Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

บ.ฮิวแมนิก้า จับมือ ม.เอเชียอาคเนย์ตั้งศูนย์ WorkPlaze รับ Outsource งานสนับสนุนยุค 4.0 แบบครบวงจร

บ.ฮิวแมนิก้า ร่วมกับ ม.เอเชียอาคเนย์ ตั้งศูนย์ WorkPlaze ให้บริการ Outsource ระบบงานสนับสนุนครบวงจรสำหรับ SME Startup จนถึงกลุ่ม MAI เพื่อให้บริการด้านบัญชี ภาษี บริหารการเงิน ไอที และบุคคล ในรูปแบบ Back Office Service Center แบบครบวงจร เป็นครั้งแรกในประเทศไทย

นายสุนทร เด่นธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮิวแมนิก้า จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า โครงการศูนย์ WorkPlaze ที่มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ เป็นโครงการต่อเนื่องจากความร่วมมือพัฒนาหลักสูตรการบริหารบุคคลและบัญชี ร่วมกับมหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ ด้วยการนำนักศึกษาที่มีความรู้พื้นฐานด้านบัญชีและไอทีมาฝึกทำงานจริงให้ได้ทักษะประสบการณ์ พร้อมพัฒนาตนเองสู่มืออาชีพ โดยศูนย์ WorkPlaze จะให้บริการด้านงานบัญชี งานภาษี งานบริหารการเงิน ไอที และงานบุคคล งานด้าน Back Office Service Center อย่างมืออาชีพแบบครบวงจรให้กับกลุ่มธุรกิจ SME Startup จนถึงกลุ่ม MAI
“WorkPlaze จะช่วยแบ่งเบาภาระให้กับผู้ประกอบการในการจัดการคน รวมถึงสามารถลดค่าใช้จ่าย ในการจัดจ้างบริษัทด้านบัญชี ซึ่งผู้ประกอบการจะมีระบบงานบน Cloud พร้อมใช้ ประกอบกับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในทุก ๆ เรื่องของงานหลังบ้าน ไม่ว่าจะเป็นงานบัญชี ภาษี การเงิน และงานบุคคลทั้งหมด” นายสุนทรกล่าว

ด้านนายสายัณห์ ไวรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน และ ผู้อำนวยการสายงานธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม บริษัท ฮิวแมนิก้า จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การจัดตั้งศูนย์ WorkPlaze ที่มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ เป็นการขยายงานด้านบุคลากร ขยายสาขาและการขยายธุรกิจให้บริการกับกลุ่ม SME และ Statup ที่จะมาเป็นลูกค้า ซึ่งจะได้รับการอบรมการจัดทำระบบบัญชี ภาษี การเงินและงานบุคคล รวมถึงการแสวงหาแหล่งเงินทุนเพิ่มเติมหรือเรื่องของแหล่งเงินกู้จากธนาคารเนื่องจากเรามีพันธมิตรทางธุรกิจกับสถาบันการเงินที่สามารถช่วยสนับสนุนงานบริหารธุรกิจให้กับลูกค้าได้จากการร่วมกันทำงานให้บริการและโปร่งใส และยังลดค่าใช้จ่ายภายในองค์กรได้ด้วย

ดร.ฉัททวุฒิ พีชผล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ กล่าวว่า ความร่วมมือกับบริษัทฮิวแมนิก้า ในครั้งนี้ จะเป็นการทำงานร่วมกันโดยนักศึกษา จะเรียนรู้จากการทำงานจริง ได้ประสบการณ์ตรงจากนักบริหารบุคคลและนักบัญชีมืออาชีพ มาร่วมกันถ่ายทอดความรู้ที่ใช้จริงในปัจจุบัน เมื่อนักศึกษาจบไป สามารถนำความรู้หรือ Best Practice ไปทำงานได้ทันที เพื่อรองรับกับตลาดองค์กรที่กำลังประสบปัญหาการขาดบุคลากรที่มีทักษะด้านบัญชีและไอทีในปัจจุบันและอนาคต โดยโครงการนี้จะเป็นการพัฒนานักศึกษาร่วมกับมืออาชีพระดับสากล ซึ่งจะเป็นแบบอย่างของหลักสูตรของเราที่บัณฑิตต้องสามารถจบออกมาแล้วทำงานได้ทันที และมีทักษะที่พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงของธุรกิจในปัจจุบัน โดยนักศึกษาจะได้เริ่มสัมผัสงานจริงตั้งแต่ปีแรกๆ และถูกพัฒนาทักษะอย่างเข้มข้น ต่อเนื่องจนพร้อมสู่การเป็นบัณฑิตในยุค 4.0 ได้อย่างแท้จริง


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

เดอะวันเดย์ วันดี๊ดี ที่ร้านออฟฟิศเมท รับส่วนลดมากกว่าใคร สูงสุด 4,200 บาท

ออฟฟิศเมท ผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์สำนักงาน ไอที เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้เพื่อการดำเนินธุรกิจ จัดโปรโมชั่นสุดยิ่งใหญ่ เดอะวันเดย์ วันดี๊ดี ที่ร้านออฟฟิศเมท รับส่วนลดมากกว่าใคร สูงสุด 4,200 บาท (*ตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด) สำหรับสมาชิก The 1 ที่ช้อปครบ 5,000 บาท สุดคุ้มกับโปรโมชั่นรับ 3 ต่อ

รับแรก … ช้อปครบ แลกรับคูปองเงินสดมูลค่า 3,000 บาท ที่ร้านออฟฟิศเมท ใช้คูปองช้อปได้เลย ไม่มีขั้นต่ำในการช้อป
รับสอง… ใช้คูปองแทนเงินสดใน “รับแรก” ที่ร้านออฟฟิศเมท ลดเลยทันที 200 บาท พิเศษกว่า… ได้ส่วนลดเพิ่ม 2 เท่า เมื่อซื้อสินค้าหมวดเฟอร์นิเจอร์ (*เฉพาะสินค้าที่ร่วมรายการ) ลดเพิ่มรวม 400 บาท
รับสาม… รับคูปองส่วนลดเพิ่มอีก เมื่อ Add Line : @OfficeMate รับทันที คูปองส่วนลด สูงสุด 1,000 บาท สำหรับใช้คูปองส่วนลดช้อปครั้งต่อไป ผ่านทุกช่องทางที่ออฟฟิศเมท!

ออฟฟิศเมทจัดเต็มความสะดวก บริการจัดส่งฟรีถึงที่เพียงช้อปครบ 499 บาท (*ตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด) เดอะวันเดย์ วันดี๊ดี ที่ร้านออฟฟิศเมท แบบนี้เฉพาะสมาชิกThe1 เท่านั้น 19 ก.ค. 62 – 21 ก.ค. 62 แค่ 3 วันเท่านั้น กำกระเป๋าของคุณให้แน่น แล้วรีบวิ่งมาช้อปที่ร้านออฟฟิศเมททุกสาขาใกล้คุณ


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

“เอซ เอสเตท กรุ๊ป” ส่งโครงการ ‘Arti Sukhumvit 71’ คอนโดเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ กับทำเลเชื่อมไลฟ์สไตล์ใจกลางสุขุมวิท พร้อมเปิด Pre-Sales วันที่ 20-21ก.ค.นี้

“ เอซ เอสเตท กรุ๊ป ” ส่งโครงการ ‘Arti Sukhumvit 71’

คอนโดเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ กับทำเลเชื่อมไลฟ์สไตล์ใจกลางสุขุมวิท ด้วยคอนเซปต์ Live Out Life

เปิด Pre-Sales วันที่ 20-21ก.ค.นี้ ราคาเริ่ม 2.69 ล้านบาท

“เอซ เอสเตท กรุ๊ป” รุกพัฒนาโครงการอสังหาฯในเมือง ล่าสุด เปิดตัวโครงการ ‘Arti Sukhumvit 71’ คอนโดมิเนียมแบบ High rise ติดถนนสุขุมวิท 71 ที่ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “Live Out Life …ใช้ชีวิตที่เป็นคุณ” ชูจุดขายทำเลที่มี ‘ความลงตัว’ -ดีไซน์เด่น-ระดับราคาจับต้องได้ เริ่มต้นเพียง 2.69 ล้านบาท รองรับความต้องการที่หลากหลาย เจาะกลุ่ม Young Adult อายุ 28-40 ปี โดยได้ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ มืออาชีพระดับแนวหน้าของประเทศเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดและการขาย เปิด Pre-Sales ในวันที่ 20-21 กรกฎาคม 2562 นี้

นายณัฐพล จินตนา กรรมการบริหาร บริษัท เอซ เอสเตท กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ในการดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทฯ นั้นดำเนินงานภายใต้แนวคิด “ Attentive Living Solution” ที่พร้อมรองรับการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์และความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค จึงพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยจากการนำความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ที่มีมายาวนานของผู้บริหารและทีมงานในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผนวกกับความใส่ใจ การเรียนรู้พฤติกรรมความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงการศึกษาตลาดและรวบรวมเพื่อพัฒนาโครงการที่เติมเต็มความต้องการ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด

ล่าสุด บริษัทฯ ได้เปิดขายโครงการ ‘Arti Sukhumvit 71’ เป็นคอนโดมิเนียมแบบ High rise ติดถนนสุขุมวิท 71 ความสูง 21 ชั้น จำนวนเพียง 115 ยูนิต ถูกออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “Live Out Life…ใช้ชีวิตที่เป็นคุณ” สะท้อนถึงการใช้ชีวิตตามความต้องการ ช่างเลือก กล้าตัดสินใจ และหลุดจากกรอบเดิม ให้ความเป็นส่วนตัวสูงแก่ผู้พักอาศัย ด้วยจำนวนเพียง 5 – 8 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น และทุกห้องออกแบบโดยเน้นการใช้กระจกให้มองเห็นภายนอกได้อย่างเต็มที่ สามารถ Take View เมืองของถนนสุขุมวิทและถนนเพชรบุรี

ในส่วนห้องชุดพักอาศัยภายในโครงการ ‘Arti Sukhumvit 71’ ได้ออกแบบเพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลาย ตั้งแต่ห้อง Studio, ห้อง 1 bedroom และ Loft ที่ให้พื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้น รวมถึงแบบ 2 ห้องนอน และ Penthouse ขนาดกว่า 100 ตร.ม. รองรับลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ เป็นคอนโดที่เหมาะกับคนอายุ 28-40 ปี หรือกลุ่ม Young Adult ราคาเริ่ม 2.69 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการ 525 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างในไตรมาสที่ 4 ปี 2562 และมีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี ไตรมาสที่ 4 ปี 2564 โดยมีบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดและการขาย

นอกจากการออกแบบโครงการที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะแล้ว โครงการ ‘Arti Sukhumvit 71’ ยังมีจุดเด่นในด้านทำเลตรงสุขุมวิท 71 เป็นทำเลที่มี ‘ความลงตัว’ ในหลายๆจุด คือเป็นทำเลที่ไม่ได้พลุกพล่าน และใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก ทั้ง Office ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน และซุปเปอร์มาร์เก็ต ฯลฯ มี ความสะดวกสบายในการเดินทาง อีกทั้งระดับราคาขายโครงการ ‘Arti Sukhumvit 71’ ที่ไม่ได้สูงเกินไปแต่ก็สามารถใช้ชีวิตย่านเอกมัยและทองหล่อได้เพียงไม่กี่นาที นอกจากนี้ทางโครงการยังนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการการใช้ชีวิต เช่นระบบ Automatic Parking , Nasket ระบบสั่งซื้อสินค้าและบริการผ่าน Smart Display, Digital Door Lock, Smart Mirror และ Smart Switchในราคาเริ่มต้นเพียง 2.69 ล้านบาท เปิด Pre-Sales ในวันที่ 20-21 กรกฎาคม 2562 นี้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.aceestate.co.th/condo/arti หรือสอบถามได้ที่เบอร์โทร.081-999-7799

“การพัฒนาอสังหาฯ ในแต่ละโครงการเราคำนึงถึงทำเลเป็นสำคัญอันดับแรกก่อนเสมอ เพราะเป็นสิ่งที่จะส่งผลต่อการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยมากที่สุด และทุกครั้งก่อนเริ่มทำโครงการ เราจึงมีทีมลงพื้นที่สำรวจ รวมทั้งทีมผู้บริหารของ ACE Estate เอง ก็จะลงพื้นที่ด้วยเช่นกัน หลังจากนั้นนำข้อมูลที่ได้รับมาปรึกษาวิเคราะห์กันและที่นี่สุขุมวิท 71 เป็นทำเลที่มี ความลงตัว ที่สุดอีกแห่ง ” นายณัฐพล กล่าวย้ำ

ด้านนางสาวสมสกุล หลิมศุทธพรรณ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า สำหรับโครงการ ‘Arti Sukhumvit 71’ เป็นคอนโดที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ที่ชอบใช้ชีวิตในเมืองที่ต้องการความสะดวกสบายในราคาที่เอื้อมถึง และด้วยศักยภาพของทำเลที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตรอบด้าน จึงเหมาะกับทั้งกลุ่มผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงหรือการซื้อเพื่อลงทุนเอง เห็นได้จากชาวต่างชาติที่เริ่มเข้ามาอยู่ในบริเวณนี้มากขึ้นเพราะค่าครองชีพที่ถูกกว่าพร้อมพงษ์-ทองหล่อ แต่สามารถเดินทางด้วย BTS ได้อย่างสะดวกสบายเทียบเท่ากับในเมือง

ด้วยศักยภาพของทำเลนี้จึงสามารถดึงดูดดีมานด์ได้แน่นอน ทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างชาติโดยตั้งเป้าสัดส่วนของลูกค้าไทยและลูกค้าต่างชาติที่ 80:20 ทั้งนี้ ในการพัฒนาโครงการดังกล่าวทางพลัสฯ ได้ทำงานกับเอซ เอสเตท ในลักษณะการเป็นพาร์ทเนอร์ที่มีส่วนร่วมตั้งแต่ขั้นตอนการพัฒนาโครงการ โดยเน้นการตอบโจทย์ Insight ของลูกค้า เพราะการเข้าใจความต้องการของลูกค้าคือสิ่งสำคัญ โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นกลุ่ม Young Adult ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่วัยทำงานที่ออฟฟิศอยู่ในเมือง จึงต้องการความสะดวกสบายในการเดินทางและการใช้ชีวิต จึงมี Facility ที่ครบครัน ที่สำคัญสุดคือการตั้งราคาที่กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงได้ โดยวางกลุ่มเป้าหมายเป็นคนซื้ออยู่อาศัยเอง 70 % และซื้อลงทุน 30%

ช่วง 5 ปี ที่ดินทำเลสุขุมวิท 71 ราคาพุ่งถึง 60%

นางสาวสมสกุล ยังกล่าว ให้ความเห็นถึง การเปลี่ยนแปลงราคาที่ดินทำเลสุขุมวิท 71 ด้วยว่า เมื่อปี พ.ศ.2561(ค.ศ.2018) ราคาที่ดินเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 450,000 บาทต่อตารางวา (ตร.วา) ซึ่งราคาปรับเพิ่มสูงขึ้นถึง 60% จากช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา หรือเติบโตขึ้นเฉลี่ยกว่า 13% ต่อปี ราคาที่ดินที่เพิ่มสูงขึ้นย่อมมีผลทำให้คอนโดมิเนียมในย่านนี้มีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยพบคอนโดฯที่ขายในโซนนี้ราคาเติบโตขึ้นเฉลี่ย 11% ต่อปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าสนใจ ทั้งในแง่การซื้ออยู่เองที่จะได้โครงการที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นในอนาคต หรือซื้อเพื่อลงทุนก็มีแนวโน้มจะได้ผลตอบแทนที่ดีจากส่วนต่างราคาที่เพิ่มขึ้นทุกปีเช่นเดียวกัน

สำหรับราคาขายคอนโดฯ โซนสุขุมวิท 71 พบว่าระดับราคาที่ 100,000 – 150,000 บาทต่อตร.ม. นั้นจะขายได้ดีสุด โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาอัตราการขายโครงการใน Segment นี้สูงกว่าอัตราการขายเฉลี่ยรวมในพื้นที่ เนื่องจากไม่มีโครงการเปิดใหม่และโครงเก่าขายได้เกือบทั้งหมด โดยยอดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 95 % ส่วนในด้านผลตอบแทนการลงทุนก็น่าสนใจเช่นกัน โดยการปล่อยเช่าที่มีดีมานด์จากทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ในโซนนี้มีอัตราผลตอบแทนการปล่อยเช่า (Rental Yield) เฉลี่ย 5-7%

ประวัติความเป็นมา : บริษัท เอซ เอสเตท กรุ๊ป จำกัด (ACE Estate ) เป็นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดจากการร่วมมือกันของผู้ที่มีประสบการณ์ในวงการอสังหาริมทรัพย์มามากว่า 10 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้แต่ละกลุ่มนั้นได้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์มามากมายหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็นโครงการ คอนโดมิเนียม Low rise, บ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม

สำหรับการรวมตัวกันของ ACE Estate เริ่มต้นด้วยโครงการ KUUN ราชพฤกษ์ บ้านเดี่ยวระดับ Luxury Class ที่มีจุดเด่นของโครงการที่ครบครัน ทั้งในด้าน Function, Design, Location, Innovation และ Facilitites

โครงการ KUUN ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ ACE Estate ที่ได้รับการตอบรับที่ดีตามที่คาดหมายไว้ ด้วยยอดขาย 100% ในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา อีกทั้งโครงการยังประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากหลายด้าน ที่ได้รับรางวัลทั้งในระดับประเทศและในระดับสากลมากถึง 7 รางวัล จากเวที PropertyGuru Thailand Property Awards 2018 และ PropertyGuru Asia Property Awards 2018 ที่ผ่านมา


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ผู้ก่อตั้งหัวเว่ยเผย Hongmeng OS ตัวใหม่ เหมาะกับอุปกรณ์ IoT

รุงเทพฯ ประเทศไทย/18 กรกฎาคม 2562 – มร. เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารหัวเว่ย เผย Hongmeng (หงเหมิง) ระบบปฏิบัติการตัวใหม่ของบริษัท เหมาะสำหรับอุปกรณ์อัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี IoT เพราะมีความหน่วงเวลา (Latency) ต่ำ

“เป้าหมายของ OS นี้คือ สร้างโลกที่ทุกสิ่งอย่างมีความอัจฉริยะและเชื่อมต่อกันได้ให้เป็นจริง”
มร. เหรินกล่าวในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Le Point ของฝรั่งเศส และเสริมด้วยว่า “ระบบปฏิบัติการหงเหมิงมีความล่าช้าต่ำในระดับคงที่ โดยในแต่ละจุดจะมีความหน่วงไม่เกิน 5 มิลลิวินาทีหรือต่ำกว่านั้น และอาจต่ำกว่า 1 มิลลิวินาทีด้วย”

มร. เหริน กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า “ยกตัวอย่างเช่นรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ การเปลี่ยนเกียร์ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 มิลลิวินาที ถ้าความหน่วงเวลาไม่คงที่ การเข้าเกียร์อาจผิดพลาดและอาจส่งผลให้เกิดความผิดพลาดในการทำงานร่วมกันได้”

ในวันที่ 7 สิงหาคม หัวเว่ย ผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และสมาร์ทดีไวซ์ จะจัดงาน IoT Industry Summit ขึ้นที่กรุงเทพฯ เพื่อจัดแสดงและพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับเทคโนโลยี IoT และแอปพลิเคชันการใช้งานอันล้ำสมัย

ประเทศไทยได้นำเทคโนโลยี IoT มาประยุกต์ใช้จนประสบความสำเร็จ ซึ่งสามารถสร้างประโยชน์ให้กับสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ ในฐานะตัวขับเคลื่อนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ที่สำคัญ เทคโนโลยี IoT มีศักยภาพในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลเพื่อนำประเทศไทยไปสู่การเป็นอุตสาหกรรมอัจฉริยะ เมืองอัจฉริยะ และการใช้ชีวิตอย่างชาญฉลาด

“เราต้องการสร้างความพึงพอใจให้ผู้คนในสังคม เป้าหมายสูงสุดของเราคือการให้บริการผู้บริโภค ซึ่งก็คือ คนกว่า 6,500 ล้านคน และอาจจะมากกว่านั้นในอนาคตเมื่อ IoT เชื่อมต่อกับทุกสรรพสิ่งได้มากขึ้น ดังนั้น เราจึงมุ่งมั่นที่จะสร้างสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับผู้บริโภคและตอบสนองความต้องการของทุกผู้คน” มร. เหริน เจิ้งเฟย กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์

IoT เป็นรากฐานของปัญญาประดิษฐ์ (AI) บิ๊กดาต้า และเป็นส่วนสำคัญของ 5G หัวเว่ยซึ่งเป็นผู้นำด้าน 5G ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์และโซลูชัน 5G เชิงพาณิชย์แบบครบวงจรที่ตรงตามมาตรฐานของ 3GPP อีกทั้งยังได้ก่อตั้งศูนย์โอเพ่น แล็บ (Open Lab) ในประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการพัฒนาแอปพลิเคชันของนักพัฒนาแอพในประเทศอีกด้วย

ทั้งนี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของหัวเว่ยได้ยืนยันว่าแม้จะมีความท้าทายเกิดขึ้นในช่วงนี้ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการจัดส่งอุปกรณ์ 5G

“จะไม่มีปัญหาด้านการจัดส่งอุปกรณ์อย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นแล้ว อุปกรณ์ 5G ของเราถือว่าดีที่สุดในโลกและจะยังไม่มีบริษัทไหนตามเราทันได้ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า จึงไม่มีปัญหาด้านการจัดส่งแน่นอน ฝ่ายผลิตของเรายังทุ่มเททำงานกันอย่างเต็มที่”

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับความท้าทายล่าสุดที่หัวเว่ยกำลังเผชิญจากสหรัฐอเมริกา มร. เหริน ตอบว่า “กงล้อแห่งกาลเวลาย่อมเดินไปข้างหน้าเสมอ ไม่มีใครหยุดมันได้หรอก”

“เราแค่ขายอุปกรณ์เปล่าๆ อย่างท่อน้ำหรือก๊อกน้ำ ผลิตภัณฑ์ดีไวซ์ก็เหมือนกับก๊อก ส่วนอุปกรณ์เชื่อมต่อก็เปรียบเหมือนกับท่อน้ำ สิ่งที่ไหลผ่านอุปกรณ์เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหรือน้ำมัน ย่อมมีระบบข้อมูลเป็นตัวกำหนด และระบบเหล่านี้ก็ควบคุมโดยผู้ให้บริการระบบโครงข่ายโทรศัพท์มือถือ ไม่ใช่เรา เราเองก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าถึงข้อมูลและขอยืนยันด้วยว่าเราไม่เคยติดตั้งประตูหลังเพื่อสอดแนมข้อมูลของผู้ใช้” มร. เหริน เจิ้งเฟยกล่าว

“กุญแจสู่ความสำเร็จของหัวเว่ยคือ ความทุ่มเทในการสร้างสิ่งที่มีคุณค่าให้แก่ลูกค้า ถึงแม้ว่าจะมีการโจมตีหัวเว่ยอย่างหนัก แต่ผู้บริโภคก็ยังคงซื้อสินค้าจากเรา เพราะความไว้วางใจที่เกิดจากการทุ่มเททำงานเพื่อลูกค้าและสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อพวกเขาตลอดหลายปีที่ผ่านมา”

ในฐานะผู้นำตลาดในจีนและอีกหลายประเทศทั้งในทวีปยุโรป เอเชีย และแอฟริกา ปัจจุบันผลิตภัณฑ์และโซลูชันของหัวเว่ยให้บริการแก่ผู้คนกว่า 3 พันล้านคนทั่วโลก

“ทำงานร่วมกันเพื่อความสำเร็จร่วมกัน” มร. เหริน เจิ้งเฟย กล่าวเมื่อ Le Point ถามถึงคติประจำตัวของเขา


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ซีดับเบิลยูซอฟต์ เปิดตัวซอฟต์แวร์รุ่นล่าสุด ZW3D 2019 SP: CAD/CAM พร้อมให้ทดลองใช้ฟรี

บริษัท ซีดับเบิลยูซอฟต์ (ZWSOFT) หนึ่งในผู้นำของโลกด้านการให้บริการซอฟต์แวร์สำหรับ CAD/CAM ขั้นสูงเพื่อการออกแบบและผลิตชิ้นส่วนในอุตสาหกรรม ประกาศเปิดตัว ZW3D 2019 SP ยกระดับการออกแบบ เพิ่มฟีเจอร์ใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานด้านการออกแบบ ที่มีความซับซ้อนด้วยโซลูชั่น CAD/CAM ที่มีประสิทธิภาพและใช้งานง่ายขึ้น พร้อมเปิดให้ดาวน์โหลดทดลองใช้งานได้ฟรี ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2562

นาย คิงดอม หลิน รองประธานบริหาร และหัวหน้าฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ บริษัท ซีดับเบิลยูซอฟต์ กล่าวว่า “ซอฟต์แวร์ ZW3D 2019 SP รุ่นล่าสุดนี้ มีจุดเด่นด้านการพัฒนาเปิดไฟล์ Catia®/Solidworks®2D Drawing เมื่อเปิดไฟล์ 2D sheets สามารถคงลักษณะของเส้นและขนาด เพื่อแสดงรูปทรงเรขาคณิตที่แม่นยำยิ่งขึ้น ทำให้การทำงานข้อมูลแบบ 2 มิตินั้นง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังรองรับการนำเข้าและส่งออกไฟล์ jt ทำให้ความยืดหยุ่นการทำงานระหว่างไฟล์ของ ZW3D ดียิ่งขึ้นกว่าเมื่อก่อน”

บริษัท ซีดับเบิลยูซอฟต์ เปิดโอกาสให้กลุ่มลูกค้าที่เป็นสถาปนิก วิศวกร นักออกแบบ และผู้สนใจที่ต้องการทดลองใช้งานซอฟต์แวร์ ดาวน์โหลดได้ฟรีที่ https://www.zwsoft.com/zw3d/download-center หรืออัพเกรดเป็น ZW3D 2019 SP จากนั้นสามารถรับ Plug-in สำหรับเปิดไฟล์ Catia®/Solidworks®2D Drawing ได้ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2562 สำหรับซอฟต์แวร์ ZW3D 2019 SP รุ่นล่าสุดนี้ มีคุณสมบัติใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้นมากมาย ได้แก่

1. การจัดการไฟล์ที่ง่ายขึ้น ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดการไฟล์ง่ายขึ้น สำหรับการนำเข้าไฟล์นั้นทำได้โดยค้นหาไดเร็คทอรี่ย่อยภายในงานประกอบ เพื่อนำเข้าไฟล์ CAD 3 มิติ และป้องกันชิ้นส่วนสูญหาย ส่วนการเก็บไฟล์ ผู้ใช้สามารถตั้งค่าเริ่มต้นโฟลเดอร์งาน ช่วยจัดเก็บไฟล์ให้เป็นระเบียบยิ่งขึ้น

2. Multi-Export: จากหลายวัตถุเป็นหลายฟอร์แมท เมื่อออกแบบงานเสร็จแล้ว Multi-Export จะช่วยเรื่องการส่งออกแบบวัตถุหลายรายการเป็นหลายฟอร์แมทในเวลาเดียวกัน ช่วยลดเวลาการส่งออกไฟล์งานของผู้ใช้ได้

3. สร้างแบบจำลองอย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซอฟต์แวร์ ZW3D 2019 SP ยังเพิ่มคุณสมบัติด้านการสร้างแบบจำลองที่มีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น เมื่อจัดการ 3D BOM สามารถเรียกใช้งานค่าแอตทริบิวต์ (Attributes) ที่ใช้งานเป็นประจำด้วยการคลิกขวา รวมถึงกฎการออกแบบสำหรับการดำเนินการหลักและย่อยในฟีเจอร์ Suppress มีการยกระดับให้แม่นยำยิ่งขึ้นและยังพัฒนาในส่วนปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับชิ้นส่วน เช่น ดาตัม (Datum) ของส่วนประกอบจะแสดงผลเมื่อใส่ส่วนประกอบเข้าไป ทำให้การแก้ไขงานง่ายขึ้น อีกทั้งรูปแบบการใช้งานนี้ยังสามารถใช้กับรูหรือช่องของส่วนประกอบ ช่วยให้การทำงานสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น

4. แม่พิมพ์ ยกระดับโมดูลแม่พิมพ์ทำให้การออกแบบแม่พิมพ์สะดวกยิ่งขึ้น เมื่อจัดการกับการวิเคราะห์บริเวณ Region จะทำให้ง่ายต่อการตรวจสอบชิ้นงานที่ไม่เชื่อมต่อกัน และสร้างผลการวิเคราะห์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น ส่วนตัว Ejector pins จะถูกตัดในระดับของส่วนประกอบ และชิ้นส่วน ทำให้ตาราง BOM แม่นยำยิ่งขึ้น และฐานแม่พิมพ์ยังนำไปใช้กับไฟล์งานชิ้นเดียว ทำให้การออกแบบแม่พิมพ์มีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น

5. โมดูล CAM ปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพิ่มประเภทของ Arc ในชุด Helical Arc และ Special Arc เพื่อเพิ่มความสามารถในการขึ้นรูปและเมื่อดำเนินการลบมุม (Chamfer) การเชื่อมต่อ Lead-in Toolpath จะปรับให้เป็นขดเกลียวอัตโนมัติ เมื่อพื้นที่ตัดมีขนาดเล็กกว่า Lead-in เส้นโค้ง และผู้ใช้งานยังสามารถกำหนดลำดับการเจาะรูด้วยตนเองหรือตามค่าเริ่มต้นได้

นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถใช้คำสั่ง “XY Arcs” เพื่อกำหนดเป็นค่าเริ่มต้นในการดำเนินงานแบบเรียบ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของการขึ้นรูป นอกจากนี้ ยังมี Link ให้เลือกใน Ramp เพื่อเพิ่มทางเลือกสำหรับ Ramp Cutting และเพิ่มประสิทธิภาพการขึ้นรูปชิ้นงานด้วย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ZW3D 2019 SP กลุ่มลูกค้าและผู้สนใจทั่วไปสามารถคลิกเข้าไปได้ที่ https://www.zwsoft.com/zw3d/download-center/download-form-2019


 

Categories
Pets คุณทำเองได้ (DIY)

ใช้ micro:bit กับเครื่องให้อาหารแมวอัตโนมัติ (Update-210220)

เนื่องจากโครงงานเครื่องให้อาหารแมวอัตโนมัตินั้น มีผู้สนใจจำนวนมาก ส่วนใหญ่ไม่เคยเขียนโปรแกรมและไม่มีความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์มาก่อน โดยในบทความกึ่งโครงงานนี้ จึงขอแนะนำบอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ที่ทำหน้าที่เดียวกับบอร์ด POP-168 (Arduino) ที่แนะนำในโครงงานฯ และที่จะแนะนำในบทความนี้ก็คือบอร์ด micro:bit (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม) ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับน้องๆ นักเรียน ที่ยังไม่เคยเขียนโปรแกรมมาก่อน

ดังนั้นในบทความนี้ ผู้เขียนขออนุญาตไม่กล่าวถึงขั้นตอนการสร้างตัวโครงของเครื่องให้อาหารแมว แต่จะกล่าวถึงเฉพาะการนำไมโครบิตมาทำส่วนควบคุมการจ่ายอาหารเท่านั้น หากต้องการดูการสร้างโครงของเครื่องแนะนำให้เปิดดูเนื้อหาเกี่ยวกับการสร้างเครื่องให้อาหารแมวอัตโนมัติแทนนะครับ (คลิกดูโครงงานเครื่องให้อาหารแมวอัตโนมัติ)

อุปกรณ์ที่ต้องใช้

1. บอร์ด micro:bit V1 หรือ V2 ก็ได้
ใช้สำหรับสำหรับเขียนโปรแกรมเพื่อควบคุมการทำงาน (คลิกสั่งซื้อ)

2. บอร์ด AX-microBIT+
สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์อินพุต เอาต์พุต หรืออุปกรณ์ภายนอกอื่นๆ (คลิกสั่งซื้อ)

3. ZX-SONAR หรือ ZX-SONAR1M (ใช้แทน ZX-SONAR ได้)
แผงวงจรวัดระยะทางด้วยคลื่นอัลตร้าโซนิกแบบให้ผลการทำงานเป็นแรงดันไฟตรงแบบแอนะล็อก (คลิกสั่งซื้อ ZX-SONAR) (คลิกสั่งซื้อ ZX-SONAR1M)

4. KSERVO-270J
 เซอร์โวมอเตอร์กำลังไฟฟ้าต่ำ ขั้วต่อเป็นแบบ JST 2.0 มม. ตัวเมีย 3 ขา สำหรับใช้งานไมโครคอนโทรลเลอร์สมัยใหม่ที่ใช้ไฟเลี้ยง 3.3V (คลิกสั่งซื้อ)

5. อะแดปเตอร์ไฟตรง 9 โวลต์ (คลิกสั่งซื้อ)

ขั้นตอนการเชื่อมต่ออุปกรณ์และพัฒนาโค้ดโปรแกรม

(1) ติดตั้งบอร์ดไมโครบิตเข้ากับแผงวงจร AX-microBIT+  จากนั้นเชื่อมต่อโมดูลวัดระยะทาง กับจุดต่อ 1/AN1

(2) เชื่อมต่อเซอร์โวมอเตอร์ เข้ากับจุดต่อ 12 ของแผงวงจร AX-microBIT+


ภาพแสดงการเชื่อมต่ออุปกรณ์ทั้งหมดเข้าด้วยกัน

(3) อ่านค่าจากโมดูลวัดระยะทาง (ZX-Sonar) ให้แสดงผลด้วย LED บนบอร์ดไมโครบิต เพื่อหาค่าระยะห่างเมื่อแมวเข้ามากินอาหารที่ชาม

(3.1) วิธีการคือเปิดเว็บเบราเซอร์ไปที่ https://makecode.microbit.org/ ลากบล็อก show number จากกลุ่มคำสั่ง Basic วางในบล็อก forever แล้วลากบล็อก analog read pin จากกลุ่มคำสั่ง Pins วางในบล็อก show number โดยกำหนดให้เป็นจุด P1 (เพราะเราเชื่อมต่อเซนเซอร์วัดระยะทางไว้ที่ P1)

(3.2) เสียบสาย microUSB เข้ากับบอร์ดไมโครบิตและคอมพิวเตอร์ จะพบไดรฟ์ที่ชื่อ MICROBIT ปรากฎขึ้นมาในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา จากนั้นคลิกปุ่ม Download (ด้านล่างซ้ายมือ) แล้วเลือกวางไฟล์โค้ดไปยังไดรฟ์ MICROBIT

(3.3) ทดลองนำ ZX-Sonar เคลื่อนเข้าหาวัตถุในตำแหน่งที่เหมาะสม (ระยะห่างที่แมวเดินเข้ามาหาชามอาหาร) แล้วบันทึกค่าที่อ่านได้จากหน้าจอ LED ของ micro:bit  (ZX-Sonar จะให้ค่าต่ำลงเมื่อมีวัตถุเข้าใกล้) ในตัวอย่างนี้เราจะได้ค่า 95 เพื่อนำไปสร้างเงื่อนไขต่อไป

 

(4) วางบล็อกคำสั่งง่ายๆ ดังตัวอย่างต่อไปนี้ เพื่อควบคุมการทำงานเครื่องให้อาหารแมวอัตโนมัติ (ขออนุญาตข้ามการอธิบายบล็อกคำสั่งนะครับ เนื่องจากมันค่อนข้างง่ายลองไล่ตามดูก็จะเข้าใจ)

สั่งเกตที่ด้านซ้ายของโปรแกรมจะมีบอร์ดจำลองของไมโครบิตแสดงการทำงานตามโค้ดที่เราเขียนไว้แบบทันทีทันใด ทำให้ง่ายในการทดลองเขียนโค้ด

จากบล็อกข้างต้นได้สร้างเงื่อนไขจากค่าของโมดูลวัดระยะทาง ZX-Sonar ที่เราอ่านได้จากขั้นตอนที่แล้ว โดยใช้บล็อก if then else จากกลุ่มคำสั่ง Logic มาเป็นส่วนสรางเงื่อนไข โดยถ้าค่าที่อ่านได้น้อยกว่า 95 ให้ทำตามคำสั่งในส่วน then (เงื่อนไจเป็นจริง) ที่ประกอบไปด้วย

  • แสดงหน้ายิ้มด้วยบล็อกคำสั่ง show icon (สามารถเลือกไอคอนได้มากถึง 40 แบบ)
  • สั่งให้เซอร์โวมอเตอร์หมุนด้วยบล็อก servo write pin (จากกลุ่มคำสั่ง  Pins) เลือกพอร์ต P12 และกำหนดองศาการหมุนเป็น 90 องศา เพื่อหมุนตีลูกบอลเปิดให้อาหารแมวหล่นลงมา
  • หน่วงเวลาการหมุน (ให้ค้างตำแหน่งไว้) 2 วินาที (ค่า 1000 = 1 วินาที) ด้วยบล็อกคำสั่ง pause
  • สั่งให้เซอร์โวมอเตอร์หมุนด้วยบล็อก servo write pin เลือกพอร์ต P12 และกำหนดองศาการหมุนเป็น 0 องศา เพื่อให้ก้านตีออกจากลูกบอลและกลับไปยังตำแหน่งเดิม
  • ใช้บล็อกคำสั่ง pause หน่วงเวลาที่ต้องการ ในตัวอย่างจะเท่ากับ 12 วินาที (จริงๆ แล้วควรนานกว่านี้) ในส่วนการหน่วงเวลาส่วนที่สองนี้คือการเผื่อเวลาให้แมวกินเสร็จ ก็ลองพิจารณาดูนะครับ ว่าควรกำหนดค่าไว้กี่วินาที โดยค่า 1000 เท่ากับ 1 วินาที

อีกส่วนหนึ่งคือส่วนที่หากค่าที่อ่านได้จาก ZX-Sonar มากกว่า 95 (เงื่อนไขเป็นเท็จ) แสดงว่าแมวยังไม่เดินมาที่ชามอาหาร ให้ข้ามไปทำส่วน else โดยให้แสดงเป็นรูปหัวใจกำลังเต้นด้วยบล็อกคำสั่งต่อไปนี้

  • โชว์รูปหัวใจด้วยบล็อก show icon แล้วเลือกไอคอนรูปหัวใจดวงใหญ่
  • หน่วงเวลา 100 มิลลิวินาที ด้วยบล็อก pause 
  • โชว์รูปหัวใจด้วยบล็อก show icon แล้วเลือกไอคอนรูปหัวใจดวงเล็ก
  • หน่วงเวลา 100 มิลลิวินาที ด้วยบล็อก pause 

เสร็จแล้วก็อย่าลืมดาวน์โหลดลงบนไมโครบิตแล้วทดสอบ

ทั้งหมดนี้ก็คือการใช้บอร์ด micro:bit มาควบคุมเครื่องให้อาหารแมวของเรา แทนการใช้บอร์ด Arduino ซึ่งง่ายและเหมาะสำหรับน้องๆ ที่ไม่เคยเคยโปรแกรมและไม่มีความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์มาก่อน สำหรับใครที่ต้องการสร้างหรือใช้งานไมโครบิตในรูปแบบอื่นๆ สามารถสั่งซื้อหนังสือคู่มือไว้ศึกษาเพิ่มเติมได้จากลิงก์นี้เลย https://inex.co.th/home/product/book-microbit-coding-beginner

การประดิษฐ์โครงสร้างเครื่องให้อาหารแมว

บทความแนะนำ micro:bit


 

Categories
รีวิว

micro:bit แผงวงจรไมโครคอนโทรลเลอร์สำหรับผู้เริมต้นสร้างสิ่งประดิษฐ์อัตโนมัติ

micro:bit (ไมโครบิต) บอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์สำหรับมือใหม่ทุกระดับจากประเทศอังกฤษ ที่สามารถเขียนโปรแกรมควบคุมได้อย่างง่าย เพียงลากบล็อกคำสั่งมาเรียงต่อกันตามแนวคิดของผู้ใช้ที่ต้องการให้อุปกรณ์หรือสิ่งประดิษฐ์ของเราทำงานด้วยเงื่อนไขใดๆ

เขียนโปรแกรมได้อย่างไร

อีกหนึ่งคุณสมบัติที่น่าสนใจคือการจะเขียนโปรแกรมควบคุมบอร์ดไมโครบิตได้นั้น คุณไม่จำเป็นต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติมแต่อย่างใด เพียงแค่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแล้วเปิดเว็บเบราเซอร์เข้าไปที่เว็บ https://makecode.microbit.org/  คุณจะพบตัวอย่างมากมายให้ได้ทดลองทำตาม หรือจะเริ่มสร้างโค้ดของคุณเองก็ทำได้ โดยการคลิกที่ New Project แล้วเริ่มลากบล็อคได้เลย


ภาพหน้าจอ makecode


ภาพตัวอย่างโครงงานที่เราลองทำตามได้


ภาพตัวอย่างการเขียนโค้ดควบคุมเซอร์โวมอเตอร์ สังเกตุซ้ายมือจะมีบอร์ดจำลองพร้อมตัวอย่างเชื่อมต่อเซอร์โวมอเตอร์

แต่ที่เด็ดก็คือตัวซอฟต์แวร์ที่นอกจากจะง่าย แถมยังรันบนเว็บเบราเซอร์โดยไม่ต้องติดตั้งในเครื่องแล้ว ด้ายซ้ายมือยังมีบอร์ดไมโครบิตเสมือน (Simulator) ที่สามารถทดสอบการทำงานของโค้ดคำสั่งที่เราวางได้แบบเรียลไทม์เลยทีเดียว แถมยังสามารถสโลว์โมชั่นการทำงานของบล็อคคำสั่งได้อีกต่างหาก เพียงคลิกที่ไอคอนรูปหอยทาก ก็จะเกิดกรอบสีเหลืองไล่เรียงการทำงานแต่ละบล็อกคำสั่งอย่างช้าๆ พร้อมแสดงผลการทำงานที่บอร์ดจำลองด้านซ้ายไปด้วย


ภาพตัวอย่างเมื่อเราคลิกไอคอนรูปหอยทาก เพื่อดูการทำงานของบล็อกอย่างช้าๆ

การดาวน์โหลดโปรแกรมลงบอร์ดไมโครบิต

เมื่อเขียนโค้ดจนพอใจแล้วให้เชื่อมต่อไมโครบิตเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ ด้วยสาย microUSB จากนั้นที่เครื่องคอมพิวเตอร์จะมองเห็นไมโครบิตเป็นไดร์ฟเพิ่มมาอีกหนึ่งไดร์ฟ (คล้ายกับที่เราเสียบแฟลชไดร์ฟ) จากนั้นคลิกที่ปุ่มดาวน์โหลด ระบบจะทำการแปลงบล็อกของเราเป็นไฟล์นามสกุล .hex

จากนั้นจะมีข้อความแนะนำดังรูปด้านล่าง

ต่อไปให้คลิกที่ปุ่มสีเขียวแล้วเลือกที่ดาวน์โหลดไปที่ไดร์ฟ Microbit ดังรูป

ขณะดาวน์โหลดลงบอร์ดไมโครบิตจะสังเกตุเห็นไฟ LED บนบอร์ดกะพริบรัวๆ หากไฟหยุดกะพริบแสดงว่าการดาวน์โหลดเสร็จสิ้น พร้อมสำหรับการนำไปใช้งานแล้ว

คุณสมบัติที่น่าสนใจบนแผงวงจร

• ใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์ ARM Cortex 32 บิต
• หน่วยความจำแรม 16 กิโลไบต์
• รองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบบลูทูธ 4.0 ใช้พลังงานต่ำ
• มี LED บนบอร์ด 25 ดวง (5×5)
• มีสวิตช์แบบปุ่มกดบนบอร์ด 2 ตัว
• มีโมดูลเข็มทิศ
• มีโมดูลตรวจจับความเอียง
• มีพอร์ตอะนาลอกและดิจิตอล 3 พอร์ต
• มีจุดต่อจ่ายไฟบนบอร์ดและคอนเน็กเตอร์สำหรับต่อกะบะถ่าน 3 โวลต์
• ใช้แหล่งจ่ายไฟตรง 3 โวลต์

จากคุณสมบัติข้างต้นนั้นหมายความว่า ไมโครบิต สามารถทำได้หลากหลายบนตัวมันเอง เนื่องจากมีโมดูลต่างๆ ที่ติดตั้งอยู่บนบอร์ดแล้ว ไมโครบิตเพียงหนึ่งบอร์ดสามารถสร้างเป็นโครงงานได้หลากหลาย

การควบคุมอุปกรณ์ภายนอก

ความจริงแล้วไมโครบิตถูกออกแบบมาสำหรับการเรียนรู้ทั้งการเขียนโปรแกรมและวจรไฟฟ้า-อิเล็กทรอนิกส์พื้นฐานไปพร้อมกัน จึงเห็นว่าที่ด้านล่างของตัวบอร์ดจะมีแถบทองแดงที่มีตัวเลขกำกับโดยตัวเลข 0 1 และ 2 คือตำแหน่งของขาพอร์ตของไมโครคอนโทรลเลอร์ ส่วน 3V และ GND คือขาสำหรับต่อไฟเลี้ยงขั้วบวก 3 โวลต์ และขั้วลบ หรือขากราวด์นั้นเอง ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกอย่างง่ายๆ โดยใช้ปากคีบหนีบกับแถบหมายเลขตามความต้องการใช้งานได้เลย ส่วนที่เป็นซี่เล็กๆ ก็คือขาพอร์ตอื่นๆ ดังรูปต่อไปนี้

แต่เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ผู้เขียนขอแนะนำแผงวงจร AX-microBIT+ ที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์และเซอร์โวมอเตอร์ นอกจากนั้นยังมีภาคจ่ายไฟแยกอิสระถึง 2 แรงดัน คือ 3 โวลต์ และ 5 โวลต์ และจุดต่ออิสระเพื่อความสะดวกในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ เพื่อสร้างต้นแบบสิ่งประดิษฐ์

คุณสมบัติของแผงวงจร AX-microBIT+

• มีคอนเน็กเตอร์ 80 ขา แบบตั้ง และแบบนอนสำหรับติดตั้ง micro:bit

• มีสวิตช์เปิดปิด

• มีจุดต่อไฟเลี้ยง +5V เป็นแจ๊กอะแดปเตตอร์ พร้อมวงจรควบคุมไฟเลี้ยงคงที่ +3.3V และวงจรป้องกันการต่อไฟกลับขั้ว

• มีจุดต่อพอร์ตสำคัญแบบ JST เพื่อต่อกับอุปกรณ์อินพุตเอาต์พุตของ INEX

• มีจุดต่อพอร์ตทั้งหมดของ micro:bit เป็นแบบ IDC ตัวผูัและตัวเมีย ทำให้ต่อสายสำหรับต่อวงจรบนเบรดบอร์ดได้สะดวก

• มีจุดต่อชุบทองขนาดรู 4 มม. 5 จุด เพื่อใช้งานกับสายปากคีบได้ ต่อตรงมาจากขาพอร์ต 0,1,2, +3V และ GND

• มีสวิตช์กดติดปล่อยดับ 2 ตัว ต่อมาจาก Button A และ B ของ micro:bit

• มีตัวต้าทานปรับค่าได้สำหรับทดลองอินพุตอะนาลอก

• ผลิตจากแผ่นวงจรพิมพ์ 2 หน้า PTH พร้อมชุบทองที่จุดบัดกรีทั้งหมด

ดาวน์โหลดคู่มือ AX-microBIT+ 

ซื้อหามาใช้

สำหรับท่านที่ต้องการซื้อมาลองเล่น หรือต้องการทำไปทำโครงงานส่งครูแบบด่วนๆ ก็หาซื้อได้ทั้งแบบแยกและแบบชุดที่ทางผู้จำหน่ายจัดเตรียมไว้สำหรับผู้เริ่มต้น จะได้ไม่ต้องหาซื้ออุปกรณ์อื่นๆ เพิ่มเติมอีกที่

ซื้อ micro:bit ที่ลาซาด้า

ซื้อ micro:bit ที่ INEX https://inex.co.th/home/product-category/education-board/microbit/


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ทีมหุ่นยนต์ “iRap Sechzig” มจพ. คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จากการแข่งขันหุ่นยนต์กู้ภัยระดับโลก RoboCup 2019

นักศึกษาทีมหุ่นยนต์กู้ภัย “iRap Sechzig” (ไอราฟ เซคซิก) นักศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ และวิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 และได้รับรางวัลนวัตกรรมสมรรถนะการขับเคลื่อนหุ่นยนต์ยอดเยี่ยมระดับโลก (Best in Class Mobility) เวทีระดับโลกจากการแข่งขัน Robocup Rescue League 2019 ณ เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 2 – 8 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา ได้สร้างชื่อเสียงให้กับมหาวิทยาลัยเทคโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือและประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นรู้จักในวงการหุ่นยนต์กู้ภัยเป็นอย่างดีถึงฝีไม้ลายมือทีมหุ่นยนต์กู้ภัย จาก มจพ. การแข่งขันดังกล่าวมีทีมหุ่นยนต์กู้ภัยจากทั่วโลก 14 ทีม ทีมหุ่นยนต์กู้ภัย “iRap Sechzig” (ไอราฟ เซคซิก) เดินทางมาถึงประเทศไทย เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา

ขวัญฤทัย ข่าว-ภาพ


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

“ไอริส กรุ๊ป” เปิดตัวโครงการ IDEN Sukhumvit 101 ชูทำเล-ดีไซน์เด่น-ฟังก์ชั่นครบ เจาะนักธุรกิจรุ่นใหม่ราคาเริ่ม 24 ล้านบาท

“ไอริส กรุ๊ป” เปิดตัวโครงการ IDEN Sukhumvit 101

ชูทำเล-ดีไซน์เด่น-ฟังก์ชั่นครบ เจาะนักธุรกิจรุ่นใหม่ราคาเริ่ม 24 ล้านบาท

“ไอริส กรุ๊ป” ประกาศแผนบุกอสังหาฯ ครึ่งหลังปี 2562 จ่อเปิดตัว 2 โครงการใหม่ รวมมูลค่า 2,300 ล้านบาท ล่าสุด เปิดตัวโครงการ IDEN Sukhumvit 101 ชูจุดขาย ทำเล ดีไซน์เด่น ควบคู่กับฟังก์ชั่นใช้สอยที่ตอบการใช้งานได้จริง เจาะนักธุรกิจรุ่นใหม่ ฉลาดเลือกในสิ่งที่ดีที่สุด และมีรสนิยมที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร เตรียมเปิดจองในวันที่ 6-7 กรกฎาคม 2562 ราคาเริ่มต้น 24 ล้านบาท สิทธิพิเศษ ! สำหรับผู้จองและโอนกรรมสิทธิ์เข้ามาในช่วงเวลานี้ รับ Porsche Macan ทันที เฉพาะ 16 หลังแรกเท่านั้น

นายกิตติพงษ์ สุมานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไอริส กรุ๊ป จำกัด ผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 ภาพโดยรวมสถานการณ์เศรษฐกิจไทยและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์น่าจะมีแนวโน้มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น และเชื่อว่าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่จะมีการออกมาตรการมากระตุ้นเศรษฐกิจและภาคธุรกิจ และในส่วนของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้นภาครัฐก็ได้ออกมาตรการด้าน “ภาษี” เพื่อส่งเสริมการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ซึ่งแม้จะจำกัดอยู่ในกลุ่มตลาดระดับกลาง-ล่าง แต่ก็ช่วยสร้างบรรยากาศตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวมให้ดีขึ้น

ส่วนผลกระทบที่เกิดจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ได้มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยด้วยการกำหนดวงเงินสินเชื่อต่อหลักประกัน หรือ LTV ( Loan-to-Value : LTV) สำหรับการกู้ซื้อที่อยู่อาศัยสัญญาที่ 2 และสัญญาที่ 3 โดยเฉพาะกลุ่มราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ให้วางเงินดาวน์ขั้นต่ำร้อยละ 20 สำหรับสัญญาที่ 1 และ 2 และวางเงินดาวน์ขั้นต่ำร้อยละ 30 สำหรับสัญญาที่ 3 ขึ้นไปเพื่อดูแลเสถียรภาพระบบการเงินของประเทศส่วนตัวมองเป็นมาตรการที่ดี แต่ยอมรับว่าได้ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวม และคงต้องใช้เวลาสักระยะในการปรับตัว

นายกิตติพงษ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับบริษัท ไอริส กรุ๊ป จำกัด ยังคงดำเนินการตามแผนการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบค่อยเป็นค่อยไป ขนาดโครงการไม่ใหญ่ ปิดการขายเร็ว และเน้นการเปิดตัวโครงการใหม่ในทำเลที่มีศักยภาพสูง โดยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้มีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการ รวมมูลค่า 2,300 ล้านบาท โดยล่าสุด ได้เปิดตัวโครงการ โครงการ IDEN Sukhumvit 101 ตั้งอยู่ภายในซอยสุขุมวิท 101 เป็นโครงการที่พักอาศัยระดับ Luxury ที่มีจำนวนบ้านทั้งหมดเพียง 42 ยูนิต เพื่อให้เป็นสังคมคุณภาพที่มีความเป็นส่วนตัวสูงจุดเด่นของโครงการ คือ บ้านของเราเป็นบ้านแฝด ซึ่งรวมจุดเด่นในเรื่องของพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่เทียบเท่าบ้านเดี่ยว แต่มีความเป็นส่วนตัวสูงกว่าทาวน์โฮม ทำให้สามารถใช้ประโยชน์จากที่ดินได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุดสำหรับเรื่องของดีไซน์ ทีมผู้ออกแบบตั้งใจให้บ้านใน โครงการ IDEN โดดเด่นแตกต่างจากโครงการอื่น ๆ ด้วยธีม Modern Luxury ตกแต่งภายนอกอาคารด้วยกระเบื้องนำเข้าลายหินอ่อน และกรอบกระจกขนาดใหญ่

“IDEN ย่อมาจากคำว่า IDENTITY หมายถึง บ้านที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ของนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จ ฉลาดเลือกในสิ่งที่ดีที่สุด และมีรสนิยมที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร” นายกิตติพงษ์ กล่าวพร้อมกับระบุว่า บริษัทฯ ตั้งใจที่จะพัฒนาโครงการ IDEN Sukhumvit 101 ให้เป็นโครงการที่พักอาศัยแนวราบระดับ Luxury เพื่อรองรับกลุ่มเป้าหมายนักธุรกิจรุ่นใหม่ระดับเอลิสต์ ที่มองหาที่พักอาศัยที่มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่เพียงพอสำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกหลายคน ซึ่งคอนโดมิเนียมทั่วไปอาจไม่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเป้าหมาย

โครงการ IDEN Sukhumvit 101 ให้ความสำคัญการออกแบบ Function ใช้สอยควบคู่ไปกับการ Design ตัวอย่างเช่น การออกแบบให้ห้อง Master Bedroom เป็นสไตล์ Penthouse แบบโรงแรมหรู มี Walk-in closet และห้องน้ำพร้อมอ่างจากุซซี่ / ทุกห้องนอน เป็นห้องขนาน Full sized พร้อมห้องน้ำในตัว / พื้นที่ Living area โปร่งสบายด้วยเพดานสูงถึง 6 เมตร พร้อมระเบียงพักผ่อนขนาดใหญ่ที่สามารถจัดเป็น Vertical garden ได้ /พื้นที่ Dining room และแพนทรี่ / ห้อง Maid ที่แยก Service area โดยเฉพาะ

นอกจากนี้ ภายในบ้านยังติดตั้ง Lift อาริทโก้ ซึ่งแบรนด์นำเข้าจาก Sweden ซึ่งเป็นลิฟต์สำหรับใช้งานในที่พักอาศัยโดยเฉพาะ มีความปลอดภัยสูงและประหยัดพลังงาน ได้รับรางวัลการออกแบบยอดเยี่ยม Red Dot Product Award 2017 รองรับสำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุด้วยระบบ Home Automation โดยปัจจุบันบริษัทฯเริ่มเปิดให้จองเฟสแรก จำนวน 16 หลังแรก พร้อมโอนและเข้าอยู่ในช่วงปลายปี 2562 ส่วนเฟสที่สองคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2563 จะเปิดให้จองรอบพิเศษ โครงการ IDEN Sukhumvit 101 ในวันที่ 6-7 กรกฎาคม 2562 ราคาเริ่มต้น 24 ล้านบาท สิทธิพิเศษ ! สำหรับผู้จองและโอนกรรมสิทธิ์เข้ามาในช่วงเวลานี้ รับ Porsche Macan ทันที เฉพาะ 16 หลังแรกเท่านั้น

โครงการดังกล่าว ตั้งอยู่บนที่ดินรวม 6 ไร่ มีทั้งหมด 42 ยูนิต เป็นบ้านแฝด Modern Luxury Style 3.5 ชั้น พื้นที่บ้าน 35.2 ตารางวา หรือ ตร.วา มีพื้นที่ใช้สอย 286.62 ตารางเมตร หรือ ตร.ม. (ไม่รวมดาดฟ้า) ตัวบ้านกว้าง 6.5 เมตร ตัวบ้านลึก 9.7 เมตร มี 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ (ไม่รวมห้อง Maid) พื้นที่จอดรถสูงสุด 3 คัน และสวนขนาดเล็ก (Pocket garden) พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ อาทิ Boutique Clubhouse ภายในมี ห้องรับรองอเนกประสงค์ สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ สามารถปรับอุณหภูมิเป็นน้ำอุ่นได้ในช่วงฤดูหนาว พร้อม Automatic Sliding Sunroof หลังคาบนสระว่ายน้ำ เปิด-ปิดอัตโนมัติไว้สำหรับเวลาแดดจัด พร้อมห้อง Fitness ระบบรักษาความปลอดภัย แบบพรีเมี่ยม และทางเข้าแบบ Smart Access เฉพาะ ผู้อยู่อาศัย พร้อมกล้องวงจรปิดภายในโครงการ และภายนอกโครงการ ติดตั้งระบบไฟฟ้า แบบเดินสายลงดิน Wire Ground เพื่อให้ทัศนียภาพรอบโครงการโปร่งโล่ง สวยงามเสริมบรรยากาศร่มรื่นทั่วโครงการด้วย กำแพงน้ำตกและธารน้ำ พร้อมสวน และศาลาพักผ่อน Botanique Garden เป็นต้น

พร้อมกันนี้ นายกิตติพงษ์ ยังกล่าวในตอนท้ายว่า นอกจากโครงการ IDEN Sukhumvit 101 จะโดดเด่นในเรื่องของดีไซน์ควบคู่กับฟังก์ชั่นใช้สอยที่ตอบโจทย์การใช้งานได้จริง ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสูงและหาได้ยากมากแล้วบนถนนสุขุมวิท ทำเลที่ตั้งของโครงการ ความสะดวกสบายในการเดินทาง สิ่งอำนวยความสะดวกที่อยู่ใกล้เคียงหลักของกรุงเทพมหานคร ติดสถานี BTS ปุณณวิถี ใกล้กับแหล่งช้อปปิ้ง อย่าง WhizDom 101 เอกมัย Gateway ทองหล่อ เอ็มโพเรียม ใกล้โรงพยาบาล อาทิ โรงพยาบาลสุขุมวิท โรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และยังใกล้โรงเรียนนานาชาติ ANGLO SINGAPORE , BERKELEY, WELLS, BANGKOK PREP, ST.ANDREW, บางกอกพัฒนา เป็นต้น


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

มจพ. รับมอบธงเจ้าภาพงานสัมมนาระดับชาติด้านคนพิการ ปี’63 ควง 2 รางวัลชมเชย ประเภทนวัตกรรมด้านคนพิการ

ศ.ดร.สุเมธ อ่ำชิต ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิชาการและประกันคุณภาพการศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) เป็นผู้แทนมหาวิทยาลัยรับธงเจ้าภาพงานสัมมนาระดับชาติด้านคนพิการ ครั้งที่ 12 ประจำปี 2563 จาก ผศ.ดร.อันธิกา สวัสดิ์ศรี คณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ซึ่งในการจัดสัมมนาวิชาการระดับชาติด้านคนพิการแต่ละปีจะมี 4 กิจกรรมหลัก คือ การนำเสนอผลงานวิชาการ การประกวดนวัตกรรม นิทรรศการแสดงผลงาน และกิจกรรมฝึกอบรม Workshop ระหว่างนักศึกษาร่วมกับนักศึกษาพิการ โดยมีจุดประสงค์เพื่อมุ่งเน้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้งานด้านวิจัย งานวิชาการ นวัตกรรมและการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ระหว่างสถาบันการศึกษา นิสิต นักศึกษา บุคคล หน่วยงานที่ให้บริการทางวิชาการ และมีการเผยแพร่ต่อสาธารณะในระดับประเทศ

สืบเนื่องจาก กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) ได้ร่วมกับสถาบันการศึกษา และเครือข่าย จำนวน 18 แห่ง โดยมีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เป็นเจ้าภาพหลัก จัดสัมมนาวิชาการระดับชาติด้านคนพิการ ครั้งที่ 11 ประจำปี 2562 เรื่อง “นวัตกรรมและการออกแบบเพื่อสังคมที่อยู่ร่วมกันอย่างเสมอภาค” (Innovation and Universal Design for Inclusive Society) ภายในงาน Thailand Social Expo 2019 ณ ห้อง The Portal Ballroom ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี โดยนายปรเมธี วิมลศิริ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เป็นประธานในพิธี และมีคณะผู้บริหารกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ผู้แทนคณาจารย์ สถาบันการศึกษา องค์กรด้านคนพิการ และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงาน ซึ่งประธานในพิธีได้มอบโล่รางวัลแก่ผลงานวิชาการดีเด่น รางวัลนวัตกรรมด้านคนพิการ และเป็นสักขีพยานในพิธีการรับมอบธงเจ้าภาพงานสัมมนาระดับชาติด้านคนพิการ ครั้งที่ 12 ประจำปี 2563 ให้แก่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2562

นอกจากนี้ในงานสัมมนาวิชาการระดับชาติด้านคนพิการ ครั้งที่ 11 ประจำปี 2562 ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ยังได้รับรางวัลชมเชยในการประกวดนวัตกรรมด้านคนพิการประเภทนวัตกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการด้านเทคโนโลยีขั้นสูง ถึง 2 รางวัล จากผลงานเรื่อง “เครื่องยกและชั่งน้ำหนักผู้ป่วยติดเตียง” โดย รศ.ดร.สุเมธ อ่ำชิต นายณรัชต์ นาคก้อน และนายศิริวัฒน์ บัวรุ่ง จากภาควิชาฟิสิกส์อุตสาหกรรมและอุปกรณ์การแพทย์ คณะวิทยาศาสตร์ประยุกต์ มจพ. กรุงเทพ และผลงานเรื่อง “อุปกรณ์อ่านฉลากอัจฉริยะ” โดย รศ.ดร.ยุพิน สรรพคุณ น.ส.วิกานต์ดา วงศ์แจ้ และน.ส.ธนภรณ์ ฟูคำ จากภาควิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ คณะเทคโนโลยีและการจัดการอุตสาหกรรม มจพ. วิทยาเขตปราจีนบุรี
ขวัญฤทัย ข่าว/ประสิทธิชัย ถ่ายภาพ


 

Exit mobile version