ทีมหุ่นยนต์ PKK จากโรงเรียนเตรียมวิ
มีเป้าหมายเน้นที่นักเรียน นักศึกษา และบุคลากรทางการศึกษาได้มี
ขวัญฤทัย ข่าว

ทีมหุ่นยนต์ PKK จากโรงเรียนเตรียมวิ
มีเป้าหมายเน้นที่นักเรียน นักศึกษา และบุคลากรทางการศึกษาได้มี
ขวัญฤทัย ข่าว
คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้
รอบที่ 1 นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปี
รอบที่ 2 นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึ
นอกจากนี้คณะอุตสาหกรรมเกษตร ได้ประชาสัมพันธ์ข้อมูลความพร้
ขวัญฤทัย ข่าว
สำนักพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออุ
1) การจัดอบรมผู้ควบคุมประจำหม้อน้ำ
2) การจัดฝึกอบรม หลักสูตรผู้ควบคุมประจำหม้อน้ำ ในจังหวัดระยองและพื้นที่ใกล้
สอบถามรายละเอียดได้ที่ สำนักพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออุ
ขวัญฤทัย ข่าว-ภาพ
IAESTE Thailand (ไอเอสเต้) รับสมัครนักศึกษาโครงการแลกเปลี่
– รับสมัครระหว่างวันอังคารที่ 1 กันยายน – 30 ตุลาคม 2563 วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 18.00 น. และวันเสาร์ เวลา 09.00 – 16.00 น.
– ประกาศสถานที่สอบข้อเขียนภาษาอั
– สอบข้อเขียนภาษาอังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน 2563 เวลา 9.00 – 12.00 น.
– ประกาศผลสอบข้อเขียนภาษาอังกฤษ วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2563 เวลา 18.00 น.
– สอบสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษและวิชาชี
การเรียกนักศึกษาสอบสัมภาษณ์
– ประกาศรายชื่อผู้สอบผ่าน และมีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะได้
– ประชุมผู้ปกครอง-นักศึกษาเพื่
– ชำระเงิน และรับทุนฝึกงาน วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 13.00 – 16.00 น. ณ หอประชุม เบญจรัตน์ อาคารนวมินทรราชินี
นักศึกษาที่สนใจสมัครสอบคัดเลื
ขวัญฤทัย ข่าว –ภาพ
รองศาสตราจารย์ ดร.สุเมธ อ่ำชิต ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิ
ทั้งนี้ สำนักงานปลัดกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ได้ประสานงานเพื่อเชิญผู้ทรงคุ
1. Professor Dr. Methi Wecharatana
John A. Reif, Jr. Department of Civil & Environmental Engineering
New Jersey Institute of Technology (NJIT)
2. Associate Professor Dr. Vira Chankong
Departments of Computer and Data Sciences, and Electrical, Computer, and Systems Engineering
Case Western Reserve University (CWRU)
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้
ขวัญฤทัย ข่าว-ภาพ
ศ.ดร.สุชาติ เซี่ยงฉิน อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้
สืบเนื่องจากทางบริษัทฯ ได้มีกิจกรรมร่วมกับมหาวิทยาลั
ขวัญฤทัย ข่าว/สมเกษ ถ่ายภาพ
รศ ดร. ปิยะพงศ์ หรรษ์ภิญโญ ประธานหลักสูตรสาขาวิชาวิ
ความโดดเด่นของหลักสูตร CPet ) ที่แตกต่างจากที่อื่นนั้นคือ
(1) เน้นความร่วมมือจากภาคีเครือข่
(2) เน้นต่อยอดกระบวนการเรียนรู้ หลังจบโครงการสหกิจศึกษา เพื่อเชื่อมไปสู่โครงการปริ
(3) เชิญวิทยากรพิเศษ/วิศวกรอาวุโส/
(4) มีการนำเทคโนโลยี
(5) อบรมเสริมสมรรถนะ ภายใต้ทุนสนับสนุนจาก กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สำหรับโครงการผลิตบัณฑิตพันธุ์
(6) มุ่งยกระดับมาตรฐานคุณภาพหลักสู
ส่วนการเปิดรับสมัครหลักสูตร CPet จะเป็นกลุ่มนักศึกษาที่เปิดรั
รศ. ดร. ปิยะพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจบการศึกษาในหลักสูตร CPet บัณฑิตสามารถต่อยอดลักษณะงาน EPC และลักษณะงานที่เกี่ยวกั
นอกจากนี้ยังมีคอร์สอบรมเสริมทั
สอบถามได้ที่ สาขาวิชาเทคโนโลยีวิ
ขวัญฤทัย ข่าว-ภาพ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) สนับสนุนสร้างนวัตกรรมสู้ภัยโควิด-19 โดยการผนึกกำลังของคณะและส่วนงานต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัย ร่วมกับศิษย์เก่า องค์กรเครือข่ายพันธมิตรของมหาวิทยาลัยด้านการวิจัยและเทคโนโลยี เพื่อรับมือกับความท้าทาย ตอบโจทย์ และพลิกวิกฤติเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยเหลือสังคม นักศึกษา และสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่แนวหน้าทุกคนได้เข้าถึงงานวิจัย-นวัตกรรมช่วยเหลือสู้ภัยเชื้อไวรัสโควิด-19
นวัตกรรมที่สร้างมาจากองค์ความรู้ด้านการวิจัยของมหาวิทยาลัยและได้ส่งมอบใช้งานแล้ว ได้แก่ ตู้ตรวจโรคโควิด -19 ความดันบวก โดยเมื่อที่ 19 มิถุนายน 2563 ณ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร รศ.ดร.สันชัย อินทพิชัย รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนากิจการมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ประธานพิธีส่งมอบตู้ตรวจโรคโควิด -19 ความดันบวก พลตรี ธไนนิธย์ โชตนภูติ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร เป็นผู้รับมอบ เพื่อเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้เจ้าหน้าที่มีความปลอดภัยในการคัดกรองโรคได้ โดยมี อาจารย์ ดร.เต็มสิริ ทรัพย์สมาน รองคณบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม ภาควิชาวิศวกรรมการผลิต คณะวิศวกรรมศาสตร์ มจพ. หัวหน้าโครงการ “ตู้ตรวจโรคโควิด-19 ความดันบวก” ร่วมเป็นสักขีพยาน พร้อมคณะผู้บริหารสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร ร่วมพิธีดังกล่าว
อาจารย์ ดร.เต็มสิริ ทรัพย์สมาน เปิดเผยว่า นวัตกรรมตู้ตรวจโรคโควิด-19 ความดันบวก ก่อนหน้านี้ได้ออกแบบตู้ตรวจโรคความดันบวกเป็นตู้ต้นแบบแล้ว จัดสร้างด้วยเงินรายได้ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ มจพ. โดยตู้ต้นแบบได้ไปทดลองที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรแล้ว ได้ผลการตอบรับที่ดีจากทีมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน แผนถัดไปก็จะสร้างตู้และมอบให้แก่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ต่อไป สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังมีความรุนแรงต่อเนื่อง กอปรกับความต้องการตู้ฆ่าเชื้อโรคโควิด-19 ก็ยังมีความต้องการอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ มจพ. มีนโยบายเพื่อการระดมทุนช่วยเหลือโรงพยาบาลต่าง ๆ สอดรับกับความต้องการตู้ตรวจโรคโควิด -19 ความดันบวก ที่ได้จัดสร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหารใช้ประโยชน์ในการตรวจคัดกรองคนไข้หาเชื้อโรคโควิด-19 ใช้งบประมาณจัดสร้างตู้ละ 75,000 บาทและค่าขนส่งตู้ละ 10,000 บาท ซึ่งบริษัทที่ช่วยจัดสร้างตู้ดังกล่าว เป็นหนึ่งในทีมวิจัยด้วย ทั้งนี้ ตู้นี้ได้รับบริจาคเครื่องปรับอากาศจากบริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์-มหาจักร แอร์ คอนดิชั่นเนอร์ส จำกัด หรือ (MACO) ร่วมกับนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศรีราชา ระยะเวลาในการจัดสร้างประมาณ 1 เดือน โดยมีทีมงานวิจัย ตู้ตรวจโรคโควิด-19 ความดันบวก มาจากหลายหน่วยงาน ประกอบด้วย (1) รศ.ดร.อุดมเกียรติ นนทแก้ว คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มจพ. หัวหน้าทีม (2) อาจารย์ ฐิฎิมา อัมพวรรณ คณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ มจพ.ออกแบบสติกเกอร์ตู้ (3) ผศ.ดร.ยอดชาย เตียเปิ้น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศรีราชา นักวิจัย (4) อาจารย์ ดร.ไทยทัศน์ สุดสวนสี มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ นักวิจัย (5) ดร.ธาเนตร แสงสว่างมาตุ้ม บริษัท Turbo Fluid Corporation จัดสร้าง ทดสอบ และติดตั้ง และ (6) คุณสุรชัย คงอุไร บริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์-มหาจักร แอร์คอนดิชั่นเนอร์ส จำกัด หรือ (MACO) บริจาคเครื่องปรับอากาศ
ตู้ตรวจโรคโควิด-19 ความดันบวก เป็นตู้กรองอากาศที่สามารถป้องกันอันตรายและการปนเปื้อนจากการทำงานของผู้ปฏิบัติงาน มีคุณสมบัติพิเศษและจุดเด่นของนวัตกรรมใหม่ จะคงความดันภายในที่ 7.47 ปาสคาล ซึ่งหมายถึงตู้ขณะทำการตรวจเชื้อต้องมีความดันเป็นบวก โดยจะดูดอากาศเข้าภายในตู้ผ่านแผ่นกรอง HEPA ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อคงความดันในตู้ให้เป็นบวก ที่ 7.47 ปาสคาล ซึ่งจะทำให้อากาศจากภายนอกไม่สามารถเข้าไปในตู้ในช่องทางอื่นได้ บุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในตู้จะไม่ได้รับเชื้อโควิด-19 ขณะทำการตรวจผู้ป่วย ทำให้อากาศที่ไม่ได้กรองภายนอกก็จะไม่สามารถเข้าไปได้ กล่าวคือความดันบวก : เมื่อต้องการตรวจเชื้อโดยแพทย์อยู่ด้านใน เหมาะกับการใช้งานกับคนไข้นอก OPD ที่มีผู้ป่วยจำนวนมาก โดยติดตั้งภายนอกอาคารที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี ทำให้การตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 มีความปลอดภัย สำหรับใช้ตรวจวินิจฉัย (Swab) โดยไม่ต้องสัมผัสโดยตรงกับผู้ป่วย ด้านการออกแบบทรงสี่เหลี่ยมแนวตั้งสำหรับผู้ป่วย 1 คน ต่อ 1 ห้อง ขนาดตู้กว้าง 1.2 x ยาว 1.2 x สูง 2.5 เมตร แบบติดตั้งภายนอกอาคาร ระบบบําบัดอากาศ HEPA Filter อุปกรณ์แสดงผลความดันบรรยากาศ และอุปกรณ์สื่อสารระหว่างภายในและภายนอก ตู้ตรวจโรคโควิด-19 ความดันบวก เป็นห้องตรวจเชื้อความดันบวกแบบเคลื่อนที่ (Positive Pressure) ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อขณะทำการตรวจวินิจฉัย จึงปลอดภัยต่อแพทย์และเจ้าหน้าที่ โครงสร้างผลิตจากโลหะปลอดสนิม ผนังด้านหน้า-ด้านข้าง ทำจาก Plexiglass แผงควบคุมใช้ไฟแสดงการทำงาน ปุ่มเปิด-ปิดหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์พร้อมปุ่มควบคุมการทำงานเครื่องปรับอากาศ ส่วนการสื่อสารใช้ผ่านอินเตอร์คอมหรือไมโครโฟน และติดตั้งเครื่องปรับอากาศขนาด 9,000 BTU ตู้ตรวจโรคโควิด-19 ความดันบวก อีกหนึ่งความปลอดภัย ที่ติดตั้งง่าย เคลื่อนย้ายสะดวกที่พัฒนาขึ้นโดยทีมวิจัย จาก มจพ. หากหน่วยงานใด สนใจสามารถติดต่อผ่าน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มจพ.
โอกาสนี้ขอเชิญศิษย์เก่า ผู้ปกครองและผู้มีจิตศรัทธาทุก ๆ ท่าน ร่วมบริจาคสมทบทุนกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ต้านภัยโควิด-19 เพื่อนำเงินบริจาคร่วมจัดทำนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ สามารถโอนเงินเข้าบัญชี ชื่อบัญชี “กองทุนพัฒนามหาวิทยาลัยและต้านภัยโควิด มจพ.” ธนาคารกรุงเทพ สาขา มจพ. เลขที่บัญชี 907-3-50043-2 ใบเสร็จรับเงินในการบริจาคสามารถนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า
“ตู้ตรวจโรคโควิด-19 ความดันบวก” ถือเป็นนวัตกรรมที่ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ นอกจากจะตอบโจทย์เรื่องความปลอดภัยแล้ว ความสะดวกในการใช้งาน ทั้งการติดตั้งและเคลื่อนย้าย ใช้งานได้จริง เป็นสิ่งที่บุคลากรทางการแพทย์ต้องการ เพื่อการใช้งานอย่างไม่มีข้อจำกัด โดย มจพ. ได้จัดสร้างและส่งมอบตู้ตรวจโรคโควิด-19 ความดันบวกนี้ให้แก่สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร สำหรับใช้ประโยชน์ เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งเป็นด่านแรกของการต่อสู้กับวิกฤติการณ์ COVID-19”
ขวัญฤทัย ข่าว-ภาพ
รองศาสตราจารย์วันชัย แหลมหลักสกุล หัวหน้าศูนย์วิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมระบบไซเบอร์-กายภาพทางการผลิต มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) และผู้เชี่ยวชาญโปรแกรม ITAP สวทช. เปิดเผยว่า สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) หนุนโปรแกรมไอแทปช่วยผู้ประกอบการพัฒนาระบบฟาร์มเกษตรในอาคาร ปลูกผักและผลไม้ออแกนิกในห้องพักอพาร์ทเมนท์ เป็นโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (ITAP: ไอแทป) ให้การสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญโปรแกรม ITAP จากอาจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ร่วมด้วยบริษัท ลอฟท์ บิวเดอร์ จำกัด ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง ที่แตกไลน์ธุรกิจ นำเทคโนโลยีระบบฟาร์มเกษตรในอาคาร หรือ Plant Factory มาใช้กับการปลูกพืชออแกนิกในห้องพักอพาร์ทเมนท์ใจกลางเมืองของบริษัทฯ เป็นการช่วยพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในระบบฟาร์มเกษตรในอาคาร หรือ Plant Factory ทำให้ห้องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ขนาด 10 ตารางเมตรในอพาร์ทเมนท์ใจกลางเมือง สามารถเป็นต้นแบบห้องที่ปลูกผักและผลไม้ออแกนิกชนิดต่าง ๆ เช่น สตรอว์เบอร์รี Kale และสมุนไพรเมืองหนาว อาทิ พาสเลย์และดอกไม้กินได้ สำหรับไว้ปั่นรับประทานได้ทุกฤดูกาล พร้อมเป็นสถานที่ดูงานของลูกค้าบริษัทฯ ที่สนใจจะทำระบบฟาร์มเกษตรในอาคารได้เห็นต้นแบบของธุรกิจประเภทนี้ เพราะผักและผลไม้ออแกนิกที่ปลูกเป็นพืชที่มีมูลค่าสูงในตลาด ราคาแพง และการลงทุนของเทคโนโลยีนี้เกษตรกรหรือผู้สนใจสามารถจะพอลงทุนได้ด้วยกำลังของตนเอง
การปลูกพืชในอาคารนั้นเหมาะสมต่อการเพาะปลูกผักและผลไม้บางชนิด ส่วนใหญ่เป็นผักใบ และผักผลไม้เมืองหนาว เช่น ผักสลัด สมุนไพร และสตรอว์เบอร์รี เป็นต้น จึงยังไม่หลากหลายและมีขนาดตลาดที่จำกัดอยู่เฉพาะผู้บริโภคบางกลุ่ม เช่น โรงพยาบาลเอกชนระดับบนที่ต้องการผักและผลไม้ปลอดสารพิษเพื่อให้บริการผู้ป่วย ร้านอาหารและโรงแรมที่ให้บริการอาหารเพื่อสุขภาพ ครัวเรือนที่มีรายได้ระดับปานกลางค่อนไปทางสูง เป็นต้น แต่ในต่างประเทศกระแสซุปเปอร์มาเก็ตปลูกผักเองในอาคารตามห้างสรรพสินค้าหรือตามสถานีรถไฟใต้ดินกำลังได้รับความนิยมทั่วทั้งยุโรป อเมริกาและญี่ปุ่น ซึ่งจะเน้นปลูกผักที่มีคุณภาพสูง อุดมด้วยสารอาหาร โดยจุดเด่นคือ ผักที่ปลูกแบบนี้ทั้งสด สะอาด ปลอดภัยจากยาฆ่าแมลง แถมยังมีรสชาติกรอบอร่อยกว่าผักที่ปลูกแบบเดิม
ระบบฟาร์มเกษตรในอาคาร (Plant Factory) ในไทย โดยทั่วไปมีวัตถุประสงค์หลัก คือ ผลิตพืชผักและผลไม้เมืองหนาว เนื่องจากข้อจำกัดด้านภูมิอากาศให้มีการเจริญเติบโตที่ดี และให้ผลผลิตที่มีคุณภาพ โดยควบคุมและใช้ปัจจัยการผลิต เช่น การให้แสง การให้น้ำ แร่ธาตุอาหาร และปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ในขณะที่ปลดปล่อยของเสียสู่สภาพแวดล้อมน้อยที่สุด และใช้ต้นทุนในการผลิตต่ำ
เนื่องจากระบบฟาร์มเกษตรในอาคารนั้นเป็นระบบที่ประหยัดการใช้ทรัพยากร ทั้งน้ำ แร่ธาตุอาหาร พื้นที่เพาะปลูก และแรงงาน รวมถึงยังสามารถควบคุมปริมาณและคุณภาพผลผลิตได้ตามที่ต้องการ จึงช่วยลดความผันผวนในด้านปริมาณและคุณภาพของผลผลิตได้ดีกว่าการเกษตรแบบดั้งเดิม จึงเป็นหนึ่งในเทรนด์สำคัญของภาคการเกษตรที่ค่อย ๆ มีบทบาทในเชิงพาณิชย์มากขึ้นในไทย โดยเทคโนโลยีระบบฟาร์มเกษตรของบริษัทฯ สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมด้วยระบบอัตโนมัติ เช่น อุณหภูมิ แสงเทียม (LED) เพื่อการสังเคราะห์แสงของพืช ซึ่งกระบวนการสังเคราะห์แสงนี้จะผ่านแสงจากหลอดไฟ LED ที่มีการควบคุมความเข้มของแสง คลื่นความถี่และระยะเวลาของแสงในแต่ละช่วงการปลูก เพื่อให้มีความคล้ายคลึงกับการสังเคราะห์แสงจากดวงอาทิตย์ ทั้งนี้การใช้แสง LED จะช่วยลดระยะเวลาการปลูกลงได้ครึ่งหนึ่งของระยะเวลาการเติบโต อีกทั้งยังมีการควบคุมลมและความชื้นในอากาศ หากความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศต่ำกว่ากำหนด ระบบจะเชื่อมต่อกับระบบพ่นละอองน้ำแบบพิเศษเพื่อปรับความชื้นสัมพัทธ์ให้อยู่ในช่วงที่กำหนด โดยตั้งค่าการทำงานผ่านแอปพลิเคชัน สามารถปรับตั้ง แก้ไข ควบคุมการทำงานผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตจากนอกสถานที่ได้ โดยระบบจะควบคุมพารามิเตอร์ต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะสมกับพืชแต่ละชนิด”
ผู้ประกอบการที่สนใจเทคโนโลยีและขอรับการสนับสนุนภายใต้โครงการยกระดับผักและผลไม้ไทย : โอกาสสำหรับพัฒนาเกษตรกรรมสู่ความยั่งยืน ด้านโรงเรือนอัจฉริยะ สามารถติดต่อขอรับการบริการได้ที่ โปรแกรม ITAP สวทช. โทร 0 2 564 7000 ต่อ 1301 หรืออีเมล panita@nstda.or.th
ขวัญฤทัย ข่าว
ศ.ดร.สมฤกษ์ จันทรอัมพร รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและพั
สำหรับ มจพ. มีความพร้อมในการทำงานร่วมกั
สืบเนื่
วัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาขี
ศูนย์ AIC ถือเป็นศูนย์กลางในการบริ
ขวัญฤทัย ข่าว /สมเกษ ถ่ายภาพ