Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

อบรมออนไลน์ฟรี “โครงการพัฒนาเครื่องประดับชนเผ่า เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมแห่งดินแดนอีสานใต้” สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

อบรมออนไลน์ฟรี “โครงการพัฒนาเครื่องประดับชนเผ่า เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมแห่งดินแดนอีสานใต้” สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
โดยร่วมรับฟังการบรรยายเรื่อง “การออกแบบเครื่องประดับและทักษะเชิงช่างในแต่ละพื้นที่จังหวัด” และร่วมสร้างสรรค์ผลงานเครื่องประดับกับนักออกแบบมืออาชีพระดับประเทศ 5 ท่าน

รายละเอียดกำหนดการอบรมออนไลน์
จังหวัดนครราชสีมา วันที่ 15 มิถุนายน 2563
จังหวัดบุรีรัมย์ วันที่ 16 มิถุนายน 2563
จังหวัดสุรินทร์ วันที่ 17 มิถุนายน 2563
จังหวัดศรีสะเกษ วันที่ 18 มิถุนายน 2563
จังหวัดอุบลราชธานี วันที่ 19 มิถุนายน 2563

**เปิดรับสมัครวันนี้ – 14 มิถุนายน 2563 สแกน QR เพื่อลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมโครงการได้ตามโปรสเตอร์**


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

“ซัสโก้” เปิดสถานีบริการน้ำมันสาขา “หทัยราษฎร์” พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดสถานีบริการน้ำมันซัสโก้สาขา หทัยราษฎร์ โดยมี นายโคะอิจิ ฮิโรเซะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สห ลอว์สัน จำกัด, นางสาวภคมน สมบูรณ์เวชชการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลเด้นครีม จำกัด และ นางสาวณิชชรีย์ อธิพงศ์ภัสสร เจ้าของที่ดิน ร่วมแสดงความยินดี

ซึ่งภายในสถานีบริการน้ำมันซัสโก้สาขา หทัยราษฎร์ ยังมี สิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน อาทิ ร้านสะดวกซื้อ “ลอว์สัน 108” และร้านกาแฟ “ดิโอโร่” เป็นต้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่พักอาศัย และ เดินทางสัญจรผ่านในย่านซอยไทยรามัน ถนนหทัยราษฏร์ อยู่เป็นประจำ ทั้งนี้ ได้จัดกิจกรรมมอบโปรโมชั่นฉลองเปิดสาขาใหม่มากมาย ณ สถานีบริการน้ำมันซัสโก้สาขา หทัยราษฎร์ เมื่อเร็วๆ นี้


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

Teibto บุกตลาดซอฟท์แวร์ ดัน Oracle NetSuite โชว์จุดแข็งด้าน Cloud ERP

กรุงเทพ : จากสถานการณ์การระบาดของ โคโรนาไวรัส หรือ โควิด 19 ส่งผลกระทบให้ผู้ประกอบการในภาคธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งกระทบไปถึงบุคลากรในการทำงาน บริษัท เติบโต (Teibto) หรือ ที่รู้จักกันในนาม เติบโต ( www.teibto.com ) หนึ่งในโซลูชั่น โพรไวเดอร์ (Solution Provider) ของออราเคิล ผู้จำหน่ายซอฟท์แวร์ ออราเคิล เนทสวีท (Oracle NetSuite) ได้เล็งเห็นถึงปัญหานี้ จึงได้นำตัวซอฟท์แวร์ ออราเคิล เนทสวีท (Oracle NetSuite) มาใช้แก้ไขปัญหาในการจัดการธุรกิจ สอดคล้องกับกระแส WFH เพื่อพัฒนาธุรกิจให้ดียิ่งขึ้นพร้อมทั้งสามารถขยายฐานลูกค้าเพิ่ม

นางสาวอภิษฎา เดมีย์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Teibto Co.,Ltd. ได้เปิดเผยว่า “สำหรับการทำตลาดซอฟท์แวร์ในปีนี้นั้น ภาพรวมของบริษัทถือว่าดีมากได้รับการตอบรับอย่างดี เราได้ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกหลายเจ้า ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจโรงงานผลิต, Retails, Ecommerce และ Services ทั้งนี้ในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากการระบาดของ ไวรัส โคโรน่า หรือ Covid 19 ทำให้ผู้ประกอบการภาคธุรกิจส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบทางด้านการทำธุรกิจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการจัดการธุรกิจรวมไปถึงบุคลากร แต่ในส่วนของบริษัทนั้นแทบไม่ได้รับผลกระทบเลย เพราะได้นำซอฟท์แวร์ ออราเคิล เนทสวีท (Oracle NetSuite) มาช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลด้านการเงินและจัดการภาพรวมของธุรกิจได้อย่างแม่นยำ

ความน่าสนใจของซอฟท์แวร์ ออราเคิล เนทสวีท (Oracle NetSuite) คือตัวซอฟท์แวร์เป็น Cloud ERP เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็สามารถทำงานจากแล็ปท็อปหรือแท็บเล็ตได้ ขอเพียงแค่มีอินเตอร์เน็ต ซึ่งตอบโจทย์อย่างมากกับบริษัทที่ต้องการให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน(WFH)ในช่วงโควิด 19 นี้ และ ออราเคิล เนทสวีท (Oracle NetSuite) ยังช่วยผู้บริหารในการมองเห็นภาพรวมของธุรกิจ เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาวางแผนธุรกิจได้อย่างแม่นยำ โดยที่สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีในส่วนของระบบเครือข่ายมือถือและอินเตอร์เน็ต ได้มีการพัฒนาไปมากมีทั้งระบบ 3G, 4G ทำให้ซอฟต์แวร์ที่เป็นคลาวด์ (Cloud) ได้รับความนิยมอย่างสูง

เพราะว่า Cloud ERP มีการเชื่อมโยงฟังก์ชั่นงานต่างๆในองค์กรเข้าด้วยกัน โดยมีการทำงานในลักษณะแบบเรียลไทม์ (Real-Time)ใช้ข้อมูลจากฐานข้อมูลเดียวกัน รวมทั้งใช้กระบวนการที่เป็นมาตรฐานร่วมกันทำให้มีความถูกต้องและรวดเร็ว ในการทำงานภายในองค์กรนั้นสามารถช่วยให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ โดยพนักงานไม่จำเป็นต้องมานั่งทำงานที่ออฟฟิศ ทำให้ธุรกิจของเราได้รับผลกระทบน้อยมากจากสถานการณ์โควิด 19 ในทางกลับกันเราคาดว่าในปีนี้ยอดขายของเราในการขายซอฟท์แวร์น่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 40%

อีกทั้งจากสถานการณโควิด 19 ทางบริษัท เติบโต (Teibto) ได้มีการปรับแผนการดูแลลูกค้าด้วยการใส่ใจลูกค้าและดูแลเป็นอย่างดี เรามีการติดต่อพูดคุยกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด เกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤตนี้ พร้อมทั้งร่วมทำแคมเปญกับ ออราเคิล เนทสวีท (Oracle NetSuite) ในชื่อว่า #OpenForBusiness โดย ออราเคิล เนทสวีท (Oracle NetSuite) จะช่วยโปรโมทธุรกิจของลูกค้าให้บน Social media และ platform ต่างๆอีกด้วย

เราเชื่อว่าจากสถานการณ์โควิด 19 ทำให้ธุรกิจต่าง ๆ หันมาให้ความสนใจระบบคลาวด์มากเป็นพิเศษ ดังนั้นเติบโตจะต้องเตรียมทีมงานให้พร้อม เพื่อรองรับจำนวนลูกค้าที่จะเพิ่มขึ้นทั้งในช่วงนี้ และหลังจากสถานการณ์คลี่คลาย โดยมีการรับพนักงานเพิ่มขึ้น และปรับวิธีการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดโดยใช้เทคโนโลยีคลาวด์ที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วย เช่น ระบบ Knowledgebase Management วิธีการทำงานแบบ Agile ที่ปรับเปลี่ยนได้รวดเร็ว การใช้เครื่องมือในการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุดซึ่งเราคาดว่าในไตรมาสนี้เราจะเติบโตขึ้นได้อีกกว่า 10% และเมื่อปีที่ผ่านมาเติบโตได้รับรางวัล 5 Star Award จาก Oracle NetSuite ซึ่งเราเป็นเจ้าเดียวในประเทศไทย ที่ได้รับรางวัลนี้ และยังเป็นปีที่เติบโตครบรอบ 12 ปีอีกด้วย ซึ่งถือเป็นปีที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก“ คุณอภิษฎา กล่าวทิ้งท้าย

***************************

เกี่ยวกับ เติบโต (Teibto)

Teibto Co.,Ltd. (บริษัท เท็บโต จำกัด www.teibto.com ) บริษัทคนไทยผู้ให้บริการด้านซอฟท์แวร์ชั้นนำระดับโลก โดยเริ่มก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2551 ภายใต้ชื่อTurnOnTechAsia ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในโซลูชั่น โพรไวเดอร์ของออราเคิลจำหน่ายซอฟต์แวร์ ออราเคิล เนทสวีท (Oracle NetSuite) ซึ่งเป็นระบบคลาวด์เป็นรายแรกที่มีประสบการณ์มากว่า 10 ปี ให้แก่องค์กรธุรกิจทั่วไปโดยรองรับงานด้านการบริหารความสัมพันธ์ของลูกค้า (Customer Relationship Management หรือ CRM), งานด้านการบริหารทรัพยากรขององกรค์ (Enterprise Resource Planning หรือ ERP), และระบบอีคอมเมิร์ซ (Ecommerce) โดยสอดคล้องกับความต้องการของธุรกิจรุ่นใหม่ซึ่งเป็นระบบคลาวด์ (Cloud) ที่ได้มาตรฐานระดับโลก และเหมาะกับธุรกิจของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการการขยายงานได้อย่างรวดเร็ว ต่อมาในปี 2559 จึงเปลี่ยนชื่อเป็น Teibto หรือ เรียกเป็นภาษาไทยว่า “เติบโต” เพื่อที่จะรองรับตลาดที่เติบโตขึ้นและพร้อมให้บริการอย่างครบวงจร


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

TOG ปรับแผนธุรกิจใหม่ รับมือโควิด-19

TOG ปรับแผนธุรกิจใหม่ มุ่งเน้นบริหารจัดการการใช้ทรัพยากรและต้นทุนทางการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อรับมือสถาณการณ์แพร่ระบาดโควิด-19

นายธรณ์ ประจักษ์ธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยออพติคอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TOG เปิดเผยผลการดำเนินการประจำไตรมาสที่ 1/2563 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการรวม 455 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 18 โดยมีกำไรสุทธิ 38 ล้านบาท (ด้วยอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 7.9) ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 53 มาจากรายได้ขายที่ลดลงในสหภาพยุโรปและเอเชียแปซิฟิค ซึ่งเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาซึ่งได้ขยายวงกว้างไปทั่วโลก

ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกยังคงมีความไม่แน่นอน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าไปประเทศต่างๆ ทั้งนี้ยอดขายของ TOG กว่า 95% มาจากการส่งออกสินค้า เช่น สหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา บริษัทฯและบริษัทย่อยจึงจำเป็นต้องปรับแผนธุรกิจใหม่ มุ่งเน้นการบริหารจัดการใช้ทรัพยากรเพื่อสนับสนุนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่ได้รับผลกระทบและบริหารจัดการต้นทุนทางการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

บริษัทฯ ได้ลดกำลังการผลิตและขนาดของทีมงานบางส่วนเป็นการชั่วคราว แต่ยังคงรักษาไว้ซึ่งระบบคุณภาพตามมาตรฐานที่ดีที่สุด ภารกิจทั้งหมดของเราตอนนี้มุ่งหมายเพื่อกำจัดความเสี่ยงแพร่ระบาดติดเชื้อโรคไวรัสโควิด-19 ทั้งที่บ้าน ระหว่างการเดินทาง และสถานที่ทำงาน เราได้ดำเนินการสอดคล้องเป็นไปตามระเบียบต่างๆ ที่ประกาศโดยรัฐบาล

ที่ผ่านมาเราได้ดำเนินมาตรการป้องกันต่างๆ ให้คำแนะนำพนักงานของเราทุกคน และสื่อสารถึงทีมงานทั้งหมดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนเข้าใจผลกระทบจากสถานการณ์ครั้งนี้ และควรพยายามจัดการอย่างไรต่อไป เราได้ให้คำแนะนำข้อควรปฏิบัติเพื่อสุขอนามัยส่วนบุคคลที่ดี และความจำเป็นที่ต้องขอความยืดหยุ่นในการปรับตัวให้เข้ากับความเป็นจริงใหม่ของเราในปัจจุบัน เพื่อที่จะเห็นทุกคนปลอดภัยผ่านพ้นสถานการณ์โรคระบาดใหญ่ครั้งนี้ที่ไม่เคยมีมาก่อน ลำดับความสำคัญสูงสุดของเราในเวลานี้ คือ ให้พนักงานของเรา สมาชิกครอบครัว คู่ค้าทางธุรกิจและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด รักษาสุขภาพดีมีจิดใจที่เข้มแข็ง ก้าวผ่านพ้นไปด้วยกันอย่างแข็งแกร่ง


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

CITE มธบ. Up-Skill เทคโนโลยีมุ่งตอบโจทย์ตลาดแรงงาน รองรับโลกดิสรัปชั่น

โลกยุคดิสรัปชั่นที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การทำธุรกิจ การใช้ชีวิตของผู้คนก้าวกระโดดสู่โลกดิจิทัลมากขึ้น ทุกองค์กรยุคใหม่จึงต้องใส่ใจความอยู่รอด ในการ Up-skill Re-skill บุคลากร พนักงานของตนเอง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรม และเตรียมพร้อมรองรับการเปลี่ยนผ่านที่กำลังจะเกิดขึ้น

ยิ่งในภาวะปัจจุบันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ธุรกิจทั้งโลกแทบหยุดชะงัก ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมด้านโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ ฯลฯ ดังนั้น องค์กรต่างๆ จึงต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับ New normal ที่เกิดจากผลกระทบจากโควิด-19 และมองหาโอกาสจากวิกฤตครั้งนี้

ผศ.ดร.ณรงค์เดช กีรติพรานนท์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์ (College of Innovative Technology and Engineering : CITE) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) กล่าวว่า นอกจากการเปลี่ยนแปลงในภาคอุตสาหกรรม และภาคธุรกิจต่างๆจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง และการเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลให้ธุรกิจ อุตสาหกรรมต่างๆ มีการชะลอตัว ดังนั้น ความต้องการของกำลังคนด้านนวัตกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศ วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ วิศวกรรมข้อมูลขนาดใหญ่ และเทคโนโลยีอุตสาหกรรมจะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น เพราะคนกลุ่มนี้จะเป็นแรงขับเคลื่อนในการพลิก สร้างอุตสาหกรรมที่ย่ำแย่ให้กลับมาเติบโตขึ้นได้

“เมื่อประเทศเข้าสู่ยุคดิสรัปชั่น ดิจิทัล ทุกอย่างอยู่บนโลกออนไลน์ เทคโนโลยี หลักสูตรด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรมเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานอย่างมาก หลักสูตรที่ทางวิทยาลัยCITE เปิดสอนระดับปริญญาตรี โท เอก มากว่า 20 ปี จึงมุ่งเน้นพัฒนาบุคลากรให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด โดยต้องมีทั้งทักษะวิชาชีพ ความคิดสร้างสรรค์ เข้าใจธุรกิจ มีความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีเป็นแกนกลาง ที่สำคัญต้องเป็นการ Up-Skill เพิ่มทักษะให้แก่บุคลากร ต้องพร้อมทำงานได้จริงๆ”ผศ.ดร.ณรงค์เดช กล่าว

ทุกหลักสูตรทุกระดับการศึกษาล้วนมีความแตกต่างกัน ซึ่งในส่วนของหลักสูตรมหาบัณฑิต หรือปริญญาโท ขณะนี้เปิดการเรียนการสอนใน 4 สาขา คือ สาขาการจัดการทางด้านวิศวกรรม สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และโทรคมนาคม วิศวกรรมข้อมูลขนาดใหญ่ และเทคโนโลยีสารสนเทศ แต่ละหลักสูตรมีความแตกต่าง และมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน

ผศ.ดร.ณรงค์เดช อธิบายต่อว่า 4 สาขาในระดับปริญญาโทจะเป็นการ Re-Skill และUp-Skill ให้แก่ผู้ที่อยู่ในสายอาชีพดังกล่าวหรือผู้ที่สนใจเรียนรู้ในสายอาชีพเหล่านี้ โดยหลักสูตรวิศวกรรมมหาบัณฑิต สาขาการจัดการทางวิศวกรรม จะมีจุดเด่น คือ เป็นกระบวนการเรียนรู้ในภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ตั้งแต่ การผลิต การจัดการโรงงาน โลจิสติกส์ พลังงาน สิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นกระบวนการเรียนรู้แบบผสมผสานระหว่างงานด้านวิศวกรรมและด้านธุรกิจผ่านการเรียนรู้โดยปฏิบัติงานจริง ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่ประสบความสำเร็จในอาชีพนี้

ส่วนสาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์และโทรคมนาคม อีกหนึ่งสาขายอดฮิตที่ตอบโจทย์ความต้องการกำลังคนของประเทศอย่างมาก โดยหลักสูตรได้รับการออกแบบให้ผู้เรียนมีองค์ความรู้ที่ทันสมัย มีการฝึกปฏิบัติและสามารถทำงานได้จริง ส่วนสาขาวิศวกรรมข้อมูลขนาดใหญ่ ที่ต้องยอมรับว่าธุรกิจหรืออุตสาหกรรมใดที่สามารถนำข้อมูล Big data มาใช้ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์ต่อองค์กรและอุตสาหกรรมนั้นได้อย่างมหาศาล

ขณะที่ หลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ นับว่าเทคโนโลยีสารสนเทศ มีผลอย่างมากในการใช้ชีวิตของผู้คน กระบวนการนำเทคโนโลยีสารสนเทศซึ่งมีนวัตกรรมเกิดขึ้นใหม่ เข้ามาช่วยในการทำงานทั้งเชิงอุตสาหกรรมและธุรกิจ บรรจุครบไว้ในหลักสูตรนี้ จึงตอบโจทย์ความต้องการของบุคลากรด้านนี้ที่ต้องการเพิ่มเติมความรู้และเรียนรู้เครื่องมือใหม่ๆ

“ทุกหลักสูตรจะช่วยยกระดับความสามารถพนักงานตอบโจทย์ใหญ่ในธุรกิจ อุตสาหกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้บริหารต้องการกำลังคนที่มีองค์ความรู้ มีทักษะพื้นฐานด้านดิจิตอล เทคโนโลยี สร้างสรรค์นวัตกรรม มีตรรกะความรู้ในเชิงวิศวกรรมศาสตร์ ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญของผู้บริหารอุตสาหกรรมยุคใหม่ต้องลงทุนพัฒนาบุคลากรของตนเอง ซึ่งการผลิตแบบเดิมกับตอนนี้แตกต่างกันมาก เทคโนโลยีใหม่ ระบบอัตโนมัติ การเรียนรู้เทคโนโลยี วิศวกรรมในแต่ละสาขาได้อย่างครอบคลุมศาสตร์ ตั้งแต่กระบวนการผลิต ระบบการสร้าง ส่งต่อ การใช้ข้อมูล และการบริหารจัดการระบบทั้งหมด เพราะการเรียนรู้ของวิทยาลัย CITE มธบ. จะเป็นการเรียนรู้อย่างรอบด้าน เชี่ยวชาญเทคโนโลยี และต้องทำงานได้จริง” ผศ.ดร.ณรงค์เดช กล่าว

คณบดีวิทยาลัย CITE กล่าวต่อไปว่า เนื้อหาทั้งจากภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติจะทำให้บุคลากรมีความพร้อมที่จะประยุกต์ใช้กับองค์กรได้จริง ทั้งเรื่องโลจิสติกส์และซัพพลายเชน การจัดการด้านวิศวกรรม และการจัดการทางด้านพลังงานเพื่อลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต หรือจะเป็นด้านเทคโนโลยีเช่น การวิเคราะห์งานระบบวางแผนบริหารทรัพยากรองค์การ การพัฒนาโครงข่ายคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต ความมั่นคงของระบบสารสนเทศ ระบบ IoTs การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ ทั้งหลายเหล่านี้ต้องอาศัยบุคลากรด้านนี้ เพื่อตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรและธุรกิจบนโลกดิจิทัล โดยผู้สนใจศึกษาต่อไม่จำเป็นต้องจบวิศวกรรมศาสตร์หรือเทคโนโลยีก็สามารถเรียนได้ โดยทางวิทยาลัยมีการสอนปรับพื้นฐานเพื่อให้นักศึกษามีความพร้อมในการเรียนรู้ในทุกหลักสูตร


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

วินเนอร์ สตั๊ดดี้ รวมทีมนิสิต และอาจารย์จุฬาฯ ผลิตหนังสือ ช่วยเป็นติวเตอร์ส่วนตัวใน LINE ฟรี ตอบโจทย์เด็กมัธยมปลาย เพิ่มโอกาสสอบติด แม้ต้องเรียนเองที่บ้าน

วินเนอร์ สตั๊ดดี้ แหล่งการศึกษาอันดับ 1 ในโลกออนไลน์ และผู้ผลิตสื่อการศึกษา ที่มุ่งมั่นพัฒนาการศึกษาของนักเรียนไทย ให้สำเร็จได้ตามฝัน ส่งหนังสือ WINNER SHORTNOTE สรุปครบ 8 วิชา และ WINNER 1,000Q #พันคิว วิทย์ รวม 1,000 ข้อสอบ คละระดับง่าย กลาง ยาก รวมวิทย์ 4 วิชา สำหรับช่วยเด็กนักเรียน ม.ปลาย ใช้เรียนรู้ด้วยตนเองอยู่ที่บ้าน ยามวิกฤตโควิด-19

บริษัท วินเนอร์ สตั๊ดดี้ จำกัด เปิดเผยว่า วินเนอร์ สตั๊ดดี้ มองเห็นปัญหาการศึกษาไทย จึงได้รวบรวมทีมนิสิต และอาจารย์จุฬาฯ มาผลิตหนังสือเล่มนี้ เพื่อหวังยกระดับการศึกษาไทย ให้นักเรียนทุกคนได้รับการศึกษาที่เท่าเทียมกัน โดยเนื้อหาทั้ง 2 เล่ม จัดทำโดยทีมอาจารย์ และนิสิตจุฬาฯ กว่า 40 คน ใช้ระยะเวลากว่า 2 ปี คัดเลือกเนื้อหาที่สำคัญ เก็งข้อสอบจุดที่ออกสอบบ่อย โดยได้รับคำแนะนำจากอาจารย์จุฬาฯทั้งเล่ม ฯ รวมถึงใส่ใจทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือก โรงพิมพ์เพื่อผลิตหนังสือ ที่ไปทำการผลิตถึงประเทศเกาหลี จึงมั่นใจได้ในคุณภาพกระดาษ ที่ทำให้การอ่านสบายตา และเทคนิคการพิมพ์ ที่ดึงแยกเล่มออกมาได้ ทำให้หนังสือมีน้ำหนักเบาขึ้น ซึ่งผลิตได้จากที่ประเทศเกาหลีเท่านั้น

ที่ผ่านมาหนังสือของ วินเนอร์ สตั๊ดดี้ ได้รับการตอบรับระดับดีมาก การันตียอดขายอันดับหนึ่ง นักเรียนที่ซื้อไปล้วนบอกว่า เข้าใจเนื้อหาที่เรียนมากขึ้น ช่วยให้เกรดดีขึ้น และคุณภาพของหนังสือคุ้มราคา มีการแนะนำระหว่างนักเรียนด้วยกันเอง ถึงขนาดที่ว่าครั้งหนึ่งหนังสือที่นำเข้ามาทางเรือเป็นล็อตใหญ่เกือบหมื่นเล่ม หมดไปภายในไม่ถึง 1 สัปดาห์ หรือเหตุการณ์ช่วงใกล้สอบน้อง ๆ ต้องการด่วนแต่หนังสือหมด ก็ต้องจัดส่งมาทางเครื่องบิน เพราะถ้ารอส่งทางเรือ น้อง ๆ จะอ่านสอบไม่ทัน ถึงแม้ค่าส่งจะแพงกว่า ก็ไม่คิดเก็บค่าส่งจากน้อง ๆ เพิ่ม เพียงต้องการให้น้องเอาหนังสือไปอ่านให้ทันสอบ

“ ด้วยสถานการณ์ วิกฤตโควิด-19 ในขณะนี้ ที่ทำให้ทุกคนต้องถูกกักตัวอยู่แต่ในบ้าน อยากให้น้อง ๆ พลิกวิกฤตในครั้งนี้ ให้เป็นโอกาส ด้วยการลงมืออ่านหนังสือ และทดลองทำข้อสอบด้วยตนเอง เพราะหนังสือทั้ง 2 เล่มนี้ใช้งานง่าย ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อให้สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง วินเนอร์ สตั๊ดดี้ เชื่อว่า เหตุผลที่หนังสือของเราได้รับผลตอบรับดี เนื่องจากน้องที่เคยซื้อหนังสือไป รับรู้ได้ถึงความตั้งใจของเรา ที่ต้องการผลิตหนังสือให้ออกมาดี มีคุณภาพ ไม่ใช่เพื่อหวังผลกำไร และในส่วนของรายได้ที่เข้ามา เราก็นำมาพัฒนาต่อยอดทางการสอนต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการทำ WINNER CLINIC ที่ให้พี่นิสิตจุฬาฯ คอยให้คำปรึกษาด้านการเรียนฟรีตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์ เหมือนมีติวเตอร์ส่วนตัว หรือ WINNER SHORTNOTE VDO คลิปสอนออนไลน์ ประกอบหนังสือ ในหนังสือที่เปิดให้ดูได้ฟรีทาง YOUTUBE ช่อง WINNER STUDY ซึ่งเชื่อว่า หากน้อง ๆ ใช้โอกาสในช่วงเวลาแบบนี้ ศึกษาทั้ง 2 เล่มนี้อย่างจริงจัง หลังจากวิกฤตในครั้งนี้ผ่านพ้นไป จะทำให้น้อง ๆ มีความพร้อมในการกลับมาเรียน และต่อยอดสู่การสอบเข้ามหาวิทยาลัยในคณะที่ตนเองต้องการได้ ” ผู้บริหารกล่าว

ทั้งนี้ หนังสือทั้ง 2 เล่ม คือ WINNER SHORTNOTE สรุปครบ 8 วิชา ม.4 – 6 ได้แก่ ไทย อังกฤษ สังคม วิทย์ คณิต ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ เก็งสอบแม่น เพราะมีพี่นิสิตจุฬาฯเน้นให้ว่าควรจำตรงไหนไปสอบ ทั้ง 8 วิชา เข้าใจง่าย เขียนด้วยลายมือ ใช้สี และวาดรูปประกอบ เข้าใจและจดจำได้ง่าย ราคา 550 บาท และ WINNER 1,000Q #พันคิว วิทย์ รวม 1,000 ข้อสอบ วิทย์ 4 วิชา ม.4 – 6 ได้แก่ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ดาราศาสตร์ โจทย์เหมือนข้อสอบจริง คัดเลือกโดยอาจารย์ และนิสิตจุฬาฯกว่า 40 คน จากข้อสอบเก่า 2 ปี เพื่อให้มั่นใจว่าครอบคลุมทุกระดับ ทั้งระดับง่าย กลาง ยาก เฉลยเข้าใจง่าย และละเอียดมาก ราคา 560 บาท พิเศษ! สั่งซื้อตั้งแต่วันนี้ – 15 พ.ค. 2563 ฟรี ติวเตอร์จากนิสิตจุฬาฯทาง LINE ตลอด 24 ชม.


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

คอมแพ็ค ไดนามิกส์ ในเครือแชฟฟ์เลอร์ ได้รับเลือกให้เป็นผู้จัดหาระบบไฮบริด P3-topology ในงาน FIA World Rally Championship (WRC) ปี 2565 – 2567

บริษัท คอมแพ็ค ไดนามิกส์ เป็นบริษัทในเครือแชฟฟ์เลอร์ ผู้จำหน่ายสินค้าด้านยานยนต์และอุตสาหกรรมชั้นนำระดับโลก ประกาศได้การรับแต่งตั้งจากสหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ (FIA World Motor Sport Council) ให้เป็นผู้จัดหาระบบไฮบริดแต่เพียงผู้เดียว โดยใช้เทคโนโลยีไฮบริด P3-topology ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่จะถูกนำมาใช้ในหมวดยานยนต์ใหม่ของ Rally 1 ในงาน FIA World Rally Championship (WRC) ระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่การแข่งขันในฤดูกาล 2565-2567

ดร. โจเชน ชโรเดอร์ ประธานด้านธุรกิจการขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า (E-Mobility) ของแชฟฟ์เลอร์ กล่าวว่า แชฟฟ์เลอร์ภูมิใจอย่างยิ่งที่บริษัท คอมแพ็ค ไดนามิกส์ ได้รับเลือกให้เป็นผู้จัดหาระบบไฮบริดแต่เพียงผู้เดียวจากสหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ (FIA) ในครั้งนี้  คอมแพ็ค ไดนามิกส์ ทำงานร่วมกับแชฟฟ์เลอร์มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 เพื่อพัฒนารถแข่งไฟฟ้าที่ใช้กับส่วนประกอบอื่น ๆ ของแชฟฟ์เลอร์ในระบบที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ที่เราจัดหาให้สำหรับยานยนต์ฟอร์มูล่า อี (Formula E) ของสหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ (FIA) ด้วยความรู้และความเชี่ยวชาญที่เราได้รับจากการมีส่วนร่วมในกีฬาแข่งรถ  ส่งผลโดยตรงต่อการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ  ได้แก่ เพลาไฟฟ้า ระบบส่งกำลังไฮบริด และมอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า และการมีส่วนร่วมของเราในการแข่งขัน FIA World Rally Championship จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาของพวกเราต่อไป

นายโอลิเวอร์ แบลมเบอร์เกอร์ กรรมการผู้จัดการของบริษัท คอมแพ็ค ไดนามิกส์ กล่าวว่า “พวกเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาและผู้จัดหานวัตกรรมด้านระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า โดยมีจุดแข็งที่สำคัญคือการขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา  สิ่งนี้มักทำให้พวกเราเริ่มเข้ามามีส่วนร่วมและสร้างผลงานในซีรีย์การแข่งรถยนต์ต่าง ๆ ได้แก่ งานฟอร์มูล่า วัน (Formula 1) และฟอร์มูล่า อี (Formula E) ที่จัดขึ้นโดยสหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ (FIA), LeMans Prototype Class 1 และอีกก้าวของความสำเร็จที่พวกเราได้รับ คือ การได้รับเลือกจาก FIA World Motor Sport Council ในครั้งนี้ พวกเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง และถือเป็นอีกโอกาสที่จะพิสูจน์ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ของพวกเราในการแข่งรถแรลลี่ระดับสูงสุด”

บริษัท คอมแพ็ค ไดนามิกส์ (Compact Dynamics) ตั้งอยู่ที่เมืองชตาร์นแบร์ค ประเทศเยอรมนี เป็นบริษัทในเครือแชฟฟ์เลอร์ ผู้จำหน่ายสินค้าด้านยานยนต์และอุตสาหกรรมชั้นนำระดับโลก และได้รับความไว้วางใจจากสหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ เนื่องจากบริษัทฯ มีระบบไฮบริด P3-topology ที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถรองรับหน่วยเครื่องกำเนิดไฟฟ้ามอเตอร์ ชุดควบคุม และแบตเตอรี่ในซองขนาดกะทัดรัดเป็นพิเศษ  จึงให้ความหนาแน่นของพลังงานสูงสุดตามข้อกำหนดของสหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ (FIA) แบตเตอรี่ที่ใช้ใน

Audi e-tron FE06 #66 (Audi Sport ABT Schaeffler), Daniel Abt

ระบบไฮบริดนั้นมาจากบริษัท ครีเซิล อิเล็กทริก (Kreisel Electric) ตั้งอยู่ที่เมืองไรห์นบาค ประเทศเยอรมนี และเป็นพันธมิตรของบริษัท คอมแพ็ค ไดนามิกส์ โดยร่วมกันพัฒนาระบบไฮบริด และแผนการทดสอบยานยนต์เบื้องต้นจะมีขึ้นในปี พ.ศ. 2564

เกี่ยวกับแชฟฟ์เลอร์
กลุ่มแชฟฟ์เลอร์เป็นผู้จำหน่ายสินค้าด้านยานยนต์และอุตสาหกรรมชั้นนำระดับโลก ด้วยการนำเสนอส่วนประกอบ และระบบที่มีความแม่นยำสูงในเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง และตัวถัง รวมถึงโซลูชั่นตลับลูกปืนแบบเม็ดกลมและแบบธรรมดาสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมจำนวนมาก กลุ่มแชฟฟ์เลอร์ได้สร้างแนวคิด “การขับเคลื่อนเพื่ออนาคต” โดยมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีแบบยั่งยืนสำหรับการเคลื่อนที่ด้วยระบบไฟฟ้า ระบบดิจิตอล และอุตสาหกรรม 4.0 เทคโนโลยีของแชฟฟ์เลอร์สร้างยอดขายได้ประมาณ 14.4 พันล้านยูโรในปี 2562 แชฟฟ์เลอร์เป็นหนึ่งในบริษัทครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีจำนวนพนักงานประมาณ 89,000 คน  และมีสำนักงานสาขากว่า 170  แห่งในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ทั้งที่เป็นโรงงาน ศูนย์วิจัยและพัฒนา และสำนักงานขาย ด้วยการลงทะเบียนสิทธิบัตรมากกว่า 2,400 รายการในปี พ.ศ. 2562 แชฟฟ์เลอร์เป็นบริษัทที่มีนวัตกรรมมากที่สุดเป็นอันดับสองของประเทศเยอรมนีจากข้อมูลของสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าเยอรมัน (DPMA)


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ซัสโก้ ร่วมบริจาคเงินและสิ่งของจำเป็น ให้แก่ สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการพระประแดง

คุณภิมุข สิมะโรจน์ ประธานกรรมการบริหาร และ คุณอัมรินทร์ สิมะโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการสายงานบริหาร พร้อมคณะผู้บริหาร บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทน ส่งมอบเงินและสิ่งของบริจาค รวมมูลค่ากว่า 30,000 บาท ให้แก่ สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการพระประแดง เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์ไวรัส “โคโรน่าสายพันธุ์ใหม่” หรือ “COVID-19” ที่ส่งผลกระทบทำให้ขาดแคลนสิ่งของจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน

เนื่องจาก ยอดการบริจาคมีจำนวนลดลง ในขณะที่มีค่าใช้จ่ายต่างๆ เพิ่มมากขึ้น รวมถึงค่าดูแลรักษาความสะอาดและสุขอนามัย เพื่อปกป้องให้ผู้พิการปลอดภัยจาก COVID-19 โดยมี คุณมนัสนันท์ ทับทอง รักษาการผู้ปกครอง เป็นตัวแทนรับมอบ ณ สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการพระประแดง เมื่อเร็วๆ นี้


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน มอบอุปกรณ์การแพทย์แก่สถาบันบำราศนราดูร กระทรวงสาธารณสุข ร่วมสู้ภัย COVID-19

มาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน มอบอุปกรณ์การแพทย์แก่สถาบันบำราศนราดูร
กระทรวงสาธารณสุข ร่วมสู้ภัย COVID-19

สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน นำโดย นายวรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน, นายโอฬาร จันทร์ภู่ เลขาธิการสมาคม และนายจิระวัฒน์ มาลีรักษ์ อุปนายกฝ่ายพัฒนาธุรกิจและนายทะเบียน เดินทางเข้าพบ นพ. สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อส่งมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับสถาบันบำราศนราดูร ซึ่งเป็นโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และเป็นด่านหน้าในการรับผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อไวรัส COVID-19 ซึ่งในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดขณะนี้ ทำให้อุปกรณ์กรณ์ทางการแพทย์บางชนิดไม่เพียงพอสำหรับบุคคลากร

ทางสมาคมฯ จึงตระหนักถึงความสำคัญในครั้งนี้และยังเป็นการช่วยลดความเสี่ยงให้กับบุคคลากรทางการแพทย์ จึงเข้ามอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ ได้แก่ ชุดป้องกันส่วนบุคคล หรือชุด PPE จำนวน 140 ชุด, แว่นตากันสารคัดหลัง จำนวน 200 ชิ้น และแอลกอฮอลล์ฆ่าเชื้อ จำนวน 70 ลิตร เพื่อความประสงค์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลบำราศนราดูรต่อไป


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

เซนต์สตีเฟ่นส์ ยกเว้นค่าแรกเข้า 100,000 บาท

โรงเรียนนานาชาติเซนต์สตีเฟ่นส์ (กรุงเทพฯ) ยกเว้นค่าแรกเข้าให้นักเรียนใหม่ 100,000 บาท สำหรับการเข้าเรียนในเทอม 1 ปีการศึกษา 2020-2021 หมดเขต 30 มิถุนายน 2563 นี้ รร.นานาชาติเซนต์สตีเฟ่นส์ กำลังเปิดรับนักเรียนอายุ 2-18 ปี

นักเรียนจะได้ปลูกฝังความเป็นผู้นำสำหรับโลกอนาคต ผ่านปรัชญาโรงเรียนฯ คือการผสมผสานสิ่งที่ดีของตะวันออกและตะวันตก เรียนท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นเสมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน สอบถามเพิ่มเติม โทร. 094-6760616 คุณวรรณวิมล หรือ 092-6982288 คุณธันย์ชนก เว็บไซด์ www.sis.edu/bangkok ลงทะเบียนที่ลิ้งค์ https://bit.ly/3bGbC53


 

Exit mobile version