Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

อาจารย์ วิศวะ มจพ. พัฒนาอุปกรณ์สวมตลับลูกปืนเน้นฟังก์ชั่นขดลวดเหนี่ยวนำความร้อน

ผลงานของ ผศ.พิพิถนนท์   พูลสวัสดิ์ อาจารย์สาขาวิชาวิศวกรรมการผลิต ภาควิชาวิศวกรรมการผลิตและหุ่นยนต์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.)  กำลังอยู่ในระหว่างการจดอนุสิทธิบัตร เรื่อง อุปกรณ์ให้ความร้อนตลับลูกปืนด้วยขดลวดเหนี่ยวนำ เป็นการใช้หลักการเหนี่ยวนำทางไฟฟ้า ให้สามารถตอบโจทย์ในส่วนของกรรมวิธีการผลิตในการสวมประกอบ เป็นกระบวนการที่มีความรวดเร็ว ไม่สกปรกและสามารถควบคุมอุณหภูมิและให้ความร้อนในส่วนที่ต้องการได้ แต่เนื่องจากในปัจจุบันเครื่อง Induction bearing heater สำหรับตลับลูกปืน ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่มาก ยังมีราคาที่สูงอยู่ซึ่งอาจไม่คุ้มต่อการลงทุนสำหรับตลับลูกปืนขนาดเล็ก ยังมีการสวมอัดตลับลูกปืนด้วยวิธีทางกลโดยการตอก จึงเป็นที่มาแนวคิดและพัฒนาการออกแบบและสร้างเครื่อง Induction heater สำหรับตลับลูกปืนที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 30 มิลลิเมตร เส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 40 มิลลิเมตร อุปกรณ์สวมตลับลูกปืนที่ใช้การความร้อนกับตลับลูกปืนด้วยขดลวดเหนี่ยวนำนั้น ถือได้ว่าเป็นวิธียืดอายุการใช้งานตลับลูกปืนให้ใช้งานยาวขึ้น และลดความเสียหายของชิ้นส่วนที่สวมประกอบ ช่วยประหยัดเวลาในการบำรุงรักษา และประหยัดค่าใช้จ่ายการบำรุงรักษา รวมถึงมีประสิทธิภาพในการใช้งานมากขึ้น โดยได้รับทุนสนับสนุนจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ ระยะเวลาในการทำวิจัย 1 ปี

ผศ.พิพิถนนท์ อธิบายให้ฟังว่า วัตถุประสงค์ของพัฒนาอุปกรณ์สวมตลับลูกปืน เพื่อช่วยในการสวมประกอบตลับลูกปืนกับเพลา โดยไม่ให้เกิดความเสียหาย และให้ได้ฟังก์ชั่นการทำงานที่สมบูรณ์ การสวมประกอบตลับลูกปืน (Bearing) เข้ากับเพลาด้วย โดยปกติจะมีค่าพิกัดงานสวมเป็นเกณฑ์กำหนดอยู่แล้ว ชนิดของงานสวมให้เราเลือกว่าจะเลือกงานสวมอัด สวมพอดี ในงานสวมประกอบยังแบ่งออกเป็นเพลาคงที่และรูคว้านคงที่ ซึ่งขึ้นอยู่กับหน้าที่ของชิ้นส่วนส่งกำลังและฟังก์ชั่นการทำงานของเครื่องจักรนั้น ในส่วนของตลับลูกปืนเป็นการสวมชนิดรูคว้านคงที่ พิกัดงานสวมมีความสำคัญในการออกแบบและการประกอบ จึงได้เริ่มมีการใช้หลักการการให้ความร้อนโดยตรงกับตลับลูกปืนเพื่อให้แบริ่งเกิดการขยายตัว และสามารถสวมกับเพลาได้ การใช้ความร้อนในการทำให้ตลับลูกปืนขยายตัว

ลักษณะเด่นของการพัฒนาอุปกรณ์สวมตลับลูกปืน ใช้หลักการของเครื่องให้ความร้อนตลับลูกปืนด้วยการเหนี่ยวนํา  เมื่อป้อนกระแสไฟเข้าที่ขดลวดเหนี่ยวนํา ซึ่งเปรียบได้กับขดลวดปฐมภูมิของหม้อแปลงไฟฟ้าก็จะมีกระแสไหลผ่านขดลวดซึ่งกระแสนี้ จะทําให้เกิดเส้นแรงแม่เหล็กขึ้น เส้นแรงแม่เหล็กที่เกิดขึ้นนี้จะไปตัดกับตลับลูกปืน   ในที่นี้ตลับลูกปืนเปรียบเหมือนขดลวดที่มีปลายทั้งสองข้างติดถึงกัน  ดังนั้น จึงทําให้เกิดกระแสไหลในตลับลูกปืนกระแสนี้เรียกว่า กระแสไหลวน กระแสไฟฟ้านี้จะทําให้เกิดความร้อนในตลับลูกปืนขึ้น ยิ่งมีกระแสไหลวนมากเพียงใดก็จะทําให้ ตลับลูกปืนร้อนมากขึ้นกระแสไหลวนจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ  (1)  กระแสที่ไหลผ่านขดลวดเหนี่ยวนําถ้ามีกระแสมาก กระแสไหลวนที่เกิดขึ้นในตลับลูกปืนก็จะมากด้วย (2) ค่าสัมประสิทธิ์ (Coefficient) ของการเหนี่ยวนํา และ (3)   อัตราส่วน (Ratio) ระหว่างจํานวนของขดลวดเหนี่ยวนําตลับลูกปืน

อย่างไรก็ตาม ผศ.พิพิถนนท์ กล่าวเสริมว่า วิธีการดำเนินงานได้ทำการออกแบบด้านฮาร์ดแวร์ โดยได้ดำเนินพัฒนาและทดสอบประสิทธิภาพเครื่อง/ผลการทดสอบ ทดลองกับตลับลูกปืน รูในเส้นผ่านศูนย์กลาง 30 มิลลิเมตร สวมกับเพลาโดยให้พิกัดงานสวมพอดีและงานสวมอัด ที่อุณหภูมิไม่เกิน 150 องศาเซลเซียส ใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที ในการสวมประกอบ  ระหว่างใช้งาน เช่น การหมุน การเลื่อน และถอดเปลี่ยนชิ้นส่วนอุปกรณ์สวมตลับลูกปืน ก็เกิดการสึกหรอก และเป็นสนิมได้ หากการพัฒนาอุปกรณ์ให้ความร้อนตลับลูกปืนด้วยขดลวดเหนี่ยวนำ ยังช่วยในเรื่องของการลดการชำรุด ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายการบำรุงรักษา โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนเพลาหรือเฟือง ทำให้การหมุนคล่องตัว และช่วยตรวจสอบเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่เมื่อเกิดการสึกหรอหรือชำรุดก็สะดวกขึ้น รวมถึงมีประสิทธิภาพในการใช้งานมากขึ้น  การใช้ความร้อนตลับลูกปืนด้วยขดลวดเหนี่ยวนำ ยังเป็นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย

การพัฒนาอุปกรณ์ให้ความร้อนตลับลูกปืนด้วยขดลวดเหนี่ยวนำสามารถเป็นต่อยอดพัฒนาไปสู่อุตสาหกรรมด้านการผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์และหากนำไปทำในเชิงพาณิชย์ได้โอกาสและทิศทางเป็นไปได้มากเนื่องจากต้นทุนของเครื่องราคาไม่สูงโดยงบประมาณไม่เกินสองหมื่นบาทเฉพาะค่าวัสดุและอุปกรณ์

สอบถามรายละเอียดได้ที่  ภาควิชาวิศวกรรมการผลิตและหุ่นยนต์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ  โทรศัพท์ 0-2555-2000 ต่อ  8217

ขวัญฤทัยข่าว


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

อาจารย์ วทอ.มจพ. สร้างนวัตกรรมเครื่องคัดแยกดอกดาวเรือง อนุสิทธิบัตรแรกของคนไทย

ผศ.ขวัญชัย เสวีนันท์  ภาควิชาเทคโนโลยีวิศวกรรมเครื่องกล   วิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.)  ผู้สร้างนวัตกรรมเครื่องคัดแยกขนาดดอกดาวเรือง  ชิ้นแรกของคนไทย ที่ได้รับอนุสิทธิบัตร เลขที่ 21280 จดทะเบียน เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2566 ไอเดียเกิดจากการมองเห็นปัญหาของเกษตรกรไทย ด้านอุปกรณ์ทุ่นแรง ด้านการใช้แรงงานในภาคเกษตรลดลง รวมถึงยังขาดแคลนนวัตกรรมเกษตรที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีในการอำนวยความสะดวกในการทำงาน การลดระยะเวลา การลดจำนวนแรงงานคน เพื่อเพิ่มผลผลิตให้มากขึ้น โดยขนาดของเครื่องมีความกว้าง  1,220 ยาว 2,450  สูง 1,550 มิลลิเมตร  ชุดโครงสร้างเครื่องจะประกอบไปด้วย ชุดถาดเขย่า ชุดลำเลียงและคัดแยก ชุดเปลี่ยนทิศทาง โครงเครื่องทำหน้าที่รองรับชิ้นส่วนต่าง ๆ  ถาดเขย่าตัวที่ป้อนดอกดาวเรือง ทำให้ดอกดาวเรืองเคลื่อนที่ตกลงมายังชุดเปลี่ยนทิศทางที่ดึงและลำเลียงดอกดาวเรืองที่ตกลงมาในแบบดอกที่เป็นลักษณะคว่ำ เพื่อให้ง่ายต่อการคัดแยกขนาด ชุดลำเลียงจะลำเลียงและคัดแยกขนาดของดอกดาวเรืองได้ทั้ง  ขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ชุดรองรับทำหน้าที่รองรับดอกดาวเรืองที่ตกลงมาจากชุดลำเลียงนำดอกดาวเรืองตกลงไปที่ตะกร้าด้านล่าง โดยที่ปลายของถาดรองรับมีตัวนับจำนวน    การออกแบบและสร้างเครื่องคัดแยกขนาดดอกดาวเรืองนำไปใช้งานทางการเกษตร ที่สามารถควบคุมระยะเวลาในการคัดแยกและลดความผิดพลาดจากการคัดแยกขนาดดอกดาวเรือง  ที่ครอบคลุมถึงการวางแผนการเพาะปลูกและสามารถเพิ่มผลผลิตที่มีคุณภาพขนาดของดอกดาวเรืองให้สมบูรณ์มากขึ้น

ผศ. ขวัญชัย เปิดเผยว่า ตนเองและคณะทำงานได้ลงพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร  ซึ่งเป็นพื้นที่ชาวเกษตรกรทำการปลูกดาวเรืองเป็นจำนวนมาก  ซึ่งในภาพรวมแล้วชาวเกษตรกรที่เพาะปลูกดอกดาวเรืองเพื่อการขายส่งตามฤดูกาล และเมื่อมีผลผลิตออกสู่ท้องตลาดเพื่อส่งจำหน่ายมีจำนวนมาก ความต้องการของดอกดาวเรืองจึงมีเพียงพอ ในทางกลับกันด้านแรงงานและกำลังคนในการตัดและคัดแยกดอกดาวเรืองขาดแคลน และไม่เพียงพอกับความต้องการ อีกทั้งทุกขั้นตอนของการคัดแยกดอกดาวเรืองยังใช้แรงงานคนที่มีทักษะและชำนาญสูงในการเก็บเกี่ยว และต้องมีประสบการณ์ในการทำงานลักษณะนี้ หากชาวเกษตรกรขาดทักษะและความชำนาญก็จะใช้ระยะเวลานาน และมีโอกาสในการคัดแยกดอกดาวเรืองผิดพลาด ส่งผลต่อคุณภาพของดาวเรืองอีกด้วย 

ลักษณะเด่นของเครื่องคัดแยกดอกดาวเรืองสอดคล้องกับลักษณะการใช้งานชาวเกษตรกรที่ง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก ด้วยมีขนาดของเครื่องที่ถูกออกแบบรองรับได้เป็นอย่างดีด้วยชุดโครงสร้างเครื่องอย่าง ชุดถาดเขย่า ชุดลำเลียงและคัดแยก เป็นต้น ด้านความแม่นยำของชุดลำเลียงก็จะ ลำเลียงและคัดแยกขนาดของดอกดาวเรืองได้ทั้ง  ขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ได้ตามที่กำหนดไว้ เมื่อดอกดาวเรืองถูกชุดถาดเขย่าแล้ว ก็จะสู่กระบวนการลำเลียงและตกลงไปที่ตะกร้าที่รองรับไว้ด้านล่างของถาดรองรับดอกดาวเรืองพร้อมๆ กับตัวนับจำนวนดอกดาวเรือง จำนวนการคัดแยก 100 ดอกต่อ 3 นาที  สำหรับงบประมาณที่ใช้สร้างเครื่อง 50,000 บาท ใช้เวลาสร้าง  2 เดือน

นวัตกรรมเครื่องคัดแยกดอกดาวเรืองนี้ นับว่าเป็นประโยชน์ต่อชาวเกษตรกรและได้เสียงตอบรับที่ดี ประการสำคัญคือ สามารถตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายคือ การลดแรงงานคนของชาวเกษตรกร และยังช่วยในเรื่อง เวลาที่รวดเร็ว และประหยัดเวลาในการคัดแยกดอกดาวเรื่อง  รวมถึงช่วยลดข้อผิดพลาดในการคัดแยกดอกดาวเรือง  และนำไปต่อยอดความรู้โดยนำไปประยุกต์ใช้กับการเกษตรเพื่อให้การทำงานรวดเร็วขึ้น  ลดต้นทุนและประหยัดค่าใช้จ่าย และยังสามารถวางแผนในการทำการเกษตรครั้งต่อไปได้ และรวมไปถึงผลผลิตที่ดี มีคุณภาพ อนาคตสามารถใช้งานด้านอุตสาหกรรมเกษตรที่กว้างขวางมากขึ้นตามลำดับ ผศ. ขวัญชัย กล่าวท้ายที่สุด

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่  ผศ.ขวัญชัย  เสวีนันท์   ภาควิชาเทคโนโลยีวิศวกรรมเครื่องกล วิทยาลัยเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ โทรศัพท์ 081-803-8767

ขวัญฤทัย ข่าว


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

มจพ. แถลงข่าวทีมหุนยนต์ iRAP ROBOT คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 9 โชว์นวัตกรรมยอดเยี่ยมระดับโลก

.ดร.สุชาติ  เซี่ยงฉิน อธิการบดี  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) เปิดเผยว่า ทีมหุ่นยนต์  iRAP Robot  (ไอราฟ โรบอท) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) คว้าแชมป์โลกรางวัลชนะเลิศ หุ่นยนต์กู้ภัย World Robocup Rescue 2023 โดยเป็นแชมป์โลกสมัยที่ 9 และได้รางวัล Best in class mobility (สมรรถนะการขับเคลื่อนยอดเยี่ยม) และ รางวัล Best in class mapping (การสร้างแผนที่จำลองเสมือนจริงยอดเยี่ยมระดับโลก) ณ เมืองบอร์โด ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 4 -10 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา  ผลงานหุ่นยนต์  iRAP Robot  นับเป็นการสร้างชื่อเสียงในระดับโลกให้ประเทศไทยและ มจพ. แชมป์โลกหุ่นยนต์กู้ภัยสมัยที่ 9  มจพ. จึงเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกแห่งเดียวในโลกที่เป็นแชมป์หุ่นยนต์กู้ภัยถึง  9 สมัย ยืนหนึ่งโชว์นวัตกรรมที่ยอดเยี่ยมระดับโลก นับได้ว่ามีความสำเร็จเป็นอย่างมากทั้งในด้านของทีมเวิร์คของนักศึกษาทีมแชมป์โลกหุ่นยนต์กู้ภัยของมหาวิทยาลัยได้นำชื่อเสียงมาสู่มหาวิทยาลัยและประเทศชาติครั้งนี้  โดยมีทีมหุ่นยนต์กู้ภัยเข้าร่วมจำนวน 17 ทีม จากนานาประเทศชั้นนำด้านเทคโนโลยี ประกอบด้วย อเมริกา เยอรมัน ญี่ปุ่น จีน เม็กซิโก บังกลาเทศ เกาหลีใต้ ออสเตรีย ฝรั่งเศส ตุรกี และไทย  โดยประเทศไทยสามารถคว้าชัยชนะได้

อาจารย์ดร.อรัญ แบล็ทเลอร์ อาจารย์ที่ปรึกษาและควบคุมทีม กล่าวว่า เมื่อหุ่นยนต์ iRAP Robot ปรากฏตัวขึ้นในสนามย่อมเป็นตัวเต็งในการแข่งขันครั้งนี้ สามารถสะกดสายตาทีมอื่น ด้วยศักดิ์ศรีที่เป็นแชมป์โลกหลายสมัย จึงทำให้ทีมเราต้องพัฒนาศักยภาพ และสร้างสรรค์นวัตกรรมที่โดดเด่น ฝีมือขั้นเทพจากนักศึกษารั้วมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ แบบ 100%” เติมเต็มทุกกระบวนการในการสร้างหุ่นยนต์ให้ตรงความต้องการของโจทย์และกติกาการแข่งขันในเวทีระดับโลกยุคใหม่ในหลาย ๆ ด้าน สำหรับการพัฒนาต่อยอดให้ความสำคัญเทคโนโลยีทุกด้าน รวมถึงการสร้างหุ่นยนต์ให้เป็นอัตโนมัติมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรักษาแชมป์ให้ได้ต่อไป  ในปีนี้หุ่นยนต์ iRAP Robot ได้รับรางวัล Best in class mapping (การสร้างแผนที่จำลองเสมือนจริงยอดเยี่ยมระดับโลก) เป็นรางวัลที่สร้างภาคภูมิใจมาก เนื่องจากได้รับคื่นชมจากคณะกรรมผู้ตัดสินว่าได้ออกแบบ และสร้างแผนที่จำลองเสมือนจริงที่สมบูรณ์แบบกว่าทุกปีที่ผ่านมา นับเป็นปีแรกที่สามารถคว้ารางวัลนี้มาจากทีมเยอรมันได้สำเร็จ

จุดเด่นที่ทำให้ทีมหุ่นยนต์กู้ภัยคว้าแชมป์โลกในครั้งมีอยู่ 3 องค์ประกอบที่บ่งบอกถึงสมรรถนะ 3 ด้าน

1. Mobility หรือด้านการขับเคลื่อน หุ่นยนต์ของเราสามารถวิ่งผ่านสิ่งกีดขวางอย่างเช่น หิน ทราย หรือบล๊อกไม้ซึ่งเป็นการจำลองการเกิดอุบัติภัย อาคารถล่ม

2. Dexterity หรือด้านการใช้แขนกล หุ่นยนต์สามารถใช้แขนกลในการหยิบจับสิ่งกีดขวางหรือวัตถุในพื้นที่ประสบภัย หรือการเปิดประตูอาคาร

3. Exploration หรือ Mapping หรือด้านการสำรวจและทำแผนที่ หุ่นยนต์ของเราสามารถสร้างแผนที่สภาพแวดล้อมที่ได้วิ่งผ่าน เพื่อดูว่ามีสิ่งกีดขวางตรงไหนบ้าง เส้นทางการเดินทางที่เหมาะสมเป็นอย่างไร นอกจากนี้จะมีระบบการตรวจจับวัตถุอัตโนมัติซึ่งใช้ระบบของ AI หรือ Neural network ในการทำงาน โดยเมื่อระบบตรวจจับตรวจพบวัตถุ เช่นป้ายวัตถุไวไฟ วัตถุที่สามารถระเบิดได้ ตำแหน่งของวัตถุดังกล่าวจะถูกพลอตลงไปยังแผนที่ ทำให้เราจะสามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวในการช่วยเหลือทีมหน่วยกู้ภัยในการระบุเส้นทางหรือพื้นที่เสี่ยงที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อลดความเสี่ยงในการเข้าสู่พื้นที่ประสบภัยจริง

ผศ.นพดล  พัดชื่น  อาจารย์ที่ปรึกษาและควบคุมทีม เล่าให้ฟังถึงการออกแบบและสร้างหุ่นยนต์ว่า ทั้งหมดของฮาร์ดแวร์ ส่วนโครงสร้าง และการออกแบบ ถูกออกแบบและสร้างด้วยฝีมือเด็กไทย มีเพียงชิปประมวลผลที่ยังต้องอาศัยจากต่างประเทศเนื่องจากประเทศไทยยังผลิตไม่ได้  ส่วนซอฟต์แวร์ทั้งหมดก็ถูกออกแบบและสร้างขึ้นจากฝีมือนักศึกษาและอาจารย์ในทีมทั้งหมดไม่ได้ใช้ของจากต่างประเทศ  เสริมให้สมรรถนะของหุ่นยนต์  iRAP Robot  สามารถทำคะแนนมาเป็นอันดับหนึ่งทุกรอบ โดยรอบคัดเลือกได้ 1411% รอบก่อนชิงชนะเลิศได้ 695%  ซึ่งทำให้บรรยากาศการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศเป็นไปอย่างเข้มข้น สร้างความกดดันให้กับทุกทีม จากเวทีการแข่งขันหุ่นยนต์กู้ภัยโลก “World RoboCup Rescue 2023” นับได้ว่าความสำเร็จในครั้งนี้เป็นความมุ่งมั่นในการทำงานอย่างเป็นระบบมีการทำงานเป็นทีมและทุกคนมีสติและเป้าหมายร่วมกัน

สมาชิกในทีม iRAP ROBOT ที่แถลงข่าวในวันศุกร์ที่ 14 กรกฎาคม 2566 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ประกอบด้วย (1) นายจิรกานต์ สุขเจริญ (หัวหน้าทีมหุ่นยนต์ iRAP Robot) 

(2) นายฐิติยศ ประกายธรรม (3) นายภูมิทรรศน์ สังขพันธ์  (4) นายศักดิธัช วินิจสรณ์ (5) นายชัยพฤกษ์ เลาหะพานิช (6) นายอาทิตย์ นาราเศรษฐกุล (7) นายปิยภูมิ ธนวุฒิอนันต์ (8) นายกลย์ภัทร์ บุญเหลือ (9) นายธรณินทร์ อุ่นอารีย์  (10) นายธนกร กุลศรี  (11) นายนภดล   จำรัสศรี  (11) นายเจษฎากร ชัยนราพิพัฒน์ (13) นายภูบดี บุญจริง  ด้านอาจารย์ที่ปรึกษาและควบคุมทีม มี (1) ผศ.สมชาย เวชกรรม (2) รศ.ดร.ธีรวัช บุณยโสภณ (3) อาจารย์ ดร.จิรพันธุ์  อินเทียม  (4)  อาจารย์ ดร.อรัญ แบล็ทเลอร์  และ (5) ผศ.นพดล พัดชื่น

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ  (มจพ.)  ขอแสดงความยินดีและชื่นชมกับแชมป์หุ่นยนต์กู้ภัยโลก สมัยที่ 9 ของ มจพ. ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งอีกครั้ง ด้วยฝีมือสุดคลาสสิคบนเวทีโลก และสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย  อาจกล่าวได้ว่า มจพ. เป็นแชมป์โลกหุ่นยนต์ที่นานาชาติรู้จักฝีไม้ลายมือและชื่อเสียงเยาวชนไทยเป็นอย่างดี  เป็นการตอกย้ำความเป็นที่สุดของแชมป์โลกแบบครบเครื่องในระยะเวลาถึง 17 ปี  ตั้งแต่แชมป์โลกหุ่นยนต์กู้ภัยสมัยที่ 1 ของ มจพ.ในปีพ.. 2549 ( .. 2006 ) จากเวทีการแข่งขัน  World RoboCup Rescue กับทีมหุ่นยนต์กู้ภัยนานาชาติทั่วโลก ณ เมือง เบรเมน ประเทศเยอรมัน  ล่าสุด แชมป์โลกหุ่นยนต์กู้ภัยสมัยที่ 9 ของ มจพ. ในปีพ.. 2566 (.. 2023) จากเวทีการแข่งขัน World RoboCup Rescue กับทีมหุ่นยนต์กู้ภัยนานาชาติทั่วโลก ณ เมืองบอร์โด ประเทศฝรั่งเศส

นับเป็นการรักษาแชมป์โลกหุ่นยนต์กู้ภัยให้กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.)ได้สำเร็จเป็นสมัยที่  9  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ขอแสดงความยินดีและชื่นชมในความสามารถของนักศึกษาทุกท่านที่สร้างชื่อเสียงมาสู่มหาวิทยาลัยและประเทศชาติและทำให้ต่างชาติทึ่งและยอมรับในศักยภาพและความสามารถของเยาวชนไทย

ขวัญฤทัย ข่าว


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

สถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีไทย-ฝรั่งเศส มจพ. ต้อนรับ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน

ผศ.ดร.พีรพงษ์ พรวงศ์ทอง ผู้ช่วยอธิการบดี ฝ่ายวิจัยและพัฒนานวัตกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) พร้อมด้วย ผศ.ดร.วัฒนา แก้วมณี ผู้อำนวยการ และ ผศ.ดร.พรศักดิ์ ศรีสังสิทธิสันติ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารและพัฒนากิจการสถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีไทยฝรั่งเศส  ร่วมให้การต้อนรับ นางสาวบุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และคณะในโอกาสที่เข้าเยี่ยมชมการฝึกอบรมหลักสูตรผู้ตรวจสอบการเชื่อมสากล  รุ่นที่ 12/2566 โดยจัดให้กับบุคลากรจากสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 1 สมุทรปราการ  กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2566


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

มจพ. จัดพิธีมอบยานใต้น้ำไร้คนขับแก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2566 .ดร.สมฤกษ์ จันทรอัมพร รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) เป็นประธานพิธีส่งมอบยานใต้น้ำไร้คนขับเพื่อตรวจสอบแผงผลิตไฟฟ้าลอยน้ำให้แก่ คุณประเวทย์ เกิดวัดท่า ผู้อำนวยการฝายบำรุงรักษาเครื่องจักรกล การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นผู้รับมอบ โดยมี รศ.ดร.รามิล เกศวรกุล หัวหน้าโครงการวิจัย กล่าวรายงาน ณ ห้องประชุมวิจิตรวาที คณะวิศวกรรมศาสตร์ มจพ.

ทั้งนี้โครงการวิจัยพัฒนายานได้น้ำไร้คนขับมีวัตถุประสงค์เพื่อออกแบบ และสร้างยานใต้น้ำที่สามารถตรวจสอบสภาพทุ่นลอยน้ำและทุ่นใต้น้ำของแผงผลิตไฟฟ้าได้ อีกทั้งประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการประมวลผลภาพประเภทตัวกรองสัญญาณเพื่อใช้ในการตรวจสอบ  และประเมินความเสียหายเบื้องต้น 

การดำเนินโครงการวิจัย การออกแบบและสร้างพลศาสตร์ของไหลและสร้างระบบขับเคลื่อนของยาน ให้ตัวยานทรงตัวได้ขณะลอยอยู่ในน้ำ  โดยมีชุดขับดันทั้งหมด 12 ชุด ทำงานอย่างอิสระ โดยมิติของยานใต้น้ำไร้คนขับ มีตัวถังกว้าง 400 มิลลิเมตร ยาว 700 มิลลิเมตร สูง 300 มิลลิเมตร  ระบบถ่ายภาพและบันทึกวีดีโอ การประมวลผล ติดตั้งด้านหน้าหุ่นยนต์ โดยกล้องมีความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมบันทึกวีดีโอระดับ RGB และมีไฟช่วยการมองเห็น  ยานสามารถสำรวจในน้ำความลึกไม่น้อยกว่า 25 เมตร ระยะทางไม่น้อยกว่า 250 เมตร โดยติดตั้งระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก (USBL-Seatrac X150 และ X010) ระบบตรวจจับระยะด้วยเสียง (Multibeam sensor – Blueprint Subsea รุ่น Oculus M750D) รวมทั้งระบบตรวจจับความเร็วใต้น้ำ

(DVL-A50) การขับเคลื่อนระยไกล ถ่ายทอดภาพการปฏิบัติงานใต้น้ำแบบใช้สายสัญญาณโดยระบบไฟส่องสว่างใต้น้ำ ซึ่งได้ทดสอบระบบการทำงานแบบไร้สายสัญญาณใต้ของยานใต้น้ำ ณ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบทุ่นลอยน้ำ เขื่อนสิรินธร


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

สถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีไทย-ฝรั่งเศส มจพ. ร่วมกับ บ.เอส.ซุปเปอร์ เคเบิ้ล จำกัด สัมมนาวิชาการ “S. Super Campus Tour” ครั้งที่ 15

สถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีไทยฝรั่งเศส  มจพ. โดยฝ่ายเทคโนโลยีไฟฟ้าและพลังงาน ร่วมกับ บริษัท เอส.ซุปเปอร์ เคเบิ้ล จำกัด จัดสัมมนาวิชาการในโครงการ S. Super Campus Tour ครั้งที่ 15 เรื่องสายไฟฟ้าแรงดันต่ำและแสดงเครื่องทดสอบความทนกระแสของสายไฟฟ้าวันที่ 14 กรกฎาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 .ณ ห้องฝึกอบรม 704 ชั้น 7 อาคารสถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีไทยฝรั่งเศส  มจพ. รับจำนวน 40 คน  หัวข้อการสัมมนา ประกอบด้วย  ข้อมูลพื้นฐานของสายไฟฟ้า โครงสร้างของสายไฟฟ้า มาตรฐานสายไฟฟ้า สายไฟฟ้ามีวันหมดอายุหรือไม่รูปแบบการติดตั้ง (วิธีการเดินสาย) และ การคำนวณหาขนาดสายไฟฟ้า

ขอเชิญชวนคณาจารย์บุคลากรนักศึกษาเข้าร่วมสัมมนาทางวิชาการเรื่องสายไฟฟ้าแรงดันต่ำและแสดงเครื่องทดสอบความทนกระแสของสายไฟฟ้า” 

ลงทะเบียนได้ที่ลิงก์
https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSd-sErqpoI_rLrmMHBX4_Wv-rMOoLucbo7xLK9vJ3bkhx77hQ/viewform

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณวรนุช เบอร์โทร. 089 786 6190

ขวัญฤทัย ข่าว


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

คณะครุศาสตร์ฯ มจพ. จัดงานการแข่งขันการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐาน “PBL”

คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) จัดงานการแข่งขันการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐาน Problem-based learning (PBL) Thailand Green Mech contest 2023 ซึ่งจะมีพิธีเปิดงานในวันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม 2566   หอประชุมคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ สืบเนื่องจากภาควิชาครุศาสตร์ไฟฟ้า คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม ร่วมกับ บริษัทภาดา เอ็ดดูเคชั่น จำกัด โดยมี ผศ.ดร.ชัยยพล  ธงชัยสุรัชต์กูล เป็นหัวหน้าโครงการ จัดการแข่งขันมาอย่างต่อเนื่องประจำทุกปี ในหัวข้อ Thailand Green Mech Contest มีวัตถุประสงค์เพื่อรณรงค์ให้เยาวชนได้ฝึกกระบวนการคิดในเชิงวิศวกรรมพื้นฐาน ได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์ ในรูปแบบของ STEAM Education เน้นการพัฒนาพลังงานสะอาดที่ยั่งยืน สามารถจำลองเหตุกาณ์ เพื่อการเตรียมตัวรับสถานการณ์ภัยพิบัติโลกต่างๆ ในอนาคต เป็นการพัฒนากิจกรรมสำหรับเยาวชนออกไปอย่างกว้างขวางไปในระดับนานาชาติ เสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างประเทศตลอดจนแลกเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์และความร่วมมือกันในการสร้างสังคมโลกให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น โดยมีหลายหน่วยงานในหลายๆ ประเทศ มีการจัดการแข่งขันฝึกกระบวนการคิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ภายใต้งาน “World Green Mech Contest”

ปีนี้โครงการจัดการแข่งขันการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐาน Problem-based learning (PBL)  Thailand Green Mech Contest 2023 ได้ดำเนินการจัดการแข่งขันขึ้นโดยการส่งผลงานรอบแรกในรูปแบบ Online ซึ่งมีโรงเรียนทั่วประเทศส่งผลงานเข้าแข่งขัน จำนวน 73 ทีม และผ่านเข้ารอบคัดเลือก เพื่อค้นหาตัวแทนไปแข่งขันที่ประเทศไต้หวัน มีดังนี้ (1) Green Mech Advance จำนวน 15  ทีม (2) Robot For Mission จำนวน  8  ทีม และ (3) Green Mech JR. Science จำนวน 5 ทีม รวมจำนวนทีมที่ผ่านเข้ารอบคัดเลือกทั้งสิ้น 31 ทีม ในแต่ละระดับการแข่งขัน ทีมชนะเลิศ ของการแข่งขันการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐาน Problem-based learning (PBL) Thailand Green Mech Contest จะได้รับการคัดเลือกเป็นตัวแทนไปแข่งขันที่ประเทศไต้หวัน ในวันที่ 3 สิงหาคม 2566

คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม  มจพ. ขอเชิญชมการแข่งขันการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐาน Problem-based learning (PBL) Thailand Green Mech contest 2023 ในวันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม 2566   หอประชุมคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 

ขวัญฤทัย ข่าว


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

สำนักพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรม มจพ. จัดฝึกอบรมหลักสูตรบุคลากรสิ่งแวดล้อมประจำโรงงาน ประจำปี 2566

สำนักพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) จัดฝึกอบรมหลักสูตรบุคลากรสิ่งแวดล้อมประจำโรงงานประจำปี 2566 ฝึกอบรมที่ศูนย์ฝึกอบรม กรุงเทพฯ และศูนย์วิจัยและฝึกอบรมทรัพยากรมนุษย์เพื่ออุตสาหกรรม ระยอง โดยวัตถุประสงค์ เพื่อให้โรงงานตามรายการที่กำหนด ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่อง การกำหนดชนิดและขนาดของโรงงาน กำหนดวิธีการควบคุมการปล่อยของเสีย มลพิษ หรือสิ่งใด ๆ ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม กำหนดคุณสมบัติของผู้ควบคุมดูแล ผู้ปฏิบัติงานประจำ และหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียน ผู้ควบคุมดูแลสำหรับระบบป้องกันสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ พ.. 2545  และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) .. 2554  ต้องมีบุคลากรด้านสิ่งแวดล้อมประจำโรงงานตามที่กำหนด   หลักสูตรบุคลากรสิ่งแวดล้อมประจำโรงงาน  ประจำปี 2566  มีรายละเอียดดังนี้

1) ศูนย์ฝึกอบรม กรุงเทพฯ 

รุ่นที่  1 วันที่ 17-21 กรกฎาคม 2566 หลักสูตรผู้ควบคุมระบบบำบัดมลพิษอากาศ 5 วัน ค่าธรรมเนียม  6,500 บาท

รุ่นที่ 1 วันที่ 23-25 สิงหาคม 2566 หลักสูตรผู้ปฏิบัติงานประจำระบบมลพิษกากอุตสาหกรรม 3 วัน ค่าธรรมเนียม 4,500 บาท

รุ่นที่ 1 วันที่ 4-8 กันยายน 2566 หลักสูตรผู้ควบคุมระบบบำบัดมลพิษกากอุตสาหกรรม 5 วัน ค่าธรรมเนียม 6,500 บาท

รุ่นที่ 1 วันที่ 18-20 ตุลาคม 2566 หลักสูตรผู้ปฏิบัติงานประจำระบบบำบัดมลพิษน้ำ 3 วันค่าธรรมเนียม

4,500 บาท

2) ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมทรัพยากรมนุษย์เพื่ออุตสาหกรรม ระยอง

รุ่นที่  1 วันที่ 12-14 มิถุนายน 2566 หลักสูตรผู้ปฏิบัติงานประจำระบบบำบัดมลพิษอากาศ 3 วัน ค่าธรรมเนียม 4,500 บาท

รุ่นที่  1 วันที่ 17-21 กรกฎาคม 2566 หลักสูตรควบคุมระบบบำบัดมลพิษน้ำ 5 วัน ค่าธรรมเนียม 6,500 บาท

รุ่นที่ 1 วันที่ 23-25 สิงหาคม 2566 หลักสูตรผู้ปฏิบัติงานประจำระบบมลพิษกากอุตสาหกรรม 3 วัน ค่าธรรมเนียม 4,500 บาท

รุ่นที่ 1 วันที่ 18-22 กันยายน 2566 หลักสูตรผู้ควบคุมระบบบำบัดมลพิษอากาศ 5 วัน ค่าธรรมเนียม 6,500 บาท

รุ่นที่ 1 วันที่ 18-20 ตุลาคม 2566 หลักสูตรผู้ปฏิบัติงานประจำระบบบำบัดมลพิษน้ำ 3 วัน ค่าธรรมเนียม 4,500 บาท

   คุณสมบัติผู้เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรผู้จัดการสิ่งแวดล้อม เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน และเป็นพนักงานของโรงงานที่ดำรงตำแหน่งในระดับผู้จัดการซึ่งผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้จัดการสิ่งแวดล้อม รวมถึงผู้ที่สนใจทั่วไปเกี่ยวกับการจัดการสิ่งแวดล้อม  อบรมโดย วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ  ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม

สอบรายละเอียดได้ที่ สำนักพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ชั้น 8 อาคารอเนกประสงค์ โทรศัพท์ :  0 2555 2000 ต่อ 2605 – 2621, 2626 โทรสาร : 0 2587 3766 อีเมล : info@itdi.kmutnb.ac.th หรือที่ www.facebook.com/itdi.kmutnb.ac.th และที่ศูนย์วิจัยและฝึกอบรมทรัพยากรมนุษย์เพื่ออุตสาหกรรม ระยอง  คุณยุวดี วิบูลย์จันทร์  โทรศัพท์ 08 1611 6445, 0 3862 700 ต่อ 5601, 5603

ขวัญฤทัย  ข่าว


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

มจพ.จัดแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศลสนับสนุนทีมหุ่นยนต์กู้ภัยแข่งขัน World Robocup Rescue 2023

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ( มจพ.)  ร่วมกับสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยี

พระจอมเกล้าพระนครเหนือในพระบรมราชูปถัมภ์ กำหนดจัดแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศล ในวันอาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคม  2566   blu-O-RHYTHM & BOWL  ชั้น 4 เอสพลานาด งามวงศ์วานแคราย โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อจัดหารายได้สนับสนุนทีมหุ่นยนต์กู้ภัยของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ( มจพ.)  โดยเข้าร่วมการแข่งขัน World Robocup Rescue 2023 ระหว่างวันที่ 4-10 กรกฎาคม 2566 ณเมืองบอร์โดสาธารณรัฐฝรั่งเศส

เปิดรับสมัครประเภททีมต่างๆเข้าร่วมการแข่งขันโบว์ลิ่งการกุศลตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 หรือสมัครในวันแข่งขัน  ค่าสมัคร ทีมกิตติมศักดิ์ ทีมละ 30,000 บาท / ทีมทั่วไป ทีมละ 10,000 บาท (สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า)   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครได้ที่  นางสาววิไลวรรณ หาดี  โทร. 081-136-9999  นางสาวจตุพร  คีมนารักษ์ โทร. 087-054-4579  นางสาวเบญจมาศ  จงรักษ์  โทร. 089-212-4335   หรือที่เว็บไซต์ www.kmutnb.ac.th  และกลุ่มงานการเงิน กองคลัง สำนักงานอธิการบดี มจพ.  โทร. 0-2555-2000 ต่อ 1602-1605 โทรสาร 0-2555-2094

ขวัญฤทัย ข่าว


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

เดินเรื่องด้วยภาพ งานวันรวมน้ำใจชาว มจพ. “64 ปี มจพ. นวัตกรรมวิถี สู่เทคโนโลยีที่ยั่งยืน”

.ดร. สุชาติ  เซี่ยงฉิน อธิการบดี  มจพ.  เป็นประธานในงานวันรวมน้ำใจชาว มจพ. “64 ปี มจพ. นวัตกรรมวิถี สู่เทคโนโลยีที่ยั่งยืนเนื่องในโอกาสครบรอบวันสถาปนามหาวิทยาลัยครบ 64 ปี (19 กุมภาพันธ์ 2566) เพื่อเป็นการรำลึกถึงการก่อตั้งมหาวิทยาลัย ร่วมระลึกถึงคณาจารย์ และบุคคลที่มีคุณูปการต่อมหาวิทยาลัย เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีและความสามัคคีอันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ระหว่างศิษย์เก่า คณาจารย์ ศิษย์ปัจจุบัน ผู้เกษียณอายุราชการ บุคลากร เครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการในการเผยแพร่ผลงาน ชื่อเสียงและเกียรติภูมิของมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 ภายในงานประกอบด้วย ภาคเช้า  พิธีทำบุญถวายภัตตาหารเช้าและเจริญพระพุทธมนต์   แด่พระสงฆ์ จำนวน 9 รูป  ณ ห้องรับรองราชพฤกษ์ อาคารนวมินทรราชินี  พิธีรำลึกถึงทวาปูชนียาจารย์ : .ดร.บุญญศักดิ์ ใจจงกิจ และ Dipl. Ing Karl Stützle    ลานทวาปูชนียาจารย์ หน้าอาคารบัณฑิตวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์นานาชาติสิรินธร ไทยเยอรมัน  จากนั้น ผศ.ดร. ณัฐพงศ์ มกระธัช ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนาสิ่งแวดล้อมและกายภาพ   กล่าวรายงาน  และ ศ.ดร. สุชาติ  เซี่ยงฉิน  อธิการบดี กล่าวระลึกถึงทวาปูชนียาจารย์ (.ดร. บุญญศักดิ์ ใจจงกิจ และ  Dipl. Ing  Karl Stützle)  คณะผู้บริหารและบุคลากรของส่วนงาน ยืนแสดงความเคารพและรำลึกถึงอาจารยคุณของทั้งสองท่าน  ตามลำดับ ภาคบ่าย พิธีมอบรางวัลประกาศเกียรติคุณบุคคลเกียรติยศ มจพ.” เป็นการมอบรางวัลให้แก่ศาสตราจารย์ที่ได้รับโปรดเกล้าฯ ศิษย์เก่าดีเด่น บุคลากรดีเด่น ผู้ปฏิบัติงานดีเด่น นักวิจัยรางวัลพระจอมเกล้าพระนครเหนือ บุคลากรและนักศึกษาที่มีผลงานดีเด่นสร้างชื่อเสียงในระดับนานาชาติ ตลอดจนศูนย์วิจัยเฉพาะทางที่มีผลงานดีเด่น  ทั้งนี้สามารถชมนิทรรศการบุคคลเกียรติยศ มจพ.” ณ ลานอาคารอเนกประสงค์ ชั้น 1 และรับชมกิจกรรมได้ที่ https://together.kmutnb.ac.th/

ขวัญฤทัย ข่าว /สมเกษ ถ่ายภาพ


Exit mobile version