นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร และนางสาวปวีณา ศรีตระกูล หัวหน้าฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์
กิจกรรม “Greenhouse Effect: Plastic Trap Stimulation” เป็นกิจกรรมแนว social experiment ที่จำลองภาวะเรือนกระจกที่เกิ

นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร และนางสาวปวีณา ศรีตระกูล หัวหน้าฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์
กิจกรรม “Greenhouse Effect: Plastic Trap Stimulation” เป็นกิจกรรมแนว social experiment ที่จำลองภาวะเรือนกระจกที่เกิ
อุทยานเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมพระนครเหนือ วิทยาเขตระยอง รับสมัครนักศึกษาโครงการรับสมัครนักศึกษาใหม่ โควตาเรียนดี ครั้งที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2568 เปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 23 กันยายน 2567 ถึง วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ในหลักสูตรเทคโนโลยีบัณฑิต ระดับปริญญาตรี ในสาขาวิชาเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่และระบบอัตโนมัติ (MATA) โดยการจัดการเรียนการสอน ดังนี้ หลักสูตรเรียนในเวลาราชการ 2 ปี (MATA-RA) (จัดการเรียนการสอน วันจันทร์ – วันศุกร์) และหลักสูตรเรียนนอกเวลาราชการ 3 ปี (MATA-TA) (จัดการเรียนการสอน วันศุกร์เย็น – วันเสาร์) โดยจัดการเรียนการสอนที่ ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมทรัพยากรมนุษย์เพื่ออุตสาหกรรม ต. มาบตาพุต อ.เมืองระยอง จ. ระยอง
สามารถสมัครออนไลน์ที่ https://shorturl.asia/P05mr หรือ สอบถามรายละเอียดที่กลุ่มงานรับเข้าศึกษา โทรศัพท์ 0-2555-2000 ต่อ 1626, 1627 หรือ อีเมล์ admission@op.kmutnb.ac.th
Facebook กลุ่มงานรับเข้าศึกษา มจพ. หรือสอบถามเพิ่มเติ่มได้ที่ งานการตลาดและประชาสัมพันธ์ อุทยาเทคโนโลยี มจพ. โทรศัพท์ 0-2555-2000 ต่อ 1789
ขวัญฤทัย ปชส.มจพ. ข่าว
กรุงเทพฯ ประเทศไทย 25 กันยายน 2567 การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่าในอี
เอริค เบรทเดอนิวซ์ รองประธานฝ่ายวิจัยการ์ทเนอร์ กล่าวว่า “เนื่องจากตลาด GenAI วิวัฒน์ไปสู่โมเดลที่เกิดและพั
Multimodal GenAI เป็นหนึ่งในสองเทคโนโลยีที่ได้
บรรดานวัตกรรม GenAI ที่การ์ทเนอร์คาดว่าจะได้รั
รูปที่ 1: วงจรเทคโนโลยีสำหรับ Generative AI ปี 2567
ที่มา:การ์ทเนอร์ (กันยายน 2567)
อรุณ จันทรเศกการัน รองประธานฝ่ายวิจัยของการ์
Multimodal GenAI
Multimodal GenAI จะมีผลกระทบต่อแอปพลิเคชันองค์
“ในโลกความเป็นจริง ผู้คนจะพบเจอและเข้าใจข้อมูลผ่
Open-Source LLMs
LLM แบบโอเพ่นซอร์สเป็นโมเดลพื้
“LLM แบบโอเพ่นซอร์สเพิ่มศักยภาพด้
Domain-Specific GenAI Models
Domain-Specific GenAI Models ได้รับการพัฒนาเพื่อตอบสนองต่
“Domain-specific models สามารถร่นระยะเวลาส่งมอบบริ
Autonomous Agents
Autonomous Agents คือ ระบบรวม (Combined Systems) ที่สามารถบรรลุเป้าหมายที่
“Autonomous Agents เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคั
เกี่ยวกับการ์ทเนอร์
บริษัท การ์ทเนอร์ (Gartner, Inc.) (NYSE: IT) คือบริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาชั้
วิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์
ผศ.ดร.ชัยพร เขมะภาตะพันธ์ คณบดีวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์
“โดยพื้นฐานแล้วรถยนต์ HEV จะมีระบบการทำงานที่ซับซ้อนกว่
ผศ.ดร.ชัยพร กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้นำในอุ
ผศ.ดร.ชัยพร กล่าวในตอนท้ายว่า นอกจากนี้ หลักสูตรยังเปิดโอกาสให้นักศึ
สำหรับผู้ที่สนใจสมัครเรียน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้
บริษัท อีริคสัน (NASDAQ: ERIC) ประเทศไทย ประกาศเปิดตัว 5G Innovation & Experience Studio อย่างเป็นทางการ ที่ตั้งอยู่ในโครงการ Thailand Digital Valley อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยสตูดิโอแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งในพันธกิจของบริษัทฯ ที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันของประเทศไทย ภายใต้โครงสร้างพื้นฐาน 5G ที่มีความแข็งแกร่งและกำลังพัฒนายิ่งขึ้นในประเทศไทย
ด้วยการใช้ประสิทธิภาพจากโซลูชันเครือข่าย 5G ที่ทันสมัย ผนวกเข้ากับประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการสร้างเครือข่าย 5G ที่มีประสิทธิภาพ เชื่อถือได้และยั่งยืนทั่วโลก ทำให้อีริคสันพร้อมมีบทบาทสำคัญเพื่อเร่งเดินหน้าประเทศไทยไปสู่การเป็นเศรษฐกิจดิจิทัล
การจัดตั้ง 5G Innovation and Experience Studio ที่เพิ่งสร้างเสร็จนี้ คือ หมุดหมายสำคัญในแผนงานของอีริคสันเพื่อประเทศไทย โดยเป็นความร่วมมือกับรัฐบาลไทยผ่านทางสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa)
ห้องปฏิบัติการแห่งนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่เป็นพื้นที่สร้างสรรค์นวัตกรรม 5G ร่วมกัน โดยใช้เครือข่ายแซนด์บ็อกซ์ 5G ที่ทันสมัยของอีริคสัน มอบประโยชน์ทั้งในด้านการพัฒนา ทดสอบ ตรวจสอบ และรับรองยูสเคส 5G ใหม่ ๆ ร่วมกับพันธมิตรทั้งในประเทศไทยและจากทั่วโลก
ห้องปฏิบัติการนวัตกรรมแห่งนี้ยังจัดแสดงยูสเคส 5G ที่ล้ำสมัยไว้ในหลากหลายรูปแบบได้แก่หุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ (AMR) เครื่องจักรการผลิตอัตโนมัติที่พัฒนาร่วมกับ Mitsubishi และกล้อง CCTV 360 องศา แบบสวมใส่ได้ ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้เผยให้เห็นถึงศักยภาพเทคโนโลยี 5G ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อเปิดโอกาสให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันบนเวทีโลก
มร.แอนเดอร์ส เรียน ประธานบริษัท อีริคสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “5G เป็นแพลตฟอร์มเพื่อนวัตกรรม ช่วยสร้างสรรค์บริการใหม่ ๆ สำหรับผู้บริโภค องค์กรธุรกิจ และอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยที่ต้องการนำดิจิทัลมาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ อีริคสันประเทศไทยมุ่งมั่นส่งเสริมความร่วมมือและนวัตกรรมเพื่อให้มั่นใจว่าประเทศไทยจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากเครือข่าย 5G ที่แข็งแกร่งและยั่งยืน ด้วยการทำงานร่วมกันกับผู้ให้บริการด้านการสื่อสารและหน่วยงานอื่น ๆ ในระบบนิเวศ เราจะสามารถขับเคลื่อนการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งคนไทย เศรษฐกิจและประเทศชาติ”
อีริคสันประเทศไทยยังเปิดกว้างด้านความร่วมมือในอนาคตกับผู้มีส่วนร่วมสำคัญในระบบนิเวศ ทั้งจากภาครัฐและเอกชน รวมถึงพันธมิตร ผู้ใช้ปลายทาง สถาบันการศึกษา และหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อพัฒนายูสเคส 5G ใหม่ ๆ สำหรับอุตสาหกรรม
จากรายงาน Ericsson Mobility ฉบับล่าสุด คาดการณ์ภายในปี 2572 จะมีจำนวนผู้ใช้ 5G ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย ประมาณ 560 ล้านราย และเมื่อสิ้นปี 2566 มียอดผู้ใช้ 5G ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ที่ 61 ล้านราย ซึ่งผู้ใช้บริการ 5G ในภูมิภาคยังคงเติบโตต่อเนื่อง เป็นผลมาจากที่ผู้ใช้ย้ายมาใช้เครือข่าย 5G โดยได้รับแรงหนุนจากอุปกรณ์ 5G ที่ราคาย่อมเยาลง รวมถึงโปรโมชั่นการขายที่ดึงดูดใจ ส่วนลดและแพ็กเกจที่รวมการใช้ปริมาณดาต้าขนาดใหญ่จากผู้ให้บริการ คาดว่าในปี 2572 ผู้สมัครใช้บริการมือถือ 5G จะมีสัดส่วน 43% ของยอดผู้สมัครใช้บริการมือถือทั้งหมดในภูมิภาค และคาดว่ายอดการใช้ดาต้าต่อสมาร์ทโฟนของผู้ใช้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเพิ่มขึ้นจาก 17 กิกะไบต์ต่อเดือน ในปี 2566 เป็น 42 กิกะไบต์ต่อเดือน ในปี 2572
ก่อนสิ้นปี 2572 คาดว่า 5G จะกลายเป็นเครือข่ายมือถือที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากยอดการสมัครใช้ แม้ว่าการครอบคลุมพื้นที่ให้บริการ 5G จะเติบโตขึ้น แต่ย่านความถี่ 5G Mid-Band กลับถูกนำไปใช้งานเพียง 25% ของไซต์ทั้งหมดทั่วโลกนอกจีนแผ่นดินใหญ่ โดย 5G Mid-Band มอบความลงตัวระหว่างการครอบคลุมพื้นที่และความจุ ขณะเดียวกันก็ปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้
รายงาน Ericsson Mobility เดือนมิถุนายน ปี 2567 เผยให้เห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่งของการสมัครใช้บริการ 5G โดยมีผู้ให้บริการด้านการสื่อสารประมาณ 300 รายทั่วโลก เปิดให้บริการ 5G และมี 50 ราย เปิดให้บริการ 5G Standalone (หรือ 5G SA) ซึ่ง 5G ยังคงเติบโตต่อเนื่องในทุกภูมิภาค และคาดว่าในปี 2572 จะมีผู้ใช้ 5G คิดเป็นสัดส่วน 60% ของยอดผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือทั้งหมด อีริคสันคือผู้นำ 5G ระดับโลก ปัจจุบันเปิดบริการเครือข่าย 5G ไปแล้วถึง 166 เครือข่าย ใน 69 ประเทศทั่วโลก
รายงานล่าสุดจาก Frost & Sullivan ยังตอกย้ำความเป็นผู้นำของอีริคสันในตลาดโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย 5G ซึ่งครอบคลุมถึง Radio Access Networks (RAN), Transport Networks และ Core Networks โดยอีริคสันได้รับการจัดอันดับเป็นผู้นำอันดับ 1 ในรายงานการวิเคราะห์ตลาดโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย 5G ของ Frost Radar™ ประจำปี 2567 เป็นปีที่สี่ติดต่อกัน ซึ่งเน้นย้ำถึงผลจากกลยุทธ์ของบริษัทในการตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้ให้บริการการสื่อสาร (CSPs)
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) จัดกิจกรรม KMUTNB OPEN HOUSE (ADMISSION 2025)
“มจพ. นวัตกรรมและความยั่งยืน : ร่วมกันเพื่อวันพรุ่งนี้ (KMUTNB Innovation & Sustainability : Together for Tomorrow) ณ มจพ. กรุงเทพฯ และวิทยาเขตระยอง ในวันที่ 4-5 ตุลาคม 2567 เวลา 09.00-16.00 น. ณ ลานอเนกประสงค์ และคณะต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ทั้ง 2 วิทยาเขต กิจกรรมเปิดบ้านครั้งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อนักเรียน นักศึกษาที่กำลังศึกษาหรือใกล้จะสำเร็จการศึกษา เพื่อวางแผนและเตรียมตัวเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาได้ทราบรายละเอียดหลักสูตร สาขาวิชา การจัดการเรียนการสอนของแต่ละคณะ รวมถึงได้สัมผัสถึงบรรยากาศและสภาพแวดล้อมภายในมหาวิทยาลัยและคณะต่าง ๆ รวมทั้งกิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
มจพ. ขอเชิญทุกท่านเข้าร่วมงาน KMUTNB OPEN HOUSE 2025 สามารถเข้าเว็บไซต์ลงทะเบียนร่วมงาน เปิดให้เข้าชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย และสามารถติดตามชมการ LIVE สด ได้ตลอด 2 วัน คือ วันที่ 4-5 ตุลาคม 2567 มีกำหนดการแสดงที่เว็บไซต์ มีรายละเอียดการประกาศรับสมัคร แบ่งเป็น 2 ระดับ
ได้แก่ (1) ระดับปวช. และปริญญาตรี และ (2) ระดับปริญญาโทและเอก
ผู้สนใจเข้าร่วมงานลงทะเบียนสแกน QR CODE ได้ล่วงหน้า หรือติดตามรายละเอียดได้ที่ https://openhouse.kmutnb.ac.th
สอบถามเพิ่มเติม โทรศัพท์ 0-2555-2000 ต่อ 1626-1628, 1121, 1166, 2091 หรือที่เว็บไซต์ www.kmutnb.ac.th
ขวัญฤทัยข่าว
หากจะมองถึงธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า (XEV) ซึ่งในปัจจุบันมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศหลายปัจจัย รวมทั้งแนวโน้มกระแสนิยมในเรื่องสิ่งแวดล้อมและความเข้าใจในเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอาจเผชิญปัจจัยท้าทายจากแรงกดดันด้านการแข่งขันที่มีแนวโน้มสูงขึ้น และการเพิ่มขึ้นของสถานีชาร์จและเครื่องอัดประจุที่อาจยังไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ของผู้คน
บริษัท เทอร์ร่า ชาร์จ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทผู้ให้บริการสถานีชาร์จอันดับ1 ในญี่ปุ่น ด้านการขับขี่อย่างยั่งยืน (sustainable mobility) และ ด้านการพัฒนาเทคโนโลยีการชาร์จและการจัดการที่ออกแบบมาเพื่อผู้ประกอบการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า เพราะ Terra Charge ประเทศไทยจัดตั้งขึ้นด้วยความตั้งใจที่จะเป็นผู้ให้บริการในการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าอย่างครบวงจร โดยบริษัทคำนึงถึงรถยนต์ไฟฟ้าในไทยที่เพิ่มมากขึ้นและความต้องการของสถานีชาร์จที่สูงขึ้น จึงตั้งใจนำเสนอโซลูชั่นการติดตั้งสถานีชาร์จแบบครบวงจร (Turnkey Solution) แก่ผู้ประกอบการ พร้อมช่วยเหลือและให้คำปรึกษาแก่ผู้ใช้งานในทุกด้าน
งานนี้ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง “โก ซูซูกิ” กรรมการผู้จัดการในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวถึงจุดมุ่งหมายที่แข็งแกร่งของเทอร์ร่าฯว่า
“เทอร์ร่า ชาร์จ เราเชื่อว่า “ความยั่งยืน” หรือ การดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมจะส่งผลต่อการเติบโตของสังคมอย่างเสมอภาคเราจึงได้นำแนวคิดของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) สะท้อนให้เห็นผ่านการบริหารงาน และการดำเนินงานขององค์กรที่มีความมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อสังคมที่ดีกว่า”
ด้าน “มาซาโนริ ทาคาฮาชิ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านเทคโนโลยีในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้เน้นย้ำชัดเจนว่า
“เทอร์ร่า ชาร์จ เราพร้อมนำนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนในอนาคต เราไม่ได้เป็นแค่สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยสิ่งสำคัญคือความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีในญี่ปุ่น เราพร้อมผลักดันให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมุ่งมั่นที่จะใช้พลังงานสะอาดทำให้สังคมน่าอยู่ขึ้น เราพร้อมปฏิวัติวงการรถยนต์ไฟฟ้าให้ดีขึ้นด้วยโซลูชั่นการชาร์จของเราที่เน้นย้ำในเรื่องของคุณภาพและความน่าเชื่อถือ เราไม่เป็นเพียงผู้ขับเคลื่อนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่เรายังยึดมั่นความก้าวหน้าด้วยหลักการ ESG ที่คำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล”
สำหรับโซลูชั่นการให้บริการ ทางเทอร์ร่าฯ มีตั้งแต่บริการสถานีชาร์จครบวงจร ตอบโจทย์ทุกความต้องการในการติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ครอบคลุมทุกมิติตั้งแต่จัดหาเครื่องชาร์จที่เหมาะสมกับพื้นที่ ดำเนินการขออนุญาตหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตั้ง พัฒนาแอปพลิเคชันและการจัดการระบบหลังบ้าน รวมถึงบริการหลังการขายทั้งการให้คำปรึกษา และ ซ่อมบำรุง ตลอดจนประเมินผลตอบแทนจากการลงทุนสถานีชาร์จ ด้วยประสบการณ์ติดตั้งสถานีชาร์จมาแล้วกว่า 20,000 หัวชาร์จที่ประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบัน ได้ติดตั้งสถานีชาร์จ ตามคอนโดและโรงแรมต่าง ๆ ในไทยกว่า 100 จุด อีกทั้งตั้งเป้าหมายขยายสถานีชาร์จอีก 1,000 จุด ในปี 2569 อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีบริการเครื่องชาร์จ ทั้งการชาร์จแบบธรรมดา (AC Charger) และการชาร์จแบบเร็ว (DC Charger) เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า และความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่หรือธุรกิจขนาดเล็กไปจนขนาดใหญ่ รวมถึงบริการติดตั้งสถานีชาร์จ โดยทีมวิศวกรและช่างผู้ชำนาญการ พร้อมแอปพลิเคชันและระบบจัดการ
ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยการใช้งานที่สะดวก ง่ายดาย และมีประสิทธิภาพ
การดำเนินธุรกิจของเทอร์ร่าฯ คือมีวิสัยทัศน์ ก้าวเป็นผู้นำในการสร้างเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมทั้งส่งเสริมการขับเคลื่อนยานยนต์ไฟฟ้า โดยการขยายเครือข่ายสถานีชาร์จที่คำนึงถึงการใช้ชีวิตของผู้ใช้งานเป็นหลัก เพื่อผลักดันการใช้พลังงานสะอาดขับเคลื่อนทุกการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อโลกและอนาคตของคนรุ่นต่อไป
สอบถามเพิ่มเติมหรือติดต่อซื้อสินค้าและบริการ ติดต่อได้ที่ Call Center 02-114-8961
(24 ชั่วโมง) หรือ Line: @terracharge_th ข้อมูลเพิ่มเติม www.terra-charge.co.th
กรุงเทพฯ, 12 กันยายน 2567 – การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่ามูลค่
สำหรับประเทศไทย การ์ทเนอร์คาดว่าในปี 2568 ยอดใช้จ่ายด้านความปลอดภัยข้อมู
ชัยเลนดรา อูปัดห์เญ หัวหน้าฝ่ายวิจัยอาวุโสการ์
“นอกจากนั้น เวลานี้องค์กรต่าง ๆ อยู่ในขั้นของการประเมินประสิ
การนำ AI และ GenAI มาใช้อย่างต่อเนื่อง ช่วยเพิ่มการลงทุนในตลาดซอฟต์
ตารางที่ 1 มูลค่าการใช้จ่ายของผู้ใช้
| Segment | 2023 Spending | 2023 Growth (%) | 2024 Spending | 2024 Growth (%) | 2025 Spending | 2025 Growth (%) | |||||||
| Security Software | 76,574 | 13.6 | 87,481 | 14.2 | 100,692 | 15.1 | |||||||
| Security Services | 65,556 | 13.6 | 74,478 | 13.6 | 86,073 | 15.6 | |||||||
| Network Security | 19,985 | 6.2 | 21,912 | 9.6 | 24,787 | 13.1 | |||||||
| Total | 162,115 | 12.7 | 183,872 | 13.4 | 211,552 | 15.1 |
ที่มา: การ์ทเนอร์ (สิงหาคม 2567)
นับตั้งแต่ GenAI เปิดตัว แฮกเกอร์ใช้เครื่องมือต่าง ๆ ร่วมกับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) เพื่อสร้างการโจมตีแบบ Social Engineering โดยมุ่งเป้าขนาดใหญ่มากขึ้นเรื่
เมื่อองค์กรยังคงย้ายไปใช้
การขาดแคลนทักษะในอุ
เกี่ยวกับการ์ทเนอร์
บริษัท การ์ทเนอร์ (Gartner, Inc.) (NYSE: IT) คือบริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาชั้
ศ.ดร.สุชาติ เซี่ยงฉิน อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ศ.ดร.สมฤกษ์ จันทรอัมพร รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ และ รศ.ดร.สุรพันธ์ ยิ้มมั่น รองอธิการบดีฝ่ายส่งเสริมอุตสาหกรรมและพัฒนาธุรกิจศึกษา ร่วมลงนามความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กับ พล.ท เขมชาติ ปัตตะนุ เจ้ากรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม พล.ต. อดิศร จรัส ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน กรมยุทธการทหาร เจ้ากรมยุทธการทหาร และ พล.ต ระวี ตั้งพิทักษ์กุล ผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพบก พร้อมด้วยผู้บริหารทั้งสองฝ่ายร่วมเป็นสักขีพยาน ในวันที่ 10 กันยายน 2568 ณ ห้อง Cloud 9 ชั้น 9 สำนักวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มจพ.
พิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาระหว่าง กระทรวงกลาโหม (กห.) และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) มีวัตถุประสงค์ เพื่อการพัฒนาศักยภาพการวิจัยและพัฒนาวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์และสาขาอื่น ๆ เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการบริหารจัดการและการบูรณาการด้านการวิจัยและพัฒนาสร้างนวัตกรรมใหม่ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีป้องกันประเทศให้สามารถขยายผลการวิจัยและพัฒนาสู่การผลิตและใช้งานของกองทัพอย่างเป็นรูปธรรม อันจะเป็นการส่งเสริมด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศให้เกิดการพึ่งพาตนเอง และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ รวมทั้งแลกเปลี่ยนความรู้ ทรัพยากร และบุคลากร ด้านวิจัยและพัฒนา ตลอดจนการผลิตและพัฒนาบุคลากรเพื่อการเพิ่มพูนความรู้ที่ทั้งสองฝ่ายมีความสนใจร่วมกัน เพื่อพัฒนาให้มีคุณภาพ มาตรฐาน และปริมาณ สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ โดยมีระยะเวลาความร่วมมือ 5 ปี
ขวัญฤทัย ข่าว/วุฒิสิทธิ์ ถ่ายภาพ
เบอร์ลิน (5 กันยายน 2567) เอเซอร์ ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ Copilot+ PC เปิดตัว Acer Swift Go 14 AI และ Acer Swift 14 AI มอบประสิทธิภาพการใช้งานที่หลากหลายและยกระดับอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้อย่างน่าทึ่ง Acer Swift Go 14 AI มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ Snapdragon® X Plus 8-core ใหม่ในดีไซน์ที่พกพาสะดวก ขณะที่ Acer Swift 14 AI ใช้โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen™ AI 300 Series ใหม่ที่มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม AMD XDNA™ 2 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล AI โดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพโดยรวม. โน้ตบุ๊กสองรุ่นนี้เหมาะสำหรับการทำงานด้านสร้างสรรค์ การทำงานทั่วไป หรือการสตรีมมิ่งขณะเดินทาง คอมพิวเตอร์ Copilot+ PC ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการเวิร์คโหลดและแอปพลิเคชัน AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อยกระดับประสบการณ์ดิจิทัลให้ดียิ่งขึ้น
นายเจมส์ ลิน ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊ก, เอเซอร์ อิงค์ กล่าวว่า “คอมพิวเตอร์ซีรีย์ Swift AI ใหม่นี้ เป็นโน้ตบุ๊กที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาเพื่อการทำงาน การเรียนรู้ และเอนเตอร์เทนเมนต์ให้ตอบโจทย์การใช้งานทุกฟังก์ชัน โดยโน้ตบุ๊ก Swift ซีรีย์ มีระบบการประมวลผลบนโปรเซสเซอร์ AI ที่ทรงพลังที่สุดรุ่นหนึ่งในปัจจุบัน เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้นำเสนอความก้าวหน้าและประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยมให้กับทุกท่าน”
ประสบการณ์ Copilot+ PC และชุดฟีเจอร์ด้าน AI กับ Acer
Copilot+ PC ช่วยให้ผู้ใช้ได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ในการโต้ตอบ ความคิดสร้างสรรค์ และสื่อสารไปกับ Swift โดยมีฟีเจอร์ดังนี้:
แอปพลิเคชันที่ออกแบบด้วย AI ของ Acer มีให้ใช้งานบนโน้ตบุ๊ก Swift AI จะช่วยให้การใช้งานในชีวิตประจำวันสะดวกยิ่งขึ้น แอปพลิเคชัน AcerSense ทำให้การควบคุมการใช้งานของโน้ตบุ๊กเป็นเรื่องง่าย เช่น การเปลี่ยนการตั้งค่าระบบ การตรวจสอบ การเข้าถึงฟีเจอร์ AI ที่มีอยู่ และการปรับแต่งค่าต่างๆ ด้วยการคลิกเพียงปุ่ม AcerSense.
เครื่องมือการประชุมที่เพิ่มประสิทธิภาพด้วย AI ของ Acer ใน Acer PurifiedView™ 2.0 และ Acer PurifiedVoice™ 2.0 ทำงานร่วมกันเพื่อให้ผู้ใช้ดูดีและช่วยควบคุมเสียงให้ดี ระหว่างการสื่อสารบนช่องทางออนไลน์ ฟีเจอร์เหล่านี้สามารถเข้าถึงและตั้งค่าได้ทันทีด้วย Acer QuickPanel ที่จะปรากฏขึ้นอัตโนมัติเมื่อกล้องเว็บแคมและไมโครโฟนเปิดใช้งาน.
Acer User Sensing ช่วยปกป้องข้อมูลบนหน้าจอแม้ว่าผู้ใช้จะไม่อยู่ ด้วยเซ็นเซอร์ระยะใกล้ที่ติดตั้งในโน้ตบุ๊กจะตรวจจับระยะการเคลื่อนไหวของผู้ใช้งาน ส่งผลให้หน้าจอล็อกโดยอัตโนมัติเมื่อผู้ใช้อยู่ห่างออกไป และเมื่อกลับมาเพื่อใช้งาน ก็สามารถเข้าสู่ระบบได้อย่างง่ายดายด้วย Windows Hello.
Acer Swift Go 14 AI: Copilot+ PC ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
Acer ได้เปิดตัวโน้ตบุ๊กซีรีย์ Swift Go ที่มาพร้อมกับ Copilot+ PC ที่มีประสิทธิภาพการประมวลผลระดับสูงเพื่อรองรับความต้องการการทำงานในปัจจุบัน Acer Swift Go 14 AI (SFG14-01) ใช้โปรเซสเซอร์ Snapdragon X Plus ที่มีการประมวลผลสูงถึง 8 คอร์ ความเร็วสูงสุด 3.4 GHz และ Qualcomm® Hexagon™ NPU ให้ประสิทธิภาพด้าน AI ถึง 45 TOPS รวมถึงหน่วยความจำ LPDDR5X สูงสุดที่ 32 GB และ SSD NVMe PCIe Gen 4 ขนาดสูงสุด 1 TB ซึ่งทำให้การทำงานมัลติทาสก์เป็นไปอย่างลื่นไหลและมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเพียงพอ สำหรับการทำงานและการเล่นวิดีโอได้ยาวนานถึง 28 ชั่วโมงแม้ในกรณีที่มีเวิร์คโหลดหนักก็ตาม.
ซัพพอร์ททุกฟังก์ชันเพื่อความบันเทิง จอแสดงผล WQXGA (2560X1600) ขนาด 14.5” อัตราการรีเฟรช 120 Hz และรองรับช่วงสี sRGB 100% โดยจอแสดงผลยังผ่านการรับรองจาก RPF 50 ซึ่งลดแสงสีฟ้าได้ 50% และลดความอันตรายของแสงสีฟ้าลงได้มากกว่า 20% โดยผู้ใช้งานจะได้รับประสบการณ์ในด้านคุณภาพเสียงจากลำโพงคู่ที่ผสานระบบเสียง DTS:X Ultra รวมถึงกล้อง QHD IR ความละเอียด 1440p พร้อมชัตเตอร์แบบไพรเวตเพื่อให้แน่ใจว่าจะได้รับการปกป้องความเป็นส่วนตัว แม้จะไม่ได้เปิดกล้องเพื่อใช้งานก็ตาม
โดยฟีเจอร์ทั้งหมดนี้อยู่ในโน้ตบุ๊กรุ่นล่าสุดนี้แสดงถึงความพร้อมด้านเทคโนโลยี AI และฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ได้รับการพัฒนามาอย่างดี โดยมีไอคอน AI บนฝาครอบอลูมิเนียมที่บางเบา และสัญลักษณ์ AI Activity Indicator บนทัชแพดที่สว่างขึ้นเมื่อ NPU หรือ Copilot กำลังทำงาน นอกจากนี้ยังมีการออกแบบฝาพับแบบ 180 องศาช่วยให้การแสดงผลมุมมองต่าง ๆ มีประสิทธิภาพและเปิดใช้งานได้ด้วยมือเดียว รวมถึงพอร์ตเชื่อมต่อมากมาย เช่น USB 4.0 Type-C สองพอร์ตที่รองรับการชาร์จเร็ว, USB Type-A สองพอร์ต, Wi-Fi 7 และ Bluetooth™ 5.4 เพื่อการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเชื่อถือได้
Acer Swift 14 AI: ประสบการณ์ Copilot+ PC ที่ยอดเยี่ยม กับ AMD Ryzen AI 300 รุ่นใหม่
Acer Swift 14 AI (SF14-61/T) ได้รับการออกแบบให้เข้ากับการทำงานและความต้องการด้านการประมวลผลรูปแบบต่าง ๆ ยกระดับความสามารถการทำงานด้วยเครื่องมือและผู้ช่วยด้าน AI ภายในอุปกรณ์ ช่วยให้การทำงานที่หนักหน่วงและการทำงานหลายอย่างพร้อมกันบน AI PC เป็นเรื่องง่ายดาย ด้วยโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen AI 9 365 ได้รับการอัปเกรดผ่านสถาปัตยกรรม AMD XDNA 2 และสแต็คด้วยคอร์ “Zen 5”ประสิทธิภาพสูงสุดจำนวน 10 คอร์ เสนอพลังการประมวลผลด้าน AI สูงสุด 50 NPU TOPS ในขณะเดียวกันยังช่วยยืดระยะการใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานถึง 27 ชั่วโมง มาพร้อมหน่วยความจำ LPDDR5X สูงสุด 32 GB และพื้นที่เก็บข้อมูล NVMe PCIe Gen 4 สูงสุด 2 TB เพื่อตอบสนองการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Acer Swift 14 AI มีดีไซน์พรีเมียมสุดบางเบา โดยฝาพับสามารถเปิดกว้างได้ถึง 180 องศาเพื่อการใช้งานที่หลากหลายและยังสะดวกต่อการพกพา ด้วยน้ำหนักเพียง 1.32 กิโลกรัม ปุ่ม Copilot บนแผงคีย์บอร์ดพร้อมไฟแบ็คไลท์จะแสดงสัญลักษณ์ส่องสว่างบนทัชแพตทันทีเมื่อมีการเปิดใช้งาน
Acer Swift 14 AI จอแสดงผล WQXGA ขนาด 14 นิ้ว (2880×1800) ที่ให้ภาพสมจริง รองรับฟีเจอร์ VESA DisplayHDR™ TrueBlack 500 และ Eyesafe 2.0 โดยมีความสว่างสูงสุด 500 nits และอัตราส่วนความคมชัด 1,000,000:1 จึงให้ภาพที่สดใสและคมชัด นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกจอ IPS WQXGA ที่อัตราการรีเฟรช 120 Hz และจอทัชสกรีนเพื่อเพิ่มประสบการณ์การโต้ตอบที่เพิ่มขึ้น คุณภาพด้านเสียงที่มาพร้อมลำโพงคู่ที่ใช้เทคโนโลยี DTS:X Ultra เพื่อเสียงที่คมชัด กล้อง QHD IR ความละเอียด 1440p มีไพรเวทชัตเตอร์ช่วยให้ทุกการโต้ตอบออนไลน์มีความคมชัดและเป็นส่วนตัวแม้เมื่อกล้องไม่ได้เปิดใช้งาน รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.4 พร้อมพอร์ตต่าง ๆ เช่น USB Type-C สองพอร์ต (รองรับ USB 4 และการชาร์จ USB), USB Type-A 3.2 สองพอร์ต, และ HDMI 2.1
ราคาและการวางจำหน่าย
Acer swift Go 14 AI (SFG14-01) วางจำหน่ายในทวีปอเมริกาเหนือช่วงเดือนกันยายน ราคาเริ่มต้น 999.99 USD ภูมิภาคยุโรปตะวันออกกลางและแอฟริกา (EMEA) เริ่มวางจำหน่ายในเดือนกันยายน ราคาเริ่มต้นที่ 999 EUR และในออสเตรเลียจะเริ่มวางจำหน่ายช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 ในราคาเริ่มต้น 1,399 AUD
Acer Swift 14 AI (SF14-61/T) วางจำหน่ายในทวีปอเมริกาเหนือช่วงเดือนกันยายน ราคาเริ่มต้น 1,199.99 USD, ภูมิภาคยุโรปตะวันออกกลางและแอฟริกา (EMEA) วางจำหน่ายในเดือนกันยายน ราคาเริ่มต้นที่ 1,199.99 EUR, ในออสเตรเลียจะเริ่มวางจำหน่ายช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 ในราคาเริ่มต้น 2,799 AUD
ข้อมูลผลิตภัณฑ์ ราคา และการวางจำหน่าย มีความแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความพร้อมการวางจำหน่าย และราคาในแต่ละภูมิภาค กรุณาติดต่อ Acer ในแต่ละภูมิภาคผ่านทาง www.acer.com