รศ.ดร. เชษฐวุฒิ ภูมิพิพัฒน์พงศ์ หัวหน้าภาควิชาเทคโนโลยีวิ
เมื่อวัที่ 26 พฤศจิกายน 2562 ณ SME Bank Tower (สถานีรถไฟฟ้าอารีย์) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้
ทั้งนี้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี
รศ.ดร. เชษฐวุฒิ ภูมิพิพัฒน์พงศ์ หัวหน้าภาควิชาเทคโนโลยีวิ
เมื่อวัที่ 26 พฤศจิกายน 2562 ณ SME Bank Tower (สถานีรถไฟฟ้าอารีย์) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้
ทั้งนี้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี
ผู้ก่อตั้งหัวเว่ย:
“เราไม่สนเรื่องสหรัฐฯ แบนเราอีกแล้ว”
“ให้อเมริกาใส่ชื่อหัวเว่ยในบัญชีดำตลอดไปก็ได้ เพราะเราอยู่ได้สบาย ๆ อยู่แล้ว”
มร. เหริน เจิ้งเฟย กล่าว
กรุงเทพฯ/ 29 พฤศจิกายน 2562 – หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุด และผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับสองของโลก ประกาศกร้าวว่าบริษัทเลิกสนใจการโจมตีอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลทรัมป์ไปนานแล้ว “เราไม่คาดหวังว่าสหรัฐอเมริกาจะถอนชื่อหัวเว่ยออกจากบัญชีดำ” มร. เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของหัวเว่ย ประกาศระหว่างการให้สัมภาษณ์เมื่อเร็ว ๆ นี้ กับหนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล “ให้อเมริกาใส่ชื่อหัวเว่ยในบัญชีดำตลอดไปก็ได้ เพราะเราอยู่ได้สบาย ๆ อยู่แล้ว” มร. เหริน กล่าวเสริม
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หัวเว่ยถูกรวมเข้าไปอยู่ในบัญชี Entity List ของสหรัฐอเมริกา มีผลบังคับไม่ให้หัวเว่ยทำธุรกิจใด ๆ กับบริษัทสัญชาติอเมริกัน นับเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่หัวเว่ยมองว่ามีผลกระทบเพียงเล็กน้อยกับธุรกิจของบริษัท ภายหลังจากการขึ้นบัญชีดำ มร. เหริน เองได้คาดการณ์ไว้ว่า หัวเว่ยอาจต้องสูญเสียรายได้ราว 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่การประเมินของเขากลับไม่ถูกต้อง เพราะบริษัทประกาศว่ารายได้ในช่วง 9 เดือนแรกของปีเติบโตสูงขึ้นถึง 24% ในเดือนกันยายน มร. แอนดี้ เพอร์ดี้ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยของหัวเว่ย เทคโนโลยี่ สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า บริษัทซื้อชิ้นส่วนจากบริษัทอเมริกาไปเป็นมูลค่ากว่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2018 ซึ่งหากขาดรายได้จากการสั่งซื้อของหัวเว่ย บริษัทสหรัฐฯ จะต้องขาดทุนมหาศาล
แม้ว่าจะโดนแบน มร. เหริน กล่าวย้ำว่า เขาไม่เคยเกลียดสหรัฐฯ และหัวเว่ยก็จะไม่ปิดประตูใส่ประเทศใด ๆ เพื่อประโยชน์ด้านความก้าวหน้าและการพัฒนาด้านดิจิทัลอย่างรวดเร็วของโลก ซีอีโอของหัวเว่ยกล่าวย้ำมาโดยตลอดว่าตนยึดถือหลัก “ความร่วมมือที่เปิดกว้างเพื่อความสำเร็จร่วมกัน” และต้องการที่จะทำงานกับทุกประเทศทั่วโลกเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาโลกยุคดิจิทัล เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา มร. เหริน ได้ประกาศขายเทคโนโลยี 5G ของหัวเว่ย รวมถึงองค์ความรู้และลิขสิทธ์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวให้แก่บริษัทสหรัฐฯ
ในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ เขาย้ำว่าข้อเสนอของเขานั้นเป็นเรื่องจริง และยังเปิดรับอยู่ แต่จนขณะนี้ก็ยังไม่มีบริษัทใดติดต่อเข้ามา
เมื่อนักข่าวถามเรื่องข้อกล่าวหาที่ปราศจากหลักฐานของสหรัฐฯ ที่ว่า หัวเว่ยอาจต้องปฏิบัติตามกฎหมายในการส่งข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าให้แก่รัฐบาลจีน หากมีการร้องขอ มร. เหริน กำชับว่า เขาและพนักงานเกือบ 200,000 คนทั่วโลกจะปฏิเสธคำร้องขอนั้น พร้อมยืนยันว่า บริษัทมีมาตรการที่เข้มงวดต่อการทำผิดกฎระเบียบของพนักงาน และบุคคลใดก็ตามที่ทำความผิด จะได้รับการลงโทษอย่างรุนแรง
มร. เหริน รวมถึงผู้บริหารระดับสูงทุกคน ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของรัฐบาลสหรัฐฯ เรื่องการสอดแนมมาหลายต่อหลายครั้งว่า มันไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด นี่เป็นเพียงการโจมตีโดยมีเหตุจูงใจทางการเมืองของสหรัฐฯ ซึ่งหวังทำลายการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี 5G ของหัวเว่ย ถึงกระนั้นก็ตาม บริษัทก็ยังนำโด่งในฐานะผู้ให้บริการโซลูชั่น 5G ที่ครบวงจรและทันสมัยที่สุด และได้คว้าสัญญา 5G เชิงพาณิชย์ไปแล้วกว่า 50 ฉบับทั่วโลก หัวเว่ยจะไม่มีวันหยุดพัฒนานวัตกรรมด้าน 5G, AI และโมบายเทคโนโลยี โดยถือเป็นหนึ่งในบริษัทที่ลงทุนด้าน R&D มากที่สุดในโลก ในอีก 5 ปีข้างหน้า หัวเว่ยมีแผนที่จะทุ่มงบถึง 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อก่อตั้งศูนย์นวัตกรรมและ R&D ทั่วโลก
ออฟฟิศเมท จัดแคมเปญใหญ่ส่งท้ายปีกับ “12.12 MEGA SALE” ลดแซ่บ แทบคลั่ง เอาใจจัดซื้อองค์กร SME และเหล่านักช้อป ด้วยดีลเด็ดไอเทมสุดฮอตที่พลาดไม่ได้แม้แต่วันเดียว ทั้งสินค้าอุปกรณ์สำนักงาน ไอที แก็ดเจ็ท เครื่องใช้ไฟฟ้า และเฟอร์นิเจอร์ คัดสรรเน้นๆ จากแบรนด์ดังยอดนิยม พิเศษ! ทุกบิลที่ช้อปกับออฟฟิศเมทตั้งแต่ 1 ธ.ค. 62 – 31 ม.ค. 63 สามารถรับสิทธิ์ลุ้น iPhone11 (64 GB) จำนวน 20 รางวัล (ตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด) ฟินให้สุดรับเทศกาลแห่งความสุข เพราะออฟฟิศเมทลดแรง แจกหนัก ตลอดทั้งเดือนแบบ Non Stop
– โปรโมชั่น “Deal of the Day” 1 ธ.ค. – 12 ธ.ค 62 พบกับดีลเด็ด สินค้าจัดเต็มเปลี่ยนทุกวันให้คุณประหยัดทั้งวีค!! ทั้งเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน HP และ Canon, เก้าอี้สำนักงานและโต๊ะทำงานพร้อมชั้นวางของ Furradec, กระดาษถ่ายเอกสาร เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องดูดฝุ่น DYSON และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย (*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)
– โปรโมชั่น “Crazy Deal” ลดไปอีก ลดหนักกว่าทุกวัน 12 ธ.ค. 62 วันเดียวเท่านั้น ให้คุณช้อปกระหน่ำ แถมกระจาย รับรองว่าแซ่บ แทบคลั่ง กับไอเทมยอดฮิตที่ทุกคนเฝ้ารอ! (*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)
– โปรโมชั่น “12 Days 12 Brands Sale” 12 ธ.ค. – 23 ธ.ค 62 เตรียมช้อปแบรนด์ดังในราคาโดนใจ เล็งไว้ให้ดี! แล้วรีบพุ่งตัวไปช้อป อาทิ เฟอร์นิเจอร์ Furradec, อุปกรณ์สำนักงานแบรนด์ one, me.style, ORCA, 3M, Elephant สินค้าไอทีแก็ตเจ็ต neo, MI, Remax, hp, Canon, Casio และแบรนด์ชั้นนำที่ขนขบวนมาให้ช้อปอีกเพียบ! (*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)
พิเศษข้ามปีกับ Lucky Bill Lucky Bonus #ออฟฟิศเมทใจดีแจกiPhone11ฟรี20เครื่อง ทุกใบเสร็จรับสิทธิ์ลงทะเบียนลุ้นรับ iPhone 11 (64 GB) จำนวน 20 รางวัล มูลค่ารวม 498,000 บาท ช้อปได้ทุกช่องทาง ลุ้นได้ทุกใบเสร็จไม่มีขั้นต่ำ ร่วมสนุกกันยาวๆ ตั้งแต่ 1 ธ.ค. 62 – 31 ม.ค. 63 ช้อปเลยที่ร้านออฟฟิศเมท และออฟฟิศเมท พลัส กว่า 80 สาขาทั่วประเทศ, Contact Center 1281 หรือ ผ่านช่องทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ officemate.co.th, e-Procurement, OfficeMate Mobile App และ Chat & Shop ที Line: @OfficeMate พร้อมบริการส่งฟรีถึงที่ เพียงช้อปครบ 499 บาทขึ้นไป (ตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด)
นางสาววรพรรณ ชุณหศรีวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด ออฟฟิศเมท จับมือ นายนรินทร ชววิสุทธิกูล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เพาเวอร์บาย ขนกองทัพสินค้าเพื่อบ้านและธุรกิจจากหลากหลายแบรนด์ดัง ทั้งกลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด ไอที อิเล็กทรอนิกส์ แก็ดเจ็ท และอุปกรณ์สำนักงาน มาลดราคากระหน่ำจัดโปรไม่ยั้ง เอาใจเหล่านักช้อปและผู้ประกอบการให้ได้ช้อปคุ้มจัดเต็มในงานเพาเวอร์บาย เอ็กซ์โป 2019 “POWER WISH ทุกความสุขเป็นจริงได้” อัดโปรโมชั่นต่อเนื่อง 9 วันเต็ม วันนี้ – 5 ธ.ค. 62 ณ ไบเทค บางนา ฮอลล์ 101 (*พิเศษสุดเฉพาะวันที่ 29 พ.ย. 62 เปิดบริการถึงเที่ยงคืน)
พบกับไฮไลท์สินค้านาทีทองราคาพิเศษที่บูธออฟฟิศเมท ในช่วงเวลา Happy Hour เที่ยงตรงถึงบ่าย 2 ทุกวัน ให้คุณช้อปเพิ่มความสุขให้ทุกสเปซการทำงาน ทั้งเก้าอี้ผู้บริหาร ลดสูงสุด 70% โต๊ะทำงาน เฟอร์นิเจอร์สำหรับ SME เก้าอี้จักรยานพร้อมที่วางโน๊ตบุ๊กโดนใจสายสุขภาพ และสินค้าออฟฟิศอิเล็กทรอนิกส์อีกมากมายในราคาสุดคุ้ม พิเศษ! วันที่ 29 พ.ย.62 วันเดียวเท่านั้น ที่บูธเพาเวอร์บาย พบกับเครื่องใช้ไฟฟ้าสินค้าแบรนด์ดัง โปรโมชั่นราคาสุดพิเศษ ซื้อ 1 แถม 1 อาทิ ทีวีหน้าจอขนาด 55 นิ้ว เป็นต้น
ช้อปที่งานคุ้มแน่นอน! ให้คุณรับของสมนาคุณต่างๆ เมื่อช้อปครบตามที่กำหนด และรับสิทธิพิเศษจากบัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน ลดเพิ่มสูงสุด 18% หรือเลือกรับเครดิตเงินคืน หรือรับสิทธิ์ผ่อน 0% กันแบบสบายกระเป๋า อีกทั้งยังสะดวกสุดๆ กับบริการจัดส่งฟรีถึงที่* (ตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด) พบกันได้ที่บูธออฟฟิศเมท และเพาเวอร์บาย #ของมันต้องมี #คุ้มแบบนี้ต้องช้อปรัวๆ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ร่วมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จัดงานสัมมนาในหัวข้อ “AUTOMATION : ทางรอดของอุตสาหกรรมไทย ในยุค 4.0 จริงหรือ?”
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 เวลา 09.30 – 12.00 น. ณ ห้องแก้ววิเชียร์ ชั้น 11 SME Bank Tower (สถานีรถไฟฟ้าอารีย์) โดย รศ.ดร. เชษฐวุฒิ ภูมิพิพัฒน์พงศ์ หัวหน้าภาควิชาเทคโนโลยีวิศวกรรมเครื่องต้นกำลัง วิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เป็นผู้บรรยาย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจให้ทุกๆภาคส่วนเห็นความสำคัญระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์มีส่วนเข้ามาเสริมศักยภาพและสร้างประโยชน์ให้กับอุตสาหกรรม และเมื่อมีความต้องการใช้งานหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเพิ่มมากขึ้น กลุ่มอุตสาหกรรมระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์จะสามารถเกิดขึ้นในประเทศไทยได้ กลุ่มเป้าหมายในการสัมนา เป็นผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมทุกประเภทอุตสาหกรรม
สืบเนื่องจาก ครม.เห็นชอบแผน “อุตสาหกรรมหุ่นยนต์” ทำให้ต้องพัฒนานวัตกรรมเพื่อเข้าสู่การเป็นเอสเอ็มอี 4.0 (Smart SMEs) ผ่านเครื่องมือสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาภายใต้นโยบาย 4 เครื่องมือ 1 กลยุทธ์
ได้แก่ เทคโนโลยีเป็นการให้บริการด้านการพัฒนาระบบข้อมูลและสารสนเทศ, Automation เป็นการพัฒนาระบบการผลิต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิต, หุ่นยนต์โดยการลดการใช้แรงงานในกระบวนการผลิตและสุดท้ายนวัตกรรมเป็นการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และอีก 1 กลยุทธ์ คือ การมุ่งพัฒนาการรวมกลุ่มอุตสาหกรรม หรือ Cluster ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญในการต่อยอดของ SMEs ไทยให้เข้มแข็ง
ผู้สนใจเข้าร่วมงานสัมมนา“Automation : ทางรอดของอุตสาหกรรมไทยในยุค 4.0 จริงหรือ?” สามารถสำรองที่นั่งก่อนวันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 นี้ (ฟรีสัมมนารับจำนวนจำกัด) ผ่านระบบสแกน QR CODE ลงทะเบียนฟรี 70 ที่นั่ง ได้ตามวันและเวลาดังกล่าว สอบถามข้อมูลได้ที่ คุณสรไกร ไพธิกุล โทร. 094-996-5911 หรือ อีเมล์ : sorakrai1050@gmail.com
ขวัญฤทัยข่าว – ภาพ
สถาบันเพื่อพัฒนาความเป็นผู้ประกอบการและบุคลากรแห่งอนาคต (DPU X) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์(มธบ.) ร่วมกับวิทยาลัยครีเอทีฟดีไซน์ & เอ็นเตอร์เทนเมนต์เทคโนโลยี (ANT) เปิดประสบการณ์ใหม่ให้นักศึกษาภายใต้แนวคิด Playfessional ชอบทางไหนต้องไปให้สุด ตอน Indy Game โดยได้รับเกียรติจาก ดร.พัทธนันท์ เพชรเชิดชู รองอธิการบดีสายงานภาคีสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เป็นประธานในพิธีเปิด และนายจุลดิษฐ์ สันติธรณี ผู้จัดการทั่วไปและหัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ซอฟแวร์เพื่อองค์กร บริษัท ดิจิโทโปลิส จำกัด ร่วมแชร์ประสบการณ์และจุดประกายฝันให้กับนักศึกษา ในการคว้าโอกาสเป็นนักพัฒนาเกมแห่งโลกอนาคตรวมถึงทิศทางการตลาดและอาชีพในสายเกม
นายจุลดิษฐ์ สันติธรณี ผู้จัดการทั่วไปและหัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ซอฟแวร์เพื่อองค์กร บริษัท ดิจิโทโปลิส จำกัด กล่าวว่า ในวงการเกมเชื่อว่าทุกคนต้องรู้จัก Indy Game ซึ่งเป็นเกมที่เริ่มจากนักพัฒนาเกมเพียงคนเดียวหรือมีทีมขนาดเล็ก และใช้ช่องทางการจำหน่ายเกมเองโดยไม่พึ่งผู้จัดจำหน่าย ที่สำคัญเกมดังกล่าวส่วนใหญ่ผู้สร้างเกมทำบนความชอบมากกว่ามองรายได้ ถือเป็นอุดมการณ์การทำเกมที่แตกต่างจากนักสร้างเกมทั่วไป สำหรับวงการ E-Sports ในไทยเริ่มตื่นตัวและอยู่ในกระแสหลักมากขึ้น คนที่จะอยู่ในวงการนี้ หรือเป็นนัก E-Sports ต้องมีวินัย รู้จักการทำงานเป็นทีมเวิร์ค และหมั่นฝึกซ้อมอยู่เสมอ จะทำให้มีโอกาสเติบโตสูง ส่วนคนที่สนใจอยากเป็นนักพัฒนาเกมหรืออยากลงทุนทำเกม นอกจากจะรู้เรื่องเกมและเล่นเกมเก่งแล้วต้องเรียนรู้ทักษะเพิ่มเติม อาทิ ความคิดที่เป็นระบบ ความคิดสร้างสรรค์ และสื่อสารภาษาอังกฤษได้ เป็นต้น เนื่องจากการทำธุรกิจในด้านนี้ต้องเน้นทำการตลาดโลกเท่านั้นถึงจะไปต่อได้ ถ้าเน้นทำตลาดในไทยอย่างเดียว มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนสูง
นายจุลดิษฐ์ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันกลุ่มผู้ปกครองเริ่มอยู่ใน Generation ที่เล่นเกมเป็น จึงมีทัศนคติที่ดีต่อเกมเพิ่มมากขึ้น ทำให้ภาพเกมมอมเมาเยาวชนเริ่มหายไป อย่างไรก็ตามเด็กที่ชอบเล่นเกมต้องอยู่ในการควบคุมให้เล่นแต่พอดี แต่ถ้าเด็กมีพรสวรรค์ในด้านดังกล่าวผู้ปกครองควรสนับสนุนให้ทำเป็นอาชีพเพื่อสร้างรายได้ส่วนเด็กที่อยากเรียนสายนี้ แนะนำให้เรียนเพราะความชอบและอยากทำเกมจริงๆ อย่าเรียนเพื่อเลียนแบบคนดังหรือคนที่ประสบความสำเร็จ คนทำเกมต้องมีใจรักมีความรู้เรื่องเกมและมีใจที่อยากทำถึงจะอยู่รอดได้ในธุรกิจนี้ ส่วนอาชีพที่มาแรงในสายนี้ คือ เกมแคสเตอร์ (Game Caster)
“วงการเกมเป็นธุรกิจที่ใหญ่กว่าวงการภาพยนตร์ มีเม็ดเงินหมุนเวียนเงินมหาศาล คนอยากทำเกมต้องมีทุนสูง มีความสามารถวางแผนการตลาดและต้องวิเคราะห์เกมที่จะได้รับความนิยมในอนาคตได้ ส่วนอุปสรรคของคนทำเกม คือเงินทุนน้อย สำหรับคนที่มีใจอยากทำเกมแต่มีทุนน้อยยังพอมีช่องทางในธุรกิจอยู่บ้าง ถ้าคุณเป็นคนที่มีมุมมองผู้ประกอบการและมุมมองคนเล่นเกม สามารถวิเคราะห์ได้ว่าเกมแบบไหนจะติดตลาดในอนาคต ให้ทำเกมส่งเข้าประกวด แม้พลาดรางวัลแต่ได้รีวิวจากกรรมการเพื่อกลับมาปรับแก้แล้วนำเกมไปปล่อยในสโตร์เล็กๆ ก่อนเพื่อดูข้อมูล ทั้งนี้การลงแรงแต่ไม่ลงทุนคือวิธีที่ฉลาดและคุ้ม ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของคนทำเกมรุ่นใหม่”นายจุลดิษฐ์ กล่าว
นางสาวธีราภรณ์ สิงห์ขร นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาออกแบบดิจิทัลเชิงสร้างสรรค์ วิทยาลัยครีเอทีฟดีไซน์ & เอ็นเตอร์เทนเมนต์เทคโนโลยี(ANT) กล่าวว่า หลังจบการศึกษาตนอยากทำงานด้าน Marketing หรือ AE การเข้าร่วมกิจกรรม Playfessional ที่ทางมหาวิทยาลัยจัดขึ้น ทำให้รู้ทิศทางการตลาดของเกมในปัจจุบัน สามารถมองเห็นภาพหลังเรียนจบในอนาคตได้กว้างขึ้น เพื่อนำไปพัฒนาตนเองหรือปรับตัวให้ทันก่อนปฏิบัติงานจริง ปัจจุบันกลุ่มผู้เล่นเกมขยายจากกลุ่มวัยรุ่นไปสู่วัยอื่นๆ ทำให้วงการนี้เริ่มขยายตลาดมากขึ้นรวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุด้วย แม้ปัจจุบันผู้ปกครองบางท่านยังมองการเล่นเกมเป็นเรื่องไร้สาระไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ตนจึงอยากสื่อสารให้เข้าใจว่า เกมถ้าเล่นเป็นสามารถสร้างรายได้เลี้ยงตนเองและครอบรัวได้ ดังนั้นน้องๆที่ชอบเล่นเกมต้องแบ่งเวลาให้เป็น ต้องเรียนรู้ระบบเกม และเรียนรู้ภาษาเพิ่ม เพราะสิ่งเหล่านี้นำมาต่อยอดให้ก้าวไปเป็นนักพัฒนาเกม หรืออาชีพอื่นที่อยู่ในสายเกม ขอเพียงมีแรงผลักดันจากผู้ปกครองที่พร้อมสนับสนุน จะทำให้เด็กมีอนาคตไกลและไปต่อได้
“อาชีพในสายเกมแตกแขนงได้หลายทาง อยู่ที่บ้านก็สามารถทำงานได้ บางคนอาจจะกลัวการหาคำตอบหรือเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ ถ้าลองเปิดใจและไขว่คว้าหาโอกาสสิ่งที่อยู่รอบตัวหรือสิ่งที่ชอบ เราจะรู้ว่ายังมีหลายสิ่งอีกมายที่ยังไม่ทันได้เห็นที่ได้ลองลงมือทำ” นางสาวธีราภรณ์กล่าว
สถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีไทย-ฝรั่งเศส มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) โดยฝ่ายเทคโนโลยีไฟฟ้าและพลังงาน จัดฝึกอบรมหลักสูตร การติดตั้งไฟฟ้าภายในอาคาร (Interior Electrical Installation) รุ่นที่ 8/2562 ให้กับช่างที่ติดตั้งไฟฟ้าที่ต้องการใบอนุญาตเพื่อนำไปประกอบอาชีพ
โดยจัดฝึกอบรมระหว่างวันที่ 12-13, 15 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา ณ อาคารสถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีไทย-ฝรั่งเศส มจพ.
หากท่านใดสนใจเกี่ยวกับการจัดฝึกอบรมในหลักสูตรต่างๆ สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ สถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยี ไทย – ฝรั่งเศส มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) โทรศัพท์ 02 555-2000 ต่อ 2501, 2502
ขวัญฤทัย ข่าว/อัชณี ถ่ายภาพ
ออฟฟิศเมท รุกตลาดกระเช้าและของขวัญรับเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองต้อนรับปีใหม่ 2020 เจาะกลุ่มผู้ประกอบการและจัดซื้อองค์กรที่เตรียมซื้อของขวัญรับปีใหม่ มอบแทนคำขอบคุณและความปรารถนาดีให้ลูกค้าธุรกิจและคู่ค้าคนสำคัญ กับแคมเปญ “Season of Making a Bliss” มีสินค้าให้เลือกสรรครบครันทั้งกระเช้าปีใหม่ ชุดของขวัญ ปากกาพรีเมียม เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก และของพรีเมียมสั่งผลิตตามความต้องการ พร้อมบริการจัดส่งฟรีถึงที่เพียงช้อปครบ 499 บาท* (ตามเงื่อนไขที่กำหนด) และจัดหนักโปรโมชั่นหมัดเด็ดสุดคุ้ม มัดใจผู้ประกอบการทุกขนาด !!!
นายเคียงศักดิ์ พงษ์กิตติพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ อาวุโส ฝ่ายบริหารสินค้า และ นางสาววรพรรณ ชุณหศรีวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด เปิดเผยว่า ช่วงเวลา แห่งความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้ ออฟฟิศเมท จัดแคมเปญ “Season of Making a Bliss” มอบความสุขไม่รู้จบกับกระเช้าปีใหม่และของขวัญแทนคำขอบคุณให้ลูกค้าและคู่ค้าคนสำคัญ เน้นคัดสรรสินค้าจากแบรนด์ดังกว่า 100 รายการ อาทิกระเช้าของขวัญพรีเมียมจากออฟฟิศเมทและท้อปส์ที่ครอบคลุมตั้งแต่ชุดเล็กไปจนถึงชุดใหญ่แบบจัดเต็ม มีหลายช่วงราคาให้เลือกสรรได้ตามต้องการ อีกทั้งยังมีกระเช้าของขวัญทรงคุณค่าจากดอยตุงและดอยคำ แทนความปรารถนาดีให้ผู้ใหญ่ และชุดของขวัญ S&P, Mallie, Davidoff, Bel Normande, Cobie Brown, Redondo, Lipton และ Nescafe ให้เลือกสรร
นอกจากนี้ สำหรับลูกค้าที่มองหาของขวัญปีใหม่ที่เหมาะแก่การใช้งานในออฟฟิศหรือชีวิตประจำวัน ในปีนี้ออฟฟิศเมทเพิ่มกลุ่มสินค้าปากกาพรีเมียมพร้อมสลักชื่อฟรี จากแบรนด์ CROSS, SHEAFFER, PARKER และ Pentel เป็นต้น และยังมีเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กจากแบรนด์ Electrolux, anitech และ neo ซึ่งได้รับความนิยมสูง ครอบคลุมทั้งลำโพงบลูทูธ เครื่องปั่น เครื่องชงกาแฟ กาต้มน้ำไฟฟ้า เตาปิ้งย่าง หม้ออเนกประสงค์ เครื่องดูดฝุ่น เตารีดไอน้ำ และอื่นๆ อีกเพียบ สำหรับผู้ประกอบการหรือบริษัทที่ต้องการของขวัญที่สร้างความประทับใจให้ลูกค้าหรือพนักงาน ออฟฟิศเมทขอชวนมาสร้างความรู้สึกดีๆ ด้วยสินค้าพรีเมียมสั่งผลิตตามไอเดียคุณ มีให้เลือกมากมายหลายชนิดและหลายแบบ เช่น เซ็ตกล่องข้าวรักษ์โลก แก้วน้ำ Eco กระบอกน้ำ ออแกไนซ์เซอร์ปกหนัง สมุดโน้ต พวงกุญแจ และอื่นๆ ซึ่งสามารถสั่งขั้นต่ำเพียง 100 ชิ้น พร้อมสกรีนหรือปั๊มโลโก้ได้
ออฟฟิศเมท ให้คุณสะดวกมากกว่าที่เคย! ช้อปกระเช้าปีใหม่และของขวัญกับออฟฟิศเมทสะดวกและง่ายทุกช่องทาง ทั้ง officemate.co.th, OfficeMate Mobile App, Contact Center 1281, Chat & Shop ผ่าน Line: @OfficeMate และที่ร้านออฟฟิศเมท พร้อมให้บริการส่งฟรีถึงที่เพียงช้อปครบ 499 บาท (ตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด) พิเศษ!! สั่งซื้อกระเช้าปีใหม่ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธ.ค. 62 เมื่อช้อปครบยอดสั่งซื้อสามารถเลือกรับทันทีส่วนลดสูงสุด 21% หรือ รับ Tops Gift Voucher สูงสุด 110,000 บาท (*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด) พร้อมโปรโมชั่นดีๆ จากพันธมิตรบัตรเครดิต สำหรับลูกค้าที่ชำระด้วยบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 2,400 บาท เมื่อชำระเต็มจำนวน หรือแบ่งจ่าย 0% นาน 3 เดือน ทุกชิ้น เมื่อมียอดซื้อ 1,500 บาท ขึ้นไปต่อใบเสร็จที่ร้านออฟฟิศเมททุกสาขา ดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
กูรู ฟันธง! ประกาศเขตปลอดอากร E-Commerce
ส่งผลบวกต่อศก. ดันตลาดอสังหาฯ ในพื้นที่ EEC บูม
วันนี้ (18พ.ย. 2562) บริษัท พร็อพทูมอร์โรว์ จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจ ที่ปรึกษาด้านการตลาดและสื่อด้านอสังหาริมทรัพย์ได้จัดงานเสวนา “ชำแหละประกาศกรมศุลกากร E-Commerce ใน EEC: ผลกระทบภาคอสังหาฯ ไทย” โดยวิทยากรประกอบด้วย นายทัศไนย เหมือนเสน ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ JOBBKK.COM หรือ E_JOB กรรมการบริษัท THAILAND BUSINESS CENTER (TeC) และอุปนายกสมาคมดิจิทัลไทย, ดร. เฉลิมรัฐ นาควิเชียร ประธานบริหาร GMO – Z.com NetDesign , นายปฐม อินทโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทสยามไอซีโอ จำกัด และกรรมการสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย และนายกรณ์กวินท์ พีระเดชไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท พร็อพทูมอร์โรว์ จำกัด (Chief Marketing Officer prop2morrow) โดยสรุปวิทยากรต่างสรุปเห็นพ้องกันว่าพื้นที่ E-Commerce Park จะส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาฯและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ โกดังสินค้า บ้าน คอนโดให้เช่า โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์ ศูนย์ประชุม รวมถึงธุรกิจภาคบริการอื่นๆเช่น ธุรกิจเฮลท์แคร์ โรงพยาบาล ธุรกิจประกัน ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจไอที และธุรกิจรีเทล เป็นต้น
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2562 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศกรมศุลกากร ที่ 204/2562 เรื่อง การปฏิบัติพิธีการศุลกากร ณ เขตปลอดอากรกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี คอมเมิร์ซ (E-Commerce) ภายในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(Eastern Economic Corridor :EEC)
นายกรณ์กวินท์ พีระเดชไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท พร็อพทูมอร์โรว์ จำกัด กล่าวว่า ประกาศของกรมฯ ดังกล่าว ส่วนตัวมองเป็นเรื่องที่ดีที่รัฐบาลต้องการเพิ่มแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจของ ประเทศผ่านการลงทุนต่างๆ ของภาคเอกชนทั้งที่มาจากการลงทุนต่างประเทศและจากนักลงทุนภายในประเทศ หรือการมีโปรเจ็กต์หนึ่งที่มาจากการลงทุนทำให้เกิดการก่อสร้าง การจ้างงาน การสั่งสินค้า และการเกิดฟรีเทรดโซนใน EEC อาจเป็นโอกาสของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพราะพื้นที่ E Commerce Park นั้น ที่ประสบความสำเร็จในประเทศจีนซึ่งมีมากกว่าพันแห่งได้เป็นแหล่งกระจายรายได้ให้ชุมชน สินค้าหรือบริการเหล่านั้นให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น หลายรายเติบโตเป็นผู้ประกอบการระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Alibaba Huawei Oppo Xiaomi เป็นต้น ต่างก็มีจุดเริ่มต้น จากการเป็น SME ใน E Commerce park เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้หากพิจารณาการขยายการลงของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จากส่วนกลาง (กทม.) หรือจากผู้ประกอบการท้องถิ่นสะท้อนภาพได้ว่าอสังหาฯ ในพื้นที่ EEC เป็นทำเลที่มีอัตราการเติบโตในอัตราที่ดี โดยเฉพาะชลบุรีส่วนระยองเป็นทำเลศักยภาพ ขณะที่ฉะเชิงเทรามีโอกาสขยายตัวในอนาคต และน่าจับตามองมากหลังจากที่ Alibaba Group บริษัทอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ที่สุดของประเทศจีนลงทุนก่อสร้างโครงการ Smart Digital Hubในพื้นที่ EEC มูลค่าลงทุน 11,000 ล้านบาทอสังหาริมทรัพย์เมื่อมีเม็ดเงินนับหมื่นล้านบาทเข้ามาในไทยก็จะเกิดการจ้างงานมากขึ้น การถ่ายโอนด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น โดยส่วนตัวมองเป็นเชิงบวกต่อประเทศไทยและเชิงบวกต่อภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
นายทัศไนย เหมือนเสน กรรมการบริษัท Thailand eBusiness Center (TeC) และอุปนายกสมาคมดิจิทัลไทย กล่าวว่า EEC เป็นการเปิดการค้าไทยกับต่างประเทศ และสร้าง e-Trade cross border possibility โดยเฉพาะจีน ถ้าเราเน้นเอาการลงทุนเอา Know-how ของเค้ามาเพื่อพัฒนาสินค้าและบริการเราให้ดีขึ้น เราเองก็มีโอกาสส่งออกไปต่างประเทศทั่วโลก ซึ่งจีนถือเป็นยุทธศาสตร์สำหรับ เป็นคู่ค้ากันมาระหว่างไทย-จีนอยู่ในอันดับที่ 14 กว่า 44-45 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน อีกทั้งจะสร้างงานหลายแสนหลายล้านอาชีพในเขตพื้นที่พิเศษ EEC นี้ สคิลด้าน Digital, e-Commerce, e-Business และ Technology คือสิ่งที่ทุกคนต้องตระหนักในวันนี้ เพื่อที่จะเป็นแรงงานศักยภาพในอนาคต ทาง TeC หรือ Thailand e-Business Center ก็มองโอกาสในการไปสร้างสำนักงานบริษัทสาขาที่ 3 ใน EEC เพื่อช่วยสร้าง Future digital career, e-Commerce cross border to China, Practical training และสนับสนุนให้คนไทย ผู้ประกอบการไทย ผู้บริหารระดับสูง ใช้ประโยชน์จาก Case Study จีน และพัฒนาองค์กรไปสู่ Digital Technology transformation
นายปฐม อินทโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทสยามไอซีโอ จำกัด และกรรมการสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยขาดดีมานด์ในการสร้างดิจิทัลแพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นอาวุธหลักในการแข่งขันทางธุรกิจใน 1-2 ปีข้างหน้า ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านมีแผนธุรกิจทำสมาร์ทเนชั่น สมาร์ทซิตี้ ยกเครื่องระบบ โลจิสติกส์ ซัพพลายเชน ฯลฯ นั่นคือเขาต้องใช้ IOT, AI และเซ็นเซอร์อีกมากมายมหาศาล ซึ่งนั่นถือเป็น การยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี
ด้วยเหตุนี้ทางออกของผู้ประกอบการไทยคือต้องเร่งพัฒนา Eco System ของตัวเองขึ้นมาด้วย โดยมองว่าหน่วยงานรัฐอย่างต้องร่วมมือกับองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ ในขณะที่บริษัททั่วไปก็จำเป็นต้องมองหาโอกาสในธุรกิจจาก EEC ด้วยการเรียนรู้จากธุรกิจข้ามชาติโดยเฉพาะจีนที่เป็นกำลังสำคัญใน EEC ซึ่งมีความพร้อมทั้งในการบริหาร การจัดการ เงินทุน และเทคโนโลยี
สำหรับผลกระทบจากประกาศกรมศุลกากร ฉบับนี้ นายปฐม กล่าวให้ความเห็นว่า การปรับตัวของผู้ประกอบการ E-Commerce ไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการรายย่อย เน้นการค้าขายผ่านระบบ Social Commerce มักเคยชินอยู่กับการซื้อมา ขายไป ซึ่งไม่ก่อให้เกิดความเข้มแข็งในการทำธุรกิจในระยะยาว การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจด้วยการเร่งพัฒนาสินค้าและบริการให้ตรงใจลูกค้า โดยการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าอย่างเป็นระบบ รวมถึงการสร้างแบรนด์เป็นของตัวเองอย่าพึ่งพิงเจ้าของสินค้าจากจีนแต่เพียงอย่างเดียว เพราะแม้จะขายดีในวันนี้แต่เขาย่อมหาช่องทางขายตรงเข้าในประเทศไทยอย่างแน่นอนในอนาคต
ทั้งนี้ผู้ที่ได้ประโยชน์จาก EEC จึงเปิดกว้างให้กับผู้ประกอบการชาวไทยได้ศึกษาเรียนรู้กระบวนการทำธุรกิจจากต่างชาติ และการทำธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่เกิดจากการขยายตัวของ EEC ไม่ว่าจะเป็นด้านโลจิสติกส์ เทคโนโลยี และอสังหาริมทรัพย์ที่ล้วนมีโอกาสใหม่ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงนี้เช่นเดียวกัน
ขณะที่ดร. เฉลิมรัฐ นาควิเชียร ประธานบริหาร GMO – Zcom NetDesign ในเครือ GMO Internet Group ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น กล่าวให้ความเห็นว่า การที่หน่วยงานภาครัฐคือกรมศุลกากรได้ออกประกาศการปฏิบัติพิธีการศุลกากร ณ เขตปลอดอากรกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) ในพื้นที่ EEC ถือว่าสอดคล้องและสนับสนุนยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ ที่มุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมในดิจิทัลแทนการพัฒนาอุตสาหกรรมพึ่งพาแบบดั้งเดิม
นอกจากนี้ ยังมองว่าการลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐานหลักด้านคมนาคมต่างๆ เพื่อเชื่อมการค้าและการลงทุนไปยังพื้นที่ EEC โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา) ทำให้การขนส่ง และการเดินทางระหว่างจังหวัดสะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น ลดต้นทุนและลดระยะเวลา เป็นการกระจายความเจริญไปสู่เมืองต่างๆ ประโยชน์ที่ได้รับนั้นนอกจากจะเป็นการกระจายความเจริญไปสู่พื้นที่รอบนอกมากขึ้นแทนการจะกระจุกตัวเฉพาะในเมืองเหมือนในอดีตแล้ว ยังส่งผลดีต่อประสิทธิภาพการผลิต (Productivity) ก็จะมีความสำเร็จตามมาทั้งปริมาณและคุณภาพ
พร้อมกันนี้ ดร. เฉลิมรัฐ ยังกล่าวให้ความเห็นด้วยว่า นอกจากความสะดวกสบายด้านการคมนาคมแล้ว สิทธิประโยชน์ด้านภาษีอากรต่างๆ ก็มีส่วนสำคัญในการดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งต้องยอมรับว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา การเจริญเติบโตด้านเศรษฐกิจขอประเทศไทย ส่วนหนึ่งมาจากการลงทุนโดยตรงจากนักลงทุนจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment : FDI) ซึ่งการที่รัฐบาลให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีต่างๆ เช่น การยกเว้นภาษีนำเข้า ถือว่าเป็นมาตรการกระตุ้นการลงทุนให้เกิดขึ้น ผลตามมาก็คือ เป็นการสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นในพื้นที่หรือในชุมชน รวมถึงได้แรงงานเชี่ยวชาญจากต่างชาติ ซึ่งคนไทยเองก็ต้องเรียนรู้ประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญจากการลงทุนของต่างชาติด้วย ภาครัฐ หรือ ภาควิชาการ หรือมหาวิทยาลัยในพื้นที่นั้นก็ต้องผลิตหรือสร้างบุคคลากรเพื่อรองรับภาคธุรกิจต่างๆ ด้วยเช่นกัน และการที่ต่างชาติเข้ามาทำงานในไทยหรือเกิดการว่าจ้างแรงงานขึ้นในพื้นที่ใดก็ตาม ความต้องการด้านที่อยู่อาศัยก็ตามมาด้วยเช่นกัน
“กลุ่มนักลงทุนญี่ปุ่นถ้ามองเห็นโอกาสเขามาลงทุนอยู่แล้ว และที่มาลงทุนในไทยเขาต้องการลงทุนระยะยาว ธุรกิจดิจิทัลจะให้ความสำคัญ infrastructure เป็นหลัก และการลงทุนในธุรกิจดิจิทัลนั้นไม่จำเป็นว่าผลิตซอร์ฟแวร์มาแล้วจะขายเฉพาะประเทศนั้นๆ” ดร. เฉลิมรัฐ กล่าวพร้อมระบุว่า GMO Internet Group ได้เข้ามาลงทุนในไทย ใช้เม็ดเงินลงทุนไปแล้วประมาณ 4,000 ล้านบาท มีเป้าหมายใช้ประเทศไทยเป็นไปฐานในการผลิตซัพพอร์ตไปทั่วภูมิภาคเซาท์อีสต์ เอเชีย ที่มีประชากรรวมกัน 600-700 ล้านคน
แรงได้แรงดี ตลอดคืนและเสาร์อาทิตย์ กับ TOT fiber 2U ที่ยังแรงต่อเนื่องกับโปรโมชั่
เพียงแค่สมัคร TOT fiber 2U กับโปรโมชั่น Extra Top Speed ก็มีสิทธิ์ลุ้นรับ iPad ฟรี มูลค่า 15,400 บาท จำนวน 1 รางวัล
สมัครได้ทางออนไลน์เท่านั้น อย่ารอช้ารีบคลิกเข้าไปสมั
เริ่มตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2562 และจะประกาศรายชื่อผู้โชคดี ที่ได้รับรางวัลในวันที่ 15 ธันวาคม 2562
ติดตามกติกาและเงื่อนไขกิจกรรม ได้ที่ https://www.tot.co.th หรือโทร 1100