Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ปลุกความกล้า ตื่นจากฝัน เริ่มต้นธุรกิจ ที่ e-Biz & OEM Manufacturer Expo 2019

โลกหมุนเร็วขึ้นทุกวัน ด้วยเทคโลยีที่ก้าวหน้าทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป หากใครอยากเริ่มต้นเป็นเจ้าของกิจการหรือสานต่อธุรกิจที่มีอยู่ให้ประสบความสำเร็จ ควรเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการทำธุรกิจในยุคดิจิทัล โดยงาน e-Biz & OEM Manufacturer Expo 2019 งานแสดงสินค้าด้านผู้รับจ้างผลิตและการตลาดออนไลน์ครบวงจร จะมาอัพเดทเทรนด์ใหม่ๆ เสริมความรู้ และแนะเคล็ดลับต่อยอดธุรกิจให้เติบโตก้าวต่อไปได้ในโลกดิจิทัลแบบเฉียบคม พบผู้เชี่ยวชาญในด้านการสั่งผลิตสินค้า การทำตลาดบนโลกออนไลน์ ดิจิทัลแพลตฟอร์มรูปแบบใหม่ๆ เพื่อสร้างความเข้าใจให้คุณมั่นใจกล้าออกจากคอมฟอร์ทโซน มาสานฝันปลุกปั้นธุรกิจให้เกิดขึ้นจริง

เริ่มต้นธุรกิจยังไง ให้ได้ไปต่อ
ในปัจจุบันการเริ่มธุรกิจถือว่าง่ายมาก เนื่องจากเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยให้การสื่อสารและขนส่งง่ายขึ้น แต่การทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ สามารถอยู่รอดได้ในตลาดเป็นเรื่องไม่ง่ายเลย ทางรอดคือการวางจุดมุ่งหมายและแนวทางที่ชัดเจนว่าจะทำไร เพื่อตอบโจทย์ความต้องการหรือแก้ไขปัญหาของผู้บริโภคในด้านต่างๆ ซึ่งจะทำให้การทำงานมีเป้าหมายไม่หลงทาง

การเลือกว่าจะทำอะไรควรเริ่มต้นด้วยการมองภาพรวมของเศรฐกิจ รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคว่ามีธุรกิจใดบ้างที่สามารถเดินต่อไปได้ในยุคดิจิทัล และเลือกทำในสิ่งที่ถนัดและชื่นชอบ สิ่งนี้จะทำให้เรามี ‘แพชชั่น’ ในการทำธุรกิจมีกำลังใจในการต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ ที่จะผ่านเข้ามา และสิ่งสำคัญคือต้องผลิตสินค้าที่มีคุณภาพทำให้ผู้บริโภคยอมรับจนกลายเป็นแบรนด์ขวัญใจ เพียงเท่านี้ธุรกิจของคุณก็ประสบความสำเร็จแล้ว

หากคุณยังหาธุรกิจที่ใช่ไม่เจอ งาน OEM Manufacturer Expo 2019 มีคำตอบให้คุณ พบกับไอเดียการทำธุรกิจมากมายจากผู้ให้บริการรับจ้างผลิตที่มีมาตรฐาน ได้รับการรับรองจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยรวบรวมโรงงานรับผลิตสินค้าที่ใช้นวัตกรรมและได้รับมาตรฐานมาจัดแสดงอย่างครบวงจร อาทิ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร, เครื่องสำอาง, อาหารและเครื่องดื่ม, สินค้าออร์แกนิค, เสื้อผ้า, กระเป๋า, รองเท้า, บรรจุภัณฑ์ ฯลฯ ที่มาพร้อมกับโปรโมชั่นการรับจ้างผลิตสุดพิเศษ และเพิ่มความคล่องตัวในการเริ่มต้นด้วยที่ปรึกษาด้านการลงทุนที่จะเข้ามาแนะนำแหล่งเงินทุนเพื่อการทำธุรกิจ รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ที่จะมาให้คำปรึกษาภายในงานกับโซน Business Consultant Idea นอกจากนี้ ยังมีผู้เชี่ยวชาญที่จะมาให้คำแนะนำการทำตลาดในประเทศและส่งออกไปยังต่างประเทศแบบเจาะลึกเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค เช่น จีน สิงคโปร์ กลุ่มประเทศ CLMV เป็นต้น

เสริมความแรงแซงคู่แข่ง ด้วยทริคการทำธุรกิจทันยุคดิจิทัล
ขณะนี้โลกเปลี่ยนเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แล้ว เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเราจนแยกไม่ออกทั้งการซื้อของ การทำธุรกรรมการเงิน การใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ และอีกมากมาย สามารถทำได้อย่างง่ายดายแค่ปลายนิ้ว แถมยังมีคู่แข่งเข้ามาเป็นตัวเลือกให้ผู้บริโภคมากหน้าหลายตา ถ้าผู้ประกอบการไม่ปรับตัวตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ก็จะทำให้ธุรกิจเริ่มถูกลืมไปอย่างช้าๆ พร้อมกับโลกยุคเก่า ถึงเวลาแล้วที่คุณจะเปลี่ยน โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการทำธุรกิจ เพื่อปรับปรุงและพัฒนาสินค้าและบริการ ตลอดจนช่องทางการสื่อสารและจัดจำหน่าย โดยภายในงาน e-Biz Expo 2019 ภายใต้คอนเซ็ปท์ Business Transformation จะได้พบกับดิจิทัลแพลตฟอร์ม ที่จะเข้ามาช่วยต่อยอดผลักดันให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้ในโลกดิจิทัลทั้งในด้าน e-Commerce, e-Logistics, e-Payment, e-Tailer, Digital Business, Cross-Border , e-Commerce โดยแต่ละด้านก็มีความเหมาะสมกับธุรกิจต่างประเภทกันไป

หากใครอยากเริ่มธุรกิจใหม่ให้ปังหรือพลิกโฉมธุรกิจที่มีอยู่ให้โดนใจผู้ซื้อ มาหาคำตอบได้จากการสัมมนาและเวิร์กช็อปภายในงาน งาน e-Biz & OEM Manufacturer Expo 2019 ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 6 – 8 มิถุนายน 2562 เวลา 10.00 – 18.00 น. ณ ฮอลล์ EH106 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค รับรองว่าตลอดการจัดงานมีความรู้ทั้งในเรื่องของการพัฒนาสินค้าให้โดนใจผู้บริโภค เลือกโรงงานผู้รับจ้างผลิตอย่างไรให้ได้คุณภาพ พร้อมทั้งการปรับตัว ดึงธุรกิจเข้าดิจิทัลแพลตฟอร์มอย่างมืออาชีพแบบเต็มอิ่มแน่นอน


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

สัมผัสเฟอร์นิเจอร์ที่สะท้อนไลฟ์สไตล์ของคุณในงาน CHANINTR OUTLET

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาเฟอร์นิเจอร์ เตรียมตัวพบกับ CHANINTR OUTLET งานที่จะรวบรวมเฟอร์นิเจอร์ระดับไฮเอนด์ในราคาสุดพิเศษ ลดสูงสุดถึง 75 % ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์สำหรับห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และสินค้าตกแต่งบ้าน จากแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก มาร่วมสัมผัสถึงดีไซน์ ความหรูหรา เรียบง่าย ที่สะท้อนไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้อย่างมีระดับเช่นคุณ

สถานที่: CHANINTR 61 ซอยสุขุมวิท 61
วันและเวลา: 21 มีนาคม- 2 เมษายน 2562 เวลา 10.00 – 19.00 น.
(วันศุกร์และเสาร์เปิดถึง 21.00น.)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โทร: 092-247-2107, 092-247-2108
Official Line: @CHANINTROUTLET


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

depa เปิด “สถาบันส่งเสริมวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้น” ดึงกูรู Startup ระดับโลก ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์ระดับสากล

depa เปิด “สถาบันส่งเสริมวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้น” ดึงกูรู Startup ระดับโลก ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์ระดับสากล หวังดัน Startup ไทย แข่งขันในตลาดโลก

เมื่อเร็วๆนี้, สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) เปิดตัว “สถาบันส่งเสริมวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้น หรือ “Digital Startup Institute” อย่างเป็นทางการ โดย นายธีรนันท์ ศรีหงส์ ประธานคณะกรรมการกำกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เป็นประธานในพิธีร่วมด้วย ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ประกาศความพร้อมส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจเริ่มต้น หรือ Startup ให้เติบโตสู่ตลาดโลกแบบก้าวกระโดด โดยเชิญกูรู Startup ระดับโลก ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์ระดับสากล พร้อมจัดเสวนาที่มุ่งสร้างนิเวศ Startup จาก Startup ระดับแม่เหล็กของไทย ณ อาคารลาดพร้าว ฮิลล์

ภาพจากซ้าย
1. ดร.เอ็ดเวิร์ด รูเบิร์ช (Dr. Edward Rubesch) ผู้อำนวยการหลักสูตร IDE มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
2. ดร.ชินาวุธ ชินะประยูร ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้น
3. ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa)
4. มร.สตีฟ แบลงค์ (Mr.Steve Blank) กูรูสตาร์ทอัพระดับโลก ผู้ให้คำนิยาม Startup คนแรกในโลก
5. นายธีรนันท์ ศรีหงส์ ประธานคณะกรรมการกำกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ประธานในพิธี

ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) กล่าวถึงที่มาของสถาบันส่งเสริมวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้น ว่า “สถาบันส่งเสริมวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้น จัดตั้งโดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) มีพันธกิจในการส่งเสริมวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้น หรือ Startup ให้สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในเชิงลึก (Deep digital technology) สร้างศักยภาพ และเพิ่มจำนวนวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้นให้ได้รับการต่อยอดทางธุรกิจ และต่อยอดการลงทุน (Deal Flow) จนสามารถแข่งขันได้ในระดับนานาชาติ เราต้องการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษา ในการสร้างระบบนิเวศวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้นอย่างเข้มแข็งในประเทศไทย โดยเราหวังว่าเราจะได้รับความร่วมมือจากทั้ง ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา ภาคีเครือข่าย และวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้น มาร่วมกันพัฒนาระบบนิเวศวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้นของประเทศเราให้ก้าวกระโดดขึ้นไป”

สำหรับสถาบันส่งเสริมวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้นนั้น ได้เริ่มดำเนินงานส่งเสริมการเติบโตของวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้นมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2561 ในมิติต่างๆ เช่น การส่งเสริมและสนับสนุนการเริ่มต้นธุรกิจอุตสาหกรรมดิจิทัล (depa Startup Fund) ซึ่งมีการให้การสนับสนุนวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้นไปแล้วกว่า 40 กิจการ สำหรับเดือนมีนาคม 2562 นี้ สถาบันฯ ได้ย้ายที่ทำการมาที่ อาคารลาดพร้าว ฮิลล์ ซึ่งสถานที่แห่งใหม่นี้จะช่วยขยายขอบเขตการให้บริการแก่วิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้นให้กว้างขวางขึ้น ทั้งการให้บริการพื้นที่ทำงานร่วม (Co-working Space) และการให้บริการวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้นแบบเบ็ดเสร็จจุดเดียว (One Stop Service) นอกจากนี้ สถาบันฯ ยังได้พัฒนากลไกการสนับสนุนวิสาหกิจเริ่มต้น โดยเฉพาะในระยะเติบโต ในมิติต่างๆ เช่น ด้านการพัฒนาองค์ความรู้ ด้านการพัฒนาและสร้างเครือข่ายทั้งใน และต่างประเทศ ด้านการสนับสนุนทางการตลาด (Demand side support) เป็นต้น

การเปิดตัวสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากเครือข่าย Startup และผู้ประกอบการนวัตกรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลก อย่าง Steve Blank (สตีฟ แบลงค์) ผู้ได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่ง Startup โลก นี่คือ ผู้ประกอบการที่ทำหลากหลายธุรกิจแห่งซิลิคอนวัลเลย์ และเป็นนักการศึกษาที่ได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บส์ ให้เป็น 1 ใน 30 บุคคลทรงอิทธิพลในแวดวงเทคโนโลยีในปี 2556 และยังมีชื่อเป็นหนึ่งใน “ผู้เชี่ยวชาญแห่งนวัตกรรม” ที่จัดอันดับโดยนิตยสารฮาร์วาร์ดบิสสิเนส รีวิวในปี 2555 ด้วย เขาจะมาร่วมพูดคุยอย่างเป็นกันเองในหัวข้อ “Future of Startup and Digital Economy” ดำเนินรายการโดย ดร.เอ็ดเวิร์ด รูเบิร์ช (Dr. Edward Rubesch) ผู้อำนวยการหลักสูตรศูนย์สร้างผู้ประกอบการที่ขับเคลื่อนโดยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

นอกจากนั้นยังเปิดเวทีสัมมนา “Thailand Starup Ecosystem: What’s Next?” ที่มุ่งสร้างนิเวศ Startup กับตัวแทนผู้ประกอบการนวัตกรรมที่มีชื่อเสียง ได้แก่ คุณไผท ผดุงถิ่น CEO Builk One Group, คุณสมโภชน์ จันทร์สมบูรณ์ Managing Director, dtac Accelerate, ดร.ศรีหทัย พราหมณี Head of AIS The StartUp และ คุณฐนสรณ์ ใจดี President, True Digital Park

“สถาบันส่งเสริมวิสาหกิจดิจิทัลเริ่มต้น หวังอย่างยิ่งว่า บนพื้นที่แห่งใหม่นี้ เราจะได้ร่วมกันช่วยผลักดันและส่งเสริมให้เกิดผู้ประกอบการวิสาหกิจเริ่มต้นจำนวนมากในประเทศ และสามารถขยายธุรกิจ ขับเคลื่อนให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด เพื่อแข่งขันในตลาดโลกอย่างเต็มศักยภาพ” ดร.ณัฐพล กล่าวเสริม


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ออฟฟิศเมท จัดโปรสุดว้าว! รับซัมเมอร์สุดฮอต ช้อปไอเท็มเด็ดราคาโดนใจได้ทุกวัน

นางสาววิลาวรรณ ฤกษ์เกรียงไกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ ออฟฟิศเมท จัดโปรโมชั่นชุดใหญ่ สุดฮอตรับซัมเมอร์ วันนี้ – 30 เมษายน 2562 ช้อปที่ออฟฟิศเมทมีแต่คุ้ม..!! เอาใจผู้ประกอบการ Start Up, SME และจัดซื้อบริษัท แบบน็อนสต็อป ด้วยโปรสุดว้าว! ไอเท็มเด็ด เปลี่ยนทุกสัปดาห์ “OfficeMate SHOP NOW WOW PRICE” ให้คุณได้ช้อปอย่างเพลิดเพลินกับสินค้าเด็ดราคาโดนใจ อาทิ เก้าอี้สำนักงาน จากแบรนด์ Furradec, เครื่องฟอกอากาศ Mi, สินค้าอุปกรณ์สำนักงาน, สินค้าGadget IT, อุปกรณ์แพ็คกิ้ง หรือจะช้อปกันแบบฟินๆ กับกระดาษถ่ายเอกสารราคาสุดคุ้มแบบ พลาดไม่ได้….!!! และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย ช้อปกันได้ทุกสัปดาห์ที่ร้านออฟฟิศเมททุกสาขาทั่วไทย


สำหรับนักธุรกิจยุคดิจิทัลหลบร้อนมาช้อปออนไลน์ชิลล์ๆ คลิกง่ายคลิกคุ้มกับออฟฟิศเมทออนไลน์ รับดีลเด่นราคาดีสับเปลี่ยนหมุนเวียนทุกวันพุธของสัปดาห์ “OfficeMate WoW Deal Wednesday” ออฟฟิศเมทจัดเต็มความสะดวก บริการจัดส่งฟรีถึงที่เพียงช้อปครบ 499 บาท (*ตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด) คลิกมาช้อปกันได้เลยที่ officemate.co.th หรือ OfficeMate Mobile App ห้ามพลาดสินค้าเด็ดๆ ในแต่ละสัปดาห์ ตั้งแต่วันนี้ – 30 เมษายน 2562


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

คณะครุศาสตร์ฯ มจพ. จัดประชุมวิชาการระดับนานาชาติ ICL 2019

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) โดยคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม กำหนดจัดประชุมวิชาการระดับนานาชาติ ICL2019 หัวข้อเรื่อง “ The Impact of the 4th Industrial Revolution on Engineering Education ” 22nd International Conference on Interactive Collaborative Learning 48th IGIP International Conference on Engineering Pedagogy ระหว่างวันที่ 25-28 กันยายน 2562 ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพมหานครฯ

จึงขอเรียนเชิญคณาจารย์ บุคลากร นักศึกษา และผู้สนใจทั่วไป เข้าร่วมประชุมวิชาการ และส่งบทความวิจัย (บทคัดย่อ) ในกลุ่มสาขาวิชาต่าง ๆ ภายในวันที่ 3 เมษายน 2562

โดยสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.icl-conference.org/current/
หรือ ติดต่อ CTI Office
Phone: +43(664)73621196
Mail: info@icl-conference.org
โดยผลงานวิจัยที่ได้รับการตอบรับจะได้รับการพิจารณา ลงตีพิมพ์ใน the Springer series “Advances in Intelligent Systems and Computing” ซึ่งได้รับคัดเลือกเข้าฐานข้อมูล ISI Proceeding, EI-Compendex, DBLP, SCOPUS, IEEE explore, Google Scholar and Springer

ประจักเวช ข่าว


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

HBA เปิดงาน “รับสร้างบ้านและวัสดุ Home Builder & Materials Focus 2019” กว่า 30 บริษัทชั้นนำโชว์แบบบ้านอย่างมืออาชีพ!

HBA เปิดงาน “รับสร้างบ้านและวัสดุ Home Builder & Materials Focus 2019”
กว่า 30 บริษัทชั้นนำโชว์แบบบ้านอย่างมืออาชีพ!!ระหว่างวันที่ 21-24 มีนาคมนี้

สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ลุยจัดงาน “รับสร้างบ้านและวัสดุ Home Builder & Materials Focus 2019” งานเดียวที่รวบรวมบริษัทชั้นนำกว่า 30 บริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพ ชูแบบบ้านสวยสุดสร้างสรรค์ทุกฟังก์ชั่นการใช้สอยครบทุกงบประมาณที่ต้องการ “ให้การสร้างบ้านเป็นเรื่องง่ายง่าย” ระหว่างวันที่ 21-24 มีนาคม 2562 ณ ห้องเพลนารี ฮอลล์ 1-2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

วันนี้ (21 มีนาคม 2562) สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (Home Builders Association: HBA) ได้เปิดงาน “รับสร้างบ้านและวัสดุ Home Builder & Materials Focus 2019” โดยได้รับเกียรติจากนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน มีนางศิริพร สิงหรัญ นายกสมาคมฯ พร้อมด้วยกรรมการบริหารสมาคมฯ ให้การต้อนรับ และร่วมในพิธีเปิด
นางศิริพร สิงหรัญ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (Home Builders Association: HBA) เปิดเผยว่า การจัดงาน“รับสร้างบ้านและวัสดุ Home Builder & Materials Focus 2019” เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมการตลาดให้กับสมาชิกของสมาคมฯ ภายในงานมีการนำเสนอแบบบ้านใหม่ล่าสุดพร้อมทั้งโปรโมชั่นของบริษัทรับสร้างบ้าน นอกจากนี้ผู้จองปลูกสร้างบ้านภายในงาน ยังมีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลทองคำมูลค่า 100,000 บาทด้วย ผู้ที่สนใจเข้าชมงานสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่ https://www.hba-th.
การจัดงาน“รับสร้างบ้านและวัสดุ Home Builder & Materials Focus 2019” ในปีนี้จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ “ให้การสร้างบ้านเป็นเรื่องง่ายง่าย” ระหว่างวันที่ 21-24 มีนาคม 2562 ณ ห้องเพลนารี ฮอลล์ 1-2ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยภายในงานบริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ กว่า 30 บริษัท รวมทั้งพันธมิตรกลุ่มผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างที่จะนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาแสดงในงานในครั้งนี้ด้วย

ทั้งนี้สมาคมฯ คาดว่าจะมียอดขายภายในงานประมาณ 1,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับการจัดงานในปีที่แล้ว และคาดว่าหลังการจัดงานจะมีผู้ที่ตัดสินใจปลูกสร้างบ้านคิดเป็นมูลค่ารวมอีกประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งบ้านระดับราคา 2-5 ล้านบาท ยังเป็นกลุ่มหลักของตลาดรับสร้างบ้านโดยรวม
สำหรับมูลค่าตลาดรวมรับสร้างบ้านในปี 2562 มูลค่าตลาดรวมทั้งหมดน่าจะอยู่ราว 12,500 – 13,000 ล้านบาทเติบโตขึ้น 5-8% จากปี 2561 ที่มีมูลค่าตลาดรวมที่ 12,000 ล้าบาท
“กิจกรรมที่สมาคมฯ จัดขึ้นนี้นอกจากจะช่วยกระตุ้นภาพรวมของธุรกิจรับสร้างบ้านให้มีความคึกคักในช่วงครึ่งแรกของปีแล้ว ในเชิงกลยุทธ์ของสมาคมฯ ยังเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับสมาชิก และเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ รวมถึงส่งเสริมให้ผู้บริโภคมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง” นางศิริพรกล่าวทิ้งท้าย


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ข่าวประชาสัมพันธ์ – แคปปิตอล จีฯ ปักหมุด “โครงการ Monté (มอนเต้) พระราม 9” คอนโดฯใหม่รับรถไฟฟ้าสายสีส้ม

แคปปิตอล จีฯ ปักหมุด “โครงการ Monté (มอนเต้) พระราม 9”
คอนโดฯใหม่รับรถไฟฟ้าสายสีส้ม

“พระราม 9- รามคำแหง” นับวันจะยิ่งฉายภาพ “ทำเลทอง” เด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม(ตะวันออก)ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) รวมระยะทาง 22.57 กม.มีจำนวนสถานีรถไฟฟ้าแบบใต้ดิน จำนวน 10 สถานี และแบบยกระดับ จำนวน 7 สถานี ที่ความก้าวหน้าของงานก่อสร้างอยู่ที่ 27 % ณ สิ้นเดือนมกราคม 2561 มีกำหนดเปิดบริการในปี 2566 รวมถึง การลงทุนรีโนเวทเดอะมอลล์ รามคำแหง 2 (ฝั่งมุ่งหน้ามาแยกพระราม 9-รามคำแหง) ของบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ที่อยู่ระหว่างปรับโฉมใหม่ ให้กลายเป็น “มิกซ์ยูส คอมเพล็กซ์” รับรถไฟฟ้าสายสีส้ม บนที่ดินกว่า 30 ไร่ และคาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 2-3 ปี ยิ่งเป็นตัวผลักดันให้รามคำแหง และพื้นที่ใกล้เคียงเป็นทำเลที่ร้อนแรงเป็นอย่างมากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทั้งขนาดกลาง – ใหญ่ได้แห่ชิงพื้นที่เปิดโครงการใหม่เพิ่มดีกรีความร้อนแรงให้กับทำเล “พระราม9 – รามคำแหง” โดยหนึ่งในผู้ประกอบการที่ปักหมุดผุดโครงการคอนโดมิเนียมนั่นก็คือบริษัท แคปปิตอล จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (Capital G Development Co. Ltd.) ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือบริษัท มีนบุรีซีเมนต์ไทย จำกัด ที่ล่าสุดได้เปิดตัว “โครงการ Monté (มอนเต้) พระราม 9” บนพื้นที่โครงการ 3-3-24 ไร่ พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม Low Rise สูง 8 ชั้น 3 อาคาร จำนวน 536 ยูนิต แบ่งเป็น อาคาร A จำนวน 105 ยูนิต , อาคาร Bจำนวน 216 ยูนิต และ อาคาร C จำนวน 215 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท กำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2564

เพื่อให้สอดคล้องกับกำลังซื้อและความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โครงการได้ออกแบบให้มีขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 22-44 ตารางเมตร (ตร.ม.) แบ่งเป็น Units Type ดังนี้
· Studio suite ขนาดพื้นที่ 22 ตารางเมตร จำนวน 145 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 27%
· 1 Bedroom Exclusive ขนาดพื้นที่ 27 ตารางเมตร จำนวน 56 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 10%
· 1 Bedroom Exclusive ขนาดพื้นที่ 29 ตารางเมตร จำนวน 258 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 48 %
· 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ 35 ตารางเมตร จำนวน 49 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 9 %
· 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ 44 ตารางเมตร จำนวน 28 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 5 %

นายชัยรัตน์ พิรุฬหพัสต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แคปปิตอล จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด กล่าวว่า “โครงการ Monté (มอนเต้) พระราม 9” เป็นคอนโดฯ สไตล์ “Modern Luxury Resort” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ Sense of Nature.. Life is Signature : ออกแบบชีวิต ..ใกล้ชิดธรรมชาติ” โครงการเน้นพื้นที่ส่วนตัว ที่เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์คนเมือง ผสมผสานการออกแบบที่ทันสมัย รู้ใจคนรุ่นใหม่ สอดคล้องไปกับพื้นที่สีเขียวให้ความรู้สึกผ่อนคลาย แม้อยู่กลางใจเมืองเหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ Work Hard Play Hard ที่มีความเป็นตัวเอง อายุประมาณ 28-40 ปี ระดับรายได้ตั้งแต่ 30,000 บาทต่อเดือน

จุดเด่นของโครงการนอกจากเน้นพื้นที่สีเขียวมากเป็นพิเศษแล้ว “โครงการ Monté (มอนเต้) พระราม 9” ยังตั้งอยู่ PrimeLocation สามารถเดินทางเข้า-ออกได้ 2 เส้นทาง ทั้ง ถ.พระราม 9 (แยกซ. 39) และ ถ.รามคำแหง ซ.12 โครงการห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้มสถานีรามคำแหง 12 เพียง 150 ม. เท่านั้น นอกจากนี้“โครงการ Monté (มอนเต้) พระราม 9” ยังใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ใกล้ Airport Link ทางด่วนศรีรัช และทางด่วนฉลองรัช โดยที่ตั้งโครงการยังสามารถเดินทางเชื่อมต่อไปย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD: Central Business District) ได้หลายเส้นทางไม่ว่า ถนนพระราม 9 ทองหล่อ พัฒนาการและถนนรัชดาภิเษก อีกทั้งยังเดินทางสะดวกสบายด้วยรถยนต์สาธารณะและ ทางเรือ(ท่าเดอะมอลล์รามฯ) รายล้อมด้วยแหล่งสาธารณูปโภค มหาวิทยาลัยชั้นนำ โรงพยาบาล และ ใกล้แหล่ง Lifestyle Shopping Mall และ Cafe สุดชิค! มากมาย อาทิ เดอะ มอลล์ รามคำแหง, เดอะมอลล์บางกะปิ, บิ๊กซี, เดอะไนท์ พระราม 9 และ ฟู๊ดส์แลนด์ รามคำแหง เป็นต้น

นายชัยรัตน์ ยังกล่าวด้วยว่า “โครงการ Monté (มอนเต้) พระราม 9” ยังให้ความสำคัญกับการออกแบบ Function ให้ลักษณะเป็นห้องหน้ากว้าง โดดเด่นด้วยครัวไทยแยกสัดส่วนใช้งานได้จริง ขายแบบ Fully Furnished ตอบโจทย์การใช้ชีวิต พร้อมกับ Facilities ที่จัดเต็ม อาทิ Relaxing Swimming Pool & Greenery Garden ,The GYM & Multi-Purpose Area , Duplex Lobby Lounge & Co-Working Space, Private Lobby Lounge , Private Meeting Area & Mini Theater ,Fitness , Sky Garden และ Carwash zone ฯลฯ

ด้วยศักยภาพของทำเลและโปรดักส์ดีไซน์ที่ใส่ใจทุกรายละเอียด รวมถึงส่วนกลางจัดเต็มเพื่อในวันนี้และความยั่งยืนในอนาคต เรียกได้ว่า รองรับทุกไลฟ์สไตล์ ตอบโจทย์ทั้งคนสายชิลล์และคนที่เน้นกิจกรรม พร้อมเปิดให้จองและชมห้องตัวอย่างได้ทุกวัน ณ สำนักงานขาย โครงการ Monté (มอนเต้) พระราม 9 เปิดรอบVIP Day วันที่ 30 มีนาคม 2562 รับส่วนลด 200,000 บาท

ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อเข้าชมห้องตัวอย่าง ที่http://www.cg.co.th/monterama9 โทร. : 099-164-6888 หรือ Line ID : @MonteRama9


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

“โฮมบายเออร์กรุ๊ป” ผนึก “พร็อพทูมอร์โรว์” เปิดหลักสูตร Real Marketing ปั้นนักการตลาดอสังหาฯสายพันธุ์ใหม่รับกระแสยุค Digital Transformation

“โฮมบายเออร์กรุ๊ป” ผนึก “พร็อพทูมอร์โรว์” เปิดหลักสูตร Real Marketing ปั้นนักการตลาดอสังหาฯสายพันธุ์ใหม่รับกระแสยุค Digital Transformation

“โฮมบายเออร์กรุ๊ป” ผู้เข้าใจพัฒนาการและความต้องการของนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จับมือ “พร็อพทูมอร์โรว์” ที่ปรึกษาการตลาดอสังหาริมทรัพย์รุ่นใหม่ ที่เข้าใจนักการตลาดและผู้บริโภค เปิดหลักสูตร Real Marketing ปั้นนักการตลาดอสังหาริมทรัพย์สายพันธุ์ใหม่รองรับกระแสเปลี่ยนผ่านยุค Digital Transformation ด้วยทักษะประสบการณ์จริงจากผู้เชี่ยวชาญนักการตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวหน้าของประเทศ รุ่นที่1 ระยะเวลาหลักสูตรระหว่าง เดือนมิถุนายน ถึง พฤษภาคม 2562

นายบริสุทธิ์ กาสินพิลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โฮมบายเออร์กรุ๊ป และ CEO & Founder HOME DOT TECH กล่าวว่า การเปิดหลักสูตร “Real Estate Marketing Digital Transformation” หรือ “Real Marketing” มีวัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้าง เพิ่มพูนความรู้ ทักษะ ทางด้านการตลาดอสังหาริมทรัพย์ ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ พฤติกรรมผู้บริโภค การตลาดดิจิทัล การทำการตลาดออนไลน์ แนวโน้มต่างๆที่เกี่ยวเนื่องกับภาคเศรษฐกิจและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยผู้เข้าร่วมสัมมนา และวิทยากร จะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประสบการณ์ update ข้อมูล สถานการณ์ แนวโน้มล่าสุดในด้านการตลาดอสังหาริมทรัพย์

การบริหารการตลาดอสังหาริมทรัพย์ มีความแตกต่างไปจากการบริหารการตลาดทั่วๆไป ดังนั้น จึงไม่สามารถนำความรู้ทั่วไปในการทำการตลาดสินค้าอื่นมาใช้ได้ และยิ่งในปัจจุบันที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัล ทำให้การตลาดซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของกลไกในโลกธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก การเข้าใจพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงทางการตลาด จะช่วยให้สามารถปรับตัวได้ทันต่อความเปลี่ยนแปลง และใช้ประโยชน์จากโอกาสที่เกิดขึ้นบนความเปลี่ยนแปลงในการขยายธุรกิจและตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น

หลักสูตร “Real Marketing” มั่นใจว่า เมื่อทักษะประสบการณ์ (Experience) หลอมรวมกับการรู้เท่าทันกับกระแสที่เปลี่ยนไปจากปัจจัยหลักที่มาจากการเติบโตของ Digital การพัฒนาเทคโนโลยี และการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ตอบรับเทคโนโลยีใหม่ จะช่วยให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้ปรับแนวคิดเพื่อนำไป Transform องค์กรในด้านการตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด

ด้านนายสุธาทร สุทธิสนธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพทูมอร์โรว์ จำกัด เจ้าของเว็บไซต์ www.prop2morrow.com เว็บสื่ออสังหาฯรูปแบบใหม่ ที่ให้บริการด้านการเป็นที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรในรูปแบบที่หลากหลาย กล่าวว่า จากประสบการณ์ที่ได้ทำงานด้านการตลาดร่วมกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มองเห็นว่า“คน” เป็นเรื่องที่ท้าทายของธุรกิจ การพัฒนาทักษะของคนในองค์กรให้ก้าวทันยุค Digital นอกจากจะดึงคนรุ่นใหม่เข้ามาในองค์กรแล้ว การเพิ่มทักษะ การเพิ่มประสบการณ์ให้กับนักการตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็มีความสำคัญยิ่ง ซึ่งปัจจุบันภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยเองก็กำลังตื่นตัวกับ Digital Transformation กล่าวคือ เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับองค์กรธุรกิจ โครงสร้างองค์กรด้านทรัพยากรมนุษย์ก็ต้องกระตุ้นให้เกิดความเข้าใจเพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจด้วย มิเช่นนั้นอาจ disrupt ธุรกิจหรือกับอาชีพที่ทำหายไปได้ด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ แนวโน้มการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์และการทำการตลาดที่อยู่อาศัยนับจากนี้เป็นต้นไป การปรับสินค้าหรือการบริการตามความต้องการของตลาดหรือความต้องการของผู้บริโภคให้สอดคล้องกับรายละเอียดที่ได้จากข้อมูลที่ผู้บริโภคระบุไว้ด้วยตัวเองจากการสำรวจสอบถามเพียงอย่างเดียวนั้นคงไม่เพียงพอแล้ว แต่จากนี้ไปการพัฒนาสินค้าหรือการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย นอกจากจะแตกต่างจากคู่แข่งโครงการอื่นๆในทำเลเดียวกันแล้ว ผู้ประกอบการหรือนักการตลาดอสังหาริมทรัพย์จะต้องหาและคาดเดาความต้องการของผู้บริโภคให้เจอ พร้อมกับปรับสินค้ารวมถึงการบริการให้ตรงตามที่คาดการณ์ไว้

“การเข้าถึง Social Media ที่มากขึ้นในหลากหลายช่องทางที่มาของแหล่งข้อมูลของผู้บริโภค จะทำให้ผู้ประกอบการสามารถยกระดับการบริการหรือการพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์แบบเฉพาะตัวของผู้บริโภคได้ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายสุธาทร กล่าวพร้อมกับระบุว่าการเปิดหลักสูตร “Real Estate Marketing Digital Transformation” หรือ “Real Marketing” ที่เปิดรับสมัครวันนี้จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2562 เริ่มรุ่นแรกเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2562 เป็นอีกมิติช่วยเติมเต็มในการสร้างนักการตลาดอสังหาริมทรัพย์ยุคใหม่เข้าสู่ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่เป็นเรียลเซ็กเตอร์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

ประโยชน์ที่ได้รับจากการเข้าร่วมหลักสูตร “Real Estate Marketing Digital Transformation” หรือ (Real Marketing)
· Experience: แลกเปลี่ยน แนวคิด ประสบการณ์ กับวิทยากรและผู้เข้าร่วมหลักสูตร
· Transform: ปรับแนวคิดเพื่อนำไป Transform องค์กรด้านการตลาดอสังหาริมทรัพย์
· Practical: อัพเดทข้อมูล สถานการณ์ แนวโน้มล่าสุด ด้านการตลาดอสังหาริมทรัพย์ อีกทั้ง นำกลับไปใช้ได้ทันที

ผู้ที่เหมาะสมในการเข้าหลักสูตร “Real Marketing” 
1. เจ้าของกิจการ ผู้บริหารระดับสูง ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
2. ผู้ที่ทำงานด้านการตลาด และการขายอสังหาริมทรัพย์
3. ผู้ที่สนใจเข้าสู่สายงานการขายและการตลาดอสังหาริมทรัพย์

หลักสูตร “Real Marketing” รุ่นที่ 1 กำลังเปิดรับสมัคร วันนี้จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2562 ผู้สนใจสมัครออนไลน์ ผ่านทางเว็บไซต์ www.therealmarketing.net ในอัตรา49,000 บาทต่อคน โดยจะเริ่มอบรมเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2562 จำนวน 7 วัน (วันละ 6 ชม. รวมทั้งหมด 36 ชม.) สถานที่โรงแรม เดอะ เวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท โรงแรม

*** ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่ คุณสุดารัตน์ โพธิ์พันธ์กุล (ปอย) เบอร์โทร 064-552-6614


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

นีโอ ชวนออกบูธ ต่อยอดธุรกิจสู่ยุคดิจิทัล เตรียมแจ้งเกิดนักธุรกิจหน้าใหม่ ในงาน e-Biz & OEM Manufacturer Expo 2019

นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด (นีโอ) ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เชิญผู้ประกอบการร่วมงานแสดงสินค้า และบริการในงาน “e-Biz & OEM Manufacturer Expo 2019” งานแสดงสินค้าด้านผู้รับจ้างผลิตและการตลาดออนไลน์ครบวงจร เพื่อตอบโจทย์การเริ่มต้นเป็นเจ้าของธุรกิจและต่อยอดธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัล

โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 8 มิถุนายน 2562 เวลา 10.00 – 18.00 น. ณ Hall EH106 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค สำหรับผู้ที่สนใจจองบูธสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่http://www.oemexpo.co/ และ http://ebizexpoasia.com/ หรือโทร 02-203 4233 (คุณดลหทัย), 02-203 4226 (คุณรัชชานนท์)


 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ซีเมนส์ชมแผนพีดีพีไทยต้นแบบสร้างสรรค์ความยั่งยืนด้านพลังงาน

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2562 ดร.อาร์มิน บรูค (คนที่4จากขวา) ประธานกรรมการและหัวหน้าฝ่ายบริหารของ บริษัท ซีเมนส์ จำกัด ประจำสิงคโปร์และภูมิภาคอาเซียน ร่วมกับ นายมาร์คุส ลอเรนซินี่ (คนที่3จากขวา)  ประธานกรรมการและหัวหน้าฝ่ายบริหารของ บริษัท ซีเมนส์ จำกัด ประจำประเทศไทย ได้เปิดศูนย์บริการพลังงานไฟฟ้า (Power Generation Services) แห่งใหม่อย่างเป็นทางการที่จังหวัดระยอง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการสนับสนุนและส่งเสริมการเติบโตและความยั่งยืนของภาคพลังงานไทย

ศูนย์บริการพลังงานไฟฟ้าแห่งใหม่ของซีเมนส์ ที่ จ.ระยอง มุ่งให้บริการภาคพลังงานไทยด้วยความรวดเร็ว ตอบโจทย์ และมีประสิทธิภาพ

บริษัท ซีเมนส์ จำกัด เปิดศูนย์บริการพลังงานไฟฟ้า (Power Generation Services) แห่งใหม่อย่างเป็นทางการในประเทศไทยในวันนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการสนับสนุนและส่งเสริมการเติบโตและความยั่งยืนของภาคพลังงานไทย

การเปิดศูนย์บริการพื้นที่ขนาด 1,200 ตร.ม. ดังกล่าวของซีเมนส์ในจังหวัดระยอง เป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการส่งมอบบริการอันเป็นเลิศแก่ลูกค้าในท้องที่ไปพร้อมกับการสนับสนุนแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า (พีดีพี) ฉบับล่าสุดของไทย ซึ่งให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีการผลิตพลังงานไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงจากวัตถุดิบก๊าซธรรมชาติและพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น

ศูนย์บริการแห่งใหม่นี้ทำหน้าที่เป็นทั้งศูนย์ซ่อมบำรุง และคลังอะไหล่และอุปกรณ์ ให้บริการครบวงจรทั้งการตรวจสอบสภาพ เปลี่ยนอะไหล่ พร้อมทั้งเป็นโรงจัดเก็บเครื่องมือและซ่อมแซมกังหันก๊าซ คอมเพรสเซอร์ก๊าซ รวมถึงกังหันไอน้ำอุตสาหกรรมแก่ลูกค้าของซีเมนส์ ทั้งนี้จังหวัดระยองเป็นพื้นที่สำคัญของโครงการพื้นที่พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ (อีอีซี) ภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงและกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ

นาย ทอร์เบียน ฟอร์ส หัวหน้าฝ่ายบริหาร ธุรกิจบริการพลังงานไฟฟ้า โรงไฟฟ้าย่อย และธุรกิจน้ำมันและก๊าซ (Power Generation Services, Distributed Generation and Oil and Gas) กล่าวระหว่างพิธีเปิดศูนย์บริการดังกล่าวว่า บริษัทเลือกเปิดศูนย์บริการธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้าที่จังหวัดระยอง เพื่อสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างใกล้ชิดโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้บริการแก่ลูกค้าอุตสาหกรรม อีกทั้งยังเป็นการยกระดับการให้บริการเพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมของไทยที่กำลังเติบโต โดยศูนย์บริการดังกล่าวสามารถให้บริการแก่ลูกค้าโรงไฟฟ้าที่ไว้วางใจใช้กังหันก๊าซสำหรับการผลิตไฟฟ้าเชิงอุตสาหกรรม ที่มีอยู่ราว 100 รายในประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มีการติดตั้งกังหันก๊าซรุ่น SGT-800 มากที่สุดในโลก นับเป็นความสำเร็จอันน่าทึ่งสำหรับประเทศที่ไม่ได้มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุด

“ศูนย์บริการแห่งใหม่นี้เอื้อประโยชน์อย่างใหญ่หลวงต่อลูกค้าของซีเมนส์ พร้อมทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ภาคพลังงานของไทย เพราะไม่เพียงช่วยให้เราใกล้ชิดกับลูกค้าในประเทศไทยมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการบริการที่มีความเฉพาะเจาะจงสำหรับลูกค้าในประเทศไทยมากขึ้น รวดเร็วขึ้น และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในอุตสาหกรรมพลังงานได้เป็นอย่างดี” นายทอร์เบียน กล่าว

นางนัดจา ฮากันสัน รองประธาน และหัวหน้าฝ่ายธุรกิจบริการพลังงานไฟฟ้า (Power Generation Services) ประจำประเทศไทย ของซีเมนส์ กล่าวว่า “ศูนย์บริการธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้าแห่งนี้ จะมอบประโยชน์มากมายให้แก่ลูกค้าของซีเมนส์ ทั้งด้านคุณภาพและความสะดวกรวดเร็วของการให้บริการ โดยเป้าหมายของเราคือการอยู่ใกล้ชิดกับลูกค้าให้มากที่สุด และศูนย์บริการนี้ก็ช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายดังกล่าว”

“ศูนย์บริการของเราพร้อมส่งมอบบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในประเทศไทยโดยเฉพาะ เพื่อช่วยให้พวกเขาเพิ่มความสามารถในการผลิต ความยืดหยุ่นในการดำเนินงาน และเพิ่มประสิทธิภาพ โดยกังหันรุ่น SGT-800 ที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยปรับปรุงด้านอัตราการใช้เชื้อเพลิงให้ดีขึ้นและลดมลการปล่อยมลพิษในอากาศ เช่น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ นอกจากนี้ เรายังนำเทคโนโลยีดิจิทัลในธุรกิจการผลิตไฟฟ้า มาใช้ในการติดตามสถานะการทำงานของเครื่องจักรและวิเคราะห์แบบเรียลไทม์เพื่อทำการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการดำเนินงาน” นางนัดดา กล่าวเสริม”

ทั้งนี้ เกี่ยวกับแผนพีดีพี นางนัดจาให้ความเห็นว่าการสนับสนุนโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (เอสพีพี) อย่างต่อเนื่อง และการกระจายอำนาจในภาคพลังงานทำให้ประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งประเทศต้นแบบที่ดีเยี่ยมสำหรับการสร้างภูมิทัศน์ทางพลังงานที่ยั่งยืน การส่งเสริมพลังงานหมุนเวียนควบคู่ไปกับก๊าซธรรมชาติ และเชื้อเพลิงดั้งเดิมอื่นๆ เช่น น้ำมันและถ่านหิน เป็นเป็นการสร้างความมั่นคงให้แก่ระบบนิเวศน์ทางพลังงาน ซึ่งเอื้อต่อการเติบโตทางอุตสาหกรรมและการพัฒนาประเทศ ตอบรับความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ซีเมนส์ยังได้พัฒนาการใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนกับกังหันก๊าซ เนื่องจากเชื่อมั่นว่าเป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการใช้พลังงานที่ไม่ทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Decarbonization) และการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน

“ความเชื่อถือไว้วางใจได้ ประสิทธิภาพ และความยืดหยุ่น คือกุญแจสำคัญของการสร้างภูมิทัศน์ทางพลังงานที่ยั่งยืน” นางนัดจา กล่าวเสริม

ผู้บริหารของซีเมนส์ต่างเห็นตรงกันว่าบริษัทมีความพร้อมในทุกด้านทั้งวิศวกรรม เทคโนโลยี และบริการที่เข้าถึงในระดับท้องถิ่น สำหรับการสนับสนุนประเทศไทยและผู้ผลิตกระแสไฟฟ้าทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็นโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (เอสพีพี) ซึ่งให้บริการลูกค้าในพื้นที่และชุมชนของตน ไปจนถึงโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ (ไอพีพี) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ซึ่งให้บริการทั่วทั้งประเทศ ทั้งนี้มีการประมาณการณ์ว่าร้อยละ 30 ของกระแสไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศไทยมาจากเครื่องจักรและเทคโนโลยีของซีเมนส์

ธุรกิจบริการพลังงานไฟฟ้า (Power Generation Services) ให้บริการแบบครบวงจรในเรื่องของบริการ ทั้งบริการเกี่ยวกับอุปกรณ์หมุนเวียน กังหันก๊าซ กังหันไอน้ำและคอมเพรสเซอร์

#SiemensPowerServiceThailand

บริษัท ซีเมนส์ จำกัด เข้ามาให้บริการในประเทศไทยเป็นเวลานานกว่าศตวรรษ เป็นองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมไฟฟ้า เป็นผู้นำตลาดโลกในการใช้เทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ (automation) และการนำระบบดิจิตัลมาใช้กับการปฏิบัติงานในหลากหลายรูปแบบ โดยกิจกรรมของบริษัทฯ มุ่งเน้นการสร้างคุณค่าด้วยการพัฒนาด้านพลังงาน กำลังการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของทุกๆ คนในสังคม  ปัจจุบัน ซีเมนส์ ประเทศไทย ยังดูแลธุรกิจในประเทศกัมพูชาและประเทศพม่าด้วย


Exit mobile version