กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดบ้านเชิญผู้ประกอบการเข้าสั
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่
“โครงการเพื่อสนับสนุนผู้
ภายในงานได้เชิญผู้ประกอบการที่
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการทั้งสี่ราย ยังได้สนับสนุนให้ผู้

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดบ้านเชิญผู้ประกอบการเข้าสั
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่
“โครงการเพื่อสนับสนุนผู้
ภายในงานได้เชิญผู้ประกอบการที่
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการทั้งสี่ราย ยังได้สนับสนุนให้ผู้
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทั
โครงการ “ไทยแลนด์ พาวิลเลียน แอมบาสเดอร์” (THAILAND PAVILION AMBASSADOR) มีกำหนดเปิดรับสมัคร ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม–24 เมษายน 2563 โดยผู้สมัครจะต้องมีอายุ 18-30 ปี มีความรู้ความสามารถทางด้
สำหรับงานเวิลด์เอ็กซ์โป ถือเป็น 1 ใน 3 ของงานยิ่งใหญ่ระดับโลก เช่นเดียวกับการแข่งขันกีฬาโอลิ
สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ประกาศเลื่อนวันจัดงานรับสร้
นายวรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า ด้วยการแพร่ระบาดของเชื้อไวรั
“งานรับสร้างบ้าน Focus 2020 เป็นงานแสดงที่รวบรวมบริษัทรั
ทั้งนี้ สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ยังคงเป็นตัวกลางระหว่างผู้บริ
กรุงเทพฯ – 3 มีนาคม 2563 : ‘เฟิร์สช้อยส์ จุดเริ่มต้นคนมีเครดิต’ : นางสาวณญาณี เผือกขำ (ขวา) กรรมการผู้จัดการ และนายอธิป ศิลป์พจีการ (ซ้าย) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารธุรกิจกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด ผู้ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิตภายใต้แบรนด์กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ ประกาศพลิกโฉมแบรนด์ครั้งใหญ่ ชูแนวคิด ‘จุดเริ่มต้นคนมีเครดิต’ พร้อมเป็นผู้ช่วยสร้างเครดิตเพื่ออนาคตทางการเงินที่ดีของผู้บริโภคทุกคน พร้อมพัฒนาบริการทางการเงินรูปแบบใหม่เป็นรายแรกในประเทศไทย ที่ช่วยดูแลรักษาเครดิตทางการเงิน ผ่านแอปพลิเคชัน UCHOOSE หวังจุดประกายคนรุ่นใหม่เห็นความสำคัญของการมีสุขภาพทางการเงินที่ดี ลดปัญหาหนี้ครัวเรือน พร้อมสร้างแบรนด์อย่างยั่งยืน ตั้งเป้ายอดบัตรใหม่ 355,000 บัญชี ยอดสินเชื่อใหม่และยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 102,000 ล้านบาท ภายในสิ้นปี 2563
ยิปซัมตราช้าง ส่งนวัตกรรมใหม่ “ซอฟฟิทบล็อค” (SoffitBlocTM) แผ่นฝ้าชายคารุ่นใหม่ลงตลาด ให้เป็นอีกทางเลือกสำหรับเจ้
นายจรุง กาญจนภูมิ ผู้จัดการทั่วไปบริษัท สยามอุตสาหกรรม ยิปซัม (สระบุรี) จำกัด หรือยิปซัมตราช้าง เปิดเผยว่า “ จากปัจจุบันที่วงการก่อสร้างได้
จากปัญหาที่พบเห็นอยู่เสมอ ทั้งก่อนและหลังการก่อสร้าง หากเลือกวัสดุผิดประเภทการใช้
ซอฟฟิทบล็อค หรือแผ่นฝ้าชายคารุ่นใหม่จากยิ
ซอฟฟิทบล็อค ตราช้าง นวัตกรรมใหม่ของแผ่นฝ้าชายคาที่
“ทางบริษัทฯ คาดว่า ซอฟฟิทบล็อค ตราช้าง จะได้รับความนิยมจากเจ้าของบ้
ผู้ที่สนใจสามารถเข้
กรุงเทพฯ/ 2 มีนาคม 2563 – บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ส์ จำกัด ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของโลก ครองอันดับ 5 ของบริษัทที่ทุ่มงบประมาณในด้านการวิจัยและพัฒนามากที่สุดของโลก ตามข้อมูลของ 2019 EU Industrial R&D Investment Scoreboard ต่อเนื่องกันเป็นปีที่สอง ซึ่งการศึกษานี้จัดทำโดยคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) เพื่อจัดลำดับ 2,500 บริษัทที่มีการลงทุนในด้าน R&D มากที่สุดในโลก โดยหัวเว่ยและอาลีบาบา กรุ๊ป (ติดลำดับที่ 28) เป็นบริษัทสัญชาติจีนเพียง 2 รายที่มีชื่อติดอยู่ใน 50 อันดับแรก
หัวเว่ยมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในฐานะบริษัทที่ทุ่มเทเพื่อการวิจัยและนวัตกรรมมาอย่างต่อเนื่อง ในแต่ละปีบริษัทจะทุ่มรายได้จากยอดขายราวร้อยละ 10 – 15 ไปกับงานด้าน R&D โดยเฉพาะ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา บริษัทได้ใช้งบราว 70,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ (หรือราว 2.2 ล้านล้านบาท) ไปในด้านวิจัยและพัฒนา และได้เริ่มดำเนินการวิจัยเทคโนโลยี 5G ตั้งแต่ปี 2552 ด้วยการลงทุนงบกว่า 4,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ (ราว 12.7 หมื่นล้านบาท) ไปกับการศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ 5G ทำให้ปัจจุบันหัวเว่ยได้เป็นเจ้าของสิทธิบัตร 5G มากที่สุดในโลกถึง 3,325 ฉบับ นอกจากนี้ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา หัวเว่ยยังเป็นบริษัทที่เข้าไปมีส่วนร่วมมากที่สุดในการกำหนดมาตรฐานสากลของการใช้งาน 5G ทั่วโลกอีกด้วย ตามข้อมูลจากบริษัท Iplytics ผู้วิจัยข้อมูลทางการตลาด
ในขณะที่ทั่วโลกเริ่มเปิดให้บริการ 5G เชิงพาณิชย์ มร. เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของหัวเว่ย ได้เปิดเผยเมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่า บริษัทได้เริ่มศึกษาพัฒนาเทคโนโลยี 6G แล้ว ซึ่งจะมอบความเร็วที่สูงกว่า 5G ถึง 100 เท่า “ความจริงแล้วเราพัฒนา 5G และ 6G ไปพร้อม ๆ กัน โดยเราเริ่มงานวิจัย ด้าน 6G มานานแล้ว” มร. เหริน กล่าว “แต่ตอนนี้ยังเป็นแค่เฟสแรก ๆ และเราก็คิดว่าการใช้งาน 6G เชิงพาณิชย์ยังต้องรอไปอีกประมาณ 10 ปี” เขาอธิบาย
ปัจจุบันหัวเว่ยเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยี 5G ร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายทั่วโลกเพื่อมอบบริการที่ครอบคลุมและครบวงจรมากขึ้น บริษัทเปิดเผยเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าได้ลงนามในสัญญา 5G เชิงพาณิชย์ไปแล้วกว่า 90 ฉบับทั่วโลก
ความยั่งยืนในวิถีเกษตรเป็นสิ่
‘CAT เพาะพันธุ์ดี’ เป็นโครงการของบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT เลือกนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้
หนึ่งในโรงเรียนต้นแบบที่ CAT พิจารณาเลือกจัดทำโครงการคือ ‘โรงเรียนมัธยมหลวงพ่อคูณปริสุ
เมื่อโครงการ ‘CAT เพาะพันธุ์ดี’ ก้าวเข้ามาเยี่ยมเยือน อาจารย์และนักเรียนที่นี่จึ
การดำเนินงานเริ่มต้นขึ้นเมื่
“อาจารย์และนักเรียนตื่นเต้นที่
ขณะที่ ด.ช.ณัฐวัตร เทินสะเกช น้องโอม นักเรียนชั้น ม.2/2 และ น.ส.สุนิสา ทิขุนทด น้องเนย นักเรียนชั้น ม.4/1 ช่วยกันเล่าถึงการเข้าร่
ในการส่งมอบเทคโนโลยี ‘เกษตรอัจฉริยะ’ ในโครงการ CAT เพาะพันธุ์ดี ให้กับโรงเรียนแห่งนี้ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ร้อยตรีหญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวั
ร้อยตรีหญิง ระนองรักษ์ฯ กล่าวขอบคุณ CAT ที่เลือกโรงเรียนในพื้นที่จั
“นครราชสีมาเป็นจังหวัดใหญ่ มีประชาชนประกอบอาชี
ส่วนพันเอก สรรพชัยฯ กล่าวถึงเจตนารมณ์ในการจัดทำ Smart Farm โดยใช้โครงข่าย LoRaWAN ในโครงการ CAT เพาะพันธุ์ดี ว่า CAT ดำเนินโครงการดังกล่าวในฐานะหน่
“วัตถุประสงค์หลักของ CAT คือให้นักเรียนได้ใกล้ชิดและเข้
การดำเนินโครงการ ‘CAT เพาะพันธุ์ดี’ จึงไม่เพียงก่อให้เกิดประโยชน์
ลอนดอน สหราชอาณาจักร/ 28 กุมภาพันธ์ 2563 – หัวเว่ย เปิดตัวโซลูชัน HiCampus ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีแถวหน้าอย่าง 5G, Optical Transmission และ AI ของหัวเว่ย ช่วยให้องค์กรสามารถเข้าถึงระบบเครือข่ายแบบไร้สาย เชื่อมโยงผ่านใยแก้วนำแสง และให้บริการเชิงอัจฉริยะครอบคลุมทุกเครือข่ายได้เต็มรูปแบบ ออกแบบมาเพื่อช่วยให้องค์กรสร้างเครือข่ายสำหรับอนาคต พร้อมมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้น ใช้พลังงานน้อยลง และรองรับนวัตกรรมที่ทำให้บริการต่าง ๆ รวดเร็วกว่าที่เคย
มร. ชิว เหิง ประธานฝ่ายการตลาด กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ย กล่าวว่า “หัวเว่ยได้เปิดตัวโซลูชัน HiCampus เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานเครือข่ายองค์กรให้ดียิ่งขึ้น ผ่านนวัตกรรมที่หลากหลาย รวมถึง AirEngine Wi-Fi 6 ที่เสริมสมรรถนะด้วยเทคโนโลยี 5G ช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงเครือข่ายขององค์กรได้แบบไร้สายอย่างเต็มรูปแบบ และโซลูชัน Campus OptiX ที่มอบการเชื่อมโยงเครือข่ายผ่านใยแก้วนำแสงได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตลอดจนเทคโนโลยี AI และ Horizon Digital Platform ที่ทำให้บริการต่าง ๆ รวมไปถึงการดำเนินการและดูแลรักษา (O&M) เครือข่ายได้แบบอัจฉริยะครบวงจร โซลูชัน HiCampus ตอกย้ำถึงเห็นข้อได้เปรียบอันยอดเยี่ยมของหัวเว่ยในด้านเทคโนโลยี 5G, Optical Transmission และ AI โซลูชันนี้ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้เครือข่ายไร้สายด้วยความเร็วระดับ 100 Mbps ที่เชื่อมต่อได้เต็มประสิทธิภาพทั่วทุกพื้นที่ในองค์กร (Always-on) ทั้งยังลดการใช้พลังงานของเครือข่ายโดยรวมลงได้ราวร้อยละ 30 ในขณะเดียวกันก็เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันได้ถึงร้อยละ 30 ซึ่งจะเร่งการทรานสฟอร์มเครือข่ายองค์กรสู่ระบบดิจิทัลได้รวดเร็วยิ่งขึ้น”
เข้าถึงเครือข่ายแบบไร้สายเต็มรูปแบบ: ผลิตภัณฑ์ซีรีส์ AirEngine Wi-Fi 6 ที่เสริมสมรรถนะด้วยเทคโนโลยี 5G ของหัวเว่ย มอบอัตราการส่งข้อมูลด้วยความเร็วระดับ 10 กิกะบิต/วินาที ค่าความหน่วงต่ำเพียง 10 ms และให้รัศมีครอบคลุมที่กว้างขึ้นกว่ามาตรฐานในอุตสาหกรรมถึงร้อยละ 20 ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงเครือข่ายไร้สายคุณภาพสูงได้อย่างเต็มรูปแบบทั่วทั้งองค์กร
พร้อมกันนี้ หัวเว่ยยังได้เปิดตัว Access Point Wi-Fi 6 ใหม่อีก 10 รุ่น แบ่งเป็น 3 ซีรีส์ คือ AirEngine 8700, AirEngine 6700 และ AirEngine 5700 ครอบคลุมการใช้งานที่หลากหลายทั้งภายในและภายนอกอาคาร โดยผลิตภัณฑ์รุ่นเรือธง AirEngine 8760 ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเสาส่งสัญญาณ 5G แบบ 16T16R และความกว้างช่องสัญญาณแบนด์วิดท์ 160 MHz เพื่อเพิ่มอัตราการส่งข้อมูลสูงสุดถึง 10.75 กิกะบิต/วินาที สูงกว่ามาตรฐานประสิทธิภาพในอุตสาหกรรมถึง 2 เท่า นอกจากนี้ เสาอากาศอัจฉริยะ (Smart Antenna) ที่เสริมทัพด้วยเทคโนโลยี 5G ยังทำให้ AirEngine Wi-Fi 6 ของหัวเว่ย มีรัศมีการครอบคลุมของสัญญาณกว้างขึ้นถึงร้อยละ 20 และให้สัญญาณที่แรงขึ้นเท่าตัว (ในพื้นที่เดียวกัน) เมื่อเทียบกับมาตรฐานที่มีอยู่ในอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าระบบที่สำคัญที่สุดขององค์กรจะเข้าถึงเครือข่าย Wi-Fi ได้ ผลิตภัณฑ์ AirEngine Wi-Fi 6 ของหัวเว่ย ใช้เทคโนโลยี SmartRadio ช่วยเพิ่มความเร็วและความแรงของสัญญาณ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งส่วนประกอบสำคัญที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ 5G ของหัวเว่ย และเป็นเทคโนโลยีที่มีความหน่วงเวลาต่ำระดับ Ultra-Low ซึ่งต่ำกว่า 10 มิลลิวินาที และน้อยกว่ามาตรฐานอุตสาหกรรมถึงร้อยละ 50 ช่วยรับประกันประสบการณ์การใช้งานเครือข่ายที่ดีที่สุดสำหรับภารกิจที่สำคัญมากที่สุดขององค์กร ยิ่งไปกว่านั้น การใช้เทคโนโลยี Lossless Roaming ที่มีอยู่ใน SmartRadio ทำให้รับประกันได้ว่าจะไม่มีการสูญหายของข้อมูล (Zero Packet Loss) ในระหว่างการโรมมิ่งจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง พร้อมอัตราความสำเร็จของการโรมมิ่งที่ร้อยละ 100 เพื่อป้องกันการหยุดชะงักของการส่งข้อมูล
การผสานเทคโนโลยี 5G เข้ามาทำให้ผลิตภัณฑ์ AirEngine Wi-Fi 6 ของหัวเว่ย ไม่ได้เป็นแค่อุปกรณ์กระจายสัญญาณ (Access Point) เพราะสามารถรับประกันความต่อเนื่องในการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 ในระดับการใช้งานที่ใหญ่ขึ้น ทำให้ผู้ใช้งานได้รับประโยชน์จากเครือข่ายไร้สายความเร็วระดับ 100 Mbps ได้ตลอดเวลาแบบ Always-on จากทุกพื้นที่ภายในองค์กร
เครือข่ายออปติคัลเต็มรูปแบบ: โซลูชัน Campus OptiX ช่วยลดความซับซ้อนของสถาปัตยกรรมเครือข่าย เพื่อประหยัดพื้นที่ในการติดตั้งอุปกรณ์และลดการใช้พลังงาน ช่วยให้ลูกค้าสร้างเครือข่ายองค์กรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ด้วยประสบการณ์และการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี Optical Transmission ในอุตสาหกรรมมานานกว่าทศวรรษ หัวเว่ยมีเป้าหมายที่จะช่วยจัดหาเครือข่ายองค์กรที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านบริการของลูกค้า ด้วยเหตุนี้ หัวเว่ยจึงได้รับรางวัล Gartner Peer Insights Customers’ Choice ในฐานะผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานระบบเครือข่ายทั้งแบบมีสายและแบบไร้สาย ประจำเดือนมกราคม ปี 2563 โซลูชันเครือข่าย Campus OptiX ช่วยให้เครือข่ายองค์กรกลายเป็นเครือข่ายออปติกอย่างเต็มรูปแบบ ติดตั้งใช้งานง่าย พัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง และมีระบบบริหารจัดการที่ชาญฉลาด ไม่ว่าจะเป็นบริษัทขนาดใหญ่ สถาบันการศึกษา โรงแรม สนามบิน และอื่น ๆ โซลูชันนี้ยังช่วยให้ลูกค้าสามารถนำเทคโนโลยีการเข้าถึงแบบออปติกชั้นนำระดับโลกของหัวเว่ยไปใช้งานในสถาปัตยกรรมเครือข่ายองค์กรได้ หรืออาจรวมไปถึงบริการคลาวด์และอุปกรณ์อัจฉริยะต่าง ๆ ได้ด้วย
โซลูชันเครือข่าย Campus OptiX ของหัวเว่ย ผนวกรวมข้อดีของสถาปัตยกรรมออปติคัลแบบเต็มรูปแบบและเครือข่าย IP เข้าไว้ด้วยกัน อาทิ IP Switch ที่มีประสิทธิภาพระดับ Ultra-Large และผลิตภัณฑ์ AirEngine Wi-Fi 6 (ที่ใช้พอร์ตออปติคัล) เพื่อรองรับช่องสัญญาณ (Bearer) ระดับ Ultra-Broadband Capability และตอบโจทย์ความต้องการใช้งานขององค์กรในช่วง 3 ทศวรรษข้างหน้าซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในอุตสาหกรรม สถาปัตยกรรมเครือข่ายแบบออปติคัลเต็มรูปแบบนี้จะช่วยลดพื้นที่การวางอุปกรณ์ อีกทั้งยังลดการใช้พลังงานของเครือข่ายโดยรวมลงได้อีกราวร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับเครือข่ายองค์กรแบบเก่าที่ต้องมี Aggregation Layer ขณะที่ Switching Capacity ของผลิตภัณฑ์ Core Switch รุ่นเรือธงของหัวเว่ยนั้น มีประสิทธิภาพสูงกว่าอุปกรณ์ประเภทเดียวกันในอุตสาหกรรมถึง 6 เท่า อีกทั้งยังสามารถขยายเพิ่มได้ตามต้องการ ตอบรับกับความต้องการขององค์กรในอนาคตอันใกล้ และปกป้องผลตอบแทนจากการลงทุนด้วย
นอกจากนี้ โซลูชันนี้ยังใช้ใยแก้วนำแสง หรือ Optical Fiber เป็นตัวกลางของเครือข่าย โดยไฟเบอร์ซึ่งทำจากซิลิคอนไดออกไซด์ จะมีอายุการใช้งานได้นานกว่าและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าสายเคเบิลทองแดง
บริการอัจฉริยะเต็มรูปแบบ: การบริหารจัดการเครือข่ายที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพิ่มประสิทธิภาพงานด้าน O&M โดยใช้เจ้าหน้าที่เพียงหนึ่งคนในการดูแลเครือข่ายทั้งหมดขององค์กร โดย Horizon Digital Platform จะช่วยให้การอัปเกรดการใช้งานเครือข่ายอัจฉริยะทำได้จากจุดเดียว (Single-scenario Campus Intelligence) ไปยังเครือข่ายรวม (Overall Campus Intelligence) ที่ให้การออกแอปพลิเคชันใหม่ ๆ และปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินการโดยรวมทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
โซลูชัน HiCampus ใช้ eSight ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการบริหารจัดการแบบรวมศูนย์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อดำเนินงานและบำรุงรักษาอุปกรณ์ดีไวซ์ต่าง ๆ ในเครือข่าย และปรับปรุงประสิทธิภาพ Wireless Radio Frequencies (RFs) ให้ดีขึ้นโดยอัตโนมัติตามการวิเคราะห์พฤติกรรมเครือข่ายในอดีตและโมเดลการเรียนรู้ ด้วยการใช้ eSight ลูกค้าจึงสามารถตรวจหาตำแหน่งความผิดพลาดได้มากกว่าร้อยละ 85 ภายใน 10 นาที ซึ่งช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพด้าน O&M ได้ถึงร้อยละ 80
เพื่อลดการหยุดชะงักของเครือข่าย ผลิตภัณฑ์ AirEngine Wi-Fi 6 ของหัวเว่ย ยังได้ใช้เสาสัญญาณสำหรับตรวจสอบแยกอิสระ ที่สามารถตรวจจับสัญญาณข้อมูลสภาพแวดล้อมได้อย่างแม่นยำ และระบบ iMaster NCE เพื่อยกระดับงานด้าน O&M ให้ขับเคลื่อนด้วย AI และกลายเป็นระบบอัจฉริยะทั่วทั้งเครือข่าย ซึ่งจะทำให้ตรวจสอบคุณภาพเครือข่ายได้แบบเรียลไทม์และปรับปรุงการทำงานของเครือข่ายได้โดยอัตโนมัติ เพื่อลดอัตราการผิดพลาดของเครือข่าย ด้วยวิธีนี้ เจ้าหน้าที่เพียงคนเดียวจึงสามารถดูแลจัดการเครือข่ายทั้งหมดขององค์กรได้
นอกจากนี้ เพื่อรองรับรูปแบบการใช้งานอื่น ๆ ของเครือข่ายในอนาคต เทคโนโลยีอย่างเช่น การจดจำเสียง การจดจำใบหน้า การจดจำภาพ การขับขี่อัตโนมัติ ตลอดจน Big Data Mining และ Knowledge Graph จะถูกนำมารวมเข้ากับระบบการดำเนินการและการจัดการเครือข่ายองค์กร ซึ่งจำเป็นต้องมีการผนวกรวมข้อมูล (Data Convergence), การผนวกรวมระบบ IT-OT (IT-OT System Convergence), การผนวกรวมบริการ และการสร้างบริการใหม่ ๆ ตามต้องการ (On-demand Service Innovation Enablement) ด้วยเหตุนี้ Horizon Digital Platform สำหรับองค์กร จึงได้รวม 10 เทคโนโลยีใหม่เข้าด้วยกัน ซึ่งรวมทั้ง AI, Big Data, และ IoT พร้อมให้บริการนับร้อยรายการ ครอบคลุมถึงสินทรัพย์ทางธุรกิจและสินทรัพย์ที่เป็นข้อมูลซึ่งรวบรวมจากแนวทางการให้บริการลูกค้าที่ประสบความสำเร็จ สิ่งนี้จะช่วยปรับปรุงความเร็วในการสร้างสรรค์บริการและประสิทธิภาพการดำเนินงานขององค์กรได้เป็นอย่างมาก Horizon Digital Platform ซึ่งเป็นโซลูชันที่ผ่านการทดสอบการใช้งานมาเป็นอย่างดี จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันได้ถึงร้อยละ 30 เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการได้อีกร้อยละ 30 และลดการใช้พลังงานโดยรวมได้ถึงร้อยละ 10
จากข้อมูลวิจัยตลาดโดยกลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ย พบว่า กว่าร้อยละ 80 ของ GDP ทั่วโลก และกว่าร้อยละ 90 ของนวัตกรรมเกิดขึ้นบนเครือข่ายองค์กร ทำให้เครือข่ายกลายเป็นหลักสำคัญของโลกดิจิทัล โดยหัวเว่ยจะทำงานร่วมกับพันธมิตรในอีโคซิสเต็ม เพื่อช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด มีการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม, O&M ที่มีประสิทธิภาพ และสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ยืดหยุ่นและคล่องตัวสูง ผ่านการใช้โซลูชัน HiCampus
DITP จับมือแพลตฟอร์มพันธมิตรเร่งผลั
บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์จับมือพันธมิ
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่
จุดแข็งของ TOPTHAI คือ ร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าท๊อปๆ จากไทยซึ่งผ่านการคัดสรรจากหน่
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่
ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยการจัดงานในกรุ
02 507 7858 หรือ 085 502 5391
ผศ.ดร.ศิริเดช คำสุพรหม คณบดีวิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (College of Innovative Business and Accountancy: CIBA) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) เปิดเผยว่า จากผลความสำเร็จของโครงการCIBA Mini Capstoneที่ได้ปลูกฝังแนวคิดและจิตวิญญาณความเป็นสตาร์ทอัพตั้งแต่ปีแรกและเข้มข้นขึ้นในทุกปีของการศึกษา ส่งผลให้ทีมนักศึกษาของธุรกิจบัณฑิตย์คว้ารางวัลระดับประเทศจากการแข่งขันในหลายรายการ อาทิ รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง จากโครงการประกวดนวัตกรรมข้อมูลเปิดภาครัฐ ปี 2562 (Thailand Data Innovation Awards 2019,DIA by DGA) ด้วยผลงานแอพพลิเคชั่น “J-Elder” ซึ่งช่วยผู้สูงอายุหางานได้ตรงตามคุณสมบัติ ตอกย้ำความสำเร็จของโครงการให้ขยายการดำเนินงานมากยิ่งขึ้น
สำหรับปีที่ 2 แนวทางการเสริมสร้างทักษะผู้ประกอบการให้กับนักศึกษามีเข้มข้นมากกว่าเดิม โดยโครงการ “CIBA Mini Capstone 2020 : Startup Teams & the Coach”ในปีนี้ จะเน้นพัฒนาทักษะเชิงบูรณาเพื่อการเป็นผู้ประกอบการสตาร์ทอัพแบบครบเครื่อง โดยนำศาสตร์สำคัญที่สตาร์ทอัพจำเป็นต้องรู้มาถ่ายทอดให้กับนักศึกษาผ่านทีมโค้ชผู้เชี่ยวชาญ ทั้งศาสตร์ด้านการจัดการ การบัญชี เศรษฐศาสตร์ และกฎหมาย (จากคณะนิติศาสตร์ปรีดีพนมยงค์) เพื่อให้นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ได้นำความรู้ทั้งหมดภายใต้รายวิชาแกนที่เกี่ยวข้องมาพัฒนาเป็นโครงงานธุรกิจฉบับมินิขึ้น ภายใต้โจทย์ผลิตภัณฑ์เพื่อไลฟ์สไตล์ประชากรยุค Thailand 4.0 โดยโครงงานของนักศึกษาที่เป็นดาวเด่นจะได้รับคัดเลือกจากโค้ชขึ้นประกวด “Prototype Pitching” บนเวที ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 3 มีนาคม 2563 เวลา 08.00-13.30 น. ณ ห้องประชุมปรีดีพนมยงค์ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 6 ม.ธุรกิจบัณฑิตย์
โดยงานนี้มีผลงานแบบจำลองธุรกิจของนักศึกษาที่น่าสนใจมานำเสนอจำนวนไม่น้อย อาทิ
– ทีม Snowflake : Batique พริ๊นเตอร์ไฮเทค แถมหมึกลบได้ด้วย
– ทีม Let it go : Immer Spin กระจกอัจฉริยะสำหรับคนชอบส่องบนชีวิตเร่งรีบ
– ทีม Olaf : Supervise Watch นาฬิกาผู้ช่วยคนสูงวัย ปลอดภัย วางใจได้
– ทีม Wonder : Old Staff ไม้เท้าแสนรู้สุดไฮเทคคู่ใจผู้สูงอายุ
– ทีม Seven Swords (นศ.จีนหลักสูตร Bilingual): Parcel Locker ล๊อคเกอร์คู่บ้านรับของนำส่งแบบโล่งใจแม้ไม่อยู่บ้าน
“ปีนี้จะมีการบูรณาการร่วมกันกับหลักสูตรอื่นด้วยทั้งเศรษฐศาสตร์และนิติศาสตร์ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแบบองค์รวมของสตาร์ทอัพ เพราะการเป็นผู้ประกอบการ จะมีความรู้ด้านการบริหารจัดการ การตลาด การบัญชี เพียงเท่านี้ไม่ได้ ต้องรู้ครอบคลุมไปถึงกฎหมายหรือเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวกับธุรกิจด้วย ไม่ว่าจะเป็น การจัดตั้งบริษัท กฏหมายภาษี กฎหมายการจดสิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ การแบ่งปันผลประโยชน์ระหว่างผู้ร่วมทุน หรือมีกฎหมายอะไรบ้างที่เกี่ยวกับธุรกิจสตาร์ทอัพ ทางด้านเศรษฐศาสตร์ การเป็นสตาร์ทอัพก็ต้องรู้เรื่องของ Demand และ Supply ตรงจุดไหนที่ธุรกิจจะคุ้มทุน ความรู้เหล่านี้ก็ต้องมีด้วยเช่นกัน” ผศ.ดร.ศิริเดช กล่าว
ผศ.ดร.ศิริเดช กล่าวในตอนท้ายว่า มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ยืนหนึ่งเรื่องธุรกิจ โครงการ CIBA Mini Capstone จึงมุ่งหวังให้นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ของ CIBA ได้ฝึกฝนการคิดเชิงวิเคราะห์ การออกแบบธุรกิจ การกำหนดกลยุทธ์ การประเมินความเป็นไปได้ทางธุรกิจ การบัญชีเบื้องต้น การวิเคราะห์เชิงเศรษฐศาสตร์ และการเตรียมตัวด้านกฎหมายเพื่อการจัดตั้งธุรกิจ ซึ่งต่างๆเหล่านี้ทางมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์พยายามปลูกฝังเข้าไปในตัวนักศึกษาเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการเป็นต้นแบบสตาร์ทอัพยูนิเวอร์ซิตี้