Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

เสวนาการเรียนรู้บนฐานชุมชน New Learning Platforms ครั้งที่4 กับศูนย์ CELT สถาบันการเรียนรู้ มจธ.

ศูนย์ CELT สถาบันการเรียนรู้ มจธ. มีกิจกรรมดี ๆ มาฝาก

ศูนย์การเรียนหญ้าแพรกสาละวิน จ.แม่ฮ่องสอน และศูนย์ส่งเสริมและสนับสนุนมูลนิธิโครงการหลวงและโครงการตามพระราชดำริ มจธ.จัดเสวนาการเรียนรู้บนพื้นฐานชุมชน New Learning Platform ครั้งที่4 เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ร่วมกัน วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 13.30-16.00 น.

***นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมพิเศษ ในช่วง10.00-12.00 น. workshop งานศิลปะ สมุดทำมือและสีธรรมชาติ จากชุมชนปกาเกอะญอ

(เลือกลงทะเบียนกิจกรรมที่สนใจเพียงกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งหรือเลือกลงทั้ง2กิจกรรมก็ได้)

ฟรีตลอดงาน!!
แล้วพบกัน ที่ศูนย์ CELT สถาบันการเรียนรู้ ชั้น 14 อาคารนวัตกรรมการเรียนรู้ มจธ. บางมด

ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ http://bit.ly/30FN4nN
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม KMUTTLearningPlatforms@gmail.com
โทร. 02-470-8385


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ พร้อมจัด INTERMACH & MTA Asia 2020 หนุนการลงทุนโรงงานอัจฉริยะ

อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ พร้อมจัด INTERMACH & MTA Asia 2020 หนุนการลงทุนโรงงานอัจฉริยะ ขานรับมาตรการลดหย่อนภาษีเครื่องจักรใหม่
ชูไฮไลท์ต้องห้ามพลาด โซนพิเศษ iAR ไลน์การผลิตหลากหลายมิติที่ก้าวหน้าด้วยระบบอัตโนมัติ
iAR Industrial Automation and Robotic show 2020
ASEAN’s Leading Exhibition on Automation and Robotics Technology

“อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์” ผู้เชี่ยวชาญในการจัดงานแสดงสินค้าสำหรับธุรกิจ อุตสาหกรรม และนวัตกรรมที่กำลังเติบโต พร้อมจัดทัพงานแสดงสินค้าเครื่องจักรกลอุตสาหกรรม ที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีเครื่องจักรและอุปกรณ์ทันสมัยล่าสุด รวมถึงเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับการผลิตด้วยระบบอัจฉริยะ ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรมการผลิตในงาน INTERMACH & MTA Asia 2020 ระหว่างวันที่ 13-16 พฤษภาคม นี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

นางสุกัญญา อมรนุรัตน์กุล ผู้จัดการฝ่ายบริหารโครงการอาวุโส อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ เปิดเผยว่า การจัดงาน อินเตอร์แมค – เอ็มทีเอ เอเชีย 2020 ครั้งที่ 37 ซึ่งเป็นการจัดงานควบคู่ไปกับงานแสดงอุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตเพื่อการจัดซื้อชิ้นส่วนอุตสาหกรรม และการจับคู่ธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ซับคอนไทยแลนด์ ร่วมจัดโดย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย โดยการจัดงานในปีนี้คาดว่าจะได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมทั้งจากกลุ่มผู้ผลิตในภาคอุตสาหกรรม และกลุ่มผู้ประกอบการทั่วไป ด้วยไฮไลท์สำคัญ คือ โซน iAR – Industrial Automation and Robotic show 2020 ที่เราพร้อมเปิดให้เป็นพื้นที่พิเศษ “ต้องห้ามพลาด” เป็นครั้งแรก จัดแสดงสายการผลิตหลากหลายมิติที่ก้าวหน้าด้วยระบบอัตโนมัติ พร้อมระบบสั่งการอัจฉริยะที่โชว์การผลิตแบบเรียลไทม์ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส จำลองสถานการณ์จากโรงงานผู้ผลิตจริง ในโซน SMART Manufacturing Technology และ (Ro)Bot Hub จากบริษัทผู้เชี่ยวชาญชั้นแนวหน้าของเมืองไทย รวมไปถึงการแสดงเทคโนโลยีเครื่องจักร ระบบอัตโนมัติ ซอฟท์แวร์ หุ่นยนต์แขนกล จากบริษัทชั้นนำ อาทิ TENSOR, UNIVERSAL ROBOT, ABB, HAIMER, MITSUBISHI ELECTRIC, KAWASAKI ROBOT, OKURA, SEIKO EPSON และโซนจัดแสดงเทคโนโลยีล้ำสมัยของการผลิตแบบ Additive Manufacturing พร้อมทั้งผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศมาให้ความรู้ โดยมีแบรนด์ชั้นนำเข้าร่วมอาทิ SODICK, BOHLER, CIMATRON ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานพร้อมบริการให้คำปรึกษาที่ตรงตามความต้องการของโรงงานแต่ละประเภท มุ่งเน้นการแสดงให้เห็นการทำงานและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง นอกจากนี้ยังได้รวบรวมเครื่องจักรตอบโจทย์การผลิตอัจฉริยะ เพื่อตอบสนองความต้องการในยุคที่การผลิตต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเพื่อการแข่งขัน ภายในงานจัดแสดงเครื่องจักรที่ทันสมัยจากกว่า 1,200 แบรนด์ จาก 45 ประเทศ รวมกว่า 800 บริษัท บนพื้นที่กว่า 38,000 ตารางเมตร คาดว่าจะมีผู้ประกอบการทั้งในไทยและต่างประเทศเข้าร่วมงานกว่า 45,000 ราย

นางสุกัญญา กล่าวทิ้งท้ายว่า นอกจากด้านนวัตกรรมการผลิตที่ครบครันแล้ว ภายในงานยังมีการจัดสัมมนาและการประชุมเชิงปฏิบัติการกว่า 50 หัวข้อ เช่น อินเตอร์แมค ฟอรั่ม ครั้งที่ 4 ในหัวข้อ “SME Transformation to SMART Manufacturers” เพิ่มขีดความสามารถผู้ประกอบการ ร่วมจัดโดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม, สัมมนาอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต เพื่อผู้ประกอบการในการเตรียมรับมือกับการ Disruption, เทคโนโลยีการผลิต Additive Manufacturing สร้างแม่พิมพ์ 3 มิติได้ โดยใช้เพียงเครื่องจักรเครื่องเดียว พร้อมด้วยเทคโนโลยีซอฟท์แวร์และ powder ที่ใช้กับ 3D printer ในการขึ้นรูปงานเหล็ก, ร่วมด้วยสัมมนา การให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์กับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในการเริ่มต้นปรับเปลี่ยนเป็นสายการผลิตอัตโนมัติ และโรงงานอัจฉริยะ โดยสถาบัน ไทย-เยอรมัน สมาคมผู้ประกอบการระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ไทย ฯลฯ ถือเป็นงานที่รวบรวมเทคโนโลยีและแหล่งความรู้ในภาคอุตสาหกรรมไว้อย่างครบครัน

บริษัทมีความมั่นใจว่าการจัดงานในปีนี้จะประสบความสำเร็จมากกว่าทุกๆปีที่ผ่านมา ด้วยเพราะการประกาศสนับสนุนกลุ่มผู้ประกอบการภาคการผลิตโดยตรง เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา กรมสรรพากรได้ประกาศสาระสำคัญของมาตรการภาษี ในกลุ่มธุรกิจพลังงาน เรื่องการลงทุนในเครื่องจักร สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ถึง 2.5 เท่า จะได้รับสิทธิประโยชน์นี้ในกรณีที่ได้ลงทุนซื้อเครื่องจักรภายในวันที่ 1 มกราคม 2563 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 เท่านั้น อีกทั้งในช่วงนี้ และ อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่องสูงสุดในรอบ 6 ปีที่ผ่านมา นับได้ว่าการสั่งซื้อเครื่องจักรในปีนี้ เป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรม อีกทั้งการเข้าร่วมงานจะได้พบกับลูกค้าใหม่และพัฒนาความสัมพันธ์กับลูกค้าปัจจุบัน เพื่อเปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ในประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย”กับงาน อินเตอร์แมค และ เอ็มทีเอ เอเชีย 2020 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-16 พฤษภาคม 2563 เวลา 10.00-18.00 น. ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ติดตามรายละเพิ่มเติมได้ที่ www.intermachshow.com


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ภาคอุตสาหกรรมต้องปลอดภัยและทันสมัยด้วยนวัตกรรม 4.0

กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม จะจัดงานสัมมนาเรื่อง “กระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม 4.0 ” โดยการสนับสนุนจาก อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ผู้เชี่ยวชาญในการจัดงานแสดงสินค้าสำหรับธุรกิจ อุตสาหกรรม และนวัตกรรมที่กำลังเติบโต เพื่อสร้างความปลอดภัยและส่งเสริมประสิทธิภาพแก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก ในหัวข้อต่างๆ อาทิ “ Digital for Asset Reliability ” โดย บริษัทระยองวิศวกรรมและซ่อมบำรุง จำกัด “ SMART BOILER ” โดยบริษัทวิชแมนน์ เวเค จีเอ็มบีเอช แอนด์ ซีโอ เคจี จำกัด และ “ความปลอดภัยและความพร้อมใช้งานของอุปกรณ์รับความดันในโรงงานปิโตรเคมี และปิโตรเลียม ตามมาตรฐานสากลและนวัตกรรม 4.0” โดย บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน)

จึงขอเรียนเชิญผู้ประกอบธุรกิจภาคโรงงานอุตสาหกรรม และผู้สนใจ เข้าร่วมงานสัมมนา “กระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม 4.0” ได้ในวันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ นี้ เวลา 08.30-16.00 ณ โรงแรมโกลเด้น ซิตี้ จ.ระยอง และสามารถลงทะเบียนแสดงความประสงค์ได้ที่ www.asew-expo.com โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมงานแต่อย่างใด หรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่ คุณกวีพร อนันต์ศุภศักดิ์ หมายเลขโทรศัพท์ 02.036.0500 ต่อ 751


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

หัวเว่ยพร้อมผลิตอุปกรณ์ 5G แบบ Made in Europe

กรุงเทพฯ/11 กุมภาพันธ์ 2563 – หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า อุปกรณ์ 5G ที่ผลิตในยุโรปจะพร้อมจำหน่ายในอีกไม่ช้า เพราะบริษัทมีแผนตั้งฐานการผลิตใหม่หลายแห่งในยุโรป มร. อับราฮัม หลิว หัวหน้าตัวแทนของหัวเว่ยประจำสถาบันสหภาพยุโรป ได้เปิดเผยข้อมูลระหว่างงานเลี้ยงฉลองตรุษจีนในกรุง บรัสเซลลส์ ว่าบริษัทมีเมืองที่เลือกไว้แล้ว โดยโรงงานในอนาคตจะดำเนินการผลิตอุปกรณ์ 5G สำหรับยุโรป ภายใต้กฎระเบียบและข้อบังคับของสหภาพยุโรป

คำประกาศของหัวเว่ยเกิดขึ้นหลังจากที่คณะกรรมาธิการยุโรปได้ประกาศมาตรการให้แต่ละประเทศในสหภาพยุโรปพิจารณาความเหมาะสมของบริษัทที่เข้ามาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัยและเครือข่ายโทรคมนาคมได้เองตามที่เห็นสมควร ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าสหภาพยุโรปจะไม่มีการรวมตัวเพื่อกีดกันหัวเว่ย แม้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะพยายามกดดันให้อียูแบนหัวเว่ยมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาก็ตาม

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สหราชอาณาจักรได้ประกาศว่าจะอนุญาตให้หัวเว่ยเข้าร่วมพัฒนาเครือข่าย 5G ของอังกฤษ โดยในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ BBC นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้กล่าวว่า “ชาวอังกฤษควรมีสิทธิ์เข้าถึงเทคโนโลยีที่ดีที่สุด” เหล่านักวิเคราะห์ได้ให้ความเห็นไว้ว่า ปัจจุบันโอเปอเรเตอร์รายใหญ่ในสหราชอาณาจักรใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ยในโครงสร้างพื้นฐาน 4G อยู่แล้ว ดังนั้นหากมีการแบนหัวเว่ย บริษัทต้องแทนที่อุปกรณ์ 4G ของหัวเว่ยที่ติดตั้งไว้อยู่แล้วด้วยอุปกรณ์ของบริษัทอื่น ซึ่งต้องใช้ต้นทุนมหาศาล

มร. เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งบริษัทหัวเว่ย ได้แสดงความมั่นใจในตลาดยุโรป โดยเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เขาได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าว่าประเทศในยุโรปจะต้องเลือกหัวเว่ยแน่นอน “ผมคิดว่าการตัดสินใจของประเทศที่เป็นลูกค้าของเราจะทำให้เสียงวิจารณ์จากรัฐบาลสหรัฐฯ เงียบลงได้ แม้ว่าเสียงนั้นจะดังมากก็ตาม” ผู้ก่อตั้งหัวเว่ยกล่าวกับสำนักข่าว CNN เขาอธิบายว่าอุปกรณ์ 5G ของหัวเว่ยนั้นใช้เทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้ามาก เพราะใช้พลังงานต่ำ มีแบนด์วิดท์สูง และที่สำคัญคือมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบามาก “บ้านในยุโรปส่วนใหญ่ค่อนข้างเก่า ถ้าอุปกรณ์มีน้ำหนักมากเกินไป บ้านก็จะแบกรับน้ำหนักไม่ไหว” มร. เหริน กล่าว “อุปกรณ์ของเรามีฟีเจอร์ที่ยอดเยี่ยมและน้ำหนักเบามาก จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะที่สุดสำหรับทวีปยุโรป” เขากล่าวเสริม

ปัจจุบัน หัวเว่ยในยุโรปมีพนักงานกว่า 12,000 คน มีสำนักงานประจำภูมิภาค 2 แห่ง และศูนย์วิจัยและพัฒนา 23 แห่งใน 14 ประเทศทั่วยุโรป ในปีที่ผ่านมา หัวเว่ยได้ประกาศว่าบริษัทได้เซ็นสัญญา 5G เชิงพาณิชย์แล้วกว่า 50 ฉบับทั่วโลก โดย 28 ฉบับเป็นสัญญากับโอเปอเรเตอร์ในยุโรป


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

สถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีไทย-ฝรั่งเศส จัดอบรมการตรวจสอบโดยใช้สารแทรกซึม ระดับ 1

ฝ่ายเทคโนโลยีงานเชื่อม สถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีไทย-ฝรั่งเศส มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) กำหนดจัดฝึกอบรม เรื่อง WD-038-00 “การตรวจสอบโดยใช้สารแทรกซึม ระดับ 1” Penetrant Testing Level 1 (PT 1) ระยะเวลาฝึกอบรม 4 วัน ระหว่างวันที่ 11-14 กุมภาพันธ์ 2563 สถานที่ฝึกอบรม ณ ห้องฝึกปฏิบัติการและฝึกอบรม NDT 606 ชั้น 6 อาคารสถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีไทย-ฝรั่งเศส อัตราค่าลงทะเบียน 24,000 บาท/ 1 ท่าน

มีวัตถุประสงค์ เพื่อการค้นหาจุดบกพร่องในชิ้นงานในระหว่างขั้นตอนต่างๆ ของการผลิตและการใช้งาน การตรวจสอบโดยวิธีใช้สารแทรกซึมเป็นวิธีการหนึ่งที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย และข้อจำกัดของการตรวจสอบวิธีนี้คือต้องใช้บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ และในปัจจุบันนี้บุคลากรที่ทำงานในด้านนี้ยังมีปริมาณน้อยมาก ประกอบกับผู้ที่จะตรวจสอบวิธีนี้ต้องมีใบรับรองความสามารถและความรู้ จึงจะสามารถทำงานนี้ได้ จากเหตุผลนี้ทางศูนย์การเชื่อมแห่งประเทศไทยและสถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีไทย-ฝรั่งเศส ได้ตระหนักถึงความสำคัญที่จะพัฒนาบุคลากรทางด้านตรวจสอบนี้ โดยให้การรับรองตามมาตรฐานสากล (ISO 9712 และ EN 473)

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่งได้ที่ อาจารย์สมศักดิ์ ปามึก โทร. 089-129-8541 หรือลงทะเบียนออนไลน์ได้ที่ http://tfii.kmutnb.ac.th/training/?page_id=2945

ขวัญฤทัย ข่าว – ภาพ


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ซีอีโอ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ผู้ริเริ่มโครงการสามเณร ปลูกปัญญาธรรม รับรางวัลเสาอโศกผู้นำศีลธรรม ประจำปี 2563 เชิดชูเกียรติบุคคลต้นแบบส่งเสริมพระพุทธศาสนา

กรุงเทพฯ 11 กุมภาพันธ์ 2563 – พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ
ทรงโปรดให้หม่อมหลวงสราลี กิติยากร เป็นผู้แทนพระองค์ ประทานรางวัลเสาอโศกผู้นำศีลธรรม ประจำปี 2563 แก่ นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะบุคคลต้นแบบทางพระพุทธศาสนาที่อุทิศตนทำงานเพื่อส่งเสริม เผยแผ่ และปกป้องพระพุทธศาสนา สร้างคุณประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติจนเป็นที่ประจักษ์ จากการริเริ่มโครงการสามเณร ปลูกปัญญาธรรม รายการธรรมะรูปแบบเรียลลิตี้ครั้งแรกของประเทศไทย ที่มุ่งเน้นสนับสนุนให้เยาวชนได้ศึกษาหลักธรรมคำสอน และปฏิบัติตนตามแนวทางพุทธศาสนา ซึ่งได้ดำเนินโครงการมาอย่างต่อเนื่องและกำลังก้าวสู่ปีที่ 9 ในปีนี้

ทั้งนี้ รางวัลดังกล่าว จัดขึ้นโดยสมาคมผู้ทำคุณประโยชน์เพื่อพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ศูนย์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ในพระสังฆราชูปถัมภ์
และองค์กรเครือข่ายชาวพุทธกว่า 40 องค์กร ในงานสัปดาห์เผยแผ่พระพุทธศาสนา เนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2563 ณ อาคารหอประชุม มวก. ๔๘ พรรษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อ.วังน้อย
จ.พระนครศรีอยุธยา

เกี่ยวกับโครงการสามเณร ปลูกปัญญาธรรม
โครงการสามเณร ปลูกปัญญาธรรม เป็นโครงการที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ และกลุ่มทรู จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 9 ซึ่งจะมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. – 17 พ.ค. 2563 เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนได้ศึกษาหลักธรรมคำสอน ปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม และปฏิบัติตนตามแนวทางพุทธศาสนา ซึ่งจะคัดเลือกเยาวชนที่ตั้งใจเข้าร่วมโครงการสามเณร ปลูกปัญญาธรรม เพื่อเรียนรู้ ปฏิบัติธรรม
เป็นระยะเวลา 1 เดือน โดยจะถ่ายทอดสดในรูปแบบรายการธรรมะเรียลลิตี้ ทางช่องเรียลลิตี้ ทรูวิชั่นส์ เอชดี ช่อง 119 หรือ 333 และช่องเรียลลิตี้ ทรูวิชั่นส์ ช่อง 60 หรือ 99 รวมทั้งออกอากาศช่วงไฮไลท์ประจำวัน ทางทรูโฟร์ยู ช่อง 24 และช่องทรูปลูกปัญญา ทรูวิชั่นส์ ช่อง 37 และ 111 ที่เปิดเป็นฟรีทูแอร์ให้ทั่วประเทศสามารถรับชมรายการผ่านอุปกรณ์และจานรับสัญญาณระบบอื่นๆ ได้แก่ PSI ช่อง 248 และ DTV ช่อง 315 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมรับชมรายการผ่านทางออนไลน์ได้ที่ www.truelittlemonk.com รวมถึงอีกหนึ่งช่องทางพิเศษ ผ่านแอปพลิเคชัน TrueID นอกจากนี้ ยังสามารถติดตามข่าวสารของโครงการได้ที่ www.facebook.com/truelittlemonkthailand อีกด้วย


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

คอร์สสอนหุ้มผ้าคาร์บอน ครั้งที่4

คอร์สพื้นฐานการหุ้มคาร์บอนไฟเบอร์ เราคุ้นเคยกับงานคาร์บอนไฟเบอร์มาหลายปี
หลักๆงานคาร์บอนไฟเบอร์ที่เห็นทั่วไป มีการทำงาน 2รูปแบบคือ

1.งานหุ้มคาร์บอน
2.งานเพียวคาร์บอน

2 รูปแบบทำงานต่างกัน มีวิธี ขั้นตอน เทคนิคที่ต่างกัน น้ำหนักงาน ความแข็งแรง แทบไม่มีอะไรเหมือนกันเลย

🧲 ขออนุญาตพูดคุยถึง”คอรส์งานหุ้ม” ก่อนนะคะ
งานหุ้มเป็นการนำชิ้นงานดิบ อาจเป็นเหล็ก( ฝากระโปรงรถ ฝาท้ายชิ้นส่วนรถยนต์ ) หรือพลาสติก ( แฟริ่ง ชุดแต่งมอไซด์ ) มาคลุม หุ้มด้วยผ้าคาร์บอนไฟเบอร์แท้ ( ย้ำว่าผ้าคาร์บอนไฟเบอร์แท้ **)แล้วทาเรซิ่นทับ แล้วก็จะได้ความสวยงามของลวดลายผ้าคาร์บอน

เราช่างคนไทยฝีมือไม่แพ้ชาติใดในโลกค่ะ

➕แต่ ช้า ก่อน…เห็นเหมือนจะง่าย แต่ก็ไม่ง่ายนะคะ บางปัญหา เหมือนผงเข้าตา เช่นทำงานแล้วผ้าเด้ง นี่ยาขมเลย เพราะบางที มันดันมาเด้งตอนขัดเก็บงานอ่ะ. ใครหน้าไหนก็ช่วยไม่ได้แล้วแหล่ะ… สิ่งที่จะแก้ไขเรื่องเสียหายนี้ได้คือ การเรียนรู้ถึงต้นเหตุว่า เราทำพลาดตรงไหน งานถึงปูดพอง บลาๆๆ หลากหลายปัญหาโลกแตก ของความหัวร้อนฮร่ะ 😤😭🤬

-คอรส์หุ้มนี้ จะไม่เป็นแค่ปูผ้าธรรมดานะเออ เราสอนต่อผ้า สอนเก็บงาน ขัดเงา จบงานอ่ะ

🧠 มาเรียนรู้แล้วกลับไปตกผลึกความเป็นตัวเองกันค่ะ

ไม่ได้บอกว่าแบบไหนถูกหรือผิด แค่ทำไม่เหมือนกันตอบไม่ได้ เเต่ถ้างานมีปัญหาแล้วเข้าใจต้นเหตุ แล้วอยากรู้วิธีแก้ ก็เร่เข้ามา เร่เข้ามาคร๊าา …..

เหมาะกับใคร
ผู้ที่ประสบปัญหาการทำงานหุ้มคาร์บอนมาอย่างยาวนาน และยังไม่รู้จะแก้ไขให้ปัญหาจบไปอย่างไร ค้างคาใจเหลือเกิน อาจเพราะขาดการเริ่มต้นที่ถูกต้อง แนะนำให้ลงคอร์สนี้ค่ะ เจอครูจับมือทำ ตัวเป็นๆ ทำให้ครูเห็นว่าผิดแบบไหน อย่างไรคือถูก ( อายครูไม่รู้วิชา )

สิ่งที่จะได้เรียนรู้ ในคอร์สพื้นฐานนี้
1.การผสมเรซิ่นสำหรับงานหุ้มคาร์บอนที่ถูกวิธี
2.การจัดเตรียม พื้นผิวให้ดี ต้องดีแบบไหน แบบไหนที่เรียกว่าดีพอ พื้นดีไม่มีเด้ง อย่างไงอ่ะ
3.การปูผ้า และเทคนิคการทำชิ้นงานตามตัวอย่าง
4.การเรงาน ทำอย่างไร ต้องระมัดระวังจุดไหนบ้าง ฯลฯ
5.มีสาธิตการต่อผ้าขั้นเทพ ร่องชิ้นงาน งานชิ้นเล็ก ร่องเยอะ ซอกแยะก็ไม่หวั่น ดึงผ้าอย่างไรล่ะผ้าถึงไม่บิดเบี้ยวผิดทรง ( ก็ผ้ามันแพงนี่หน่าา โนะ )^^
6.ทุกท่านสามารถนำชิ้นงานที่ทำกลับบ้านได้ ( อาจารย์จะเป็นผู้กำหนดชิ้นงานที่เหมาะสมให้ค่ะ )
7.บอกหมดทุกสิ่งอย่าง ไม่มีหมกเม็ด อยากรู้ให้ถามค่ะ วัสดุตัวไหนดี ยาขัดตัวไหนเงาไว ขัดผ้าทรายเบอร์อะไร ไล่อย่างไร
8.ผิวเหนอะ ทำไงได้ ป้องกันได้ไง เป็นแล้วแก้ไขได้ป่าว
9.ขัดจบงาน แบบno แลค หรือจะ พ่นแลค ทำไงอ่ะ

อีกเยอะแยะตาแป๊ะไก่ที่อยากบอก ขอคนตั้งใจมาค่ะ รับประกันเป็นงานแน่ๆ

ดูแลกันต่อเนื่องในกลุ่มลับ รับเฉพาะคนรู้ใจ ส่งการบ้าน สอบถามปัญหาคาใจได้ค่ะ
วัน เวลา สถานที่ ราคาคอร์สอบรม
วันอาทิตย์ที่ 1 มีค.2563 เวลา8:00-18:00
ณ.โกดังเอสเจ ถนนกรุงเทพกรีฑา ตาม Google map พิกัด 13.740565, 100.685103
รถเมล์สาย93 หมู่บ้านนักกีฬา กรุงเทพกรีฑา
ท่านละ 5,000บาท กรณีมีผู้ติดตาม เพิ่มเติมท่านละ2,000บาท( 2คนทำงานร่วมกัน )

สอบถามจองที่ได้ที่
👉 Line@:@resinsj
☎ : 02-3794555,086-3171747
แฟนเพจ : ://m.me/sj.sinthuphan
เว็บไซต์ : http://resinsjthailand.com/

🔰ในส่วนของการโอนเงิน รบกวนส่งหลักฐานการโอนเงิน พร้อมแจ้งชื่อที่อยู่เบอร์โทรฯ ให้ทราบทางนี้นะคะ


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

DPU ติดอาวุธทักษะเทคโนโลยี ‘นิวเจน’ เพิ่มโอกาสรบชนะตลาดงานในอนาคต

ธุรกิจบัณฑิตย์ ตอบโจทย์ สร้างและพัฒนาทุนมนุษย์คนรุ่นใหม่สู่ สมาร์ท ซิติเซ่น เร่งปรับเปลี่ยนทักษะเพื่อให้เท่าทันเทคโนโลยี และก้าวเป็นกำลังสำคัญให้กับตลาดแรงงานในอนาคต

เด็กรุ่นใหม่ต้องเตรียมตัวอย่างในในสภาวะที่การแข่งขันสูงขึ้นเรื่อยๆ จากสถิติคนว่างงานเป็นกว่าแสนคนต่อปี ผู้ประกอบการมีโอกาสเลือกเยอะ ขณะเดียวกันเทคโนโลยีก็มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

คนที่กำลังก้าวสู่แรงงานต้องแข่งกับคนด้วยกันเอง ทั้งยังต้องแข่งกับเทคโนโลยี ทำอย่างไรไม่ให้ตัวเองก้าวข้ามสถานการณ์นี้ได้ แล้วการแข่งขันในตลาดแรงงาน ระหว่าง “คน” กับ “เทคโนโลยี” จะเป็นอย่างไรได้บ้างในอนาคต ดร.พัทธนันท์ เพชรเชิดชู รองอธิการบดี สายงานวิชาการ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) เปิดเผยว่า การเตรียมความพร้อมในการสร้าง “คนเก่ง” ให้เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานทั้งปัจจุบันและในอนาคตเป็นแนวทางที่มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญ

เมื่อเทคโนโลยี (Disruptive Technology) ได้เข้ามามีบทบาทต่อการดำเนินงานอย่างมากในหลายธุรกิจ สำหรับภาคการศึกษาถึงแม้จะรับผลกระทบไม่มากเท่ากับธุรกิจแต่การเตรียมพร้อมรับมือก็เป็นเรื่องที่สำคัญ การเปลี่ยนแปลงเริ่มเห็นแล้วในองค์กรธุรกิจโดยได้เริ่มนำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนการทำงานในองค์กรเพียงบางส่วน ไปจนถึงการทดแทนการทำงานของคนอย่างสมบูรณ์แบบ

“จำนวนเด็กตกงาน เป็นเรื่องที่พอจะคาดเดากันได้ว่าในยุคของการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี แต่ในมุมมองคิดว่าสถานการณ์คงไม่เร็วไปกว่านี้ ถ้าไม่มีประเด็นอื่นๆ มาส่งผล ทั้งสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน และปัจจัยอื่นๆ เพราะมองแล้วในอนาคต “งาน” บางอย่างจะถูกแทนที่ด้วย AI (Artificial Intelligence)”

ตัวเลขคนตกงานไม่ใช่ผลจากเทคโนโลยี หรือสงครามการค้าที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ แต่เป็นเพียงปัจจัยเร่งให้ปฏิกิริยาให้เร็วขึ้นเห็นได้จากผลกระทบเรื่องการลงทุน จากการสู้กันเรื่องนี้ ก็ต้องดูว่าเป็นโปรดักท์อะไร เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พอเกิดสงครามการค้า การค้าการลงทุนทั่วโลกกระทบ ตลาดหุ้น ค่าเงิน มองสถานการณ์แล้วผลกระทบน่ามีขึ้น 1-2 ปีเป็นอย่างน้อย”

อย่างไรก็ดี ภาวะการตกงานที่เกิดขึ้นในไทย อาจเกิดได้ในสองปัจจัย อย่างแรกตามที่ได้กล่าวไว้คือผลกระทบจากสงครามการค้า อีกประเด็นน่าจะส่งผลในระยะยาวมาจาก “การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี”

แนวทางที่ DPU ให้ความสำคัญ เริ่มที่การปรับมุมมองให้คนรุ่นใหม่ได้เข้าใจ และตระหนักถึงบทบาทของเทคโนโลยีที่มีผลต่อการทำงานและใช้ชีวิต ทั้งปัจจุบันและอนาคต

ในอีกด้าน บทบาทของมหาวิทยาลัยก็ปรับการสอนและมองหาเครื่องมือใหม่ๆ เข้ามาทำให้การเรียนรู้และพัฒนาทักษะ “คนรุ่นใหม่” เหล่านี้ให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงานในอนาคต

“ทักษะไหน ฝึกเด็กออกไปแล้วจะไม่ตกงาน สิ่งที่บอกได้เลยก็คือในช่วง 5-10 ปีนี้ คือ ทักษะ โรบอท เอไอ บิ๊กดาต้า เป็นเทคโนโลยีที่เด็กรุ่นใหม่ต้องเรียนรู้และเข้าใจถึงการนำเครื่องมือเหล่านี้มาใช้งานให้เป็น ถ้าทำไม่ได้ คนที่ทำได้ดีกว่าจะทำงานได้ปริมาณมากกว่า และแข่งขันได้

ตอนนี้คนจะอยู่รอดได้ต้องรู้ว่า เทคโนโลยีอะไรจะเข้ามามีบทบาทและปรับใช้เทคโนโลยีนั้นมาก่อให้เกิดประโยชน์ในการเรียน ทำงาน และสร้างอาชีพได้อย่างไร จากเคยใช้เวลา 10 ชั่วโมง อาจเหลือแค่ชั่วโมงเดียว ทำงานให้เร็ว และง่ายขึ้น ถ้าทำไม่ได้ ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะต่อสู้กับคนที่สร้าง Productivity ได้มากกว่า”

ในแนวทางของ DPU นอกจากปรับวิธีคิดและมุมมองให้กับคนรุ่นใหม่แล้ว สิ่งสำคัญคือการสร้างกระบวนคิดและการเรียนรู้ใหม่ๆ ผ่านหลักสูตรการเรียนการสอน ยกตัวอย่างให้เห็น จากเดิมที่สอนเป็นรายวิชาแบ่งเป็นหมวดหัวข้อ วันนี้การสอนตามสถานการณ์ และสอดแทรกความรู้เกี่ยวกับการทำงานของเทคโนโลยีเข้าไป เน้นกระตุ้นให้เกิดการสร้าง Innovation และ Technology เพื่อให้เด็กรุ่นใหม่ๆ ได้มองเห็นโอกาสในการสร้างธุรกิจได้ตั้งแต่ยังเรียน

“ทุกอย่างฝึกให้คิดและลงมือทำจริง เช่นใน Capstone Class จะมีหัวข้อให้นักศึกษาได้เลือกทำ และผลักดันเป็นโครงงานของตัวเองแล้วต่อยอดให้ประสบความสำเร็จเป็นรูปร่างขึ้นมา

คนเหล่านี้ที่ถูกฝึกการใช้เทคโนโลยี utilize technology ได้ง่ายกว่า คนต้องฝึกให้เรียนรู้กับเทคโนโลยี เทคโนโลยีมีอะไรบ้าง ความคล่อง ความชาญฉลาด ต้องกำหนดว่า skill set ที่ต้องการคืออะไร Critical thinking เป็นเป้าหมายที่เราต้องการ ความสามารถในการสร้างคอนเนคชั่น การทำงานเป็นทีม ทักษะพวกนี้ สร้างยากเพราะไม่เกิดจากการอ่านหนังสือเพียงอย่างเดียวได้”

ดร.พัทธนันท์ กล่าวว่า ในกระบวนคิดของมหาวิทยาลัยที่ว่า ถ้าผลิตคนออกมาในชุดความรู้แบบเดิม จบออกไปก็ไม่ใช่ทักษะแรงงานที่จะเป็นกำลังหลักของแรงงานในอนาคตได้ นอกจากที่กล่าวมา ทักษะสำคัญที่ขาดไม่ได้ คือ ความชาญฉลาดในการเลือกใช้เทคโนโลยี เพื่อทำให้งานเกิด Productivity ได้มากที่สุด ใช้เวลาเท่าเดิม แต่ได้งานมากขึ้น ซึ่งคนที่จะทำอย่างนี้ได้ต้องเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีมาเป็นอาวุธให้เพื่อให้เราทำงานได้เร็วขึ้น ชาญฉลาดมากขึ้น

ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่า การเป็นมหาวิทยาลัยยืนหนึ่งเรื่องธุรกิจของ DPU กับ การสร้างแนวคิด ทักษะที่จำเป็น การรับมือกับเทคโนโลยีใหม่ๆ จะเป็นการพัฒนาองค์ความรู้ที่เปรียบเป็นอาวุธสำคัญสำหรับการทำงานยุคใหม่ในแบบที่รบชนะได้ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงนี้


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ออฟฟิศเมท ชวนช้อปรักษ์โลก ใช้คะแนน The1 แลกรับถุง Reusable Bag

นางสาววรพรรณ ชุณหศรีวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด ออฟฟิศเมท ชวนผู้ประกอบการ SME จัดซื้อบริษัท และเหล่านักช้อป บอกลาการใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง กับโครงการ “Say No to Single-Use Plastic Bags” ชวนลูกค้าทุกท่านใช้คะแนน The1 แลกรับถุงใช้ซ้ำได้ ที่ร้านออฟฟิศเมททุกสาขาทั่วไทย โดยจัดทำ“OfficeMate Reusable Bags Special Collection” ซึ่งสามารถใช้ซ้ำได้หลายครั้ง คงทน ทำความสะอาดง่าย มีคุณลักษณะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น มีรูปแบบหลากหลายดีไซน์และขนาดให้ลูกค้าได้เลือกสรรตามความชื่นชอบและสไตล์ที่เป็นคุณ ตอบโจทย์การช้อปเพราะสามารถพกพาได้สะดวก และบรรจุสินค้าที่ช้อปจากห้างร้านได้อย่างลงตัว ราคาเริ่มต้นที่ใบละ 19 บาท หรือ ใช้คะแนน The1 แลกรับ เริ่มต้นที่ 120 คะแนน

โปรโมชั่นพิเศษเริ่มวันนี้ – 29 ก.พ. 2563 ถูกใจใบไหน ช้อปเลยที่ร้านออฟฟิศเมททุกสาขา (*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด)


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

เปิดบ้านโชว์ เส้น สี ดีไซน์ Open House คณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ 2020

ศ.ดร.สมฤกษ์ จันทรอัมพร รองอธิการบดี ฝ่ายวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) เป็นประธานกล่าวเปิด Architecture and Design DESIGN IDENTITY Decade+33 Years KMUTNB OPEN HOUSE Line Color Design Exhibition 2020 พร้อมเปิดบ้านให้ชมระหว่างวันที่ 30 มกราคม ถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563

โดยมีผศ.สุรสิทธิ์ แสงสุริยะ คณบดีคณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ มจพ. กล่าวรายงาน พิธีเปิดงานโครงการจัดแสดงผลงานนิทรรศการ เส้น สี ดีไซน์ Open House คณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ 2020 เพื่อเป็นเวทีให้นักศึกษาร่วมกับคณาจารย์ได้นำเสนอผลงานสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมใหม่ ชมผลงานและเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นตามบูธต่างๆ ณ ลานหน้าคณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ คณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ มจพ.

ขวัญฤทัย ข่าว-ภาพ


 

Exit mobile version