Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

เดลล์ เทคโนโลยีส์ เร่งนวัตกรรม AI ในองค์กร ด้วย NVIDIA ตั้งแต่พีซีจนถึงดาต้าเซ็นเตอร์

เดลล์ เทคโนโลยีส์ ในฐานะผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ AI  ได้ร่วมมือกับ NVDIA เพื่อมอบประสบการณ์การใช้ระบบโครงสร้าง ซอฟต์แวร์ และบริการด้าน AI ได้อย่างสอดประสาน ด้วยการนำเสนอโซลูชันครบวงจร เพื่อรองรับการขยายการใช้งาน AI ตั้งแต่ในระดับเวิร์กสเตชันที่โต๊ะทำงาน ไปจนถึงดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่

การขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์โครงสร้างพื้นฐาน AI ของเดลล์ มุ่งตอบโจทย์ความต้องการประสิทธิภาพสูงได้อย่างลงตัว

หัวใจสำคัญของ Dell AI Factory กับ NVDIA ในการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม คือโครงสร้างพื้นฐานครบวงจรแบบเอ็นด์-ทู-เอ็นด์ ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม AI ที่ครอบคลุมอุตสาหกรรมทุกภาคส่วน ตั้งแต่บริษัทสตาร์ทอัพ หน่วยงานภาครัฐ ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ที่สุดของโลก และผู้ให้บริการคลาวด์

กลุ่มผลิตภัณฑ์ Dell Pro Max รุ่นใหม่ สร้างมาตรฐานใหม่ของการเป็นพีซีสำหรับนักพัฒนา AI

ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านเวิร์กสเตชันที่มอบกราฟิกระดับมืออาชีพที่ทรงพลังที่สุดของ NVIDIA เดลล์ได้ขยายและพัฒนานวัตกรรม Dell Pro Max ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ AI PC ประสิทธิภาพสูง เพื่อตอบสนองความต้องการของนักพัฒนา AI และผู้ใช้งานระดับสูง รวมถึงผู้ใช้งานเฉพาะด้านในปัจจุบัน กลุ่มผลิตภัณฑ์นี้ประกอบด้วย AI PC ประสิทธิภาพสูงในหลากหลายรุ่น ซึ่งออกแบบมาสำหรับงานที่ต้องใช้ทรัพยากรสูง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนา AI ขั้นต้น การวิเคราะห์ข้อมูล การจำลองการออกแบบ ตลอดจนถึงการฝึกฝน การอนุมานผลลัพธ์ (Inferencing) และการปรับจูนโมเดล LLM ที่ซับซ้อนที่สุด ก่อนขยายการใช้งานในวงกว้าง

  • Dell Pro Max รุ่น GB10 ใหม่ มาพร้อมประสิทธิภาพเหนือชั้น ด้วยรูปโฉมกระทัดรัด และให้ประสิทธิภาพด้านพลังงาน โดยเวิร์กสเตชันสำหรับนักพัฒนา AI นี้มาพร้อมชิป NVIDIA GB10 Grace Blackwell Superchip ซึ่งเป็นชิปที่รวมระบบไว้บนชิปเดียว (system-on-a-chip) ตามสถาปัตยกรรม NVIDIA Blackwell ที่ให้ประสิทธิภาพการประมวลผล AI ได้ถึง 1 เพตาฟล็อป (Petaflop หรือ 1000 TFLOPs) และหน่วยความจำรวม 128GB ซึ่งนักพัฒนา AI สามารถพัฒนา ฝึกฝน และทดสอบโมเดลก่อนจะนำไปใช้งานบนระบบโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ของเดลล์
  • Dell Pro Max รุ่น GB300 ใหม่ เป็นรุ่นสูงสุดในกลุ่มพีซีประสิทธิภาพสูง ให้การประมวลผลที่เหนือชั้นสำหรับนักพัฒนา AI และนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล โดยให้การประมวลผลในระดับเซิร์ฟเวอร์อยู่ในเครื่องเดสก์ท็อป ด้วยชิป NVIDIA GB300 Grace Blackwell Ultra Desktop Superchip ใหม่ โดยระบบนี้ให้ประสิทธิภาพการประมวลผล AI สูงถึง 20 เพตาฟล็อป และหน่วยความจำรวม 784GB (หน่วยความจำ GPU HBME3e สูงถึง 288GB และหน่วยความจำ CPU LPDDR5X 496GB) รวมถึงโซลูชันเครือข่ายที่เร็วที่สุดจาก NVIDIA ConnectX-8 SuperNIC เพื่อรองรับงานประมวลผล AI หนักหน่วงและมีขนาดใหญ่ที่สุดได้ ทั้งยังสามารถฝึกฝนโมเดลที่มีพารามิเตอร์ถึง 460 พันล้านตัว
  • โน้ตบุ๊กและเดสก์ท็อป Dell Pro Max รุ่นใหม่ มอบขุมพลัง ความน่าเชื่อถือ และความสามารถในการขยายที่โดดเด่น มาพร้อมกับ GPU NVIDIA RTX PRO TM Blackwell Generation และชิป  Intel® Core™ Ultra (ซีรีส์ 2) รวมถึง AMD Ryzen-powered Copilot+ PCs ให้ประสบการณ์ด้าน AI และตัวเลือกหน่วยประมวลผล AMD Threadripper  มาพร้อมการออกแบบใหม่ที่ทันสมัยและโดดเด่น ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสำหรับงานที่ต้องการพลังประมวลผลสูง อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประกาศผลิตภัณฑ์ Dell Pro Max ทั้งหมดได้ที่นี่

เซิร์ฟเวอร์ Dell PowerEdge และระบบเชื่อมต่อเครือข่ายรุ่นใหม่ เร่งขับเคลื่อน AI สำหรับองค์กร

  • Dell PowerEdge จะรองรับแพลตฟอร์ม NVIDIA Blackwell Ultra รวมถึง NVIDIA HGX B300 NVL16 NVIDIA GB300 NVL72 และ NVIDIA RTX PRO™ 6000 Blackwell Server Edition ที่กำลังจะมา โดยให้ระบบที่มีหน่วยความจำ HBM3e สูงถึง 288GB เพื่อจัดการโมเดล AI ที่ซับซ้อนด้วยความเร็วและความสามารถในการปรับขยาย โดยเซิร์ฟเวอร์ที่กำลังจะเปิดตัวนี้ จะให้ประสิทธิภาพคลัสเตอร์ AI ที่ดีที่สุดด้วยปริมาณการรับส่งข้อมูล 800 Gb/s พร้อมด้วย NVIDIA ConnectX-8 SuperNICs
  • เซิร์ฟเวอร์ Dell PowerEdge XE7740 และ XE7745 จะให้บริการพร้อมกับ Dell AI Factory ร่วมกับ NVIDIA ปัจจุบันเซิร์ฟเวอร์รุ่นนี้สามารถติดตั้ง NVIDIA H200 NVL GPUs ได้สูงสุดถึง 8 ตัว พร้อมสิทธิ์การใช้งานซอฟต์แวร์ NVIDIA AI Enterprise เป็นเวลา 5 ปี ที่ครอบคลุม NVIDIA NIM และโมเดล NVIDIA Llama Nemotron ด้วยความสามารถในการวิเคราะห์เหตุผล (reasoning) ทำให้เป็นแพลตฟอร์มที่ทรงพลังสำหรับการปรับจูน Gen AI การอนุมาน และการพัฒนา agentic reasoning applications รวมถึงงานประมวลผลประสิทธิภาพสูง (HPC) นอกจากนี้ยังสามารถรองรับ GPU NVIDIA RTX PRO™ 6000 Blackwell Server Edition PCIe สูงสุด 8 ตัว ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ AI ได้สูงขึ้นกว่าเดิมถึง 2 เท่า และให้ความยืดหยุ่นในการผสานเวิร์กโหลด AI เข้ากับกระบวนการทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • เซิร์ฟเวอร์ Dell PowerEdge XE8712 รุ่นใหม่ มาพร้อมแพลตฟอร์ม GB200 NVL4 ให้ขุมพลังที่ช่วยเร่งการประมวลผล AI ในแบบเน็กซ์เจน รองรับ NVIDIA B200 GPUs ได้สูงสุดถึง 144 ตัวต่อแร็ค Dell IR7000 โดยระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวนี้ถูกออกแบบเพื่อให้เหมาะกับการฝึกฝนโมเดล  AI และการจำลอง HPC ที่ซับซ้อน เป็นโซลูชันที่ปรับขยายความสามารถได้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และการประมวลผลให้ดีขึ้น พร้อมช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และประหยัดพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่ของเดลล์ได้ที่นี่

นวัตกรรมการจัดการข้อมูลของเดลล์ ช่วยลูกค้าควบคุมข้อมูลเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรม AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Dell AI Data Platform with NVIDIA เป็นโซลูชันแบบบูรณาการที่เพิ่มศักยภาพการใช้ Agentic AI และแอปพลิเคชัน AI อื่นๆ ในองค์กรได้อย่างปลอดภัย ด้วยการเข้าถึงข้อมูลคุณภาพสูงตลอดเวลา ทั้งข้อมูลที่มีโครงสร้าง กึ่งโครงสร้าง และไม่มีโครงสร้างก็ตาม แพลตฟอร์มนี้ผสานระบบจัดเก็บข้อมูลระดับองค์กรของเดลล์เข้ากับการประมวลผลแบบเร่งความเร็ว การเชื่อมต่อเครือข่าย และซอฟต์แวร์ AI ของ NVIDIA ทำให้สามารถประมวลผลข้อมูลได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมบริการจัดการข้อมูลที่แข็งแกร่งสำหรับการใช้งาน AI นอกจากนี้ แพลตฟอร์มยังผสานรวมการทำงานได้อย่างลื่นไหลด้วยการออกแบบอ้างอิงตาม NVIDIA AI Data Platform ที่ให้โครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมกับองค์กรมากที่สุด ช่วยปลดล็อกศักยภาพของข้อมูลทางธุรกิจได้อย่างเต็มที่ ผ่านข้อมูลเชิงลึกและการแก้ปัญหาที่ขับเคลื่อนด้วย AI พร้อมกันนี้ บริการจัดการข้อมูลของเดลล์ (Dell Data Management Services) ยังให้แนวทางที่เป็นระบบเพื่อให้มั่นใจเรื่องการค้นหาข้อมูล การบูรณาการ การทำงานแบบอัตโนมัติ ตลอดจนการควบคุมคุณภาพของข้อมูล

ส่วนสำคัญของ Dell AI Data Platform กับ NVIDIA คือ ระบบจัดเก็บข้อมูล Dell PowerScale ซึ่งได้รับการรับรองทั้งสำหรับโปรแกรม NVIDIA Cloud Partner และการรับรองใหม่ NVIDIA-Certified Storage สำหรับการปรับใช้ AI Factory ในองค์กรร่วมกับสถาปัตยกรรม NVIDIA Enterprise Reference Architectures โดยนวัตกรรมล่าสุดด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ช่วยให้ PowerScale ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้ GPU โดยให้ความเร็วในการนำเข้าข้อมูลเพิ่มขึ้น 220% และการเรียกค้นข้อมูลที่เร็วขึ้น 99% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ความก้าวล้ำนี้ทำให้ PowerScale อยู่เหนือข้อกำหนดของ NVIDIA DGX ในเรื่องการปรับใช้ AI ที่ขยายได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดเวลาในการฝึกฝน นอกจากนี้ สถาปัตยกรรมแบบปรับขยายได้ของ Dell PowerScale ยังสามารถรองรับความต้องการด้าน AI ประสิทธิภาพสูงทุกรูปแบบ

เดลล์ เทคโนโลยีส์ ยังประกาศสนับสนุน NVIDIA Dynamo ช่วยให้ลูกค้าเพิ่มพื้นที่หน่วยความจำ GPU โดยการโอนถ่ายข้อมูลแคช KV จากโหนดที่เร่งความเร็ว GPU ไปยังระบบจัดเก็บข้อมูล ของเดลล์อย่าง PowerScale เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Dell PowerScale และความก้าวหน้าของ Dell Data Lakehouse ได้ที่นี่

โซลูชันและบริการ AI ใหม่ ขยายศักยภาพด้าน AI ได้เหนือชั้น

Dell AI Factory ร่วมกับ NVIDIA เพิ่มโซลูชันและบริการใหม่ ช่วยเสริมพลังและปรับใช้ AI ได้ง่ายขึ้น โดยมีปัจจัยสำคัญบางประการได้แก่

  • เดลล์ช่วยให้พัฒนา Agentic AI ง่ายขึ้นด้วยการผสาน NVIDIA’s AI-Q Blueprint และ AgentIQ Toolkit เข้ากับแพลตฟอร์ม NVIDIA AI Enterprise ซึ่งประกอบด้วย NIM, NeMo Retriever และ AI Blueprints พร้อมโมเดล NVIDIA Llama Nemotron รุ่นใหม่สำหรับการให้เหตุผล (reasoning) ช่วยให้องค์กรสามารถสร้างแพลตฟอร์มเอเจนต์ AI  ที่แข็งแกร่งด้วยความสามารถที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ บริการใหม่ Dell Accelerator สำหรับ RAG (Retrieval-augmented generation) ยังช่วยในการติดตั้งและใช้โซลูชันแบบเอเจนต์ ที่ผสานรวมข้อมูลธุรกิจ เพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนได้สูงสุด
  • Dell AI Factory ร่วมกับ NVIDIA ให้การรับรอง NVIDIA Run:ai AI orchestration platform ช่วยให้องค์กรมีเครื่องมือในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร GPU จัดการเวิร์กโหลดที่ซับซ้อน และเร่งเวิร์กโฟลว์ AI ในองค์กร (on-premises) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • บริการสำหรับผู้ช่วยดิจิทัล GenAI ของเดลล์ ได้ปรับให้สอดคล้องกับสถาปัตยกรรมต้นแบบที่ปรับขยายได้ของ NVIDIA ช่วยปฏิรูปการให้บริการด้วยตนเองภายในองค์กร ด้วยโซลูชันที่มีความคล้ายมนุษย์และรองรับการใช้งานได้หลายภาษา
  • Dell AI Code Assistant นำเสนอผู้ช่วยเขียนโค้ดระดับองค์กรแบบ on-premises อย่างเต็มรูปแบบ ที่ให้มาตรฐานความยืดหยุ่นและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลในระดับสูงสุด โซลูชันนี้ให้คำแนะนำด้านโค้ดที่แม่นยำและเข้าใจบริบท โดยใช้เครื่องมือ Agentic AI และกลไกวิเคราะห์บริบทขั้นสูง ขณะที่ Dell Implementation Services for AI Code Generation ซึ่งเป็นบริการการนำร่องของเดลล์สำหรับการสร้างโค้ดด้วย AI จะช่วยติดตั้งและปรับจูนโมเดลผู้ช่วยเขียนโค้ดให้เหมาะสมกับองค์กร

มุมมองของผู้บริหาร

ไมเคิล เดลล์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เดลล์ เทคโนโลยีส์ กล่าวว่า “เดลล์ กำลังฉลองครบรอบหนึ่งปีของ Dell AI Factory ร่วมกับ NVIDIA โดยมุ่งเน้นพันธกิจในการลดความซับซ้อนของ AI เพื่อให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับภาคธุรกิจ ด้วยฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของ NVIDIA ที่ทำงานสอดประสานกันอย่างลื่นไหล ตั้งแต่เดสก์ท็อปจนถึงดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งมีเดลล์เท่านั้นที่สามารถให้ความน่าเชื่อถือและการทำงานได้อย่างสอดคล้อง ในแบบที่องค์กรต้องการเพื่อสนับสนุนความริเริ่มด้าน AI ได้ นอกจากนี้ เดลล์กำลังทำลายข้อจำกัดในการใช้ AI และช่วยให้องค์กรต่างๆ ผสาน AI เข้ากับการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

เจนเซน หวง ผู้ก่อตั้งและประธานบริหาร NVIDIA กล่าวว่า “ทุกอุตสาหกรรมต่างเร่งสร้าง AI Factory ของตนเพื่อสร้างอัจฉริยภาพ ซึ่ง NVIDIA และเดลล์กำลังร่วมมือกันเพื่อมอบระบบโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่สมบูรณ์และครอบคลุมที่สุดในอุตสาหกรรม ช่วยให้องค์กรต่างๆ มีทุกสิ่งที่ต้องการในการพัฒนา ปรับใช้งาน และขยายการใช้งาน AI ตั้งแต่เวิร์กสเตชันจากโต๊ะทำงาน ไปจนถึง AI Factory ในระดับดาต้าเซ็นเตอร์ โดยแพลตฟอร์มนี้จะเป็นพลังผลักดันคลื่นลูกใหม่ของนวัตกรรม ด้าน AI”

อ่านความคิดเห็นของลูกค้าเกี่ยวกับ Dell AI Factory ได้ที่นี่

การวางจำหน่าย

  • เดสก์ท็อป และแล็ปท็อป Dell Pro Max พร้อมวางจำหน่ายตั้งแต่ มีนาคม 2568 และจะทยอยวางจำหน่ายเพิ่มเติมในเดือนถัดไป
  • Dell Pro Max รุ่น GB300 และ Dell Pro Max รุ่น GB10 จะวางจำหน่ายในช่วงปลายปีนี้
  • เซิร์ฟเวอร์ Dell PowerEdge XE7740 และ XE7745 ที่รองรับ NVIDIA RTX PRO™ 6000 Blackwell Server Edition PCIe GPUs จะวางจำหน่ายทั่วโลกในช่วงปลายปีนี้
  • Dell PowerEdge XE8712 จะวางจำหน่ายทั่วโลกในช่วงปลายปีนี้
  • องค์ประกอบทั้งหมดของ Dell AI Data Platform ร่วมกับ NVIDIA พร้อมวางจำหน่ายทั่วโลกแล้ว
  • Dell AI Factory และ NVIDIA ที่มอบ Agentic AI พร้อมวางจำหน่ายทั่วโลกแล้ว
  • Dell AI Factory ร่วมกับ NVIDIA ที่ตรวจสอบ NVIDIA Run:ai’s orchestration platform พร้อมวางจำหน่ายทั่วโลกแล้ว
  • Dell AI Code Assistant พร้อมวางจำหน่ายทั่วโลกแล้ว

 

Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

เดลล์ เทคโนโลยีส์ พลิกโฉมสตอเรจด้วย Dell PowerStore ล้ำหน้าทุกองศา ให้สมรรถนะทรงพลัง ยืดหยุ่น และประสิทธิภาพเหนือชั้น

เดลล์ เทคโนโลยีส์ ประกาศเปิดตัว Dell PowerStore ที่พัฒนาและยกระดับสมรรถนะ ประสิทธิภาพ ความยืดหยุ่น และความสามารถในการเคลื่อนย้ายข้อมูลระหว่างมัลติคลาวด์ได้ดียิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ เดลล์ยังขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ Dell APEX ด้วยการพัฒนา AIOps แบบใหม่ รวมถึงการจัดการมัลติคลาวด์ และ Kubernetes storage ดีขึ้น ให้ประสิทธิภาพสูงขึ้น

“การที่เราพัฒนา PowerStore และเพิ่มข้อได้เปรียบเรื่องงบประมาณและการดำเนินงานใหม่ๆ ให้ทั้งลูกค้าและคู่ค้าคือการสร้างผลกระทบที่ทรงพลัง และยังช่วยยกระดับมาตรฐานของระบบจัดเก็บข้อมูลแบบ all-flash อีกด้วย” อาร์เธอร์ เลวิส ประธาน กลุ่มธุรกิจ ISG เดลล์ เทคโนโลยีส์ กล่าว “และเราจะไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ เพราะเรายังขยายความมุ่งมั่นในการสรรสร้างนวัตกรรมไปสู่ Dell APEX ด้วยการปรับปรุงเสถียรภาพที่ให้ความน่าเชื่อถือทั้งโครงสร้างพื้นฐานและแอปพลิเคชันด้วยพลังของ AI และระบบอัตโนมัติ ที่ทำให้การจัดการระบบจัดเก็บข้อมูลในมัลติคลาวด์ และ Kubernetes ง่ายดายยิ่งขึ้น”

ขยายสมรรถนะ ประสิทธิภาพ ความยืดหยุ่นของระบบจัดเก็บข้อมูล และเพิ่มศักยภาพให้มัลติคลาวด์

Dell PowerStore ช่วยจัดการกับปริมาณเวิร์กโหลดที่เพิ่มขึ้น ด้วยเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแบบ quad-level cell (QLC) ที่ยืดหยุ่นที่สุดในอุตสาหกรรม และช่วยปรับปรุงสมรรถนะสูงขึ้น

  • หน่วยจัดเก็บข้อมูลแบบ QLC มอบสมรรถนะระดับองค์กร ด้วยราคาต่อเทราไบต์ที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับรุ่นที่ใช้ triple-level cell (TLC) ลูกค้าสามารถเริ่มต้นด้วยการใช้ไดรฟ์ QLC เพียง 11 ลูก และขยายความจุในการใช้งานได้ถึง 5.9 เพตาไบต์ต่อ PowerStore 1 เครื่อง ซึ่งความสามารถในการจัดการ Load Balancing อย่างชาญฉลาดของ PowerStore ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและช่วยให้จัดวางเวิร์กโหลดในกลุ่มคลัสเตอร์ที่มีทั้ง TLC และ QLC ได้ดียิ่งขึ้น
  • ให้สมรรถนะสูงขึ้น โดยสามารถปรับปรุงสมรรถนะของฮาร์ดแวร์ เพิ่มสูงถึง 66% เมื่ออัปเกรดอุปกรณ์เป็นรุ่นที่สูงขึ้น โดยที่ไม่ต้องย้ายข้อมูล (Data-in-Place)

การพัฒนาซอฟต์แวร์ของ Dell PowerStore ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มความปลอดภัย และให้ความสามารถในการย้ายข้อมูลบนคลาวด์

  • เพิ่มสมรรถนะด้วยซอฟต์แวร์ อัปเดตซอฟต์แวร์ได้โดยที่ระบบไม่ต้องหยุดทำงาน สำหรับลูกค้าปัจจุบันทำได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ช่วยเพิ่มสมรรถนะการทำงานของเวิร์กโหลดที่หลากหลายได้สูงขึ้นถึง 30% และลดเวลาในการทำงานได้ถึง 20%
  • ให้การปกป้องข้อมูลที่ดีขึ้น ลูกค้ามีทางเลือกเพิ่มขึ้น ในการปกป้องระบบงานสำคัญ ด้วยการทำสำเนาข้อมูลด้วยตัวเองระหว่าง  PowerStore แบบ Synchronous (Native Synchronous Replication) ที่รองรับทั้งบล็อกและไฟล์ รวมถึงการจำลองข้อมูล และการทำสำเนาข้อมูลด้วยตัวเองแบบ Metro (Native Metro Replication) ที่ทำงานได้พร้อมกันสำหรับระบบ Windows, Linux และ VMware
  • ให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น การปรับปรุงซอฟต์แวร์ช่วยให้สามารถลดขนาดข้อมูลได้ดีขึ้นถึง 20% และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้ถึง 28%
  • เพิ่มความสามารถในการย้ายข้อมูลระหว่างมัลติคลาวด์ ลูกค้าสามารถพัฒนากลยุทธ์ในการใช้งานมัลติคลาวด์และย้ายเวิร์กโหลดได้ง่ายขึ้น ด้วยการเชื่อมต่อ PowerStore เข้ากับ Dell APEX Block Storage ซึ่งเป็น Cloud Block Storage ที่สามารถขยายได้มากที่สุดในโลก

“Dell PowerStore ช่วยให้ Fulgent Genetics ดูแลผู้ป่วยด้านพยาธิวิทยา มะเร็งวิทยา สุขภาพการเจริญพันธุ์ รวมถึงโรคติดเชื้อและโรคหายากได้ดียิ่งขึ้น ด้วยการเร่งความเร็วในการประมวลผลข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ทีมแพทย์ของเราสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกทางพันธุกรรมและผลการทดสอบแก่ผู้ป่วยได้รวดเร็วขึ้น” ไมค์ ลาเซแนร์ รองประธานฝ่ายแอปพลิเคชัน Fulgent Genetics กล่าว “PowerStore ยังช่วยให้เราดำเนินการตามพันธสัญญาด้านความยั่งยืนได้ดียิ่งขึ้น ช่วยลดการใช้พลังงาน รวมถึงลดขนาดของศูนย์ข้อมูลได้ ขณะเดียวกันก็ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก การพัฒนาใหม่ๆ ของ PowerStore ทำให้เราสามารถคาดหวังความสำเร็จ ทั้งด้านสมรรถนะ ประสิทธิภาพ และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยให้เราพัฒนาการดูแลผู้ป่วยได้ดียิ่งขึ้น”

ความก้าวหน้าของ PowerStore คือส่วนหนึ่งของ PowerStore Prime ซึ่งเป็นข้อเสนอใหม่ที่สมบูรณ์แบบ ที่ผสานระบบ PowerStore ที่อัปเดตให้เหมาะกับแผนทางธุรกิจต่างๆ โดยออกแบบมาเพื่อช่วยปกป้องการลงทุนของลูกค้าด้านการจัดเก็บข้อมูลมากขึ้น อีกทั้งช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้กับพันธมิตรของเดลล์เช่นกัน

 

ปกป้องการลงทุนด้านการจัดเก็บข้อมูลมากขึ้น

PowerStore Prime มอบความยืดหยุ่นให้กับลูกค้ายิ่งขึ้น ช่วยให้ได้รับประโยชน์จากการลงทุนด้านเทคโนโลยีสูงสุดในประเด็นต่อไปนี้

  • รับประกันการลดขนาดข้อมูลในอัตรา 5:1 ลูกค้าสามารถซื้อ PowerStore ได้อย่างมั่นใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและลดการใช้พลังงานพร้อมการรับประกันการลดขนาดข้อมูลที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม
  • ปรับปรุงระบบให้ทันสมัยได้อย่างต่อเนื่อง บริการ Lifecycle Extension ด้วย Dell ProSupport หรือ ProSupport Plus ช่วยให้เข้าถึงบริการได้ทันทีแบบ 24/7 สามารถอัพเกรดเทคโนโลยีได้อย่างยืดหยุ่น รวมถึงการนำอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเดิมมาแลกเพื่อรับส่วนลดเมื่อซื้ออุปกรณ์ใหม่(Capacity Trade-ins) และบริการให้คำปรึกษาด้านการจัดเก็บข้อมูลให้กับลูกค้า
  • จ่ายตามการใช้งานจริง (Flexible consumption) ลูกค้าสามารถใช้ PowerStore ผ่านการสมัครเช่าใช้ Dell APEX โดยจ่ายตามการใช้งานจริงเป็นรายเดือน

เพิ่มศักยภาพคู่ค้าเพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าได้ดีขึ้น

PowerStore Prime ยังช่วยให้ขาย PowerStore ได้ง่ายขึ้น ให้ผลตอบแทนมากขึ้น ด้วยการต่อยอดกลยุทธ์ที่เดลล์ให้ความสำคัญกับพันธมิตรเป็นอันดับแรก (partner-first strategy) สำหรับระบบจัดเก็บข้อมูล คู่ค้าสามารถเพิ่มยอดจำหน่าย PowerStore ได้ด้วยการขายผลิตภัณฑ์ร่วมกันเป็นเซ็ต (bundle) ในราคาที่แข่งขันได้ และนำเสนอการใช้งานที่หลากหลายให้กับลูกค้าร่วมกัน โดยสามารถจัดการกับกระบวนการขายได้ง่ายขึ้น เมื่อขายผลิตภัณฑ์ PowerStore และ PowerProtect ร่วมกัน

“การรับประกันการลดขนาดข้อมูลในอัตราใหม่ 5:1 ของ PowerStore และหน่วยเก็บข้อมูล QLC แบบใหม่ คือบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของเดลล์ในการช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายด้านประสิทธิภาพ ในขณะที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายการจัดเก็บข้อมูลที่ล้ำหน้า” จอห์น ลอเคาเซ่น technical solution architect ของ  World Wide Technology กล่าว “ทั้งการรับประกันและการให้ผลตอบแทนแบบใหม่แก่คู่ค้าของเดลล์ คือจุดร่วมที่ทำให้เราและลูกค้าประสบความสำเร็จไปพร้อมกันบนความก้าวหน้าใหม่ของหน่วยเก็บข้อมูลแบบ all-flash”

ปลดปล่อยพลังของ AI เพื่อให้จัดการ IT ได้ง่ายในแบบอัตโนมัติ

เดลล์ เทคโนโลยีส์ ยังคงพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์ Dell APEX อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในส่วนที่มุ่งเน้นความสำคัญอย่าง AI และมัลติคลาวด์ ทั้งนี้ นวัตกรรมของ Dell APEX ให้ความสามารถด้าน AIOps ชั้นนำ พร้อมช่วยให้บริหารจัดการการจัดเก็บข้อมูล และ Kubernetes ได้ดียิ่งขึ้น

Dell APEX AIOps ซอฟต์แวร์ในรูปแบบบริการ หรือ Software-as-a-Service (SaaS) ที่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพให้กับระบบโครงสร้างพื้นฐานและความพร้อมด้านบริการของเดลล์ ด้วยการตรวจสอบและวิเคราะห์แบบ Full Stack และบริหารจัดการเหตุการณ์ต่างๆ ด้วยขุมพลังของ AI  ซึ่งเป็นการขยายความสามารถของเครื่องมือ AIOps ของเดลล์ได้อย่างโดดเด่น ช่วยให้การดำเนินงานง่ายขึ้น เพิ่มความคล่องตัวของ IT และสามารถควบคุมแอปพลิเคชันและระบบโครงสร้างพื้นฐานได้ดียิ่งขึ้น ด้วยการผสานรวมความสามารถ 3 ด้านไว้ด้วยกัน

  • การสังเกตและตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐาน ช่วยแก้ไขปัญหาโครงสร้างพื้นฐานได้เร็วกว่าวิธีเดิมถึง 10 เท่าผ่านข้อมูลเชิงลึกและคำแนะนำที่ขับเคลื่อนด้วย AI ให้ทั้งความปลอดภัยทางไซเบอร์ และความยั่งยืน ทั้งนี้ Dell APEX AIOps Assistant ที่ขับเคลื่อนด้วย GenAI สามารถตอบสนองได้ในทันที สำหรับคำถามเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานอีกทั้งสามารถให้คำแนะนำในการแก้ไขปัญหาอย่างละเอียด
  • การสังเกตและตรวจสอบแอปพลิเคชัน ช่วยลดระยะเวลาแก้ไขปัญหาของแอปพลิเคชันได้ถึง 70% ด้วยการให้ภาพรวมโครงสร้างการทำงานของแอปพลิเคชัน และการวิเคราะห์อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อรับประกันความพร้อมใช้งานและประสิทธิภาพของแอปพลิเคชัน
  • การจัดการเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพความพร้อมใช้งานของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ด้วยการตรวจจับและแก้ไขเหตุการณ์ด้วย AI  ซึ่งช่วยลดปัญหาระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบมัลติคลาวด์จากผู้จำหน่ายหลายรายตามที่ลูกค้ารายงาน ได้มากถึง 93%

Dell APEX Navigator SaaS ขยายความสามารถเพื่อรวมการจัดการ Kubernetes storage และเพิ่มการสนับสนุนบริการ Dell APEX Storage สำหรับ Public Cloud ดังนี้

  • Dell APEX Navigator for Kubernetes พร้อมให้บริการแล้ว ช่วยให้จัดการ Kubernetes storage บน Dell PowerFlex ได้ง่ายขึ้น และเร็วๆ นี้จะรองรับ Dell PowerScale และ Dell APEX Cloud Platform for Red Hat OpenShift ด้วยการนำบริการด้านข้อมูลขั้นสูงต่างๆ เช่น การทำซ้ำข้อมูล การเคลื่อนย้ายแอปพลิเคชัน และการสังเกตการทำงานมาสู่ระบบคอนเทนเนอร์
  • Dell APEX Navigator for Multicloud Storage เพิ่มการรองรับ Dell APEX File Storage for AWS และมีแผนที่จะรองรับ Dell APEX File Storage for Microsoft Azure ต่อไปในปีนี้ ความสามารถนี้ช่วยลดความซับซ้อนในการตั้งค่าระบบจัดเก็บข้อมูล การนำไปใช้งาน ตลอดจนการตรวจสอบข้ามระบบจัดเก็บข้อมูลของเดลล์ทั้งบน On-premise และพับลิกคลาวด์

ลูกค้าสามารถเริ่มต้นใช้งาน Dell APEX Navigator for Multicloud Storage และ Dell APEX Navigator for Kubernetes ผ่านการทดลองใช้นาน 90 วันโดยไม่ต้องรับความเสี่ยงใดๆ

ความพร้อมในการใช้งาน

  • ซอฟต์แวร์ของ Dell PowerStore ที่ได้รับการปรับเพิ่มประสิทธิภาพ พร้อมให้ใช้งานได้ทั่วโลกแล้วตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม
  • Dell PowerStore รุ่น QLC และความสามารถในการอัพเกรดเป็นรุ่นที่สูงขึ้นโดยไม่ต้องย้ายข้อมูล สำหรับลูกค้า Gen 2 จะพร้อมให้ใช้งานได้ทั่วโลกในเดือนกรกฏาคม
  • ความสามารถในการย้ายข้อมูลข้ามมัลติคลาวด์ของ Dell PowerStore จะพร้อมให้ใช้งานได้ทั่วโลกในไตรมาสที่ 2 ของปี 2024
  • Dell APEX Navigator for Multicloud Storage สำหรับ Dell APEX File Storage for AWS เปิดให้บริการในสหรัฐอเมริกาแล้ว
  • การสนับสนุน Dell APEX Navigator for Multicloud Storage สำหรับ Dell APEX File Storage for Microsoft Azure จะพร้อมให้บริการในสหรัฐอเมริกาในช่วงครึ่งหลังของ 2024
  • Dell APEX AIOps Infrastructure Observability and Incident Management เปิดให้บริการแล้วในขณะนี้ ส่วน Application Observability มีแผนเปิดตัวในเดือนตุลาคม 2024
  • Dell APEX Navigator for Kubernetes พร้อมให้บริการสำหรับ PowerFlex แล้วในสหรัฐอเมริกา พร้อมการสนับสนุน Dell APEX Cloud Platform for Red Hat OpenShift Dell PowerScale และมีแผนขยายบริการไปยังภูมิภาคอื่นๆ เพิ่มเติมในช่วงครึ่งหลังของปี 2024

ข้อมูลเพิ่มเติม

เกี่ยวกับเดลล์ เทคโนโลยีส์

เดลล์ เทคโนโลยีส์ ช่วยให้องค์กรธุรกิจและปัจเจกบุคคลสามารถสร้างอนาคตทางดิจิทัล พร้อมทั้งช่วยในการปฏิรูปทั้งรูปแบบการทำงาน การดำเนินชีวิต และการพักผ่อน เดลล์ เทคโนโลยีส์ให้การดูแลสนับสนุนลูกค้าด้วยสายผลิตผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีและการบริการที่กว้างที่สุด และมีความเป็นนวัตกรรมอย่างสูงสุดในยุคของดาต้า


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

เดลล์ เทคโนโลยีส์ ขยาย Dell AI Factory ด้วย NVIDIA ช่วยให้ใช้งาน AI ได้เร็วราวกับติดเทอร์โบ

เดลล์ เทคโนโลยีส์ ขยายศักยภาพ Dell AI Factory ด้วย NVIDIA เสริมความล้ำหน้าทั้งในส่วนเซิร์ฟเวอร์ใหม่ เอดจ์ เวิร์กสเตชัน โซลูชันและบริการต่างๆ เพื่อช่วยให้นำนวัตกรรม รวมถึง AI ไปใช้งานได้อย่างรวดเร็ว

“องค์กรต่างๆ กำลังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพื่อคว้าโอกาสจาก AI  จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้การร่วมมือกับ NVIDIA มีความสำคัญมาก” ไมเคิล เดลล์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ เดลล์ เทคโนโลยีส์ กล่าว “การขยาย Dell AI Factory ด้วย NVIDIA ยังคงเป็นภารกิจร่วมกันของเรา ซึ่งเรากำลังช่วยให้องค์กรต่างๆ นำ AI ไปใช้งานได้ง่าย เพื่อให้องค์กรเหล่านี้สามารถก้าวสู่การปฏิวัติทางเทคโนโลยีได้อย่างเต็มขั้น”

“Generative AI ต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานการประมวลผลรูปแบบใหม่ เพื่อใช้เป็นโรงงาน AI ที่สร้างความฉลาด” เจนเซ่น หวง ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ NVIDIA กล่าว “NVIDIA และ Dell กำลังมอบบริการ Dell AI Factory ด้วย NVIDIA อย่างเต็มรูปแบบ ครอบคลุมทั้งเรื่องการประมวลผล เครือข่าย และซอฟต์แวร์ ที่ช่วยให้ใช้ copilots โปรแกรมช่วยเขียนโค้ด ระบบให้บริการลูกค้าผ่านออนไลน์ได้แบบเสมือนจริง (virtual customer service agents) รวมถึงระบบ digital twins ในอุตสาหกรรมสำหรับองค์กรดิจิทัล”

Dell AI Factory with NVIDIA เปลี่ยนข้อมูลธรรมดาให้เป็นข้อมูลเชิงลึกพร้อมมอบผลลัพธ์

Dell AI Factory with NVIDIA ผสานรวมสายผลิตภัณฑ์ด้าน AI ชั้นนำของเดลล์ เข้ากับซอฟต์แวร์ NVIDIA AI Enterprise ที่ใช้ GPU NVIDIA Tensor Core โครงสร้างการเชื่อมต่อเครือข่าย NVIDIA Spectrum-X Ethernet และ NVIDIA Bluefield DPUs ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถซื้อความสามารถแบบผสมผสานที่ตรงต่อความต้องการ หรือโซลูชันในชุดสมบรูณ์เพื่อเริ่มใช้ AI สำหรับกรณีการใช้งานที่ต้องการเร่งประสิทธิภาพให้เร็วขึ้น เช่น RAG, การฝึกโมเดล (model training) และการอนุมาน หรือการทำinferencing  ความล้ำหน้าของ Dell AI Factory with NVIDIA ช่วยองค์กรในเรื่องต่อไปนี้

ใช้พลังการประมวลผลขั้นสูงเพื่อรองรับการใช้งาน AI ในสเกลใหญ่

  • เซิร์ฟเวอร์Dell PowerEdge XE9680L ใหม่ ให้ประสิทธิภาพสูงพร้อมรองรับ GPU สถาปัตยกรรม NVIDIA Blackwell 8 ด้วยตัวเครื่อง 4U ในขนาดที่เล็กลง โดยเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่ให้ความหนาแน่นสูงสุดในการขยายแร็คสำหรับ GPU NVIDIA Blackwell ตามขนาดมาตรฐานอุตสาหกรรม ให้ความหนาแน่นของ GPU มากขึ้น 33% ต่อแร็ค โดยให้พื้นที่ในการขยายมากถึง 50% สำหรับ I/O และ throughput ที่เพิ่มขึ้น

การระบายความร้อนด้วยของเหลวโดยตรง (DLC) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวม ด้วยความสามารถในการระบายความร้อนมากขึ้นสำหรับ CPU และ GPU ซึ่งเซิร์ฟเวอร์ PowerEdge XE9680L ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สามารถบำรุงรักษาได้ง่าย และพร้อมใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบ เพราะมีการตั้งค่าการใช้งานขั้นสูงมาจากโรงงานเพื่อรองรับการขยายแร็คและติดตั้งใช้งานในสถานที่ได้ทันที

นอกจากนี้ เดลล์ ยังเสนอโซลูชัน rack-scale แบบ turnkey ที่ให้ความหนาแน่นมากที่สุดและให้ประสิทธิภาพพลังงานมากที่สุดในอุตสาหกรรม ช่วยเร่งการใช้ GPU ขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว ให้ทางเลือกการใช้งานได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะดีไซน์ที่ระบายความร้อนด้วยอากาศที่รองรับ GPU 64 ตัวในแร็คเดียว หรือรูปแบบที่ระบายความร้อนด้วยของเหลวที่มี GPU Blackwell NVIDIA 72 ตัวในแร็คเดียว

เร่งการนำแอปพลิเคชัน AI มาใช้ได้เร็วขึ้นด้วย Dell NativeEdge and NVIDIA

  • Dell NativeEdge เป็นเครื่องมือประสานการทำงานร่วมกับเอดจ์ตัวแรก ที่ช่วยให้ใช้ซอฟต์แวร์ NVIDIA AI Enterprise ได้แบบอัตโนมัติ ช่วยให้นักพัฒนาและผู้ดำเนินงาน IT สามารถใช้แอปพลิเคชัน AI และโซลูชันที่เอดจ์ได้อย่างง่ายดาย ช่วยให้บรรดาธุรกิจตั้งแต่ผู้ผลิตตลอดจนผู้ค้าปลีกสามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่เอดจ์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำด้วยการใช้ต้นแบบ Dell NativeEdge ใหม่ที่ครอบคลุมการวิเคราะห์วิดีโอ NVIDIA Metropolis  และความสามารถด้านการพูดและแปลของ NVIDIA Riva รวมถึงไมโครเซอร์วิส NVIDIA NIM inference

พัฒนาและใช้แอปพลิเคชัน AI ได้ง่ายขึ้นและเร็วขึ้น ได้รับคุณค่าเร็วขึ้น

  • โซลูชันDell Generative AI Solutions for Digital Assistants ใหม่ช่วยให้ใช้งานระบบผู้ช่วยดิจิทัลได้เร็วขึ้น โดยช่วยให้ผู้ใช้ได้ประสบการณ์ในการให้บริการที่ตรงความต้องการได้ด้วยตัวเอง ด้วยการใช้โซลูชันเต็มรูปแบบของ Dell และ NVIDIA โดย Implementation Services for Digital Assistants ซึ่งเป็นบริการติดตั้งเพื่อใช้งานผู้ช่วยดิจิทัล จะช่วยให้องค์กรออกแบบ วางแผน ทดสอบ และปรับขยายการใช้โซลูชันได้อย่างเหมาะสมได้ด้วยตัวเอง
  • โซลูชันDell AI Factory with NVIDIA ช่วยให้องค์กรสามารถสร้างสภาพแวดล้อม AI ได้อย่างรวดเร็วสำหรับกรณีการใช้งานที่หลากหลายด้วยการปรับใช้ระบบอัตโนมัติอย่างเต็มรูปแบบซึ่งเป็นการวางวิศวกรรมร่วมกับ NVIDIA โดยระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบจะช่วยลดเวลาลูกค้าได้สูงสุดถึง 86%  และเมื่อใช้ร่วมกับ NVIDIA Inferencing Microservices (NIMs) ก็จะช่วยลดเวลาโดยรวมไปได้อีกในการทำอนุมานเพื่อหาข้อสรุป หรือการทำ inferencing
  • บริการDell Accelerator Services ใหม่ สำหรับ RAG บนเวิร์กสเตชัน AI ช่วยลดระยะเวลาการพัฒนา AI และช่วยให้ใช้แอปพลิเคชัน AI ได้ผลดียิ่งขึ้น ด้วยโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่จำลองให้ตรงต่อความต้องการ ด้วยการใช้ RAG บนเวิร์กสเตชัน Dell Precision พร้อมด้วยชุดเครื่องมือ  เพื่อทำการสร้างต้นแบบเพื่อทดสอบความเป็นไปได้ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยได้อย่างรวดเร็ว

“การวิจัยของเราพบว่า หลายองค์กรต้องการให้ระบบไอทีใช้งานง่าย แต่ยังประสบปัญหาอยู่ ซึ่งแม้ว่า AI จะให้ความเรียบง่ายในการใช้งานได้ก็ตาม แต่ในตัวมันเองก็มีความซับซ้อนอยู่ เช่น ทางเลือก คุณภาพของข้อมูล ความเสถียร และความปลอดภัย การมีร้านค้าแบบ one-stop shop ที่ได้รับการยอมรับมาช่วยดูแลเรื่องระบบโครงสร้าง ซอฟต์แวร์ และการบริการ ต้องเข้าใจถึงคุณค่าของ AI ในการช่วยลดความเสี่ยงและลดค่าใช้จ่ายได้” เดฟ เวลลานเต้ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ theCUBE Research กล่าว “ความสามารถที่ครบวงจรของเดลล์ คือจุดที่สร้างความแตกต่างที่ทำให้เรามั่นใจในการเปลี่ยนไปใช้ AI  ซึ่ง Dell AI Factory with NVIDIA คือตัวอย่างชั้นเยี่ยมของโซลูชัน AI ที่ออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานง่ายสำหรับเวิร์กโหลด AI ที่เกิดขึ้นใหม่” 

การวางจำหน่าย

  • เซิร์ฟเวอร์Dell PowerEdge XE9680L จะวางจำหน่ายในครึ่งหลังของปี 2024
  • แบบจำลองการใช้Dell NativeEdge สำหรับ NVIDIA จะพร้อมให้ใช้งานได้ทั่วโลกตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2024
  • Dell Generative AI Solutions for Digital Assistants และ Implementation Services for Digital Assistant พร้อมใช้งานในอเมริกาเหนือแล้วตอนนี้
  • ความสามารถในการใช้งานDell AI Factory with NVIDA แบบอัตโนมัติ จะให้บริการผ่าน Dell professional services ในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 สำหรับ NVIDIA NIMs พร้อมให้บริการแล้วในปัจจุบัน
  • Dell Accelerator Services สำหรับ RAG บน Precision AI Workstations พร้อมให้บริการปลายเดือนพฤษภาคมเฉพาะบางประเทศในอเมริกาเหนือ ยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา รวมถึงเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น

เกี่ยวกับเดลล์ เทคโนโลยีส์

เดลล์ เทคโนโลยีส์ ช่วยให้องค์กรธุรกิจและปัจเจกบุคคลสามารถสร้างอนาคตทางดิจิทัล พร้อมทั้งช่วยในการปฏิรูปทั้งรูปแบบการทำงาน การดำเนินชีวิตและการพักผ่อน เดลล์ เทคโนโลยีส์ ให้การดูแลสนับสนุนลูกค้าด้วยสายผลิตผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีและการบริการที่กว้างที่สุดและมีความเป็นนวัตกรรมอย่างสูงสุดในยุคของข้อมูล


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

เดลล์ เทคโนโลยีส์ เปิดประสบการณ์ AI ใหม่ สร้างเวิร์กเพลสสุดทันสมัยเพื่อองค์กรธุรกิจ

เดลล์ เทคโนโลยีส์ เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์คอมเมอร์เชียล AI แล็ปท็อป และโมบาย เวิร์กสเตชัน เพื่อการใช้งานในองค์กรธุรกิจ ได้รับการออกแบบมาเพื่อนำพาทั้งองค์กรและประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานก้าวเข้าสู่ยุค AI

“เน็กซ์เจนพีซีเกิดขึ้นในช่วงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญนี้ ด้วยการปรับปรุงครั้งใหม่และความสามารถใหม่ของพีซีที่จะสร้างแรงกระเพื่อมที่กำลังจะมาถึง” แพทริค มัวร์เฮด ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Moor Insights & Strategy กล่าว “คอมเมอร์เชียล AI พีซีและเวิร์กสเตชันของเดลล์ มาพร้อมกับระบบนิเวศของทั้งอุปกรณ์เสริม ซอฟต์แวร์ และบริการของตัวเอง เพื่อให้การใช้งาน AI ที่ต่อเนื่องที่ได้รับออกแบบมาเพื่อเสริมประสิทธิภาพสูงสุดให้กับประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ และสร้างรากฐานการนำองค์กรธุรกิจไปสู่ความสําเร็จในอนาคต”

“ทุกบริษัทที่ต้องการคงไว้ซึ่งความสามารถในการแข่งขัน ต่างพิจารณาที่จะนำ AI มาใช้งาน และ AI พีซี จะกลายเป็นศูนย์กลางของการเคลื่อนไหวนี้” แซม เบิร์ด ประธานกลุ่ม Client Solutions Group เดลล์ เทคโนโลยีส์ กล่าว “เริ่มตั้งแต่เวิร์กโหลด AI ที่ซับซ้อนบนเวิร์กสเตชัน ไปจนถึงการใช้แอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วยพลัง AI ที่ใช้เป็นประจำบนแล็ปท็อป AI PC จึงถือเป็นการลงทุนที่สําคัญที่ให้ผลตอบแทนทั้งในด้านประสิทธิภาพการทำงาน และการปูทางไปสู่อนาคตที่ชาญฉลาดกว่าเดิม ข้อได้เปรียบของเดลล์เริ่มต้นด้วยการนำเสนอ AI PC ที่ครบถ้วนทั่วทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์คอมเมอร์เชียลตั้งแต่วันแรก ช่วยให้ลูกค้ามีความสามารถในการเตรียมความพร้อมสําหรับ AI สำหรับอนาคตได้ในทันที”

AI PCs เพื่อการทำงานแบบไฮบริด

หน่วยประมวลผล Neural Processing Unit (NPU) ที่ติดตั้งอยู่ใน AI PC จะมีการเติบโตจากจำนวนประมาณ 50 ล้านยูนิตในปี 2024 เป็นจำนวนที่มากกว่า 167 ล้านยูนิตในปี 2027 คิดเป็น 60% ของปริมาณการจัดส่ง (Shipments) พีซีทั่วโลก ทั้งนี้ NPU เสริม AI acceleration engine เพื่อตอบโจทย์การทำงานของ AI ที่มีความจำเพาะมากขึ้นได้ ช่วยลดปริมาณงานให้ CPU และ GPU สามารถทำงานในส่วนอื่นได้ ช่วยสร้างประสบการณ์ที่ตอบสนองมากขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพ ความปลอดภัย อายุการใช้งานแบตเตอรี่ และผลิตภาพเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ สายผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Latitude และ Precision โมบาย เวิร์กสเตชันของเดลล์ นำเสนอตัวเลือกคอมเมอร์เชียล AI PC ที่กว้างขวาง เพื่อการใช้งานเชิงธุรกิจให้กับลูกค้า โดยเริ่มตั้งแต่แล็ปท็อปและเวิร์กสเตชันในระดับเอนทรี ไปจนถึงระดับอัลตร้า-พรีเมียม ด้วยสายผลิตภัณฑ์ Latitude แล็ปท็อป และ Precision โมบาย เวิร์กสเตชันใหม่ ด้วยพลังของ Intel Core Ultra processors with Intel vPro® เดลล์คอมเมอร์เชียลพีซีเหมาะสมสำหรับการขับเคลื่อน AI เวิร์กโหลด และปลดล็อกการสร้างผลิตภาพและประสิทธิภาพในระดับใหม่ ยกตัวอย่าง คนทำงานสามารถที่จะ

  • ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการผสานประโยชน์ของ NPU เพื่อปลดปล่อยขีดความสามารถในการ การกำหนดกรอบอัตโนมัติ (Auto-framing) การทำให้พื้นหลังเบลอ ตลอดจนการติดตามสายตา (Eye-tracking) พร้อมพลังการทำงานอันเปี่ยมประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra ที่มอบพลังงานแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นถึง 38% ให้กับพนักงาน รวมถึงเวลาทำงานที่เพิ่มมากขึ้นในแต่ละวันที่เต็มไปด้วยการประชุมผ่าน Zoom
  • สร้างสรรค์คอนเทนต์ได้เร็วยิ่งขึ้น โดยการแจกจ่ายการประมวลผล AI ไปยัง CPU GPU และทั้ง NPU โดยถ้วนทั่ว ผู้ใช้สามารถสร้างสรรค์ภาพ AI ได้เร็วขึ้นถึง 5 เท่าด้วย Stable Diffusion โมเดลแปลงข้อความเป็นภาพ (Text-to-Image)
  • ทำงานด้วยความปลอดภัยที่เพิ่มมากขึ้นในสภาพแวดล้อมการทำงานแบบไฮบริด ผู้จําหน่ายซอฟต์แวร์อิสระจำนวนมากขึ้นจะหันมาสร้างแอปพลิเคชันสำหรับ AI PC ยกตัวอย่าง เดลล์กำลังทำงานร่วมกับ CrowdStrike และ Intel เพื่อโอนย้ายฟังก์ชันด้านความปลอดภัยไปประมวลผลบนอุปกรณ์ผ่าน NPU ซึ่งให้การตรวจจับภัยคุกคามที่ครอบคลุมมากขึ้น ช่วยให้ลูกค้าตรวจพบเว็บไซต์และช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่มีความร้ายแรงได้อย่างรวดเร็ว ให้ความล่าช้าที่ลดลงเมื่อเทียบกับโซลูชันบนคลาวด์
  • รักษาการทำงานให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้มาพร้อมฟีเจอร์ Windows 11 และปุ่ม Copilot เพื่อทําให้การทำงานเป็นไปง่ายขึ้นและจดจ่ออยู่กับงานได้ ด้วยการกดปุ่ม ผู้ใช้สามารถเข้าถึง AI เป็นผู้ช่วยในชีวิตประจำวันได้เร็วยิ่งขึ้น

บริการอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI

ต่อยอดบนความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอันยาวนานด้านการทำงานเชิงรุกและคาดการณ์ล่วงหน้าโดยอัตโนมัติ พร้อมทั้งคำชี้แนะจากผู้เชี่ยวชาญ ความสามารถใหม่ของบริการ Dell Services ช่วยให้ลูกค้า

  • เพิ่ม PC Uptime สูงสุด พร้อมปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานด้วยความสามารถใหม่ในการซ่อมแซมตัวเอง (Self-healing) ผ่าน ProSupport Suite for PC โดยลูกค้าที่เชื่อมต่อกับเทคโนโลยี SupportAssist ของเดลล์สามารถยกระดับการรวบรวมข้อมูลและ AI เพื่อแก้ไขปัญหาพีซีได้ไม่ต้องใช้การสนับสนุนจากมนุษย์ ซึ่งทำให้ IT สามารถเปิดใช้สคริปต์ที่เดลล์สร้างขึ้นเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดจอฟ้า (Blue Screen Errors) โดยอัตโนมัติ รวมไปถึงปัญหาระบบความร้อน และอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของพีซี
  • ใช้งาน และเพิ่มมูลค่าสูงสุดให้กับการลงทุน GenAI ด้วย Digital Employee Experience Services for Gen AI โดยบริการเหล่านี้ให้ทั้งเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ปรับแต่งอย่างเหมาะสมกับหลากรูปแบบการทำงานของพนักงาน

ไฮไลต์ผลิตภัณฑ์

  • กลุ่มผลิตภัณฑ์ Latitude ใหม่ของ Dell รวมถึง Latitude 7350 Detachable มอบอิสระให้กับมืออาชีพเพื่อการทำงานด้วยการเชื่อมต่ออุปกรณ์พร้อมใช้งานที่โต๊ะทำงานอย่างเต็มรูปแบบ หรือการใช้งานขณะเดินทางด้วยแท็บเล็ตหรือแล็ปท็อป มาพร้อมกล้อง 8MP HDR เพื่อภาพถ่ายคุณภาพสูงในสภาพแสงที่ท้าทาย กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ปรับปรุงใหม่ทั้งหมดนี้มาพร้อมการอัพเดทในรุ่น 5000 ซีรีส์ 7000 ซีรีส์ และ 9000 ซีรีส์ รวมถึง Latitude 7350/7450 Ultralights
  • Precision เวิร์กสเตชันทั้งแบบโมบายและตั้งโต๊ะใหม่ของเดลล์ ตอบโจทย์ความต้องการด้านประสิทธิภาพของผู้ใช้งานระดับมืออาชีพ นักพัฒนา และอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ ด้วยฐานะของความเป็นผู้นำเวิร์กสเตชันระดับโลก Precision มอบพลังการประมวลผลสำหรับ AI เวิร์กโหลดที่ซับซ้อนที่ให้ทั้งความปลอดภัยและความประหยัดบนพีซี นอกจากนี้ การบูรณาการ NVIDIA RTX™ 500 และ 1000 Ada Generation Laptop GPUs เข้ากับ Precision mobile workstations ช่วยส่งมอบความสามารถ AI และความน่าเชื่อถือในระดับองค์กรเพื่อการทำงานได้ในจากทุกที่ ในขณะที่ Precision 3280 Compact Form Factor (CFF) คือฟอร์มแฟคเตอร์เพื่อการประหยัดพื้นที่ใหม่ที่สร้างขึ้นเพื่อสำหรับการพัฒนา AI และแอปพลิเคชันสร้างสรรค์แบบเบาๆ
  • ชุดหูฟัง รุ่นใหม่จากเดลล์ โดย Dell Premier Wireless ANC Headset (WL7024) มาพร้อมไมโครโฟนปิดเสียงรบกวนอัตโนมัติด้วย AI ซึ่งจำแนกสัญญาณเสียงพูดของมนุษย์ออกจากเสียงรบกวนพื้นหลังทั้งของผู้ใช้และผู้ฟัง และปรับระดับการปิดเสียงรบกวนตามสภาพแวดล้อม ระบบแอดวานซ์เซ็นเซอร์ทำงานในแบบอัจฉริยะ เช่น ปิด/เปิดไมค์ ทำงาน/หยุดทำงาน ตราบเท่าที่หูฟังข้างหนึ่งถูกยกขึ้น พร้อมทั้งการควบคุมด้วยการสัมผัสที่สามารถปรับปรุงประสบการณ์เสียงที่เหมาะกับผู้ใช้ได้

การเร่งเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ให้เร็วขึ้น

ในฐานะผู้นำด้านการออกแบบแบบหมุนเวียน (Circular Design) เดลล์จัดการแบบครบวงจร ตั้งแต่เพิ่มการใช้วัสดุและแร่ธาตุที่รีไซเคิลในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อทำให้อุปกรณ์ง่ายต่อการซ่อมบำรุง และนำกลับมาใช้ใหม่ด้วยความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

  • อุปกรณ์ Latitude ใหม่ นำเอาโคบอลที่มีการรีไซเคิลมาใช้ในแบตเตอรี่
  • ด้วยแรงบันดาลใจจาก Concept Luna  เครื่อง Latitude 7350 Detachable มาพร้อมหน้าจอที่สามารถซ่อมบำรุงได้ ซึ่งทำให้ง่ายต่อการซ่อมและยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ได้นานขึ้น
  • ในขณะที่องค์กรอัพเกรดอุปกรณ์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) บริการกู้คืนและรีไซเคิลของ เดลล์ช่วยให้ลูกค้าเกษียณอุปกรณ์ไอทีได้อย่างถูกต้องเพื่อหลีกเลี่ยงการส่งขยะอิเล็กทรอนิกส์ไปยังบ่อขยะ ด้วยการทำให้ผลิตภัณฑ์และวัสดุอยู่ในการหมุนเวียนนานขึ้น

ความพร้อมในการวางตลาด

  • Latitude 7350 Detachable พร้อมวางจำหน่ายในไตรมาสที่ 2
  • Precision 3280 CFF (Compact Form Factor) จะวางจำหน่ายช่วงปลายเดือนมีนาคม
  • Precision โมบาย เวิร์กสเตชัน พร้อมวางจำหน่ายช่วงเดือนมีนาคม
  • Dell Premier Wireless ANC Headset (WL7024) จะวางจำหน่ายในเดือนเมษายน
  • ProSupport Suite สําหรับ PC ที่มีความสามารถในการซ่อมแซมตัวเอง จะวางจำหน่ายทั่วโลกภายในสิ้นเดือนเมษายน
  • Digital Employee Experience Services สําหรับ GenAI มีให้บริการแล้วทั่วโลก

เกี่ยวกับเดลล์ เทคโนโลยีส์

เดลล์ เทคโนโลยีส์ ช่วยให้องค์กรธุรกิจและปัจเจกบุคคลสามารถสร้างอนาคตทางดิจิทัล พร้อมทั้งช่วยในการปฏิรูปทั้งรูปแบบการทำงาน การดำเนินชีวิต และการพักผ่อน เดลล์ เทคโนโลยีส์ให้การดูแลสนับสนุนลูกค้าด้วยสายผลิตผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีและการบริการที่กว้างที่สุด และมีความเป็นนวัตกรรมอย่างสูงสุดในยุคของข้อมูล


Exit mobile version