Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

Cloudflare เผยเทรนด์อินเทอร์เน็ตยอดนิยมประจำปี 2567

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย, 16 ธันวาคม 2567 – Cloudflare, Inc. (NYSE: NET) บริษัทชั้นนำด้านการเชื่อมต่อคลาวด์ ได้เผยแพร่รายงานประจำปีฉบับที่ 5 Year in Review ที่สำรวจข้อมูลเชิงลึกของอินเทอร์เน็ตทั่วโลกและเทรนด์ด้านความปลอดภัยในปี 2567 พร้อมการวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับบริการอินเทอร์เน็ตที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

อินเทอร์เน็ตเป็นรากฐานสำคัญของการเชื่อมต่อทั่วโลก ช่วยเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญและบริการต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนชีวิตประจำวัน เราต่างพึ่งพาอินเทอร์เน็ตจนกลายเป็นแกนหลักของสังคมปัจจุบัน ตั้งแต่การใช้เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยชีวิตคน เปิดโอกาสให้ชุมชนได้ติดต่อกับผู้แทนที่ได้รับเลือกตั้งและลงทะเบียนเพื่อโหวตคะแนนเสียง หรือการสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัลที่มีทั่วโลก รายงานประจำปี 2567 ของ Cloudflare แสดงให้เห็นว่าทุกปี เมื่อผู้คนและอุปกรณ์เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตมากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตทั่วโลกเพิ่มขึ้นตาม (โดยปีนี้เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว) และก่อให้เกิดเทรนด์ใหม่ ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงการพึ่งพาความสามารถของอินเทอร์เน็ตทั่วโลก

แมทธิว พรินซ์ ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Cloudflare กล่าวว่า “เราพึ่งพาอินเทอร์เน็ตแทบตลอดเวลา ทว่าหลายคนอาจยังมองว่ามันเป็นเพียงแค่การรวมกันของหน้าเว็บเท่านั้น แต่แท้จริงอินเทอร์เน็ตนั้นอยู่ทุกที่ กลืนเข้าไปในทุกกิจกรรมประจำวันของชีวิตสมัยใหม่ ตั้งแต่วิธีการที่เราใช้โต้ตอบและเชื่อมต่อถึงกันบนโซเชียลมีเดีย การใช้ตู้เย็นและเครื่องดูดฝุ่นอัจฉริยะ การเดินทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งผ่านแอปเรียกรถ การเชื่อมต่อกับธนาคาร และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยการโต้ตอบทั้งหมดเหล่านี้ที่เรามักมองข้ามไปโดยไม่ตั้งใจนั้นเบื้องหลังล้วนเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง และ Cloudflare ก็เป็นหนึ่งในเครือข่ายที่มีเปอร์เซ็นต์การใช้งานจำนวนมาก ในฐานะหนึ่งในเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในโลก Cloudflare ได้นำเสนอมุมมองที่ครอบคลุมด้านการใช้งาน คุณภาพโดยรวม และการเชื่อมต่อทั่วทั้งเว็บ

ข้อมูลสำคัญในปี 2567 ได้แก่:

  • บริการอินเทอร์เน็ตยอดนิยม: Google ครองอันดับหนึ่งเป็นปีที่สามติดต่อกัน ตามด้วย Facebook (อันดับ 2), Apple (อันดับ 3) และ TikTok (อันดับ 4) ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากปี 2566 อย่างไรก็ตาม WhatsApp ได้ติดเข้ามาใน 10 อันดับแรกของบริการยอดนิยมทั่วโลกเป็นครั้งแรก
  • บริการ Generative AI ยอดนิยม: Codeium, Claude และ CoPilot เป็นผู้เล่นหน้าใหม่ที่เข้ามาอยู่ใน 10 อันดับแรกของบริการ Generative AI ยอดนิยม (โดยอยู่ในอันดับ 3, 5 และ 7 ตามลำดับ) ขณะที่ OpenAI ยังคงรักษาอันดับหนึ่งเป็นปีที่สองติดต่อกัน
  • บริการเกมยอดนิยม: ผู้บริโภคเกมผลักดันให้ Steam ติดอันดับ 5 บริการยอดนิยมเป็นครั้งแรก ในขณะที่ Minecraft เข้ามาอยู่ใน 10 อันดับแรกในปีนี้ ขณะเดียวกัน Roblox ยังครองอันดับ 1 เป็นปีที่สี่ติดต่อกัน
  • อุตสาหกรรมที่ถูกโจมตีมากที่สุด: อุตสาหกรรมเกมและการพนันกลายเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งของผู้โจมตีทั่วโลก แซงหน้าภาคการเงินซึ่งเป็นหมวดหมู่ที่ถูกโจมตีมากที่สุดในปี 2566 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงสัปดาห์ก่อน Super Bowl ในสหรัฐอเมริกา
  • การล่มของอินเทอร์เน็ตที่ตรวจพบ: มากกว่าครึ่งหนึ่งของการล่มของอินเทอร์เน็ตทั่วโลกเป็นผลมาจากการปิดกั้นโดยรัฐบาล มักเป็นการตอบสนองต่อการประท้วง ความไม่สงบของพลเรือน หรือแม้แต่เพื่อป้องกันการทุจริตในการสอบ ส่งผลกระทบต่อประเทศต่าง ๆ เช่น โมซัมบิก อิรัก ซีเรีย บังกลาเทศ เซเนกัล ปากีสถาน และประเทศอื่น ๆ
  • ทราฟฟิกที่เป็นอันตราย: อินเทอร์เน็ตไม่ได้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปีที่ผ่านมา โดยประมาณ 6.5% ของทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตทั่วโลกถูกระงับในฐานะที่อาจเป็นอันตราย เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจากปี 2566
  • AI Bots ที่ต้องจับตามากที่สุด: AI Bots และ Crawler ได้รับความสนใจอย่างมากจากสื่อต่าง ๆ แม้ว่า Bytespider (ByteDance) และ ClaudeBot (Anthropic) จะมีการใช้งานมากที่สุด แต่ปริมาณการใช้งานโดยรวมของทั้งสองก็ค่อย ๆ ลดลงตลอดทั้งปี

เดวิด เบลสัน หัวหน้าฝ่ายข้อมูลเชิงลึกที่ Cloudflare กล่าวว่า “Cloudflare Radar เปิดตัวในปี 2563 เมื่อเราได้เห็นผลกระทบอย่างรุนแรงของการระบาดใหญ่ที่ส่งผลต่อวิธีการที่เราใช้งานอินเทอร์เน็ต และตระหนักถึงความสำคัญของการที่ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ต้องเข้าถึงได้สำหรับทุกคน รายงานประจำปีนี้เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของ Radar ในการทำให้ข้อมูลของ Cloudflare เป็นสาธารณะ ด้วยการนำเสนอหน้าต่างสู่เทรนด์และรูปแบบอินเทอร์เน็ตที่เปิดให้ทุกคนร่วมสำรวจได้ง่าย ๆ”

ข้อมูลนี้ได้มาจาก Cloudflare Radar ซึ่งเป็นเครื่องมือฟรีที่เปิดให้ทุกคนสามารถดูเทรนด์และข้อมูลเชิงลึกทั่วโลกบนอินเทอร์เน็ต โดย Radar รวบรวมข้อมูลมาจากเครือข่ายทั่วโลกของ Cloudflare (ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมมากกว่า 330 เมืองใน 120 กว่าประเทศ) โดยเป็นข้อมูลที่ไม่ระบุตัวตนจาก Cloudflare’s 1.1.1.1 public DNS Resolver ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายเป็นวิธีที่รวดเร็วและเป็นส่วนตัวในการท่องอินเทอร์เน็ต

หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ  Cloudflare’s Year in Review โปรดดูแหล่งข้อมูลด้านล่างนี้:

เกี่ยวกับ Cloudflare, Inc. (NYSE: NET) 

เป็นบริษัทเชื่อมต่อคลาวด์ชั้นนำ ที่ให้เปิดโอกาสให้องค์กรในการทำให้พนักงาน แอปพลิเคชั่น และเครือข่ายของพวกเขามีความรวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้นในทุกที่ พร้อมทั้งลดความซับซ้อนและต้นทุน การเชื่อมต่อคลาวด์ของ Cloudflare นำเสนอแพลตฟอร์มที่รวมผลิตภัณฑ์และเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาที่ใช้คลาวด์เป็นพื้นฐานที่ครบครันที่สุด เพื่อให้องค์กรได้รับการควบคุมที่จำเป็นในการทำงาน พัฒนา และเร่งธุรกิจของตน

ขับเคลื่อนโดยหนึ่งในเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดและเชื่อมต่อกันมากที่สุดในโลก Cloudflare ป้องกันภัยคุกคามออนไลน์หลายพันล้านครั้งต่อวันสำหรับลูกค้า บริษัทได้รับความไว้วางใจจากองค์กรนับล้าน ตั้งแต่แบรนด์ขนาดใหญ่ไปจนถึงผู้ประกอบการและธุรกิจขนาดเล็ก องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร องค์กรในกลุ่มด้านมนุษยธรรม และรัฐบาลทั่วโลก

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบการเชื่อมต่อคลาวด์ของ Cloudflare ได้ที่ cloudflare.com/connectivity-cloud  หรือเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเทรนด์และข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตล่าสุดได้ที่ https://radar.cloudflare.com 

ติดตามเพิ่มเติมที่: Blog | X | LinkedIn | Facebook | Instagram

ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ยังมีเนื้อหาเกี่ยวกับข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าที่ตรงกับความหมายตามมาตราที่ 27A แห่งกฎหมายหลักทรัพย์ ปี 1933 ฉบับแก้ไข และมาตราที่ 21E ของกฎหมายตลาดหลักทรัพย์ ปี 1934 ฉบับแก้ไข โดยข้อความเหล่านี้มีรายละเอียดที่เชื่อมโยงกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่เห็นเด่นชัดซึ่งในบางกรณี คุณสามารถระบุถึงข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าได้จากคำบางคำที่รวมอยู่ในข้อความดังกล่าว เช่น “อาจจะ” “จะ” “ควร” “คาดหวัง” “สำรวจ” “วางแผน” “คาดการณ์” “สามารถ” “มีเจตนา” “เป้าหมาย” “คาดหวัง” “พิจารณา” “เชื่อ” “ประมาณการ” “พยากรณ์” “แนวโน้ม” หรือ “ต่อเนื่อง” หรือคำที่ให้ความหมายเชิงลบบางคำ หรือคำหรือนิพจน์ที่คล้ายกันอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความคาดหวัง กลยุทธ์ แผน หรือเจตนาของ Cloudflare อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าทั้งหมดจะรวมคำที่บ่งชี้เหล่านี้ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าที่แสดงอย่างชัดแจ้งหรือแสดงเป็นนัยภายในข่าวประชาสัมพันธ์นี้ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะข้อความว่าด้วยแผนและวัตถุประสงค์ของ Cloudflare, เครือข่ายในทั่วโลกของ Cloudflare และผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของ Cloudflare, การพัฒนาด้านเทคโนโลยีของ Cloudflare การดำเนินการในอนาคต การเติบโต ความคิดริเริ่ม หรือกลยุทธ์ ความเสี่ยงและแนวโน้มตลาดในอนาคตและความคิดเห็นจากรองประธานประจำภูมิภาคอาเซียนและเจ้าหน้าที่ท่านอื่นของ Cloudflare โดยผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดจากที่ระบุไว้หรือที่แสดงเป็นนัยไว้ภายในข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะความเสี่ยงที่ปรากฏในเอกสารของ Cloudflare ที่ยื่นต่อคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) และรายงานประจำไตรมาสของ Cloudflare บนแบบฟอร์ม 10-Q ที่ยื่นเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2024 และแฟ้มเอกสารอื่น ๆ ที่ Cloudflare อาจทำขึ้นร่วมกับ SEC เป็นระยะ ๆ

ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าที่รวมอยู่ในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เกี่ยวข้องเฉพาะกับเหตุการณ์ ณ วันที่จัดทำข้อความ Cloudflare ไม่มีภาระผูกพันในการปรับปรุงข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าที่รวมอยู่ในข่าวประชาสัมพันธ์นี้ เพื่อสะท้อนถึงเหตุการณ์หรือสภาพการณ์หลังจากวันที่ออกข่าวประชาสัมพันธ์นี้ หรือเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงข้อมูลใหม่หรือการเกิดขึ้นของเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด Cloudflare อาจไม่สามารถดำเนินการตามแผน ความตั้งใจ หรือความคาดหวังที่ปรากฏในข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าของ Cloudflare และคุณไม่ควรเชื่อถือข้อความดังกล่าวนี้ของ Cloudflare เกินควร


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

ภัยคุกคามไซเบอร์ต่ออุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ: รุนแรง ซับซ้อน และเพิ่มสูงขึ้น อุตฯ เฮลธ์แคร์ไทยพร้อมรับมือแค่ไหน?

โดย Jonathon Dixon รองประธานและกรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ญี่ปุ่น และจีนของ Cloudflare

อุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพหรือ Healthcare กำลังเติบโตกลายเป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยมูลค่าที่คาดว่าจะสูงถึง 115,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2027 สำหรับประเทศไทย ธุรกิจการดูแลสุขภาพเป็นตลาดขนาดใหญ่และกำลังเฟื่องฟู โดยประเทศไทยได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในตลาดที่มีการแข่งขันรุนแรงที่สุดในโลกสำหรับการดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพสูงและมีราคาเหมาะสม

ระบบนิเวศด้านการดูแลสุขภาพเป็นภาคส่วนสำคัญที่กำลังพัฒนาและต้องการนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่าง ๆ หลากหลายกลุ่ม เช่น แพทย์ พยาบาล ช่างเทคนิค และผู้บริหาร บุคลากรเหล่านี้เป็นผู้จัดทำ จัดเก็บ และเผยแพร่ข้อมูลจำนวนมหาศาลทุกวัน เช่น เวชระเบียน แผนการรักษา ผลตรวจ และข้อมูลการเรียกเก็บเงิน ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าข้อมูลที่รับส่งได้อย่างราบรื่นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการให้บริการด้านการดูแลสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้เกิดข้อกังวลด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวด้วยอย่างมาก

สำรวจภูมิทัศน์ความมั่นคงทางไซเบอร์ในประเทศไทยและผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพในปัจจุบัน

การกำหนดมาตรการที่เข้มงวดไว้คอยปกป้องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลเป็นกุญแจสำคัญในขณะที่ภูมิทัศน์ด้านความมั่นคงทางไซเบอร์โดยรวมมีความท้าทายมากขึ้น เมื่อเดือนกรกฎาคม 2566 Cloudflare ทำการศึกษาครั้งใหม่เกี่ยวข้องอุตสาหกรรมหลายประเภท รวมถึงการดูแลสุขภาพ และพบว่า 6 ใน 10 (57%) ของผู้ตอบแบบสำรวจจากองค์กรในประเทศไทยประสบปัญหาภัยคุกคามทางไซเบอร์มากกว่า 10 ครั้งในปีที่แล้ว และยังทำให้องค์กรต่าง ๆ ในประเทศไทยเสียเงินจำนวนมาก โดยผู้ตอบแบบสำรวจสองในสาม (65%) ได้รับผลกระทบทางการเงินอย่างน้อย 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ภายในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ อาชญากรทางไซเบอร์กำลังมุ่งเป้าไปที่องค์กรด้านการดูแลสุขภาพ เนื่องจากผลตอบแทนก้อนโตที่จะได้จากข้อมูลผู้ป่วยมาเพื่อการโจรกรรมเอกลักษณ์บุคคล การฉ้อโกงทางการเงิน หรือการโจมตีแรนซัมแวร์

ปัญหาอีกประการหนึ่งมาจากระบบการดูแลสุขภาพที่ซับซ้อน ซึ่งประกอบด้วยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายราย เช่น ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ บริษัทประกัน บริษัทยา และซัพพลายเออร์บุคคลที่สาม ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแต่ละรายจำเป็นต้องเข้าถึงข้อมูลผู้ป่วยที่มีความละเอียดอ่อน ซึ่งเท่ากับการเพิ่มโอกาสที่จะเกิดภัยคุกคามจากคนในและการละเมิดข้อมูลโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งล้วนมีสาเหตุมาจากข้อผิดพลาดของมนุษย์หรือการอนุญาตที่ไม่เหมาะสม แม้ว่าบันทึกสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EHR), การแพทย์ทางไกล และระบบดิจิทัลอื่น ๆ จะเอื้อต่อการเข้าถึง แบ่งปัน และจัดเก็บข้อมูล แต่ทั้งหมดนี้ก็ยังเพิ่มความเสี่ยงใหม่ ๆ ให้เกิดการโจมตีทางไซเบอร์และการละเมิดข้อมูลอีกด้วย

อุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพในประเทศไทยกำลังเผชิญกับความเสี่ยงด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ที่เพิ่มและซับซ้อนยิ่งขึ้น เนื่องจากมีนวัตกรรมสำหรับภาคอุตสาหกรรมออกมาอย่างต่อเนื่องซึ่งได้เพิ่มความยุ่งยากเข้าไปอีก และการมี Digital Touchpoint ที่มากขึ้นยิ่งทำให้ผู้ไม่หวังดีมีช่องทางโจมตีเพิ่มขึ้นด้วย แต่ผู้ตอบแบบสำรวจจำนวนน้อยกว่าครึ่ง (48%) เท่านั้นที่ระบุว่าตนเองเตรียมพร้อมป้องกันอุบัติการณ์ด้านไซเบอร์ซีเคียวรีตี้เป็นอย่างดี

เมื่ออุปกรณ์ทางการแพทย์เสี่ยงต่อการโจมตีทางไซเบอร์ ผู้ป่วยก็ปลอดภัยน้อยลง เห็นได้ชัดว่า เรื่องที่มีความสำคัญมากกว่าที่เคยสำหรับองค์กรด้านการดูแลสุขภาพคือการนำแนวทางด้านความมั่นคงทางไซเบอร์แบบองค์รวมและเชิงรุกมาใช้ปกป้องข้อมูลทางการแพทย์และข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน เพื่อให้แน่ใจว่าการดูแลสุขภาพจะพร้อมให้บริการอย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดชะงักและปกป้องผู้ป่วยจากกิจกรรมที่เป็นอันตรายของเหล่าอาชญากรไซเบอร์

รักษาความปลอดภัยให้ระบบนิเวศด้านการดูแลสุขภาพ

องค์กรไทยแห่งหนึ่งที่ใช้เทคโนโลยีเพิ่มมาตรการป้องกันขณะเข้าถึงข้อมูลควบคู่กับการรักษามาตรฐานข้อมูลด้านสุขภาพของผู้ป่วยอย่างเข้มงวดคือโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นผู้นำด้านการแพทย์ของประเทศไทยมานานกว่า 40 ปี และให้บริการผู้ป่วยปีละกว่าล้านรายจาก 190 ประเทศทั่วโลก

ในฐานะผู้ให้บริการทางการแพทย์ชั้นนำที่มีมาตรการควบคุมที่เข้มงวด โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการรักษาความลับของผู้ป่วยในระหว่างการดำเนินการต่าง ๆ ทั้งหมด โรงพยาบาลได้ร่วมมือกับ Cloudflare ในฐานะพันธมิตรด้านความปลอดภัย จัดระบบการให้บริการ CDN, Web Application Firewall (WAF) และการจัดการบอทให้พร้อมใช้งานและสอดคล้องกับข้อกำหนด Health Insurance Portability and Accountability Act (HIPAA) และ HITECH ของสหรัฐอเมริกา เมื่อกล่าวถึงการบรรเทาภัยคุกคามในเชิงปริมาณ เช่น บอทและการโจมตี DDoS สิ่งที่เห็นคือ Cloudflare WAF, การจัดการบอท และการจำกัดอัตราจะช่วยหยุดภัยคุกคามที่มุ่งเจาะเว็บไซต์ของโรงพยาบาลและเว็บแอปพลิเคชันในแต่ละเดือนได้เฉลี่ย 37,000 รายการ เห็นได้ชัดว่าขอบเขตของเครือข่ายที่ปลอดภัยมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้โรงพยาบาลหันมามุ่งเน้นการให้บริการการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพและรักษาความไว้วางใจของผู้ป่วยไว้ต่อไป

โซลูชันด้านไซเบอร์ซีเคียวรีตี้ที่สำคัญที่องค์กรด้านการดูแลสุขภาพควรพิจารณานำไปปรับใช้:

กรอบการทำงาน Zero Trust: แนวทาง Zero Trust จะตรวจสอบผู้ใช้และอุปกรณ์ทั้งหมดไม่ว่าจะอยู่ที่ใด พร้อมใช้การควบคุมการเข้าถึงที่เข้มงวดเพื่อลดปริมาณการลอบเข้าถึงข้อมูลและเพิ่มความปลอดภัย

การรักษาความปลอดภัยเครือข่ายและอุปกรณ์ปลายทาง: การใช้มาตรการขั้นสูง เช่น Firewall ระบบตรวจจับการบุกรุก และสถาปัตยกรรมเครือข่ายที่ปลอดภัย เปรียบเสมือนเกราะป้องกันที่เข้มแข็งของระบบนิเวศด้านการดูแลสุขภาพจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ โซลูชันการป้องกันอุปกรณ์ปลายทาง เช่น ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสและการเข้ารหัส จะช่วยป้องกันมัลแวร์ การละเมิดข้อมูล และการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต

การตรวจสอบความปลอดภัยและการทดสอบการเจาะเข้าระบบเป็นประจำ: การตรวจสอบและการทดสอบบ่อยครั้งจะระบุช่องโหว่ ช่วยให้สามารถเสริมความแข็งแกร่งเชิงรุกให้กับโครงสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัยและลดความเสี่ยงในการละเมิดข้อมูล

การฝึกอบรมและสร้างการตระหนักรู้แก่พนักงาน: การให้ความรู้เรื่องแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดด้านไซเบอร์ซีเคียวรีตี้แก่พนักงาน เช่น การสังเกตอีเมลฟิชชิ่งและการจัดการข้อมูลที่ละเอียดอ่อนอย่างปลอดภัย เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยบรรเทาความเสี่ยงและสร้างวัฒนธรรมที่ตระหนักถึงความมั่นคงทางไซเบอร์

มาตรการเข้ารหัสข้อมูลและความเป็นส่วนตัว: การเข้ารหัสข้อมูลขณะจัดเก็บและข้อมูลขณะส่งต่อจะช่วยปกป้องข้อมูลของผู้ป่วย มาตรการความเป็นส่วนตัวที่รัดกุม รวมถึงการควบคุมการเข้าถึงและบันทึกการตรวจสอบ จะช่วยรับประกันว่าได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดและยังรักษาความไว้วางใจของผู้ป่วย

ภูมิทัศน์ด้านการรักษาความปลอดภัยที่กำลังพัฒนาและการเพิ่มความซับซ้อนของระบบดูแลสุขภาพทำให้เกิดความท้าทายและความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญ แต่หากองค์กรด้านการดูแลสุขภาพในประเทศไทยนำโซลูชันเหล่านี้ไปใช้ ก็จะสามารถปรับปรุงมาตรการด้านไซเบอร์ซีเคียวรีตี้ของตน และลดการโจมตีทางไซเบอร์ได้

ความร่วมมือระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพจะเป็นกุญแจสำคัญต่อการกำหนดมาตรฐานและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดทั่วทั้งอุตสาหกรรม เพื่อจัดการกับความเสี่ยงด้านไซเบอร์ซีเคียวรีตี้ รักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ป่วย พร้อมรับประกันถึงความพร้อมในการให้บริการทางการแพทย์อยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ การจัดการกับความท้าทายเหล่านี้ในเชิงรุกและดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพย่อมทำให้อุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพของไทยในภูมิภาคนี้สามารถมอบความมั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัย ทั้งในด้านการเข้าถึง แบ่งปัน และจัดเก็บข้อมูลผู้ป่วยที่ละเอียดอ่อน พร้อมกับการให้บริการดูแลที่มีคุณภาพสูงและการรักษาความไว้วางใจที่มีต่อระบบนิเวศด้านการดูแลสุขภาพไว้ได้

เกี่ยวกับ Cloudflare

Cloudflare, Inc. (NYSE: NET) เป็นบริษัทชั้นนำด้าน Connectivity Cloud ที่ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานพนักงาน แอปพลิเคชัน และเครือข่ายในทุก ๆ ที่ให้ทำงานได้เร็วขึ้นและปลอดภัยยิ่งขึ้น พร้อมทั้งลดความซับซ้อนและต้นทุน ทั้งนี้ Connectivity Cloud ของ Cloudflare เสนอแพลตฟอร์มผลิตภัณฑ์และเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาแบบคลาวด์เนทีฟที่มีคุณสมบัติครบถ้วนและครบวงจรที่สุด เพื่อให้องค์กรสามารถควบคุมส่วนที่จำเป็นต่อการทำงาน พัฒนา และสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ

Cloudflare ซึ่งขับเคลื่อนโดยหนึ่งในเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดและเชื่อมต่อถึงกันมากที่สุดในโลก ได้ปิดกั้นภัยคุกคามออนไลน์หลายพันล้านรายการของลูกค้าทุกวัน ได้รับความไว้วางใจจากองค์กรหลายล้านแห่ง ตั้งแต่แบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดไปจนถึงผู้ประกอบการและธุรกิจขนาดเล็ก ตลอดจนองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร กลุ่มด้านมนุษยธรรม และรัฐบาลทั่วโลก

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Connectivity Cloud ของ Cloudflare ได้ที่ cloudflare.com/connectivity-cloud เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มและข้อมูลเชิงลึกทางอินเทอร์เน็ตล่าสุดได้ที่ https://radar.cloudflare.com

ติดตามเรา: Blog | Twitter | LinkedIn | Facebook | Instagram


Exit mobile version