Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์ สิ่งประดิษฐ์ สิ่งประดิษฐ์ในประเทศ

วว. ให้บริการ Shared Service เปิดตัวนวัตกรรมเครื่องทอดสุญญากาศ ลดต้นทุนการผลิต ตอบโจทย์ผู้บริโภค

กระทรวงการอุดมศึกษา  วิทยาศาสตร์  วิจัยและนวัตกรรม (อว.)  โดย  สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย  (วว.)  มุ่งเน้นให้บริการ  Shared  Service   เสริมแกร่งผู้ประกอบการ  เปิดตัว นวัตกรรมเครื่องทอดสุญญากาศ    ช่วยลดต้นทุนการผลิตด้านแปรรูปผลผลิตการเกษตร     ตอบโจทย์ผู้บริโภค     ระบุปริมาณการทอดต่อรอบ 65 กิโลกรัมต่อครั้ง  น้ำมันทอดในระบบนำมาใช้ซ้ำได้  20  ครั้ง  โดยยังมีประสิทธิภาพดี  ปลอดภัยต่อสุขภาพ  เนื่องจากเป็นการทอดระดับสุญญากาศ  -720  มิลลิเมตรปรอท  ทำให้ผลิตภัณฑ์แปรรูปมีมูลค่าสูงขึ้น  ไม่อมน้ำมัน  มีอายุการเก็บรักษา 1 ปี  โดยยังคงคุณภาพด้าน กลิ่น  สี รสชาติของผลผลิต ใกล้เคียงธรรมชาติ

. (วิจัย) ดร.ชุติมา   เอี่ยมโชติชวลิต   ผู้ว่าการ  วว.   กล่าวว่า  วว.  มุ่งเน้นให้บริการ   Shared  Service    เพื่อส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการด้วยองค์ความรู้ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม  (วทน.)  ให้มีความเข้มแข็งในการประกอบธุรกิจ มีศักยภาพด้านขีดความสามารถการแข่งขันทั้งภายในและต่างประเทศ  นวัตกรรมเครื่องทอดสุญญากาศเป็นผลงานล่าสุด ซึ่ง โรงงานบริการนวัตกรรมอาหาร  (FISP)  ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมอาหารสุขภาพ วว. วิจัยและพัฒนาขึ้น  เป็นการให้บริการใหม่ของ วว. เพื่อตอบสนองให้กับผู้ประกอบการหรือผู้สนใจทั่วไปที่ต้องการเป็นผู้ประกอบการ ในด้านการแปรรูปผลิตผลทางการเกษตรเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ อาทิ  ทุเรียน ขนุน  กล้วย  สับปะรด  ฟักทอง มันเทศ  กระเจี๊ยบ   เป็นต้น  ทั้งนี้การประกอบธุรกิจอาหารสุขภาพมีความจำเป็นยิ่ง ที่ต้องนำเทคโนโลยีเข้าไปช่วยให้กระบวนการผลิตมีคุณภาพได้มาตรฐาน

เครื่องทอดสุญญากาศ  หรือ Vacuum  fryer  มีปริมาณการทอดต่อรอบ 65 กิโลกรัม/ครั้ง   สร้างระดับสุญญากาศสูงสุดได้ถึง -720  มิลลิเมตรปรอท  อุณหภูมิที่ใช้ในการทอด 80-95 องศาเซลเซียส   โดยใช้เวลาทอด 60-80 นาที/ครั้ง (ขึ้นกับประเภทวัตถุดิบ) ปริมาณน้ำมันที่ใช้ในการทอดต่อรอบจำนวน  600 ลิตร สามารถนำน้ำมันมาใช้ทอดซ้ำได้ถึง  20 ครั้งต่อน้ำมัน 1 รอบ โดยน้ำมันยังมีประสิทธิภาพดีและปลอดภัยต่อสุขภาพ ระบบสลัดน้ำมันภายหลังการทอดใช้เวลา 25  นาที  กำลังการผลิตต่อการใช้น้ำมัน 1 รอบ (600 ลิตร) ประมาณ 1,000-1,300 กิโลกรัม  โดยผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทอดมีคุณภาพสม่ำเสมอ  ไม่อมน้ำมัน  ถูกหลักอนามัย  มีอายุการเก็บรักษาได้ 1 ปี และคุณภาพผลิตภัณฑ์ด้านกลิ่น สี รสชาติ ยังคงใกล้เคียงธรรมชาติ 

“…วว. พร้อมให้บริการและพร้อมเป็นหุ้นส่วนในความสำเร็จของผู้ประกอบการทุกท่าน  สามารถติดต่อสอบถามเพื่อเข้ามาใช้บริการกับ วว. ได้ที่ โทร.  0 2577 9000  หรือมาติดต่อได้ที่สำนักงาน ณ เทคโนธานี คลองห้า  จังหวัดปทุมธานี นักวิจัยของเราพร้อมให้คำแนะนำแก่ท่านในการเลือกนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของท่าน  เราพร้อมช่วยสานฝันของท่านให้สำเร็จเป็นรูปธรรมด้วยราคามิตรภาพ เนื่องจาก วว. ต้องการสนับสนุนให้เกิดผู้ประกอบการใหม่และช่วยพัฒนาศักยภาพให้กับผู้ประกอบการเดิม โดยที่ท่านไม่ต้องลงทุนด้านเทคโนโลยี…”   ผู้ว่าการ วว. กล่าว

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมผลงานวิจัยและพัฒนา หรือรับคำแนะนำปรึกษาในการประกอบธุรกิจจาก วว. ติดต่อได้ที่ โทร. 0 2577 9000  โทรสาร 0 2577 9009  www.tistr.or.th  E-mail : tistr@tistr.or.th   Line@tistr  IG : tistr_ig 


Categories
ข่าวประชาสัมพันธ์

วว. ชูผลสำเร็จวิจัยพัฒนา ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพผิวจากสาหร่ายพันธุ์ไทย

กระทรวงการอุดมศึกษา  วิทยาศาสตร์  วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)  ชูผลสำเร็จงานวิจัยและพัฒนา “ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพผิวจากสาหร่ายพันธุ์ไทย”

ระบุอุดมด้วยสารที่มีคุณประโยชน์  พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตสู่เชิงพาณิชย์ มุ่งหวังให้เป็นต้นแบบในการนำสาหร่ายไปใช้ประโยชน์ให้หลากหลาย สร้างความแข็งแกร่งแก่เศรษฐกิจประเทศจากความหลากหลายทางชีวภาพ

ศ. (วิจัย) ดร.ชุติมา   เอี่ยมโชติชวลิต   ผู้ว่าการ วว.  กล่าวว่า   วว. นับเป็นหน่วยงานแห่งเดียวในประเทศที่มีการดำเนินงานด้านสาหร่ายอย่างครบวงจร ตั้งแต่การมีคลังเก็บรักษาสายพันธุ์สาหร่าย เพื่อรวบรวมและเก็บรักษาสายพันธุ์สาหร่ายน้ำจืดและน้ำเค็มขนาดเล็กจากแหล่งต่างๆ ทั่วประเทศพร้อมทั้งจัดทำฐานข้อมูล กว่า 1,000 สายพันธุ์ มีห้องปฏิบัติการเพาะเลี้ยง วิเคราะห์ และทดสอบ ที่สำคัญและโดดเด่น คือ วว. มีระบบการเพาะเลี้ยงสาหร่ายกลางแจ้งระดับการเพาะเลี้ยงต่อเนื่องและครบวงจร ปริมาตรรวม 400,000 ลิตร  ผ่านการดำเนินงานโดย   ศูนย์ความเป็นเลิศด้านสาหร่าย วว. (TISTR Algal Excellent Center, TISTR ALEC) ในสังกัด ศูนย์ความหลากหลายทางชีวภาพ  ซึ่งมีภารกิจเพื่อพัฒนาทรัพยากรชีวภาพด้านสาหร่าย  ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ   พร้อมทั้งดำเนินการวิจัย พัฒนา ถ่ายทอดเทคโนโลยี และนวัตกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์ รวมทั้งให้บริการที่เกี่ยวข้องกับสาหร่ายแก่ภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศ มุ่งเน้นการผลิตชีวมวลสาหร่ายเพื่อเป็นวัตถุดิบ ในการนำไปใช้ประโยชน์ด้านเกษตร  อาหาร เภสัชกรรม สิ่งแวดล้อม และพลังงานอย่างยั่งยืน เพื่อให้เป็นที่ยอมรับในระดับอาเซียน

ขณะนี้ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านสาหร่าย วว. ประสบผลสำเร็จในการเพิ่มมูลค่าสาหร่ายพันธุ์ไทย โดยการวิจัยและพัฒนาเป็นต้นแบบในกระบวนการผลิตสู่ระดับอุตสาหกรรม  ได้แก่  “ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพผิว” เพื่อเน้นย้ำถึงความสำคัญของศักยภาพสาหร่ายที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ เป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตและการประกอบธุรกิจ   ดังนี้

ครีมกันแดดผสมสารกลุ่มแซนโทฟิลล์จากสาหร่าย   (Coelastrum  morus)  SPF50 PA++++  ช่วยป้องกันผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลตหรือรังสียูวีในแสงแดด ป้องกันการเกิดริ้วรอย ช่วยไม่ให้ผิวหนังเหี่ยวย่นหรือดูแก่ก่อนวัย ผิวแห้งกร้าน ป้องกันการเกิดฝ้า กระ ปัญหาผิวคล้ำเสีย และมะเร็งผิวหนัง  ผลิตภัณฑ์ผ่านการทดสอบความเป็นพิษต่อเซลล์ผิวหนังมนุษย์  การทดสอบฤทธิ์ยับยั้งเมลานินในเซลล์เพาะเลี้ยง ฤทธิ์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน  ความคงตัวของผลิตภัณฑ์ครีมกันแดด และค่าประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากรังสียูวีเอและยูวีบี

ชุดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและบำรุงผิวกายจากสาหร่ายมุกหยก (Nostoc   communeประกอบด้วยสบู่   แอลกอฮอล์เจล  และครีมบำรุงผิว  ผลิตภัณฑ์ทั้งสามชนิดมีคุณสมบัติในการกักเก็บความชุ่มชื้นและบำรุงผิวได้ดีด้วยคุณสมบัติโพลีแซคคาไรด์จากสาหร่าย ผลิตภัณฑ์ผ่านการทดสอบด้านความระคายเคืองต่อผิวหนังในกลุ่มอาสาสมัคร ความเป็นพิษต่อเซลล์ ประสิทธิภาพของสารกันเสีย  การปนเปื้อนยีสต์  ราและแบคทีเรีย

“…ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพผิวดังกล่าว  เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จที่ วว. นำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เข้าไปเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพยากรที่มีคุณค่าของประเทศเรา ซึ่งมีความหลากหลายทางชีวภาพ  ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญและผลักดันเป็นนโยบายด้านเศรษฐกิจฐานชีวภาพ วว. โดย ศูนย์ความเป็นเลิศด้านสาหร่าย พร้อมสนับสนุนการยกระดับงานวิจัย พัฒนา ถ่ายทอดเทคโนโลยี และบริการด้านสาหร่าย อย่างครบวงจรกับทุกภาคส่วน และร่วมเป็นกำลังหลักสำคัญในการพัฒนาประเทศไทยไปสู่ ความมั่นคง เข้มแข็งทางเศรษฐกิจ…” ผู้ว่าการ วว. กล่าว

ทั้งนี้ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านสาหร่าย วว. ให้บริการแก่ผู้ประกอบการ ภาคอุตสาหกรรม  ในการผลิตสารสกัดและพัฒนาสูตรตำรับ  กระบวนการเพาะเลี้ยงสาหร่ายจนถึงกระบวนการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่ผู้ประกอบการที่สนใจเพื่อต่อยอดการผลิตสู่เชิงพาณิชย์ต่อไป

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับคำแนะนำปรึกษาจาก ศูนย์ความเป็นเลิศสาหร่าย  วว. ติดต่อได้ที่  โทรศัพท์ 0 2577 9000 ต่อ 9805   โทรสาร 0 2577 9000 ต่อ 9804  มือถือ 096 3958713 E-mail : alec@tistr.or.th


 

Exit mobile version