูชั่น 5G ที่ครบวงจรและทันสมัยที่สุด และได้คว้าสัญญา 5G เชิงพาณิชย์ไปแล้วกว่า 50 ฉบับทั่วโลก หัวเว่ยจะไม่มีวันหยุดพัฒนานวัตกรรมด้าน 5G, AI และโมบายเทคโนโลยี โดยถือเป็นหนึ่งในบริษัทที่ลงทุนด้าน R&D มากที่สุดในโลก ในอีก 5 ปีข้างหน้า หัวเว่ยมีแผนที่จะทุ่มงบถึง 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อก่อตั้งศูนย์นวัตกรรมและ R&D ทั่วโลก


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ออฟฟิศเมท ลดแซ่บ แทบคลั่ง จัดโปรปัง 12.12 MEGA SALE

ออฟฟิศเมท จัดแคมเปญใหญ่ส่งท้ายปีกับ “12.12 MEGA SALE” ลดแซ่บ แทบคลั่ง เอาใจจัดซื้อองค์กร SME และเหล่านักช้อป ด้วยดีลเด็ดไอเทมสุดฮอตที่พลาดไม่ได้แม้แต่วันเดียว ทั้งสินค้าอุปกรณ์สำนักงาน ไอที แก็ดเจ็ท เครื่องใช้ไฟฟ้า และเฟอร์นิเจอร์ คัดสรรเน้นๆ จากแบรนด์ดังยอดนิยม พิเศษ! ทุกบิลที่ช้อปกับออฟฟิศเมทตั้งแต่ 1 ธ.ค. 62 – 31 ม.ค. 63 สามารถรับสิทธิ์ลุ้น iPhone11 (64 GB) จำนวน 20 รางวัล (ตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด) ฟินให้สุดรับเทศกาลแห่งความสุข เพราะออฟฟิศเมทลดแรง แจกหนัก ตลอดทั้งเดือนแบบ Non Stop

– โปรโมชั่น “Deal of the Day” 1 ธ.ค. – 12 ธ.ค 62 พบกับดีลเด็ด สินค้าจัดเต็มเปลี่ยนทุกวันให้คุณประหยัดทั้งวีค!! ทั้งเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน HP และ Canon, เก้าอี้สำนักงานและโต๊ะทำงานพร้อมชั้นวางของ Furradec, กระดาษถ่ายเอกสาร เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องดูดฝุ่น DYSON และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย (*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)

– โปรโมชั่น “Crazy Deal” ลดไปอีก ลดหนักกว่าทุกวัน 12 ธ.ค. 62 วันเดียวเท่านั้น ให้คุณช้อปกระหน่ำ แถมกระจาย รับรองว่าแซ่บ แทบคลั่ง กับไอเทมยอดฮิตที่ทุกคนเฝ้ารอ! (*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)

– โปรโมชั่น “12 Days 12 Brands Sale” 12 ธ.ค. – 23 ธ.ค 62 เตรียมช้อปแบรนด์ดังในราคาโดนใจ เล็งไว้ให้ดี! แล้วรีบพุ่งตัวไปช้อป อาทิ เฟอร์นิเจอร์ Furradec, อุปกรณ์สำนักงานแบรนด์ one, me.style, ORCA, 3M, Elephant สินค้าไอทีแก็ตเจ็ต neo, MI, Remax, hp, Canon, Casio และแบรนด์ชั้นนำที่ขนขบวนมาให้ช้อปอีกเพียบ! (*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)

พิเศษข้ามปีกับ Lucky Bill Lucky Bonus #ออฟฟิศเมทใจดีแจกiPhone11ฟรี20เครื่อง ทุกใบเสร็จรับสิทธิ์ลงทะเบียนลุ้นรับ iPhone 11 (64 GB) จำนวน 20 รางวัล มูลค่ารวม 498,000 บาท ช้อปได้ทุกช่องทาง ลุ้นได้ทุกใบเสร็จไม่มีขั้นต่ำ ร่วมสนุกกันยาวๆ ตั้งแต่ 1 ธ.ค. 62 – 31 ม.ค. 63 ช้อปเลยที่ร้านออฟฟิศเมท และออฟฟิศเมท พลัส กว่า 80 สาขาทั่วประเทศ, Contact Center 1281 หรือ ผ่านช่องทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ officemate.co.th, e-Procurement, OfficeMate Mobile App และ Chat & Shop ที Line: @OfficeMate พร้อมบริการส่งฟรีถึงที่ เพียงช้อปครบ 499 บาทขึ้นไป (ตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด)


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ออฟฟิศเมท จับมือ เพาเวอร์บาย กระหน่ำโปรไม่ยั้ง ในงานเพาเวอร์บาย เอ็กซ์โป 2019 ไบเทคนางนา

นางสาววรพรรณ ชุณหศรีวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด ออฟฟิศเมท จับมือ นายนรินทร ชววิสุทธิกูล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เพาเวอร์บาย ขนกองทัพสินค้าเพื่อบ้านและธุรกิจจากหลากหลายแบรนด์ดัง ทั้งกลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด ไอที อิเล็กทรอนิกส์ แก็ดเจ็ท และอุปกรณ์สำนักงาน มาลดราคากระหน่ำจัดโปรไม่ยั้ง เอาใจเหล่านักช้อปและผู้ประกอบการให้ได้ช้อปคุ้มจัดเต็มในงานเพาเวอร์บาย เอ็กซ์โป 2019 “POWER WISH ทุกความสุขเป็นจริงได้” อัดโปรโมชั่นต่อเนื่อง 9 วันเต็ม วันนี้ – 5 ธ.ค. 62 ณ ไบเทค บางนา ฮอลล์ 101 (*พิเศษสุดเฉพาะวันที่ 29 พ.ย. 62 เปิดบริการถึงเที่ยงคืน)

พบกับไฮไลท์สินค้านาทีทองราคาพิเศษที่บูธออฟฟิศเมท ในช่วงเวลา Happy Hour เที่ยงตรงถึงบ่าย 2 ทุกวัน ให้คุณช้อปเพิ่มความสุขให้ทุกสเปซการทำงาน ทั้งเก้าอี้ผู้บริหาร ลดสูงสุด 70% โต๊ะทำงาน เฟอร์นิเจอร์สำหรับ SME เก้าอี้จักรยานพร้อมที่วางโน๊ตบุ๊กโดนใจสายสุขภาพ และสินค้าออฟฟิศอิเล็กทรอนิกส์อีกมากมายในราคาสุดคุ้ม พิเศษ! วันที่ 29 พ.ย.62 วันเดียวเท่านั้น ที่บูธเพาเวอร์บาย พบกับเครื่องใช้ไฟฟ้าสินค้าแบรนด์ดัง โปรโมชั่นราคาสุดพิเศษ ซื้อ 1 แถม 1 อาทิ ทีวีหน้าจอขนาด 55 นิ้ว เป็นต้น

ช้อปที่งานคุ้มแน่นอน! ให้คุณรับของสมนาคุณต่างๆ เมื่อช้อปครบตามที่กำหนด และรับสิทธิพิเศษจากบัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน ลดเพิ่มสูงสุด 18% หรือเลือกรับเครดิตเงินคืน หรือรับสิทธิ์ผ่อน 0% กันแบบสบายกระเป๋า อีกทั้งยังสะดวกสุดๆ กับบริการจัดส่งฟรีถึงที่* (ตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด) พบกันได้ที่บูธออฟฟิศเมท และเพาเวอร์บาย #ของมันต้องมี #คุ้มแบบนี้ต้องช้อปรัวๆ


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

มจพ. จับมือกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จัดสัมมนาชี้ทางรอดเครื่องจักรอัตโนมัติยุคไทยแลนด์ 4.0

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ร่วมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จัดงานสัมมนาในหัวข้อ “AUTOMATION : ทางรอดของอุตสาหกรรมไทย ในยุค 4.0 จริงหรือ?”

วันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 เวลา 09.30 – 12.00 น. ณ ห้องแก้ววิเชียร์ ชั้น 11 SME Bank Tower (สถานีรถไฟฟ้าอารีย์) โดย รศ.ดร. เชษฐวุฒิ ภูมิพิพัฒน์พงศ์ หัวหน้าภาควิชาเทคโนโลยีวิศวกรรมเครื่องต้นกำลัง วิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เป็นผู้บรรยาย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจให้ทุกๆภาคส่วนเห็นความสำคัญระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์มีส่วนเข้ามาเสริมศักยภาพและสร้างประโยชน์ให้กับอุตสาหกรรม และเมื่อมีความต้องการใช้งานหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเพิ่มมากขึ้น กลุ่มอุตสาหกรรมระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์จะสามารถเกิดขึ้นในประเทศไทยได้ กลุ่มเป้าหมายในการสัมนา เป็นผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมทุกประเภทอุตสาหกรรม

สืบเนื่องจาก ครม.เห็นชอบแผน “อุตสาหกรรมหุ่นยนต์” ทำให้ต้องพัฒนานวัตกรรมเพื่อเข้าสู่การเป็นเอสเอ็มอี 4.0 (Smart SMEs) ผ่านเครื่องมือสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาภายใต้นโยบาย 4 เครื่องมือ 1 กลยุทธ์
ได้แก่ เทคโนโลยีเป็นการให้บริการด้านการพัฒนาระบบข้อมูลและสารสนเทศ, Automation เป็นการพัฒนาระบบการผลิต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิต, หุ่นยนต์โดยการลดการใช้แรงงานในกระบวนการผลิตและสุดท้ายนวัตกรรมเป็นการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และอีก 1 กลยุทธ์ คือ การมุ่งพัฒนาการรวมกลุ่มอุตสาหกรรม หรือ Cluster ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญในการต่อยอดของ SMEs ไทยให้เข้มแข็ง

ผู้สนใจเข้าร่วมงานสัมมนา“Automation : ทางรอดของอุตสาหกรรมไทยในยุค 4.0 จริงหรือ?” สามารถสำรองที่นั่งก่อนวันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 นี้ (ฟรีสัมมนารับจำนวนจำกัด) ผ่านระบบสแกน QR CODE ลงทะเบียนฟรี 70 ที่นั่ง ได้ตามวันและเวลาดังกล่าว สอบถามข้อมูลได้ที่ คุณสรไกร ไพธิกุล โทร. 094-996-5911 หรือ อีเมล์ : sorakrai1050@gmail.com

ขวัญฤทัยข่าว – ภาพ


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

DPU X มธบ. ชี้เป้าสายงาน “Game Developer” เส้นทางสู่อาชีพสำหรับคอเกมเมอร์ กูรูวงการ E-Sport เผยตลาดโตต่อเนื่องต้องการบุคลากรรองรับ

สถาบันเพื่อพัฒนาความเป็นผู้ประกอบการและบุคลากรแห่งอนาคต (DPU X) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์(มธบ.) ร่วมกับวิทยาลัยครีเอทีฟดีไซน์ & เอ็นเตอร์เทนเมนต์เทคโนโลยี (ANT) เปิดประสบการณ์ใหม่ให้นักศึกษาภายใต้แนวคิด Playfessional ชอบทางไหนต้องไปให้สุด ตอน Indy Game โดยได้รับเกียรติจาก ดร.พัทธนันท์ เพชรเชิดชู รองอธิการบดีสายงานภาคีสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เป็นประธานในพิธีเปิด และนายจุลดิษฐ์ สันติธรณี ผู้จัดการทั่วไปและหัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ซอฟแวร์เพื่อองค์กร บริษัท ดิจิโทโปลิส จำกัด ร่วมแชร์ประสบการณ์และจุดประกายฝันให้กับนักศึกษา ในการคว้าโอกาสเป็นนักพัฒนาเกมแห่งโลกอนาคตรวมถึงทิศทางการตลาดและอาชีพในสายเกม

นายจุลดิษฐ์ สันติธรณี ผู้จัดการทั่วไปและหัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ซอฟแวร์เพื่อองค์กร บริษัท ดิจิโทโปลิส จำกัด กล่าวว่า ในวงการเกมเชื่อว่าทุกคนต้องรู้จัก Indy Game ซึ่งเป็นเกมที่เริ่มจากนักพัฒนาเกมเพียงคนเดียวหรือมีทีมขนาดเล็ก และใช้ช่องทางการจำหน่ายเกมเองโดยไม่พึ่งผู้จัดจำหน่าย ที่สำคัญเกมดังกล่าวส่วนใหญ่ผู้สร้างเกมทำบนความชอบมากกว่ามองรายได้ ถือเป็นอุดมการณ์การทำเกมที่แตกต่างจากนักสร้างเกมทั่วไป สำหรับวงการ E-Sports ในไทยเริ่มตื่นตัวและอยู่ในกระแสหลักมากขึ้น คนที่จะอยู่ในวงการนี้ หรือเป็นนัก E-Sports ต้องมีวินัย รู้จักการทำงานเป็นทีมเวิร์ค และหมั่นฝึกซ้อมอยู่เสมอ จะทำให้มีโอกาสเติบโตสูง ส่วนคนที่สนใจอยากเป็นนักพัฒนาเกมหรืออยากลงทุนทำเกม นอกจากจะรู้เรื่องเกมและเล่นเกมเก่งแล้วต้องเรียนรู้ทักษะเพิ่มเติม อาทิ ความคิดที่เป็นระบบ ความคิดสร้างสรรค์ และสื่อสารภาษาอังกฤษได้ เป็นต้น เนื่องจากการทำธุรกิจในด้านนี้ต้องเน้นทำการตลาดโลกเท่านั้นถึงจะไปต่อได้ ถ้าเน้นทำตลาดในไทยอย่างเดียว มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนสูง

นายจุลดิษฐ์ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันกลุ่มผู้ปกครองเริ่มอยู่ใน Generation ที่เล่นเกมเป็น จึงมีทัศนคติที่ดีต่อเกมเพิ่มมากขึ้น ทำให้ภาพเกมมอมเมาเยาวชนเริ่มหายไป อย่างไรก็ตามเด็กที่ชอบเล่นเกมต้องอยู่ในการควบคุมให้เล่นแต่พอดี แต่ถ้าเด็กมีพรสวรรค์ในด้านดังกล่าวผู้ปกครองควรสนับสนุนให้ทำเป็นอาชีพเพื่อสร้างรายได้ส่วนเด็กที่อยากเรียนสายนี้ แนะนำให้เรียนเพราะความชอบและอยากทำเกมจริงๆ อย่าเรียนเพื่อเลียนแบบคนดังหรือคนที่ประสบความสำเร็จ คนทำเกมต้องมีใจรักมีความรู้เรื่องเกมและมีใจที่อยากทำถึงจะอยู่รอดได้ในธุรกิจนี้ ส่วนอาชีพที่มาแรงในสายนี้ คือ เกมแคสเตอร์ (Game Caster)

“วงการเกมเป็นธุรกิจที่ใหญ่กว่าวงการภาพยนตร์ มีเม็ดเงินหมุนเวียนเงินมหาศาล คนอยากทำเกมต้องมีทุนสูง มีความสามารถวางแผนการตลาดและต้องวิเคราะห์เกมที่จะได้รับความนิยมในอนาคตได้ ส่วนอุปสรรคของคนทำเกม คือเงินทุนน้อย สำหรับคนที่มีใจอยากทำเกมแต่มีทุนน้อยยังพอมีช่องทางในธุรกิจอยู่บ้าง ถ้าคุณเป็นคนที่มีมุมมองผู้ประกอบการและมุมมองคนเล่นเกม สามารถวิเคราะห์ได้ว่าเกมแบบไหนจะติดตลาดในอนาคต ให้ทำเกมส่งเข้าประกวด แม้พลาดรางวัลแต่ได้รีวิวจากกรรมการเพื่อกลับมาปรับแก้แล้วนำเกมไปปล่อยในสโตร์เล็กๆ ก่อนเพื่อดูข้อมูล ทั้งนี้การลงแรงแต่ไม่ลงทุนคือวิธีที่ฉลาดและคุ้ม ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของคนทำเกมรุ่นใหม่”นายจุลดิษฐ์ กล่าว

นางสาวธีราภรณ์ สิงห์ขร นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาออกแบบดิจิทัลเชิงสร้างสรรค์ วิทยาลัยครีเอทีฟดีไซน์ & เอ็นเตอร์เทนเมนต์เทคโนโลยี(ANT) กล่าวว่า หลังจบการศึกษาตนอยากทำงานด้าน Marketing หรือ AE การเข้าร่วมกิจกรรม Playfessional ที่ทางมหาวิทยาลัยจัดขึ้น ทำให้รู้ทิศทางการตลาดของเกมในปัจจุบัน สามารถมองเห็นภาพหลังเรียนจบในอนาคตได้กว้างขึ้น เพื่อนำไปพัฒนาตนเองหรือปรับตัวให้ทันก่อนปฏิบัติงานจริง ปัจจุบันกลุ่มผู้เล่นเกมขยายจากกลุ่มวัยรุ่นไปสู่วัยอื่นๆ ทำให้วงการนี้เริ่มขยายตลาดมากขึ้นรวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุด้วย แม้ปัจจุบันผู้ปกครองบางท่านยังมองการเล่นเกมเป็นเรื่องไร้สาระไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ตนจึงอยากสื่อสารให้เข้าใจว่า เกมถ้าเล่นเป็นสามารถสร้างรายได้เลี้ยงตนเองและครอบรัวได้ ดังนั้นน้องๆที่ชอบเล่นเกมต้องแบ่งเวลาให้เป็น ต้องเรียนรู้ระบบเกม และเรียนรู้ภาษาเพิ่ม เพราะสิ่งเหล่านี้นำมาต่อยอดให้ก้าวไปเป็นนักพัฒนาเกม หรืออาชีพอื่นที่อยู่ในสายเกม ขอเพียงมีแรงผลักดันจากผู้ปกครองที่พร้อมสนับสนุน จะทำให้เด็กมีอนาคตไกลและไปต่อได้

“อาชีพในสายเกมแตกแขนงได้หลายทาง อยู่ที่บ้านก็สามารถทำงานได้ บางคนอาจจะกลัวการหาคำตอบหรือเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ ถ้าลองเปิดใจและไขว่คว้าหาโอกาสสิ่งที่อยู่รอบตัวหรือสิ่งที่ชอบ เราจะรู้ว่ายังมีหลายสิ่งอีกมายที่ยังไม่ทันได้เห็นที่ได้ลองลงมือทำ” นางสาวธีราภรณ์กล่าว


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

สถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีไทย-ฝรั่งเศส จัดอบรมการติดตั้งไฟฟ้าภายในอาคาร

สถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีไทย-ฝรั่งเศส มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) โดยฝ่ายเทคโนโลยีไฟฟ้าและพลังงาน จัดฝึกอบรมหลักสูตร การติดตั้งไฟฟ้าภายในอาคาร (Interior Electrical Installation) รุ่นที่ 8/2562 ให้กับช่างที่ติดตั้งไฟฟ้าที่ต้องการใบอนุญาตเพื่อนำไปประกอบอาชีพ

โดยจัดฝึกอบรมระหว่างวันที่ 12-13, 15 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา ณ อาคารสถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีไทย-ฝรั่งเศส มจพ.

หากท่านใดสนใจเกี่ยวกับการจัดฝึกอบรมในหลักสูตรต่างๆ สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ สถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยี ไทย – ฝรั่งเศส มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) โทรศัพท์ 02 555-2000 ต่อ 2501, 2502

ขวัญฤทัย ข่าว/อัชณี ถ่ายภาพ


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ออฟฟิศเมท จัดโปรหมัดเด็ด ช้อปกระเช้าของขวัญ มัดใจผู้ประกอบการ !!!

ออฟฟิศเมท รุกตลาดกระเช้าและของขวัญรับเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองต้อนรับปีใหม่ 2020 เจาะกลุ่มผู้ประกอบการและจัดซื้อองค์กรที่เตรียมซื้อของขวัญรับปีใหม่ มอบแทนคำขอบคุณและความปรารถนาดีให้ลูกค้าธุรกิจและคู่ค้าคนสำคัญ กับแคมเปญ “Season of Making a Bliss” มีสินค้าให้เลือกสรรครบครันทั้งกระเช้าปีใหม่ ชุดของขวัญ ปากกาพรีเมียม เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก และของพรีเมียมสั่งผลิตตามความต้องการ พร้อมบริการจัดส่งฟรีถึงที่เพียงช้อปครบ 499 บาท* (ตามเงื่อนไขที่กำหนด) และจัดหนักโปรโมชั่นหมัดเด็ดสุดคุ้ม มัดใจผู้ประกอบการทุกขนาด !!!

นายเคียงศักดิ์ พงษ์กิตติพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ อาวุโส ฝ่ายบริหารสินค้า และ นางสาววรพรรณ ชุณหศรีวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด เปิดเผยว่า ช่วงเวลา แห่งความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้ ออฟฟิศเมท จัดแคมเปญ “Season of Making a Bliss” มอบความสุขไม่รู้จบกับกระเช้าปีใหม่และของขวัญแทนคำขอบคุณให้ลูกค้าและคู่ค้าคนสำคัญ เน้นคัดสรรสินค้าจากแบรนด์ดังกว่า 100 รายการ อาทิกระเช้าของขวัญพรีเมียมจากออฟฟิศเมทและท้อปส์ที่ครอบคลุมตั้งแต่ชุดเล็กไปจนถึงชุดใหญ่แบบจัดเต็ม มีหลายช่วงราคาให้เลือกสรรได้ตามต้องการ อีกทั้งยังมีกระเช้าของขวัญทรงคุณค่าจากดอยตุงและดอยคำ แทนความปรารถนาดีให้ผู้ใหญ่ และชุดของขวัญ S&P, Mallie, Davidoff, Bel Normande, Cobie Brown, Redondo, Lipton และ Nescafe ให้เลือกสรร

นอกจากนี้ สำหรับลูกค้าที่มองหาของขวัญปีใหม่ที่เหมาะแก่การใช้งานในออฟฟิศหรือชีวิตประจำวัน ในปีนี้ออฟฟิศเมทเพิ่มกลุ่มสินค้าปากกาพรีเมียมพร้อมสลักชื่อฟรี จากแบรนด์ CROSS, SHEAFFER, PARKER และ Pentel เป็นต้น และยังมีเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กจากแบรนด์ Electrolux, anitech และ neo ซึ่งได้รับความนิยมสูง ครอบคลุมทั้งลำโพงบลูทูธ เครื่องปั่น เครื่องชงกาแฟ กาต้มน้ำไฟฟ้า เตาปิ้งย่าง หม้ออเนกประสงค์ เครื่องดูดฝุ่น เตารีดไอน้ำ และอื่นๆ อีกเพียบ สำหรับผู้ประกอบการหรือบริษัทที่ต้องการของขวัญที่สร้างความประทับใจให้ลูกค้าหรือพนักงาน ออฟฟิศเมทขอชวนมาสร้างความรู้สึกดีๆ ด้วยสินค้าพรีเมียมสั่งผลิตตามไอเดียคุณ มีให้เลือกมากมายหลายชนิดและหลายแบบ เช่น เซ็ตกล่องข้าวรักษ์โลก แก้วน้ำ Eco กระบอกน้ำ ออแกไนซ์เซอร์ปกหนัง สมุดโน้ต พวงกุญแจ และอื่นๆ ซึ่งสามารถสั่งขั้นต่ำเพียง 100 ชิ้น พร้อมสกรีนหรือปั๊มโลโก้ได้

ออฟฟิศเมท ให้คุณสะดวกมากกว่าที่เคย! ช้อปกระเช้าปีใหม่และของขวัญกับออฟฟิศเมทสะดวกและง่ายทุกช่องทาง ทั้ง officemate.co.th, OfficeMate Mobile App, Contact Center 1281, Chat & Shop ผ่าน Line: @OfficeMate และที่ร้านออฟฟิศเมท พร้อมให้บริการส่งฟรีถึงที่เพียงช้อปครบ 499 บาท (ตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด) พิเศษ!! สั่งซื้อกระเช้าปีใหม่ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธ.ค. 62 เมื่อช้อปครบยอดสั่งซื้อสามารถเลือกรับทันทีส่วนลดสูงสุด 21% หรือ รับ Tops Gift Voucher สูงสุด 110,000 บาท (*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด) พร้อมโปรโมชั่นดีๆ จากพันธมิตรบัตรเครดิต สำหรับลูกค้าที่ชำระด้วยบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 2,400 บาท เมื่อชำระเต็มจำนวน หรือแบ่งจ่าย 0% นาน 3 เดือน ทุกชิ้น เมื่อมียอดซื้อ 1,500 บาท ขึ้นไปต่อใบเสร็จที่ร้านออฟฟิศเมททุกสาขา ดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

กูรู ฟันธง! ประกาศเขตปลอดอากร E-Commerce ส่งผลบวกต่อศก. ดันตลาดอสังหาฯ ในพื้นที่ EEC บูม

กูรู ฟันธง! ประกาศเขตปลอดอากร E-Commerce

ส่งผลบวกต่อศก. ดันตลาดอสังหาฯ ในพื้นที่ EEC บูม

วันนี้ (18พ.ย. 2562) บริษัท พร็อพทูมอร์โรว์ จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจ ที่ปรึกษาด้านการตลาดและสื่อด้านอสังหาริมทรัพย์ได้จัดงานเสวนา “ชำแหละประกาศกรมศุลกากร E-Commerce ใน EEC: ผลกระทบภาคอสังหาฯ ไทย” โดยวิทยากรประกอบด้วย นายทัศไนย เหมือนเสน ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ JOBBKK.COM หรือ E_JOB กรรมการบริษัท THAILAND BUSINESS CENTER (TeC) และอุปนายกสมาคมดิจิทัลไทย, ดร. เฉลิมรัฐ นาควิเชียร ประธานบริหาร GMO – Z.com NetDesign , นายปฐม อินทโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทสยามไอซีโอ จำกัด และกรรมการสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย และนายกรณ์กวินท์ พีระเดชไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท พร็อพทูมอร์โรว์ จำกัด (Chief Marketing Officer prop2morrow) โดยสรุปวิทยากรต่างสรุปเห็นพ้องกันว่าพื้นที่ E-Commerce Park จะส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาฯและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ โกดังสินค้า บ้าน คอนโดให้เช่า โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์ ศูนย์ประชุม รวมถึงธุรกิจภาคบริการอื่นๆเช่น ธุรกิจเฮลท์แคร์ โรงพยาบาล ธุรกิจประกัน ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจไอที และธุรกิจรีเทล เป็นต้น

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2562 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศกรมศุลกากร ที่ 204/2562 เรื่อง การปฏิบัติพิธีการศุลกากร ณ เขตปลอดอากรกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี คอมเมิร์ซ (E-Commerce) ภายในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(Eastern Economic Corridor :EEC)

นายกรณ์กวินท์ พีระเดชไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท พร็อพทูมอร์โรว์ จำกัด กล่าวว่า ประกาศของกรมฯ ดังกล่าว ส่วนตัวมองเป็นเรื่องที่ดีที่รัฐบาลต้องการเพิ่มแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจของ ประเทศผ่านการลงทุนต่างๆ ของภาคเอกชนทั้งที่มาจากการลงทุนต่างประเทศและจากนักลงทุนภายในประเทศ หรือการมีโปรเจ็กต์หนึ่งที่มาจากการลงทุนทำให้เกิดการก่อสร้าง การจ้างงาน การสั่งสินค้า และการเกิดฟรีเทรดโซนใน EEC อาจเป็นโอกาสของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพราะพื้นที่ E Commerce Park นั้น ที่ประสบความสำเร็จในประเทศจีนซึ่งมีมากกว่าพันแห่งได้เป็นแหล่งกระจายรายได้ให้ชุมชน สินค้าหรือบริการเหล่านั้นให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น หลายรายเติบโตเป็นผู้ประกอบการระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Alibaba Huawei Oppo Xiaomi เป็นต้น ต่างก็มีจุดเริ่มต้น จากการเป็น SME ใน E Commerce park เช่นเดียวกัน

ทั้งนี้หากพิจารณาการขยายการลงของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จากส่วนกลาง (กทม.) หรือจากผู้ประกอบการท้องถิ่นสะท้อนภาพได้ว่าอสังหาฯ ในพื้นที่ EEC เป็นทำเลที่มีอัตราการเติบโตในอัตราที่ดี โดยเฉพาะชลบุรีส่วนระยองเป็นทำเลศักยภาพ ขณะที่ฉะเชิงเทรามีโอกาสขยายตัวในอนาคต และน่าจับตามองมากหลังจากที่ Alibaba Group บริษัทอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ที่สุดของประเทศจีนลงทุนก่อสร้างโครงการ Smart Digital Hubในพื้นที่ EEC มูลค่าลงทุน 11,000 ล้านบาทอสังหาริมทรัพย์เมื่อมีเม็ดเงินนับหมื่นล้านบาทเข้ามาในไทยก็จะเกิดการจ้างงานมากขึ้น การถ่ายโอนด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น โดยส่วนตัวมองเป็นเชิงบวกต่อประเทศไทยและเชิงบวกต่อภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

นายทัศไนย เหมือนเสน กรรมการบริษัท Thailand eBusiness Center (TeC) และอุปนายกสมาคมดิจิทัลไทย กล่าวว่า EEC เป็นการเปิดการค้าไทยกับต่างประเทศ และสร้าง e-Trade cross border possibility โดยเฉพาะจีน ถ้าเราเน้นเอาการลงทุนเอา Know-how ของเค้ามาเพื่อพัฒนาสินค้าและบริการเราให้ดีขึ้น เราเองก็มีโอกาสส่งออกไปต่างประเทศทั่วโลก ซึ่งจีนถือเป็นยุทธศาสตร์สำหรับ เป็นคู่ค้ากันมาระหว่างไทย-จีนอยู่ในอันดับที่ 14 กว่า 44-45 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน อีกทั้งจะสร้างงานหลายแสนหลายล้านอาชีพในเขตพื้นที่พิเศษ EEC นี้ สคิลด้าน Digital, e-Commerce, e-Business และ Technology คือสิ่งที่ทุกคนต้องตระหนักในวันนี้ เพื่อที่จะเป็นแรงงานศักยภาพในอนาคต ทาง TeC หรือ Thailand e-Business Center ก็มองโอกาสในการไปสร้างสำนักงานบริษัทสาขาที่ 3 ใน EEC เพื่อช่วยสร้าง Future digital career, e-Commerce cross border to China, Practical training และสนับสนุนให้คนไทย ผู้ประกอบการไทย ผู้บริหารระดับสูง ใช้ประโยชน์จาก Case Study จีน และพัฒนาองค์กรไปสู่ Digital Technology transformation

นายปฐม อินทโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทสยามไอซีโอ จำกัด และกรรมการสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยขาดดีมานด์ในการสร้างดิจิทัลแพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นอาวุธหลักในการแข่งขันทางธุรกิจใน 1-2 ปีข้างหน้า ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านมีแผนธุรกิจทำสมาร์ทเนชั่น สมาร์ทซิตี้ ยกเครื่องระบบ โลจิสติกส์ ซัพพลายเชน ฯลฯ นั่นคือเขาต้องใช้ IOT, AI และเซ็นเซอร์อีกมากมายมหาศาล ซึ่งนั่นถือเป็น การยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี

ด้วยเหตุนี้ทางออกของผู้ประกอบการไทยคือต้องเร่งพัฒนา Eco System ของตัวเองขึ้นมาด้วย โดยมองว่าหน่วยงานรัฐอย่างต้องร่วมมือกับองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ ในขณะที่บริษัททั่วไปก็จำเป็นต้องมองหาโอกาสในธุรกิจจาก EEC ด้วยการเรียนรู้จากธุรกิจข้ามชาติโดยเฉพาะจีนที่เป็นกำลังสำคัญใน EEC ซึ่งมีความพร้อมทั้งในการบริหาร การจัดการ เงินทุน และเทคโนโลยี

สำหรับผลกระทบจากประกาศกรมศุลกากร ฉบับนี้ นายปฐม กล่าวให้ความเห็นว่า การปรับตัวของผู้ประกอบการ E-Commerce ไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการรายย่อย เน้นการค้าขายผ่านระบบ Social Commerce มักเคยชินอยู่กับการซื้อมา ขายไป ซึ่งไม่ก่อให้เกิดความเข้มแข็งในการทำธุรกิจในระยะยาว การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจด้วยการเร่งพัฒนาสินค้าและบริการให้ตรงใจลูกค้า โดยการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าอย่างเป็นระบบ รวมถึงการสร้างแบรนด์เป็นของตัวเองอย่าพึ่งพิงเจ้าของสินค้าจากจีนแต่เพียงอย่างเดียว เพราะแม้จะขายดีในวันนี้แต่เขาย่อมหาช่องทางขายตรงเข้าในประเทศไทยอย่างแน่นอนในอนาคต

ทั้งนี้ผู้ที่ได้ประโยชน์จาก EEC จึงเปิดกว้างให้กับผู้ประกอบการชาวไทยได้ศึกษาเรียนรู้กระบวนการทำธุรกิจจากต่างชาติ และการทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่เกิดจากการขยายตัวของ EEC ไม่ว่าจะเป็นด้านโลจิสติกส์ เทคโนโลยี และอสังหาริมทรัพย์ที่ล้วนมีโอกาสใหม่ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงนี้เช่นเดียวกัน

ขณะที่ดร. เฉลิมรัฐ นาควิเชียร ประธานบริหาร GMO – Zcom NetDesign ในเครือ GMO Internet Group ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น กล่าวให้ความเห็นว่า การที่หน่วยงานภาครัฐคือกรมศุลกากรได้ออกประกาศการปฏิบัติพิธีการศุลกากร ณ เขตปลอดอากรกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) ในพื้นที่ EEC ถือว่าสอดคล้องและสนับสนุนยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ ที่มุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมในดิจิทัลแทนการพัฒนาอุตสาหกรรมพึ่งพาแบบดั้งเดิม

นอกจากนี้ ยังมองว่าการลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐานหลักด้านคมนาคมต่างๆ เพื่อเชื่อมการค้าและการลงทุนไปยังพื้นที่ EEC โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา) ทำให้การขนส่ง และการเดินทางระหว่างจังหวัดสะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น ลดต้นทุนและลดระยะเวลา เป็นการกระจายความเจริญไปสู่เมืองต่างๆ ประโยชน์ที่ได้รับนั้นนอกจากจะเป็นการกระจายความเจริญไปสู่พื้นที่รอบนอกมากขึ้นแทนการจะกระจุกตัวเฉพาะในเมืองเหมือนในอดีตแล้ว ยังส่งผลดีต่อประสิทธิภาพการผลิต (Productivity) ก็จะมีความสำเร็จตามมาทั้งปริมาณและคุณภาพ

พร้อมกันนี้ ดร. เฉลิมรัฐ ยังกล่าวให้ความเห็นด้วยว่า นอกจากความสะดวกสบายด้านการคมนาคมแล้ว สิทธิประโยชน์ด้านภาษีอากรต่างๆ ก็มีส่วนสำคัญในการดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งต้องยอมรับว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา การเจริญเติบโตด้านเศรษฐกิจขอประเทศไทย ส่วนหนึ่งมาจากการลงทุนโดยตรงจากนักลงทุนจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment : FDI) ซึ่งการที่รัฐบาลให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีต่างๆ เช่น การยกเว้นภาษีนำเข้า ถือว่าเป็นมาตรการกระตุ้นการลงทุนให้เกิดขึ้น ผลตามมาก็คือ เป็นการสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นในพื้นที่หรือในชุมชน รวมถึงได้แรงงานเชี่ยวชาญจากต่างชาติ ซึ่งคนไทยเองก็ต้องเรียนรู้ประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญจากการลงทุนของต่างชาติด้วย ภาครัฐ หรือ ภาควิชาการ หรือมหาวิทยาลัยในพื้นที่นั้นก็ต้องผลิตหรือสร้างบุคคลากรเพื่อรองรับภาคธุรกิจต่างๆ ด้วยเช่นกัน และการที่ต่างชาติเข้ามาทำงานในไทยหรือเกิดการว่าจ้างแรงงานขึ้นในพื้นที่ใดก็ตาม ความต้องการด้านที่อยู่อาศัยก็ตามมาด้วยเช่นกัน

“กลุ่มนักลงทุนญี่ปุ่นถ้ามองเห็นโอกาสเขามาลงทุนอยู่แล้ว และที่มาลงทุนในไทยเขาต้องการลงทุนระยะยาว ธุรกิจดิจิทัลจะให้ความสำคัญ infrastructure เป็นหลัก และการลงทุนในธุรกิจดิจิทัลนั้นไม่จำเป็นว่าผลิตซอร์ฟแวร์มาแล้วจะขายเฉพาะประเทศนั้นๆ” ดร. เฉลิมรัฐ กล่าวพร้อมระบุว่า GMO Internet Group ได้เข้ามาลงทุนในไทย ใช้เม็ดเงินลงทุนไปแล้วประมาณ 4,000 ล้านบาท มีเป้าหมายใช้ประเทศไทยเป็นไปฐานในการผลิตซัพพอร์ตไปทั่วภูมิภาคเซาท์อีสต์ เอเชีย ที่มีประชากรรวมกัน 600-700 ล้านคน


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

สมัคร TOT fiber 2U โปร Extra Top Speed ทางออนไลน์ ลุ้นรับ iPad ฟรี!!

แรงได้แรงดี ตลอดคืนและเสาร์อาทิตย์ กับ TOT fiber 2U ที่ยังแรงต่อเนื่องกับโปรโมชั่นส่งท้ายปี

เพียงแค่สมัคร TOT fiber 2U กับโปรโมชั่น Extra Top Speed ก็มีสิทธิ์ลุ้นรับ iPad ฟรี มูลค่า 15,400 บาท จำนวน 1 รางวัล

สมัครได้ทางออนไลน์เท่านั้น อย่ารอช้ารีบคลิกเข้าไปสมัครและกรอกรายละเอียดได้ที่ 

เริ่มตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2562 และจะประกาศรายชื่อผู้โชคดี ที่ได้รับรางวัลในวันที่ 15 ธันวาคม 2562

ติดตามกติกาและเงื่อนไขกิจกรรม ได้ที่ https://www.tot.co.th หรือโทร 1100


 

Exit mobile version