Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

คอร์สสอนหุ้มผ้าคาร์บอน ครั้งที่4

คอร์สพื้นฐานการหุ้มคาร์บอนไฟเบอร์ เราคุ้นเคยกับงานคาร์บอนไฟเบอร์มาหลายปี
หลักๆงานคาร์บอนไฟเบอร์ที่เห็นทั่วไป มีการทำงาน 2รูปแบบคือ

1.งานหุ้มคาร์บอน
2.งานเพียวคาร์บอน

2 รูปแบบทำงานต่างกัน มีวิธี ขั้นตอน เทคนิคที่ต่างกัน น้ำหนักงาน ความแข็งแรง แทบไม่มีอะไรเหมือนกันเลย

🧲 ขออนุญาตพูดคุยถึง”คอรส์งานหุ้ม” ก่อนนะคะ
งานหุ้มเป็นการนำชิ้นงานดิบ อาจเป็นเหล็ก( ฝากระโปรงรถ ฝาท้ายชิ้นส่วนรถยนต์ ) หรือพลาสติก ( แฟริ่ง ชุดแต่งมอไซด์ ) มาคลุม หุ้มด้วยผ้าคาร์บอนไฟเบอร์แท้ ( ย้ำว่าผ้าคาร์บอนไฟเบอร์แท้ **)แล้วทาเรซิ่นทับ แล้วก็จะได้ความสวยงามของลวดลายผ้าคาร์บอน

เราช่างคนไทยฝีมือไม่แพ้ชาติใดในโลกค่ะ

➕แต่ ช้า ก่อน…เห็นเหมือนจะง่าย แต่ก็ไม่ง่ายนะคะ บางปัญหา เหมือนผงเข้าตา เช่นทำงานแล้วผ้าเด้ง นี่ยาขมเลย เพราะบางที มันดันมาเด้งตอนขัดเก็บงานอ่ะ. ใครหน้าไหนก็ช่วยไม่ได้แล้วแหล่ะ… สิ่งที่จะแก้ไขเรื่องเสียหายนี้ได้คือ การเรียนรู้ถึงต้นเหตุว่า เราทำพลาดตรงไหน งานถึงปูดพอง บลาๆๆ หลากหลายปัญหาโลกแตก ของความหัวร้อนฮร่ะ 😤😭🤬

-คอรส์หุ้มนี้ จะไม่เป็นแค่ปูผ้าธรรมดานะเออ เราสอนต่อผ้า สอนเก็บงาน ขัดเงา จบงานอ่ะ

🧠 มาเรียนรู้แล้วกลับไปตกผลึกความเป็นตัวเองกันค่ะ

ไม่ได้บอกว่าแบบไหนถูกหรือผิด แค่ทำไม่เหมือนกันตอบไม่ได้ เเต่ถ้างานมีปัญหาแล้วเข้าใจต้นเหตุ แล้วอยากรู้วิธีแก้ ก็เร่เข้ามา เร่เข้ามาคร๊าา …..

เหมาะกับใคร
ผู้ที่ประสบปัญหาการทำงานหุ้มคาร์บอนมาอย่างยาวนาน และยังไม่รู้จะแก้ไขให้ปัญหาจบไปอย่างไร ค้างคาใจเหลือเกิน อาจเพราะขาดการเริ่มต้นที่ถูกต้อง แนะนำให้ลงคอร์สนี้ค่ะ เจอครูจับมือทำ ตัวเป็นๆ ทำให้ครูเห็นว่าผิดแบบไหน อย่างไรคือถูก ( อายครูไม่รู้วิชา )

สิ่งที่จะได้เรียนรู้ ในคอร์สพื้นฐานนี้
1.การผสมเรซิ่นสำหรับงานหุ้มคาร์บอนที่ถูกวิธี
2.การจัดเตรียม พื้นผิวให้ดี ต้องดีแบบไหน แบบไหนที่เรียกว่าดีพอ พื้นดีไม่มีเด้ง อย่างไงอ่ะ
3.การปูผ้า และเทคนิคการทำชิ้นงานตามตัวอย่าง
4.การเรงาน ทำอย่างไร ต้องระมัดระวังจุดไหนบ้าง ฯลฯ
5.มีสาธิตการต่อผ้าขั้นเทพ ร่องชิ้นงาน งานชิ้นเล็ก ร่องเยอะ ซอกแยะก็ไม่หวั่น ดึงผ้าอย่างไรล่ะผ้าถึงไม่บิดเบี้ยวผิดทรง ( ก็ผ้ามันแพงนี่หน่าา โนะ )^^
6.ทุกท่านสามารถนำชิ้นงานที่ทำกลับบ้านได้ ( อาจารย์จะเป็นผู้กำหนดชิ้นงานที่เหมาะสมให้ค่ะ )
7.บอกหมดทุกสิ่งอย่าง ไม่มีหมกเม็ด อยากรู้ให้ถามค่ะ วัสดุตัวไหนดี ยาขัดตัวไหนเงาไว ขัดผ้าทรายเบอร์อะไร ไล่อย่างไร
8.ผิวเหนอะ ทำไงได้ ป้องกันได้ไง เป็นแล้วแก้ไขได้ป่าว
9.ขัดจบงาน แบบno แลค หรือจะ พ่นแลค ทำไงอ่ะ

อีกเยอะแยะตาแป๊ะไก่ที่อยากบอก ขอคนตั้งใจมาค่ะ รับประกันเป็นงานแน่ๆ

ดูแลกันต่อเนื่องในกลุ่มลับ รับเฉพาะคนรู้ใจ ส่งการบ้าน สอบถามปัญหาคาใจได้ค่ะ
วัน เวลา สถานที่ ราคาคอร์สอบรม
วันอาทิตย์ที่ 1 มีค.2563 เวลา8:00-18:00
ณ.โกดังเอสเจ ถนนกรุงเทพกรีฑา ตาม Google map พิกัด 13.740565, 100.685103
รถเมล์สาย93 หมู่บ้านนักกีฬา กรุงเทพกรีฑา
ท่านละ 5,000บาท กรณีมีผู้ติดตาม เพิ่มเติมท่านละ2,000บาท( 2คนทำงานร่วมกัน )

สอบถามจองที่ได้ที่
👉 Line@:@resinsj
☎ : 02-3794555,086-3171747
แฟนเพจ : ://m.me/sj.sinthuphan
เว็บไซต์ : http://resinsjthailand.com/

🔰ในส่วนของการโอนเงิน รบกวนส่งหลักฐานการโอนเงิน พร้อมแจ้งชื่อที่อยู่เบอร์โทรฯ ให้ทราบทางนี้นะคะ


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

DPU ติดอาวุธทักษะเทคโนโลยี ‘นิวเจน’ เพิ่มโอกาสรบชนะตลาดงานในอนาคต

ธุรกิจบัณฑิตย์ ตอบโจทย์ สร้างและพัฒนาทุนมนุษย์คนรุ่นใหม่สู่ สมาร์ท ซิติเซ่น เร่งปรับเปลี่ยนทักษะเพื่อให้เท่าทันเทคโนโลยี และก้าวเป็นกำลังสำคัญให้กับตลาดแรงงานในอนาคต

เด็กรุ่นใหม่ต้องเตรียมตัวอย่างในในสภาวะที่การแข่งขันสูงขึ้นเรื่อยๆ จากสถิติคนว่างงานเป็นกว่าแสนคนต่อปี ผู้ประกอบการมีโอกาสเลือกเยอะ ขณะเดียวกันเทคโนโลยีก็มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

คนที่กำลังก้าวสู่แรงงานต้องแข่งกับคนด้วยกันเอง ทั้งยังต้องแข่งกับเทคโนโลยี ทำอย่างไรไม่ให้ตัวเองก้าวข้ามสถานการณ์นี้ได้ แล้วการแข่งขันในตลาดแรงงาน ระหว่าง “คน” กับ “เทคโนโลยี” จะเป็นอย่างไรได้บ้างในอนาคต ดร.พัทธนันท์ เพชรเชิดชู รองอธิการบดี สายงานวิชาการ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) เปิดเผยว่า การเตรียมความพร้อมในการสร้าง “คนเก่ง” ให้เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานทั้งปัจจุบันและในอนาคตเป็นแนวทางที่มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญ

เมื่อเทคโนโลยี (Disruptive Technology) ได้เข้ามามีบทบาทต่อการดำเนินงานอย่างมากในหลายธุรกิจ สำหรับภาคการศึกษาถึงแม้จะรับผลกระทบไม่มากเท่ากับธุรกิจแต่การเตรียมพร้อมรับมือก็เป็นเรื่องที่สำคัญ การเปลี่ยนแปลงเริ่มเห็นแล้วในองค์กรธุรกิจโดยได้เริ่มนำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนการทำงานในองค์กรเพียงบางส่วน ไปจนถึงการทดแทนการทำงานของคนอย่างสมบูรณ์แบบ

“จำนวนเด็กตกงาน เป็นเรื่องที่พอจะคาดเดากันได้ว่าในยุคของการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี แต่ในมุมมองคิดว่าสถานการณ์คงไม่เร็วไปกว่านี้ ถ้าไม่มีประเด็นอื่นๆ มาส่งผล ทั้งสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน และปัจจัยอื่นๆ เพราะมองแล้วในอนาคต “งาน” บางอย่างจะถูกแทนที่ด้วย AI (Artificial Intelligence)”

ตัวเลขคนตกงานไม่ใช่ผลจากเทคโนโลยี หรือสงครามการค้าที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ แต่เป็นเพียงปัจจัยเร่งให้ปฏิกิริยาให้เร็วขึ้นเห็นได้จากผลกระทบเรื่องการลงทุน จากการสู้กันเรื่องนี้ ก็ต้องดูว่าเป็นโปรดักท์อะไร เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พอเกิดสงครามการค้า การค้าการลงทุนทั่วโลกกระทบ ตลาดหุ้น ค่าเงิน มองสถานการณ์แล้วผลกระทบน่ามีขึ้น 1-2 ปีเป็นอย่างน้อย”

อย่างไรก็ดี ภาวะการตกงานที่เกิดขึ้นในไทย อาจเกิดได้ในสองปัจจัย อย่างแรกตามที่ได้กล่าวไว้คือผลกระทบจากสงครามการค้า อีกประเด็นน่าจะส่งผลในระยะยาวมาจาก “การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี”

แนวทางที่ DPU ให้ความสำคัญ เริ่มที่การปรับมุมมองให้คนรุ่นใหม่ได้เข้าใจ และตระหนักถึงบทบาทของเทคโนโลยีที่มีผลต่อการทำงานและใช้ชีวิต ทั้งปัจจุบันและอนาคต

ในอีกด้าน บทบาทของมหาวิทยาลัยก็ปรับการสอนและมองหาเครื่องมือใหม่ๆ เข้ามาทำให้การเรียนรู้และพัฒนาทักษะ “คนรุ่นใหม่” เหล่านี้ให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงานในอนาคต

“ทักษะไหน ฝึกเด็กออกไปแล้วจะไม่ตกงาน สิ่งที่บอกได้เลยก็คือในช่วง 5-10 ปีนี้ คือ ทักษะ โรบอท เอไอ บิ๊กดาต้า เป็นเทคโนโลยีที่เด็กรุ่นใหม่ต้องเรียนรู้และเข้าใจถึงการนำเครื่องมือเหล่านี้มาใช้งานให้เป็น ถ้าทำไม่ได้ คนที่ทำได้ดีกว่าจะทำงานได้ปริมาณมากกว่า และแข่งขันได้

ตอนนี้คนจะอยู่รอดได้ต้องรู้ว่า เทคโนโลยีอะไรจะเข้ามามีบทบาทและปรับใช้เทคโนโลยีนั้นมาก่อให้เกิดประโยชน์ในการเรียน ทำงาน และสร้างอาชีพได้อย่างไร จากเคยใช้เวลา 10 ชั่วโมง อาจเหลือแค่ชั่วโมงเดียว ทำงานให้เร็ว และง่ายขึ้น ถ้าทำไม่ได้ ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะต่อสู้กับคนที่สร้าง Productivity ได้มากกว่า”

ในแนวทางของ DPU นอกจากปรับวิธีคิดและมุมมองให้กับคนรุ่นใหม่แล้ว สิ่งสำคัญคือการสร้างกระบวนคิดและการเรียนรู้ใหม่ๆ ผ่านหลักสูตรการเรียนการสอน ยกตัวอย่างให้เห็น จากเดิมที่สอนเป็นรายวิชาแบ่งเป็นหมวดหัวข้อ วันนี้การสอนตามสถานการณ์ และสอดแทรกความรู้เกี่ยวกับการทำงานของเทคโนโลยีเข้าไป เน้นกระตุ้นให้เกิดการสร้าง Innovation และ Technology เพื่อให้เด็กรุ่นใหม่ๆ ได้มองเห็นโอกาสในการสร้างธุรกิจได้ตั้งแต่ยังเรียน

“ทุกอย่างฝึกให้คิดและลงมือทำจริง เช่นใน Capstone Class จะมีหัวข้อให้นักศึกษาได้เลือกทำ และผลักดันเป็นโครงงานของตัวเองแล้วต่อยอดให้ประสบความสำเร็จเป็นรูปร่างขึ้นมา

คนเหล่านี้ที่ถูกฝึกการใช้เทคโนโลยี utilize technology ได้ง่ายกว่า คนต้องฝึกให้เรียนรู้กับเทคโนโลยี เทคโนโลยีมีอะไรบ้าง ความคล่อง ความชาญฉลาด ต้องกำหนดว่า skill set ที่ต้องการคืออะไร Critical thinking เป็นเป้าหมายที่เราต้องการ ความสามารถในการสร้างคอนเนคชั่น การทำงานเป็นทีม ทักษะพวกนี้ สร้างยากเพราะไม่เกิดจากการอ่านหนังสือเพียงอย่างเดียวได้”

ดร.พัทธนันท์ กล่าวว่า ในกระบวนคิดของมหาวิทยาลัยที่ว่า ถ้าผลิตคนออกมาในชุดความรู้แบบเดิม จบออกไปก็ไม่ใช่ทักษะแรงงานที่จะเป็นกำลังหลักของแรงงานในอนาคตได้ นอกจากที่กล่าวมา ทักษะสำคัญที่ขาดไม่ได้ คือ ความชาญฉลาดในการเลือกใช้เทคโนโลยี เพื่อทำให้งานเกิด Productivity ได้มากที่สุด ใช้เวลาเท่าเดิม แต่ได้งานมากขึ้น ซึ่งคนที่จะทำอย่างนี้ได้ต้องเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีมาเป็นอาวุธให้เพื่อให้เราทำงานได้เร็วขึ้น ชาญฉลาดมากขึ้น

ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่า การเป็นมหาวิทยาลัยยืนหนึ่งเรื่องธุรกิจของ DPU กับ การสร้างแนวคิด ทักษะที่จำเป็น การรับมือกับเทคโนโลยีใหม่ๆ จะเป็นการพัฒนาองค์ความรู้ที่เปรียบเป็นอาวุธสำคัญสำหรับการทำงานยุคใหม่ในแบบที่รบชนะได้ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงนี้


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ออฟฟิศเมท ชวนช้อปรักษ์โลก ใช้คะแนน The1 แลกรับถุง Reusable Bag

นางสาววรพรรณ ชุณหศรีวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด ออฟฟิศเมท ชวนผู้ประกอบการ SME จัดซื้อบริษัท และเหล่านักช้อป บอกลาการใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง กับโครงการ “Say No to Single-Use Plastic Bags” ชวนลูกค้าทุกท่านใช้คะแนน The1 แลกรับถุงใช้ซ้ำได้ ที่ร้านออฟฟิศเมททุกสาขาทั่วไทย โดยจัดทำ“OfficeMate Reusable Bags Special Collection” ซึ่งสามารถใช้ซ้ำได้หลายครั้ง คงทน ทำความสะอาดง่าย มีคุณลักษณะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น มีรูปแบบหลากหลายดีไซน์และขนาดให้ลูกค้าได้เลือกสรรตามความชื่นชอบและสไตล์ที่เป็นคุณ ตอบโจทย์การช้อปเพราะสามารถพกพาได้สะดวก และบรรจุสินค้าที่ช้อปจากห้างร้านได้อย่างลงตัว ราคาเริ่มต้นที่ใบละ 19 บาท หรือ ใช้คะแนน The1 แลกรับ เริ่มต้นที่ 120 คะแนน

โปรโมชั่นพิเศษเริ่มวันนี้ – 29 ก.พ. 2563 ถูกใจใบไหน ช้อปเลยที่ร้านออฟฟิศเมททุกสาขา (*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

เปิดบ้านโชว์ เส้น สี ดีไซน์ Open House คณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ 2020

ศ.ดร.สมฤกษ์ จันทรอัมพร รองอธิการบดี ฝ่ายวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) เป็นประธานกล่าวเปิด Architecture and Design DESIGN IDENTITY Decade+33 Years KMUTNB OPEN HOUSE Line Color Design Exhibition 2020 พร้อมเปิดบ้านให้ชมระหว่างวันที่ 30 มกราคม ถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563

โดยมีผศ.สุรสิทธิ์ แสงสุริยะ คณบดีคณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ มจพ. กล่าวรายงาน พิธีเปิดงานโครงการจัดแสดงผลงานนิทรรศการ เส้น สี ดีไซน์ Open House คณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ 2020 เพื่อเป็นเวทีให้นักศึกษาร่วมกับคณาจารย์ได้นำเสนอผลงานสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมใหม่ ชมผลงานและเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นตามบูธต่างๆ ณ ลานหน้าคณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ คณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ มจพ.

ขวัญฤทัย ข่าว-ภาพ


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

หัวเว่ยเปิดตัว OceanStor Dorado V6 สตอเรจ All-Flash เร็วสุด อึดสุด ด้วยขุมพลัง AI

หัวเว่ย เปิดตัว OceanStor Dorado V6 ระบบ All-Flash Storage ในประเทศไทย สร้างมาตรฐานใหม่ให้บริการระดับองค์กรที่ต้องการประสิทธิภาพและความมั่นคงปลอดภัยสูงสุด พร้อมมอบประสบการณ์ที่เยี่ยมยอดแก่ผู้ใช้ ด้วยชิปอัจฉริยะที่หัวเว่ยพัฒนาขึ้นมา อัลกอริทึมอัจฉริยะ FlashLink® และสถาปัตยกรรม NVMe แบบครบวงจร ทำให้ OceanStor Dorado V6 รองรับสูงถึง 20 ล้าน IOPS[1] ให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยมที่สุด หรือเร็วกว่าคู่แข่งถึง 2 เท่า แพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์และสถาปัตยกรรม SmartMatrix ในดีไซน์แบบเชื่อมต่อกันหมดโดยสมบูรณ์ รับประกันการทำงานตลอดเวลาแบบไม่มีสะดุด การใช้ชิป AI หลาย ๆ ตัวเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมที่ระบบสตอเรจจะมีความฉลาดและอัจฉริยะยิ่งขึ้นเมื่อใช้งานไปเรื่อย ๆ

ประสิทธิภาพสูงเป็นอันดับ 1 ด้วยสถาปัตยกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยชิป Kunpeng 920

ด้วยชิปที่ชาญฉลาด สถาปัตยกรรม Non-Volatile Memory Express (NVMe) แบบครบวงจร อัลกอริทึม FlashLink® และความสามารถในการรองรับการทำ Scale Out ได้สูงถึง 32 คอนโทรลเลอร์รวมกัน OceanStor Dorado V6 เป็นระบบ All-Flash Storage ที่ให้ประสิทธิภาพการอ่านและเขียนไฟล์ต่อ 1 วินาที (IOPS) ระดับ 20 ล้าน IOPS นับว่าสูงที่สุดในตลาด และมี Latency ที่ต่ำเพียงระดับ 0.1 มิลลิวินาที ดีกว่าคู่แข่งถึง 2 เท่า สตอเรจ OceanStor Dorado V6 ถือเป็นพันธมิตรที่ลงตัวสำหรับองค์กรที่ต้องการสตอเรจที่จุข้อมูลได้มหาศาลสำหรับฐานข้อมูลขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจผู้ให้บริการเครือข่าย การเงิน ภาครัฐ และอุตสาหกรรมการผลิต

ระบบ All-Flash Storage ของหัวเว่ยนี้ใช้ชิปอัจฉริยะแบบ Built-in ถึง 5 ตัว ช่วยร่นระยะเวลาการให้บริการแบบครบวงจร ได้แก่

  • ชิป Multi-Protocol Interface อัจฉริยะ โฮสต์การทำ Protocol Parsing ซึ่งแต่เดิมใช้ CPU ทั่วไปเป็นตัวจัดการ ทำให้ประสิทธิภาพการเข้าถึงส่วน Front-End เร็วขึ้น 20%
  • ชิป Processor อัจฉริยะ สร้างมาตรฐานใหม่ให้ศักยภาพการทำงาน ด้วยพลังการประมวลผลที่ดีกว่ามาตรฐานเฉลี่ยในอุตสาหกรรมถึง 25%
  • ชิป AI อัจฉริยะ วิเคราะห์ข้อมูลการใช้งาน และเรียนรู้ I/O ต่าง ๆ ในขอบเขตของแมชชีน เลิร์นนิ่ง ช่วยเพิ่มอัตรา Read Cache Hit ให้ดีขึ้นราว 50%
  • ชิป SSD Controller อัจฉริยะ โฮสต์อัลกอริทึม Hardware Flash Translation Layer (FTL) ช่วยให้การเข้าถึงดาต้าภายใน SSD ต่าง ๆ เร็วขึ้น ทำให้ค่า Read Latency น้อยกว่าเกณฑ์โดยเฉลี่ยของอุตสาหกรรม 10%
  • ชิป BMC Management อัจฉริยะ มี Storage Fault Library แบบ Built-in ทำให้หาตำแหน่งที่ผิดพลาดได้อย่างรวดเร็ว และทำการตรวจสอบคอมโพเนนต์ และลดระยะเวลาในการกู้คืนข้อผิดพลาดจาก 2 ชั่วโมงเหลือเพียง 10 นาที

การออกแบบระบบ Always-On ที่มีความน่าเชื่อถือด้วย SmartMatrix แบบ 4 เลเยอร์ ทำให้การทำงานลื่นไหลไม่มีสะดุด

สำหรับลูกค้าที่ต้องการระบบไอทีที่แข็งแกร่ง รองรับการผนวกรวมบริการประเภทต่าง ๆ และทำงานได้เสถียรตลอดเวลา ระบบสตอเรจ All-Flash OceanStor Dorado V6 ของหัวเว่ย คือตัวเลือกที่ลงตัวที่สุด มีความน่าเชื่อถือ ตั้งแต่ชิ้นส่วนอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์ โซลูชั่น ไปจนถึงเลเยอร์ระบบคลาวด์ รองรับสภาพแวดล้อมแบบผนวกรวมดาต้า ด้วยอัตราการให้บริการสูงถึง 99.9999%

เสริมพลังด้วยอัลกอริทึมอัจฉริยะและชิปเครือข่าย Convergent ที่พัฒนาขึ้นเอง สถาปัตยกรรม SmartMatrix ทำให้ระบบทำงานต่อได้แม้คอนโทรลเลอร์ 7 จาก 8 ตัวในเครื่องต่าง ๆ จะหยุดทำงาน โดยไม่ทำให้บริการหยุดชะงัก ซึ่งเป็นความสามารถที่ไม่มีเวนเดอร์รายใดทำได้มาก่อน

  • ความน่าเชื่อถือสูง: SmartMatrix ที่ออกแบบให้เชื่อมต่อถึงกันทั้ง Front-end และ Back-end ทำให้ระบบทำงานต่อได้แม้คอนโทรลเลอร์ 7 จาก 8 ตัวจะหยุดทำงาน
  • ทำงานได้ตลอดเวลา: ในกรณีที่คอนโทรลเลอร์หยุดทำงาน ลิงก์จะยังทำงานต่อเนื่องโดยจะมีช่วง Switchover ที่ใช้เวลาเพียงหนึ่งวินาทีเท่านั้น โดย LUNs ยังสามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์แอปพลิเคชันได้ผ่านคอนโทรลเลอร์ตัวใดก็ได้ แทนการมี Ownership คอนโทรลเลอร์หลายตัวจะแชร์ภาระงานด้วยการรันอัลกอริทึมที่สร้างสมดุลให้งานของคอนโทรลเลอร์แต่ละตัว ถ้าคอนโทรลเลอร์ตัวหนึ่งมีปัญหา คอนโทรลเลอร์ตัวอื่น ๆ จะทำงานแทนได้อย่างราบรื่นโดยไม่มีการหยุดชะงักหรือการลดทอนประสิทธิภาพ
  • ความสามารถในการให้บริการ: การอัปเกรดออนไลน์จะใช้เวลาเพียงหนึ่งวินาทีโดยไม่ส่งผลกระทบต่อโฮสต์เซอร์วิส ใช้โครงสร้างคงที่แบบ 3D ชุดลดการสั่นสะเทือนและการซึมซับ และสกรูกันกระแทกด้วยวัสดุที่ยืดหยุ่น รับประกันการให้บริการได้ตลอดเวลาในช่วงเวลาที่มีการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เป็นสตอเรจตัวแรกของอุตสาหกรรมที่ผ่านการทดสอบการทนแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวระดับ 9 แมกนิจูด จากการทดสอบโดย China Telecommunication Technology Labs (CTTL)

O&M ทรงประสิทธิภาพด้วยการผสมผสาน Edge-Cloud AI

ด้วยชิปและอัลกอริทึม AI ระบบสตอเรจ All-flash OceanStor Dorado V6 มีระบบดำเนินการและซ่อมบำรุง (O&M) ที่ชาญฉลาดตลอดอายุการใช้งาน โมเดลธุรกิจใหม่ ๆ จึงไม่ต้องหยุดให้บริการหากต้องมีการโอนย้ายดาต้า ทำให้ประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้เป็นไปอย่างราบรื่น

  • การผสมผสาน Edge-Cloud: สตอเรจตัวนี้ใช้คลาวด์ AI อเนกประสงค์, Edge AI ที่ปรับแต่งได้ตามต้องการ และชิป Ascend 310 ในระบบ เพื่อการเทรนเครื่องเพิ่มเติม และการเรียนรู้ลักษณะของบริการในระดับ Deep Learning ช่วยปรับแต่งการใช้งานให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น
  • ทำงานด้วย AI ตลอดอายุการใช้งาน: การจัดการเชิงอัจฉริยะทำให้คาดการณ์ประสิทธิภาพและแนวโน้มการทำงานได้ล่วงหน้า 60 วัน พร้อมคาดการณ์ข้อผิดพลาดได้ 14 วันล่วงหน้า และนำเสนอวิธีแก้ไขข้อผิดพลาดได้อย่างทันท่วงทีและแก้ปัญหาได้ถึง 93%
  • โปรแกรมแบบ Flash: สถาปัตยกรรมที่ยืดหยุ่นอัจฉริยะทำให้การอัปเกรดชิ้นส่วนทำได้โดยไม่ต้องย้ายข้อมูลเป็นเวลานานถึง 10 ปี ผู้ใช้จึงใช้ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์รุ่นล่าสุดได้พร้อมๆ ไปกับการใช้ประโยชน์จากบริการที่ใช้งานอยู่ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด

 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ร่วมฉลองครบ 60 ปี มจธ. เปิดบ้านให้ผู้ที่สนใจเข้าเยี่ยมชม 2-6 ก.พ. 63

เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปีแห่งการก่อตั้งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563นี้ ทางมหาวิทยาลัยได้จัดกิจกรรมพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองด้วยการเปิดบ้านต้อนรับผู้ที่สนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครอง และอาจารย์ เข้าร่วมกิจกรรมเปิดบ้าน KMUTT Open House 2020 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-6 กุมภาพันธ์ 2563 ณ มจธ. บางมด ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

ภายในงานจะได้พบกับกิจกรรมมากมายจากคณะต่าง ๆ และหน่วยงานของมหาวิทยาลัย เช่น คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม มีเดียอาตส์และเทคโนโลยี และสำนักหอสมุด

ห้ามพลาด !! การแข่งขันนวัตกรรม/สิ่งประดิษฐ์ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณะวิศวกรรมศาสตร์ Sci Show คณะวิทยาศาสตร์ จุดประกายฝัน สู่สายงาน IT คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดแสดงหุ่นยนต์ที่ฟีโบ้ การประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ การแข่งขันตอบปัญหา การแสดงผลงานนักศึกษา เยี่ยมชมภาควิชาต่าง ๆ บูธศิษย์เก่า และอีกมากมาย

ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน และสำรองการเข้าชมกิจกรรมได้แล้วที่ http://60.kmutt.ac.th/events/kmutt-opene โทร. 0 2470 8000 อีเมล pr@mail.kmutt.ac.th


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ออฟฟิศเมท ชวนคนไทยและภาคธุรกิจ ป้องกันเชื้อไวรัสฯ และ ฝุ่น PM 2.5

ฝุ่นก็ร้าย เชื้อโรคก็น่ากลัว! ออฟฟิศเมท ชวนคนไทยและภาคธุรกิจ ทั้งเอกชน หน่วยงานราชการ และร้านค้าต่างๆ ป้องกันสุขภาพของตนเองและคนที่คุณห่วงใย ทั้งคนในครอบครัว พนักงาน และลูกค้า จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าและปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 โดยรวบรวมสินค้าที่มีคุณสมบัติในการป้องกันและทำความสะอาดฆ่าเชื้อ มาจัดรายการราคาพิเศษ เพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถเข้าถึงได้ง่ายและสะดวก

ทั้งนี้มีสินค้าหลากหลายชนิดให้สามารถเลือกสรรได้ตามความเหมาะสมของการใช้งาน อาทิ หน้ากากอนามัย ผ้าปิดจมูกชนิดต่างๆ และแผ่นกรอง,  อุปกรณ์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค เช่น ผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ทำความสะอาด, ผ้าเปียกสูตรฆ่าเชื้อ, สบู่เหลวล้างมือ, เจลล้างมือ, ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นแบบฆ่าเชื้อ และเครื่องฟอก/กรองอากาศรุ่นต่างๆ ที่ใช้ในบ้าน ออฟฟิศสำนักงาน และใช้ในรถยนต์

ผู้ที่สนใจสามารถเลือกช้อปได้ที่ร้านออฟฟิศเมท และร้านออฟฟิศเมท พลัส ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือติดต่อ Contact Center 1281 หรือช้อปง่ายๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ officemate.co.th, OfficeMate Mobile App และ Chat & Shop  ที่ Line: @OfficeMate พร้อมบริการส่งฟรีถึงที่ เพียงช้อปครบ 499 บาทขึ้นไป  (เงื่อนการสั่งซื้อและการจัดส่งสินค้าเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

โรงเรียนนานาชาติเซนต์สตีเฟ่นส์ เปิดบ้านต้อนรับผู้ปกครองเดือนมีนาคม 2563

โรงเรียนนานาชาติเซนต์สตีเฟ่นส์ (กรุงเทพฯ) ขอเชิญผู้ปกครองทั่วไปที่มีบุตรหลานอายุระหว่าง 2-18 เข้าร่วมงาน “เปิดบ้านโรงเรียนนานาชาติเซนต์สตีเฟ่นส์” สำหรับนักเรียนอายุ 1.5-4 ปี ในวันอังคารที่ 3 มีนาคม 2563 เวลา 9.00-12.00 น. และนักเรียนอายุ 5-18 ปี ในวันพุธที่ 11 มีนาคม 2563 เวลา 9.00-12.00 น. ณ โรงเรียนนานาชาติเซนต์สตีเฟ่นส์ (กรุงเทพฯ)

โดยท่านผู้ปกครองจะได้เยี่ยมชมห้องเรียน เพื่อรับทราบถึงแนวทางการเรียนการสอนที่ใช้ในระดับชั้นเนอร์สเซอรี่ถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จากห้องเรียน ภายใต้หัวข้อ “การสร้างผู้นำวันนี้สำหรับโลกอนาคต กับโรงเรียนนานาชาติเซนต์สตีเฟ่นส์” พร้อมรับของที่ระลึกภายในงาน ท่านผู้ปกครองท่านใดสนใจเข้าร่วมงาน สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ http://bit.ly/2TfgLKV หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร: 02-5130270-1 ต่อ 234 หรือ E-mail: marketingmanager@sis.edu เว็บไซด์ www.sis.edu/bangkok


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

เปิดบ้านหลักสูตรปริญญาโท PIM กับกระบวนการสร้าง Talent ตัวจริงที่ตอบโจทย์ทุกองค์กรธุรกิจตอน PIM’S GOT TALENT

ขอเรียนเชิญเข้าร่วมงาน Master’s Open Day เปิดบ้านหลักสูตรปริญญาโท
กับกระบวนการสร้าง Talent ตัวจริงที่ตอบโจทย์ทุกองค์กรธุรกิจตอน PIM’S GOT TALENT

PROGRAM
สร้าง Talent ด้านการบริหารธุรกิจ MBA สาขาการจัดการธุรกิจการค้าสมัยใหม่
สร้าง Talent ด้านการพัฒนาองค์กร MBA สาขาการบริหารคนและกลยุทธ์องค์การ
สร้าง Talent ด้านการสื่อสารเพื่อองค์กรธุรกิจ MCA สาขาการสื่อสารเชิงนวัตกรรมเพื่อองค์กรสมัยใหม่

พร้อมสอบชิงทุนการศึกษามูลค่า 80,000 บาท หรือรับส่วนลดพิเศษมูลค่า 30,000 บาท
ในวันเสาร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563
สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์
ลงทะเบียนคลิ๊ก https://bit.ly/2ZjAtV8
ติดต่อสอบถาม
โทร 02-8550471/0416


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

“ซีอีโอหัวเว่ย: เราพร้อมต้านทานการโจมตีระลอกใหม่จากสหรัฐฯ ในปีนี้”

ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารของหัวเว่ย มร. เหริน เจิ้งเฟย แสดงความมั่นใจว่าบริษัทจะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ที่เกิดจากการกีดกันเพิ่มเติ่มจากรัฐบาลสหรัฐฯ ในอนาคต “ด้วยประสบการณ์และบทเรียนที่เราได้รับจากปีที่แล้ว เรามั่นใจว่าจะต้านทานการโจมตีของอเมริกาในปีนี้ได้อีกครั้ง” ซีอีโอของหัวเว่ยกล่าวกับนักธุรกิจและนักการเมืองชั้นนำจากทั่วโลก ในการประชุม เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

มร. เหริน ซึ่งได้ร่วมพูดคุยในเวทีเสวนาเรื่อง “A Future Shaped by a Technology Arms Race” ได้ประกาศว่าการใส่ชื่อหัวเว่ยไว้ในบัญชีดำทางการค้าของสหรัฐฯ (Entity List) ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรมากนักต่อธรุกิจของบริษัท และต้องขอบคุณการแบนของสหรัฐฯ ที่ทำให้บริษัทได้สร้างทีมที่เก่งและเข้มแข็งขึ้นกว่าเคย  พร้อมคาดการณ์ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ อาจมองหาช่องทางใหม่ ๆ เพื่อขัดขวางการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี 5G ของหัวเว่ย แต่บริษัทได้เตรียมการรับมือแผนการโจมตีทุกรูปแบบไว้เป็นอย่างดี  “ปีนี้ สหรัฐฯ อาจจะยกระดับการโจมตีหัวเว่ยขึ้นไปอีก แต่ผมมองว่าเราคงไม่ได้รับผลกระทบมากเท่าใดนัก” มร. เหริน บอกกับผู้เข้าร่วมงานในเมืองดาวอส

มร. เหรินเผยว่าตนรู้มาตั้งแต่แรกว่าการก้าวเข้ามาในอุตสาหกรรมที่สหรัฐฯ ครองแชมป์อยู่เป็นเวลานาน เป็นเรื่องที่ไม่ปลอดภัยนัก เมื่อ 20 ปีก่อน หัวเว่ยจึงได้ทุ่มเงินทั้งหมดที่เหลืออยู่ของบริษัท ณ ตอนนั้น ไปกับการวิจัยและพัฒนา เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีแผนสำรองมารองรับอยู่เสมอหากเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น  “เราใช้เงินไปหลายแสนล้านหยวนเพื่อการเตรียมตัวและตั้งรับปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และสิ่งที่เราได้กลับมาจากความทุ่มเท คือการรอดพ้นจากการโจมตีครั้งแรกของสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว” ผู้ก่อตั้งวัย 75 ปีกล่าว

ตัวเลขการเติบโตขึ้นถึง 18 % ของหัวเว่ยในปี 2562 ที่ผ่านมา ได้แสดงให้เห็นว่าบริษัทไม่ได้แค่อยู่รอด หากแต่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องภายใต้สถานการณ์อันยากลำบาก  ปัจจุบันหัวเว่ยเป็นผู้นำด้านธุรกิจ 5G ของโลก และเป็นเพียงบริษัทเดียวในโลกที่ผลิตทั้งโทรศัพท์มือถือ สถานีฐาน ไฟเบอร์ออฟติก ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของCore Network สำหรับ 5G และยังเป็นบริษัทที่ถือครองสิทธิบัตรของเทคโนโลยี 5G มากเป็นอันดับที่ 1
ถึงร้อยละ 20 ของจำนวนสิทธิบัตร 5G ทั้งหมด

ซีอีโอของหัวเว่ยยังได้เปิดเผยว่า แม้ว่าหัวเว่ยจะถูกแบน บริษัทยังเป็นแฟนตัวยงของแนวทางการบริหารธุรกิจของอเมริกา สาเหตุที่หัวเว่ยประสบความสำเร็จในทุกวันนี้ก็เพราะบริษัทมักเรียนรู้การบริหารจัดการมาจากบริษัทอเมริกัน “บริษัทอเมริกันมีส่วนช่วยให้เราประสบความสำเร็จ จริง ๆ แล้วสหรัฐฯ ควรจะภูมิใจ” มร. เหรินกล่าว

เขายังได้ย้ำว่าการพัฒนาเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ดีและไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว  “สหรัฐฯ ควรจะกังวลเรื่องเราและการเติบโตของเราในระดับโลกให้น้อยลง” มร. เหริน กล่าว เพราะในที่สุดแล้ว เขาเชื่อว่าประชากรหลายพันล้านคนทั่วโลกจะได้รับประโยชน์จากสังคมที่เปี่ยมไปด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี


Exit mobile version